แสงแห่งวันใหม่สาดส่องเข้ามาภายในห้องสี่เหลี่ยมลอดผ่านช่องของผ้าม่านที่ปัดปลิวไปตามแรงลมเบา ๆ อาจมีใครบางคนเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้ทำให้ได้ยินเสียงเล็ดลอดจากภายนอกเข้ามา อาจเป็นเสียงอะไรสักอย่าง หากคนที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงนอนก็ไม่ได้คิดจะไปสนใจกับเสียงเหล่านั้น แม้แต่แสงที่สาดส่องเข้ามาก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของเตียงอยากจะลุกขึ้นมาเพื่อรับอรุณวันใหม่ รฎาตวัดผ้าที่ห่มอยู่เพียงหน้าอกขึ้นมาคลุมโปงเพื่อไม่ให้แสงนั้นแยงเข้าตาเธอได้ หญิงสาวเพียงคิดอยากจะนอนให้ยาวให้สมกับที่เป็นวันหยุด หากนั่นก็เป็นได้เพียงความคิดเท่านั้นเมื่อรู้สึกได้ว่าผ้าห่มที่เธอยึดเป็นที่บังแดดนั้นถูกดึงออกไปให้พ้นตัวเธอเสียแล้ว ความรู้สึกนั้นเองที่ทำให้เธอต้องใช้มือควานหาผ้าห่มเพื่อมาคลุมอีกครั้งทั้งที่ตาทั้งสองข้างของเธอยังปิดสนิท และรฎาก็ทำสำเร็จเมื่อมือของเธอควานไปเจอชายผ้าห่มและตั้งใจจะดึงมันขึ้นมาคลุมอีกครั้ง แต่ดูเหมือนความตั้งใจของเธอจะไม่ประสบผลสำเร็จสักเท่าไรนัก เมื่อรู้สึกว่าผ้าห่มผืนนั้นถูกยึดไว้ด้วยอะไรสักอย่างที่มันคงแน่นหนามากพอที่จะไม่ทำให้เธอสามารถดึงมันขึ้นมาได้ รฎาใช้แรงดึงมันอยู่หลายทีจนในที่สุดก็ลืมตาขึ้นมามองว่ามันติดอะไรนักหนา พอลืมตาขึ้นมองเธอก็พบกับสิ่งที่ยึดผ้าห่มของเธอเอาไว้ นั่นคือเจ้าของรอยยิ้มกว้างที่ยืนส่งยิ้มให้เธออยู่ที่ตรงปลายเตียงนั่นเอง เขาใช้มือเพียงข้างเดียวจับที่ปลายผ้าห่มอีกด้านเอาไว้ ส่วนอีกข้างของเขามีแก้วกาแฟร้อน ๆ อยู่ในมือ
ตื่นแล้วเหรอครับ รฎา
คนถูกทักเพิ่งลุกขึ้นมานั่งที่เตียง แล้วบิดตัวไปพลางใช้มืออีกข้างปิดปากที่กำลังหาว แล้วหันมามองเจ้าของรอยยิ้มกว้างอย่างมองค้อน ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นว่า
จะไม่ให้ตื่นได้ไงเล่า ก็เล่นยึดผ้าห่มเอาไว้แบบนี้ แกล้งกันนี่หว่า
ก็มันสายมากแล้วนี่ครับ รู้ไหมว่านี่มันกี่โมงแล้ว
คนถูกถามส่ายหน้าจนผมหยักศกนั้นไหวไปตามแรงสะบัด ไม่เห็นจะอยากรู้ รฎาได้ยินเสียงผู้หญิงเอาแต่ใจคนหนึ่งตอบในใจ
เกือบสิบโมงแล้วนะ รฎานอนเยอะไปแล้วรู้ไหม
ช่างเถอะน่า วันนี้วันหยุดนะดิน ขอรฎาพักผ่อนให้เต็มที่หน่อยไม่ได้หรือไง
ได้ แต่ไม่ใช่วิธีนี้
วิธีไหน รฎาถามอย่างสงสัย คนถูกถามกลับยิ้มบาง ๆ ก่อนที่จะให้คำตอบกับคำถามนั้นว่า
เดี๋ยวก็รู้เองน่า แต่ตอนนี้รฎาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สดชื่นก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมจะเตรียมข้าวต้มร้อน ๆ ไว้ให้ น่านะคนดี
แม้จะไม่ได้คำตอบใด ๆ นอกจากคำหวานของคนตัวใหญ่ที่ขยับเข้ามาดึงร่างบางให้ลุกจากเตียงไปได้สำเร็จ หญิงสาวก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยเสียก่อนที่จะกลับมาเอาคำตอบกับเจ้าของความคิด ที่นั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจอยู่บนเตียงนอนของเธอนั่นเอง
ในที่สุด รฎาก็ได้รู้คำตอบที่เธออยากรู้ วิธีพักผ่อนสุดวิเศษที่ดินบอกกับเธอ การมาสวนสาธารณะนี่หรือ รฎาถามตัวเองอยู่ในใจ ขณะที่สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่คนตัวโตที่กำลังวางสัมภาระที่อุตส่าห์แบกมาเสียเยอะแยะไว้บนเสื่อที่รฎาเองก็ไม่รู้ว่าเขาเอามาจากที่ไหน จะที่ไหนก็ช่างเถอะ รฎาบอกตัวเองอย่างตัดรำคาญคร้านที่จะหาคำตอบกับสิ่งที่ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือดินจะพาเธอมาทำอะไรที่นี่ต่างหาก
ไหนล่ะ จู่ ๆ หญิงสาวก็เอ่ยถามขึ้นมาสั้น ๆ แต่ก็ดูเหมือนว่าคนถูกถามก็ดูจะเข้าใจในคำถามสั้น ๆ นั้นเสียด้วย เขายิ้ม แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร เอาแต่อุปกรณ์ในการวาดรูปมาจัดเตรียมวางไว้จนครบชุด รฎามองกระดานวาดภาพขนาดใหญ่ที่เพิ่งถูกวางไว้บนขาตั้งรูปอย่างสงสัย
ทำอะไร รฎาถามอย่างที่ใจนึก ดินหันมายิ้มก่อนที่จะตอบว่า
ก็พักผ่อนไงหล่ะ ยิ่งตอบก็ยิ่งสงสัย
ยังไง
การอยู่ในที่ดี ๆ สักแห่งหนึ่ง ได้ทำอะไรที่ตัวเองชอบ และสบายใจนั่นแหล่ะ
คือการพักผ่อนที่ดีที่สุด และเราก็รู้ด้วยว่ารฎาชอบวาดรูป จริงไหม
มันก็จริงอย่างที่เขาว่า หากในสภาพจิตใจแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ รฎาไม่แน่ใจว่าการวาดรูปจะทำให้เธอมีความสุขได้ และรฎาก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าเธอจะวาดอะไรออกมาได้ดีหรือเปล่า ความสับสนที่เกิดขึ้นในจิตใจมันทำให้เธอไม่ได้จับพู่กันขึ้นมาวาดภาพนานนับเดือน
แต่ฉันไม่ได้วาดรูปมานานแล้ว รฎาอ้างเหตุผลที่เธอพอจะหาได้
ไม่เห็นต้องรีบร้อนนี่ เราไม่ได้ให้รฎาวาดเพื่อส่งอาจารย์สักหน่อย วาดถ้าอยากจะวาด รฎามองไปรอบ ๆ สิ มีสิ่งสวยงามเยอะแยะไปบนโลกใบนี้ มันไม่ได้มีสิ่งเพียงสิ่งเดียวที่จะให้เรามีความสุขได้หรอกนะ ลองมองไปรอบ ๆ ตัวเราสิ บางทีรฎาอาจจะเจอสิ่งที่รฎาอยากเจอ และอยากวาดมันขึ้นมาก็ได้นะ
รฎามองลึกเข้ามาในดวงตาแน่วนิ่งดวงที่มองมาที่เธอ เข้าใจความหมายในสิ่งที่เขาเอ่ยแก่เธอ แม้เข้าใจแต่ก็ไม่ใช่ง่าย ๆ ที่จะทำใจได้ และเธอเองก็รู้ดีว่าเขาก็รู้ดีเช่นกัน รฎายื่นมือไปรับดินสอจากมือของดินที่ยื่นมาให้ตรงหน้า เขายิ้มอย่างที่เคยยิ้ม ไม่ว่าชีวิตจะเป็นเช่นไรหากเขายังคงยิ้มเช่นเดิม ยิ้มแบบที่รฎาเชื่อในใจเสมอว่าเธอจะได้รับรอยยิ้มแบบนี้ไปตลอดชีวิตที่เธอมีเขาอยู่บนทางเดินของชีวิตเธอ รฎาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าขาตั้งรูป กวาดสายตามองไปรอบ ๆ หาสิ่งที่จะทำให้กระดาษขาวตรงหน้ามีอะไรปรากฎขึ้นมาได้บ้างในวันนี้ แม้ในตอนนี้เธอยังไม่สามารถที่จะตวัดลายเส้นใดบนกระดาษแผ่นนี้ได้ แต่รฎาเชื่อว่าสักวันกระดาษขาวในชีวิตของเธอจะต้องถูกแต่งเติมขึ้นอย่างสวยงามแน่นอนในสักวัน
ดวงอาทิตย์พ้นออกมาจากต้นไม้ใหญ่ที่หนุ่มสาวสองคนเลือกเป็นทำเลในการพักผ่อนในวันหยุดที่แสนสบายในวันนี้ ดินถึงได้รู้สึกตัวว่ามันเลยเที่ยงมานานแล้ว ทั้งเขาและรฎายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนอกจากข้าวต้มตั้งแต่เมื่อตอนสิบโมงเช้า ดินวางหนังสือลงบนเสื่อก่อนที่จะหันมาไปมองร่างบางที่ยังคงยืนอยู่ที่หน้ากระดานวาดรูปขนาดใหญ่ที่เขาจัดหามาให้ รฎาลงมือวาดภาพมาได้สักพักใหญ่หลังจากมองหาสิ่งที่อยากจะวาดอยู่พักหนึ่ง ทุกอย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่างบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ ดินยิ้มให้กับภาพที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้า ในขณะที่หญิงสาวขะมักขะเม้นอยู่กับงานอดิเรกตรงหน้ามันคงทำให้เธอลืมความเหงาที่มันเกาะกินหัวใจเธออยู่ไปได้ชั่วขณะ ดินขยับตัวลุกขึ้นจากเสื่อเดินเข้ามาหยุดอยู่ด้านหลังของรฎาแล้วพูดขึ้นว่า
อือ สวยดีนะ
นี่ขนาดยังไม่เสร็จนะเนี้ยยังมีคนชม ถ้าเสร็จแล้วจะสวยซะขนาดไหนน๊า ไม่วายที่เจ้าของภาพจะอดชมฝีมือของตัวเองไม่ได้ ดินอดขำกับอารมณ์ขันของหญิงสาวไม่ได้
หิวไหมรฎา
อือ ก็นิดหน่อยหล่ะ หญิงสาวตอบกลับโดยไม่ละสายตามาจากภาพเบื้องหน้า
งั้นเดี๋ยวเราไปหาอะไรมาให้ทานละกัน
หญิงสาวพยักหน้ารับกับทางเลือกที่ดินเป็นฝ่ายเสนอ ดินไม่คิดที่จะซักไซ้อะไรต่อเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่ายกำลังเพลิดเพลินกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า เขาจึงเดินผละออกไปอีกด้านหนึ่งเพื่อจัดหาอาหารกลางวันสำหรับหญิงสาว ในทันทีที่รู้สึกว่าดินก้าวห่างพ้นไปจากสายตาของเธอแล้ว รฎาจึงหยุดมือที่กำลังตวัดเส้นไปบนแผ่นกระดาษสีขาวนั้น เธอวางดินสอลงบนถาดที่วางอยู่ด้านข้างแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดหมายเลขที่คุ้นเคยก่อนที่จะตัดสินใจกดปุ่มโทรออกไปในทันที เธอยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูฟังสัญญาณตอบรับจากอีกฝั่งของปลายสาย เนิ่นนานหากสิ่งที่เธอได้ยินมีเพียงเพลงรอสายจนกระทั่งโทรศัพท์ตัดสายไปเอง รฎาไม่คิดจะโทรกลับไปอีกครั้งเหมือนทุกทีที่เธอต้องโทรไปซ้ำ ๆ มันก็คงเหมือนทุกครั้งเขาไม่รับสาย เพียงแค่ครั้งเดียวก็คงจะเพียงพอแล้วสำหรับในครั้งนี้ รฎารู้สึกถึงความเหงาที่เวียนกลับเข้ามาในหัวใจของเธออีกครั้ง มันเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่คิดถึงใครบางคนที่เขาไม่เคยคิดถึงเธอเลย
ภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ใช่ภาพของหญิงสาวที่กำลังตั้งอกตั้งใจวาดภาพอย่างที่ดินคาดคิดไว้ หากเป็นหญิงสาวที่เอาแต่ยืนเหม่อมองไปยังเบื้องหน้า สายตาของเธอช่างว่างเปล่า เขารู้ดีไม่มีสิ่งใดอยู่ในสายตาของเธอแม้จะเห็นว่าเธอมองภาพเบื้องหน้า หากสิ่งที่อยู่ในสายตาของรฎาคงมีเพียงภาพของคนที่อยู่ในห้วงความคำนึงของเธอเพียงเท่านั้น มือที่เคยจับดินสอสำหรับวาดรูปตอนนี้กลายเป็นโทรศัพท์มือถือเข้ามาแทนที่ ดินเพิ่งรู้รฎารอเพียงเวลาที่เขาจะห่างเธอไปเท่านั้น เพียงเขาลับไปจากสายตาของเธอ ภาพของใครบางคนก็เข้ามาแทนที่ในทันที มันทำให้เขารู้ไม่ว่าจะพยายามสักเพียงใดภายใต้ความรู้สึกส่วนลึกของรฎามีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น คนที่พยายามตลอดเวลาที่จะอยู่ให้ห่างจากรฎา หากรฎากลับอยากจะอยู่ใกล้ แม้รู้ดีว่าจะต้องพบเจอกับความเจ็บปวดแต่รฎาก็ยินดีที่จะสัมผัสความเจ็บปวดนั้นขอแค่ได้อยู่ใกล้ชิดเขาเพียงเท่านั้นเอง ดินลอบถอนหายใจเบา ๆ แล้วแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับภาพเบื้องหน้า เขาแกล้งตะโกนมาเสียตั้งแต่ไกลเพื่อไม่ให้หญิงสาวรู้ตัวว่าเขารู้เห็นในสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่
มาแล้ว ของกินเพียบเลย
เขาทันได้เห็นรฎารีบเอาโทรศัพท์มือถือซุกเข้าไปในกระเป๋ากางเกง รฎาหันมาส่งยิ้มรับเขาที่เดินลิ่วเข้ามาหา สีหน้าของเธอปกติไร้แววหม่นเศร้าเหมือนเมื่อครู่ที่เขาได้เห็น
ไหนดูสิมีอะไรกินบ้าง
น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยช่างสดใสเสียเหลือเกินในความรู้สึกของดิน ราวพยายามปกปิดบางสิ่งที่อยู่ภายในใจ แม้ดินจะพยายามค้นหาความหม่นเศร้าในแววตาคู่สวย หาก ณ เวลานี้เขากลับมองไม่เห็นมันอีกแล้ว รฎากลบเกลื่อนความเจ็บปวดนั้นเอาไว้หมดสิ้น แต่ดินรู้ดีว่าภายในนั้นความเจ็บปวดมันรุมเร้าอยู่ตลอดเวลา หากเขาเองก็ไม่อาจก้าวล่วงเข้าไปในความรู้สึกของหญิงสาวได้หากเธอไม่ได้ร้องขอ สิ่งที่เขาทำได้คือเฝ้ามองดูความเป็นไปในชีวิตของหญิงสาวเฉกเช่นเพื่อนคนหนึ่งที่เขารู้ดีว่ารฎาต้องการให้มันเป็นเพียงเช่นนั้น แม้รู้ดีว่าความต้องการของตนไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหญิงสาว แต่เพียงขอยังได้ยืนอยู่เคียงข้างหญิงสาวต่อไปแม้จะต้องเป็นอะไรเขาก็จำต้องยอมทน ดินระบายยิ้มออกมาบาง ๆ ขณะที่มองดูหญิงสาวนั่งกินอาหารสำเร็จรูปที่เขาจัดเตรียมมาให้อย่างเอร็ดอร่อย เพียงแค่นี้ก็เป็นสุขแล้ว ดินได้แต่คิดอยู่ในใจ
จากคุณ :
สะตอหวาน
- [
21 เม.ย. 52 20:28:29
A:119.31.17.20 X:
]