เคยรำคาญ นิ้วก้อย บ้างไหมฮะ เพื่อน ๆ
บางทีนะ
เราคิดว่ามีแค่ข้างละ สี่นิ้ว ก็น่าจะพอ
สำหรับการหยิบถือที่ถนัดมือ
นิ้วก้อยนี้ รุ่มร่าม จริง ๆ
เคยทำให้รูปเขียนสีที่ยังไม่แห้ง ถูกลากเป็นรอย
เคยทำให้ข้อความในฝ่ามือเลอะเลือน
เคยทำให้ถูกสาวไม่แท้มาสะกิดฝ่ามือ
เคยสะบัดขี้โยจนพอง เจ็บตัวเปล่า ๆ
เคย โอ๊ย . . .เยอะแยะ . . .
. . . . .
กระทั่ง
อยู่มาวันหนึ่ง
ก้าวพลาดไปเหยียบถนนที่ลื่นเป็นแอ่ง
พรืดเดียว หงายหลังทั้งยืน
สัญชาตญาณ
ทำให้ แหงะแขนขวา ท้าวไปข้างหลัง
เลยแค่ ก้นกระแทก เล็ก ๆ
ศีรษะไม่ฟาดพื้น
ก็นับว่า ยังเป็นบุญหัว
ส่วนที่รับกรรม
คือสันมือ กับ นิ้วก้อยขวา
ลุกขึ้นมาประมือสะบัดขี้ฝุ่น
แล้วก็บอกตัวเองว่า
นายไวมาก
นายแน่มาก . . .
แฮ่ . . .
. . . . .
พอวันรุ่งขึ้น
ตื่นขึ้นมา ก็รู้สึก ชา ชา มือขวา
พอยกขึ้นมาดู
เจ้าประคุณรุนช่อง
บวมไปครึ่งฝ่ามือ
. . . . .
หัวร่อ หึ หึ อย่าง ฅนเหล็ก ว่า
ไม่เป็นไรหรอกโว้ย
แค่ . . . ซ้น โคนนิ้วก้อย
ซึ่งมิได้มีอิทธิพลกับการดำเนินชีวิต ใด ใด . . .
. . .
สองวันผ่านไป
หลังจากทายา (อ้ายชื่อภาษาอังกฤษ ยาว ๆ นั่นแหละ)
โดยสม่ำเสมอ
อาการก็ดีขึ้น
ไม่บวมนัก
ไม่เจ็บปวด
ถ้าไม่งอนิ้ว
เฮ้ย . . .
อาการแบบนี้
ขี้ ขี้ ว่ะ
ไกลหัวใจตั้งเยอะ
ฮะเหย . . .
. . . . .
หากแต่เมื่อประกอบกิจกรรมของชีวิตตามปรกติ
เริ่มตั้งแต่
กำช้อน รับประทานอาหาร
เจ็บ ที่ปลายมือ
ไม่สามารถ งอนิ้วก้อยมือขวาได้
บอกตัวเองว่า
เฮ้ย . . . ชั่งมัน
มือขวาของฉัน
ยังมีอีกตั้ง สามนิ้ว
ที่ยังรับใช้ร่างกายอยู่
ได้โดยปรกติสุข
ฉะนั้น
. . .
เรื่องมันเกิดข้อสังเกตได้ตั้งแต่เริ่มทำงาน
จับปากกาจะเขียนต้นฉบับแล้วร้อง โอ๊ย ! ! !
นิ้วก้อย
ที่ต้องรองอยู่บนพื้นโต๊ะ
เพื่อลากปากกาไปมา
เป็นตัวอักษร
มีปัญหาเสียแล้ว
เลยต้อง ยกส้นมือขึ้นมา
จนพ้นพื้นโต๊ะ
มิให้ รับน้ำหนัก เต็ม ๆ
จึงเพิ่งเกิด พุทธิปัญญา
ในวิธีการเขียน พู่กันจีน
ณ บัดเดี๋ยวนั้น . . .
. . . . .
ขัดข้องใจ
ไม่ง้อปากกาก็ได้วะ
เปิดเครื่อง
พิมพ์สด มันเล้ย ย ย . . .
แค่ประโยคแรก
ก็รู้สึกตัวเหมือนกับ แม่ทัพ
ที่พลาดท่าเสียที ในกลยุทธ์
ที่นำพา พหลพลโยธา
กระทั่ง ไปตกอยู่กลางที่ล้อมของข้าศึก
เพราะ . . .
นิ้วก้อยข้างขวา
กับแบบแผนการพิมพ์สัมผัส
คืออะไร . . . ?
ท่านทั้งหลาย
คงจะสะใจในความดื้อรั้นของกระผม
โดยถ้วนหน้ากัน
ใช่ไหมครับ . . .
. . . . .
งุ่นง่านขึ้นมา
ลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้
ให้ตายสิ . . .โรบิ้น . . . ! ! !
มุมเก้าอี้เจ้ากรรม
ดันคาบเส้นด้าย ชายเสื้อเชิ้ตไปเสียอีก
ดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ออก
แถมจิกินเสื้อฉันไปซะอีก . . .
ขัดใจ ซาดิสม์ ขึ้นมา
แทนที่จะคว้า กรรไกรคู่มือ
เลยกลับไปควานหา ไฟแช็คบนโต๊ะ
หากพอเอี้ยวตัวกลับไปจะลน
อ้ายเส้นด้ายเจ้าปัญหา
ให้มันสิ้นซาก
พอขีดลูกล้อแกรก
ก็ต้องร้อง โอ๊ย . . . ดัง ๆ ขึ้นมาอีกที
ไฟแช็คร่วงจากมือ
ด้วยทนปวดไม่ไหว
เพราะ
โดยธรรมชาติของคนถือ ไฟแช็ค ที่ถนัดขวา
นิ้วก้อยมือขวา นั้น
จะไขว้มารองรับน้ำหนักการขีดประกายไฟ
โดยอัตโนมัติ . . . . .
. . . . .
อ้ายนิ้วก้อยมือขวาเอ๋ย . . .
ทำไม
จึงได้สร้างความยุ่งยาก
และน่ารำคาญกับฉัน
ได้ถึงขนาดนี้ . . . เจียว หนอ . . . .
ถ้า . . .
แกไม่ป่วย
นิ้วอื่น ๆ เขาก็คงไม่ได้รับผลกระทบ
จน งอไม่ได้เหมือนกัน
ฉะนั้น . . .
เมื่อไหร่แกจะมีประโยชน์กับฉัน - เจ้าของมือ
เสียทีล่ะ . . .เฮ้ย . . .
นิ้วก้อย มือขวา . . .
. . . . .
พอรำพึงได้ถึงตอนนี้
รู้สึกหงุดหงิดมาก
กระทั่งต้องออกไปหา เบียร์ เย็น ๆ ดื่ม ดับโมโห
แต่ . . .
พอรับแก้วเบียร์มาจากน้องน่ารัก
ส่งสายตาหวานเยิ้มให้แล้ว
ปรากฎว่า
คีบแก้วเบียร์ที่น้องเขาส่งมาให้
ได้เพียง สามนิ้ว
โดยปล่อยอ้าย นิ้วก้อยมือขวา เจ้ากรรม
ให้กระดกกระดนโด่ ซะงั้น . . .
นั้นยังไม่ค่อยขายขี้หน้าเท่าใดดอก
กระทั่ง
ได้ยินเสียง ห้าว ห้าว
อย่างดัดกระเเดะ ผ่านลูกกระเดือก
ที่ลอยลม
มาจากโต๊ะข้างหลัง ว่า
". . . ต๊าย . . . ตัวเอง . . .
ชั้นละกลัวหนวดเครารุงรัง
ที่ไหนได้ . . .
กรีดก้อยซะ . . .
ก็พวกเดียวกันแหละวะ . . ."
ผมก็ได้แต่หัวเราะ หึ หึ . . .
ด้วยความเจ็บใจตัวเอง
และอาฆาต
อ้าย . . .นิ้วก้อยมือขวา . . . (อีกแล้ว . . .)
. . . . .
(ยังมีต่อ ขอรับ.)
จากคุณ :
พจนารถ๓๒๒
- [
27 เม.ย. 52 18:58:48
]