Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    วางร่มลงได้ไหม อยากให้เราเปีกด้วยกัน ฯ

    “วางร่มลงได้ไหม..อยากให้เราเปียกด้วยกัน

    แล้วผมจะทำให้คุณรู้ว่า..ความรู้สึกอบอุ่นภายใต้สายฝนเป็นอย่างไร”



    ไม่รู้ว่าใครอ่านประโยคนี้แล้ว..รู้สึกเหมือนฉันบ้างไหม

    เหมือนมันเป็นเพียงประโยคชวน ห่ามๆ..แต่กลับแอบหวานได้ใจเหลือเกิน

    ไม่ต้องถึงขนาดต้องวางร่มลง..หรือต้องอยู่กลางสายฝน แต่ก็รู้สึกอบอุ่นเสียแล้ว เพียงแต่ได้อ่านมัน



    ประโยคนี้..ฉันได้มาจากการเยี่ยมเยือนเพื่อนบล็อกที่มีชื่อเก๋ๆว่า“ขอรบกวนทั้งชุดนอน”

    จากการอ่านบล็อกของเพื่อนบล็อกท่านนี้เรื่อยมา..ฉันขอเรียกเขาในใจว่า ว่าอะไรดีน้า..ไม่บอกดีกว่า

    ..ฉันรู้สึกว่า ตัวอักษรของเขา..มันให้ความรู้สึกตลกร้าย…แต่กลับแอบซ่อนความหวานและโรแมนติกไว้ในทุกเซลล์
    ..
    ..
    ..
    ..
    ..
    ..เอ.หรือฉันจะรู้สึกไปเองคนเดียว..ก็ไม่รู้....??
    ..
    ..
    ..
    ..
    ..
    ..
    ..

    ……..“วางร่มลงได้ไหม..อยากให้เราเปียกด้วยกัน

    …แล้วผมจะทำให้คุณรู้ว่า..ความรู้สึกอบอุ่นภายใต้สายฝนเป็นอย่างไร”




    “ความรู้สึกอบอุ่นภายใต้สายฝน”..มันมีด้วยเหรอ ความรู้สึกแบบนี้

    สายฝนที่เย็นฉ่ำ จะทำให้คนเรา..รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาได้จริงๆเหรอ

    อบอุ่นเพราะ....“พวกเราจะเปียกไปด้วยกัน”.....ใช่ไหม??????????



    ประโยคเรียบง่าย..แต่ก็ทำให้ฉันต้องอมยิ้มเมื่อได้อ่านจบเชียว

    พูดถึงสายฝน…นึกถึงสายฝน…จะเป็นไรไป ที่ความทรงจำจางๆจะพร่างพรู



    คืนหนึ่งในเดือนตุลาคม(ฉันหวังว่าคงไม่ได้จำผิดไปนะ) 2002

    คนสองคนที่กำลังเดินทางกลับบ้าน..หลังจากการไปดูวงดนตรีที่สะพานหิน

    ด้วยมอเตอร์ไซค์คันเล็กๆคันหนึ่ง..ที่ไม่ขอเปิดเผยยี่ห้อและรุ่น(เพราะจำไม่ได้)

    กับสายฝนที่เริ่มโปรยปรายมา..ช้าๆ…เบาๆ….และหนักขึ้นเรื่อยๆ

    จนชายหนุ่มคนขับ…..ต้องชะลอรถอย่างช้าๆและจอดลงข้างทาง

    เขาสั่งให้หญิงสาวลงรถ..และเปิดเบาะ แล้วหยิบเอาเสื้อกันฝนตัวใหญ่ออกมาสองตัว

    ตัวนึงสำหรับเขา อีกตัวนึง..สำหรับเธอ… “ใส่ซิ”เขาสั่ง.. แต่เธอช้าและลังเล

    เขาจึงหยิบเสื้อจากมือไป..สลัดเสื้อตัวนั้นคลุมร่างเธอ และก้มลงติดกระดุมด้านข้างให้



    ช่วงเวลานั้น..เธอก้มลงมองศีรษะที่ก้มน้อยๆของเขา ขณะที่เขากำลังก้มลงติดกระดุมด้านข้างนั้น

    เธอเพิ่งรู้ตัว..ว่าเธอรู้สึกชอบจัง เวลาที่มีใครซักคน มาใส่ใจ..แม้ในเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนี้

    เมื่อใส่เสื้อกันฝนเรียบร้อย..ทั้งสองคนก็ขึ้นรถและขับต่อไป……



    ช่วงเวลาเกือบครี่งชั่วโมง..หรืออาจจะมากหรือน้อยกว่านั้นนิดหน่อย

    กลางสายฝนที่เย็นฉ่ำกับอ้อมกอดของคนทางด้านหลัง..มือของคนขับ กุมกระชับ

    มือทั้งสองของเธอเกือบตลอดทาง..อาจมีบางครั้ง..ที่ต้องคลายออกบ้างเมื่อต้องเข้าช่วงโค้งถนน


    เขาขับรถไปเรื่อยๆไม่เร่งร้อนรีบกลับ ให้ถึงบ้าน..เเม้สายฝนจะรินกระหน่ำเช่นนั้น

    และเธอเองก็เช่นกัน..เธออยากจะยืดเวลานั้นออกไปให้นานแสนนาน..อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    เพราะมันช่วงเป็นช่วงเวลาที่ทำให้อบอุ่นหัวใจ…ซะเหลือเกิน..


    ภายใต้เสื้อกันฝน..ที่ห่อหุ้มร่างจนเกือบมิด ปรอยฝนกระเซ็นโดนใบหน้าที่โผล่ออกมาเป็นครั้งคราว



    เธออาจ…ไม่ได้มีร่มไว้ให้วางลง

    เธออาจ….ไม่ได้สัมผัสสายฝน..จนเปียกชุ่มฉ่ำ นอกร่มซักคัน

    เธออาจ….ไม่ได้สัมผัส..ความอบอุ่นภายใต้สายฝน..โดยตรง ว่าอบอุ่นอย่างไร



    แต่เธอรู้สึกได้ดี..ว่าความอบอุ่นภายใต้เสื้อกันฝนตัวใหญ่

    กับคนที่เธอรู้สึก..ไว้เนื้อเชื่อใจ..ภายใต้สายฝน..เป็นอย่างไร

    ..

    ..


    บางครั้ง..

    .

    ..

    การคิดถึง..คนที่เคย..“รู้สึกพิเศษ”..ในอดีต ก็ไม่ใช่เรื่องแย่ หรือทำให้เจ็บปวดเสมอไป


    ยิ่งในเมื่อการจากลากันนั้น..ไม่มีใครฝากรอยแผล..หรือใครได้รับบาดแผลจากความรู้สึกดีดีครั้งนั้น


    แต่อาจไม่ใช่เพราะคนสองคนนั้น..จากกันด้วยดีหรอกนะ

    หากแต่เป็นเพียงเพราะว่า..คนสองคนนั้นได้จากกัน ก่อนที่มีใครทำให้ใครต้องเจ็บปวดมากกว่า





    หกปีผ่านไปแล้วซินะ..กับวันฝนตก..วันนั้น



    แต่ความทรงจำมันไม่ได้ลบเลือนหายไป..พร้อมกับวันเวลาเหล่านั้นนี่นา

    มันเพียงถูกลืมเลือนไปชั่วขณะ…เมื่อเราได้พบว่า..ความทรงจำใหม่ๆกับคนคนใหม่..มันสวยงามยิ่งกว่า



    แต่เมื่อฉันอ่านประโยคนั้นของคุณ…..“ขอรบกวนทั้งชุดนอน” และความทรงจำที่หวนคืน

    จึงอยากฝากตัวอักษรเหล่านี้…ไปบอกคนคนนั้น(แม้ฉันจะรู้ว่า…..มันคงส่งไปไม่ถึงหรอก)..ว่า



    ขอบคุณ….ที่ครั้งนึง เคยทำให้ฉันได้รู้สึกถึงความอบอุ่นภายใต้สายฝน

    และขอบคุณในความมีน้ำใจในตอนที่จอดรถที่ตรงหน้าบ้าน..มือที่ช่วยถอดเสื้อกันฝน..สองมือนั้น

    ขอบคุณ..ความอบอุ่น..เมื่อตอนที่ใช้มือหนึ่ง ปราดขึ้นมาลูบผมที่ด้านหน้าไปด้านข้างให้อย่างอ่อนโยน

    และขอบคุณ…..น้ำเสียงที่บอกแกมสั่ง…ก่อนกลับออกไปว่า……

    “เช็ดผมให้แห้งก่อนนอน..และกินยากันไว้ด้วย เดี๋ยวจะไม่สบายไป..แล้วนอนฝันดีนะ”



    เมื่อตอนที่เขาจากไป..เขาอาจไม่รู้ว่า..เขาได้ทิ้งร่องรอยอันอบอุ่นไว้ในหัวใจของฉัน

    และมันยิ่งอบอุ่นขึ้น“ทบทวีคูณ”กับเสียงที่มาตามสาย…สิบนาทีหลังจากนั้น..ว่า“เป็นอย่างไรบ้าง?"..และ"..ฝันดีนะ…”..อีกครั้ง


    ขอบคุณ..คนคนนึง..ที่อยู่อีกฝั่งฟากของโลกใบนี้..วันนั้นฉันรู้สึกดีอย่างมากมาย

    แต่ฉันจำไม่ได้หรอกว่า..หลังจากวางโทรศัพท์สายนั้นลงแล้ว..คืนนั้นฉันฝันดีหรือไม่?


    รู้แต่ว่า..นั่นแหล่ะคือวันเริ่มต้น..ของความฝันที่“เกือบ”ดี…และ"เกือบ"ดีขึ้นเรื่อยๆ

    ก่อนที่วันนึง…เราทั้งสองจะได้ต่างคนต่างก้าวไปข้างหน้า..ไปหาความฝัน“ที่ดีกว่า”



    คนอ่านอาจคิดว่า..นี่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อให้เข้ากับประโยคด้านบน..ประโยคนั้น

    แต่ถ้าฉันขอยืนยันว่า..มันคือเรื่องจริงทั้งหมด คุณจะเชื่อไหม..?




    ……แต่คุณจะเชื่อหรือไม่ มันไม่สำคัญหรอก…



    …..แค่ฉันกับเขา….เรารู้ว่า…มันเป็นเรื่องจริงแค่สองคน..ก็พอ….

     
     

    จากคุณ : nikanda - [ 16 เม.ย. 52 05:46:53 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com