Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เพลงกระซิบ ...บทที่6 - อาจารย์กับลูกศิษย์...

    ลิ้งค์

    บทที่1 - http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7776095/W7776095.html#5

    บทที่2 - http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7779579/W7779579.html

    บทที่3 - http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7784130/W7784130.html

    บทที่4 - http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7788250/W7788250.html

    บทที่5 - http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7799847/W7799847.html

    ***************************************************************************************


    บทที่6
    อาจารย์กับลูกศิษย์

    มือที่เลอะเปรอะเปื้อนสีน้ำมันจับพู่กันขนาดกลางไว้มั่น ขณะตวัดปลายขนพู่กันที่เปื้อนสีเขียวอ่อนไปมาเป็นจังหวะ คล่องแคล่ว ชำนาญ เป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการเกร็งแข็งทื่อให้ต้องนึกขัดใจ

    ดูผิวเผินแล้ว เขาดูเป็นจิตรกรที่เก่งกาจ มากชำนาญและความสามารถในการวาดภาพ และใครต่อใครหลายคนก็มีความคิดเช่นนั้น เล่าขานกันปากต่อปาก รุ่นต่อรุ่นว่า รามิลมีพรสวรรค์ทางด้านศิลป์เป็นเลิศ แต่สำหรับตัวเขาเองนั้น หาได้คิดเช่นนั้นไม่... เขาไม่คิดว่าตนเป็นจิตรกร ศิลปินเอกมาจากไหน เขายังคงตระหนักดีว่าตัวเขาก็ยังเป็นแค่ ‘คนวาดภาพ’ ธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น แค่มีความรู้สึกนึกคิด มีจินตนาการอยากวาดก็วาด และอุปนิสัยตามแต่ใจตนเช่นนี้นี่เองที่ทำให้เขาก็รู้ดีอีกว่า ทำให้ยึดอาชีพนี้เป็นอาชีพหลักได้ยากอยู่มาก แต่อย่างไรเสีย เขาก็ไม่ได้นึกยีหระจะสนใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว

    มีความเชื่อบางอย่างสำหรับใครบางคนหรือใครหลายคนกล่าวไว้ว่า การจะทำอะไรสักอย่าง บางครั้งต้องอาศัยสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายสิ่ง หรือเป็นใครคนหนึ่ง หรือหลายคนเป็นแรงบันดาลใจ เพื่อให้ตัวเองสามารถสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองได้ และรามิลเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่อาศัยแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของเขาเอง

    ส่วนใหญ่แล้วมาจากการฟังดนตรี...ฟังเพลง... มันเป็นความรู้สึกโดยส่วนลึก เป็นจิตใต้สำนึกของเขาเอง ยามท่วงทำนองของบทเพลงใดบทเพลงหนึ่งเอื้อนเอ่ย ยามนั้นที่จินตนาการอันหลากหลายของเขาจะหลั่งไหลเข้ามาไม่รู้จบ ก่อให้มือของเขาไม่อยู่นิ่ง ต้องหาทางหยิบจับดินสอ หรือพู่กัน แต่งแต้มลายเส้นหรือสีสันลงไปบนผืนกระดาษสีขาวบริสุทธิ์ให้มีรอยเปรอะเปื้อน ทำนามธรรมที่อยู่ในความรู้สึกนึกคิดให้บังเกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมา สื่อให้ผู้ที่พบพานได้เข้าใจสิ่งที่เขาตั้งใจจะถ่ายทอดออกมา

    แรงบันดาลใจของเขามาจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มิใช่มาจากใครคนหนึ่ง และเขาก็ไม่เคยคิดอยากวาดภาพใคร หรือให้ใครเป็นแรงบันดาลใจของเขาเลยสักนิด แต่ยามเมื่อพบเธอ...อาคีรา เธอเพียงคนเดียวที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกประหลาดอย่างถึงที่สุด...รูปกาย เรือนร่าง เส้นผม ใบหน้า แม้กระทั่งกลิ่นกาย หรือผิวสัมผัส ราวกับหลุดลอยออกมาจากห้วงภวังค์ฝันหวานอันยาวนาน วิญญาณนางไม้ที่เขาเคยจินตนาการวาดภาพไว้ในความนึกคิด มีตัวตนอย่างที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้

    คีตาบรรเลงเพลงดังก้องตามจังหวะท่วงทำนอง ในขณะที่มือที่จับพู่กันยังไม่มีหยุดนิ่ง แต่คล้ายว่าสมาธิของเขาในขณะนี้ จะไม่ได้จดจ่อแน่วแน่อยู่กับสิ่งนั้นเท่าที่ควร กลับเฝ้าคำนึงถึงคำบอกเล่าของดารินทร์ ผ่านมานานเพียงใดก็ยังรบกวนจิตใจเขาอยู่ พลันมือของเขาก็หยุดชะงักนิ่ง ทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ภาพวาดตรงหน้าที่ยังไม่สมบูรณ์เรียบร้อยดี คิ้วขมวดวุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิด

    ‘จะว่าไปแล้ว มันก็เหมือนปมที่แก้ไม่ออก ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ เจ้าตัวเขาไม่คิดอยากที่จะแก้ เขาว่า... มันไม่จำเป็น’

    ...ไม่จำเป็นอย่างนั้นหรือ...

    คำตอบสมกับที่หลุดออกมาจากปากคนช่างอวดดี ไม่เสียใจกับสิ่งที่ตนเลือก ไม่เรียกร้องร่ำไห้ฟูมฟายให้คนรอบข้างต้องนึกรำคาญใจ แม้ผลที่ออกมาจะไม่พบกับความราบรื่น หรือความสวยงามในเส้นทางที่เดิน ก็ยังไม่นึกเดือดร้อน โวยวายเป็นเรื่องใหญ่ ยามพบอุปสรรคขวากหนามที่สร้างความหดหู่แก่ตน

    น่าชื่นชม แต่อีกนัยหนึ่งก็น่าสมเพช แม้ในวูบหนึ่งจะพบว่า มันให้ความสบายแก่หัวใจดีแล้ว แต่นานวันเข้า เป็นเช่นนั้นหรือไม่ ตัวเองน่าจะรู้ดี

    ความคิดของรามิลถูกกระชากกลับด้วยเสียงฝีเท้าหลายคู่ดังแว่วก้องมาทางห้องที่เขาอยู่ ไม่นานก็ปรากฏกลุ่มนักศึกษาหนุ่มสาวจำนวนห้าคนเดินเข้ามา...

    ยิ้มกว้างฉีกบนใบหน้านักศึกษาสองคน อีกสองคนเพียงแค่ยิ้มน้อยๆตามวิสัย เหลือเพียงนักศึกษาหนุ่มอีกคนที่ไม่มีรอยยิ้มแม้เพียงน้อยนิดปรากฏให้เห็น ทั้งหมดยกมือไหว้ตามธรรมเนียมมารยาทของผู้น้อยที่มีต่อผู้ใหญ่ อีกฝ่ายเองก็น้อมรับไหว้อย่างไม่ถือตัว

    “อาจารย์ว่างอยู่หรือเปล่าคะ”

    นักศึกษาสาวตาคมคนหนึ่งกล่าวขึ้นเป็นคนแรก ผมสีดำสนิทของหล่อนยาวจนเกือบถึงเอว หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ตัวเล็ก แลดูผิวเผินน่าจะคล้ายเด็กมัธยมมากกว่านักศึกษาในมหาวิทยาลัย

    รามิลคลี่ยิ้มทักทาย “ว่างสิ... แล้วไงล่ะ ยังไม่กลับบ้านกันอีกหรือ วันนี้มีสอบกันนี่นะ เรียบร้อยกันหมดแล้วสิ”

    “ค่ะ เรียบร้อยแล้ว หมายถึงแค่วันนี้นะคะ ยังเหลือสอบอีกตั้งสามสี่วันแน่ะค่ะ วันนี้สอบลงแสงเงาของอาจารย์พิชัย งานถนัดของหนูเลยนะคะ”

    เด็กสาวคนเดิมกล่าว...ภัทราฉีกยิ้มกว้างสดใส ราวดอกไม้เล็กๆในสวนสวรรค์งาม เป็นสีสันสว่างเริงร่า

    “อืม” รามิลพยักหน้า พลางส่งเสียงรับรู้ในลำคอเบาๆ “แล้วคนอื่นๆนอกจากอ้อมล่ะ... ว่าไง ภูมิ”

    พยักเพยิดหน้าไปยังลูกศิษย์หนุ่มผมยาวที่ถูกเชือกเส้นบางมัดรวบผมไว้ต่ำ ลักษณะที่เห็นได้ชัดของภวภูมิคือ ชอบใช้ย่ามสีน้ำตาลอ่อนที่ทำจากผ้าดิบพื้นเมืองลงลวดลายของช้างเอราวัณไว้อย่างวิจิตรสวยงาม ยามมองก็ให้ความรู้สึกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้เสียสิ้น

    นักศึกษาหนุ่มผู้ถูกถามยิ้มแหยง มือเขายกลูบท้ายทอยเบาๆ
    “ดูท่าจะไม่ได้เรื่องครับอาจารย์ อีกอย่างผมออกจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับอาจารย์พิชัยอยู่”

    “อย่าไปฟังไอ้ภูมิมันเลยฮะอาจารย์ ผมว่าอาจารย์พิชัยเขาออกจะพิศวาสไอ้ภูมิมัน ผมเห็นตอนสอบจ้องมันตาไม่กระพริบเลย ฮ่าๆ”

    นักศึกษาหนุ่มหัวเตียนที่ยืนอยู่ข้างๆภวภูมิกล่าวขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะร่า แขนเขาโอบพาดไหล่เพื่อนอย่างหยอกเย้า และถ้อยคำของอาชวที่กล่าวมานั้นเองที่เรียกเสียงหัวเราะในหมู่เพื่อนด้วยกันได้เป็นอย่างดี

    ภวภูมิเหล่ตาขวางใส่เพื่อนอารมณ์เริงร่า เขาจับแขนของอาชวที่พาดอยู่บนไหล่ของเขาบิดน้อยๆ ด้วยสีหน้าตายด้าน

    “โอ๊ย เบาๆหน่อยก็ได้โว้ย ล้อนิดล้อหน่อย มาทำเป็นโหด” อีกฝ่ายโอดครวญ

    “เขาพิศวาสข้ากะผีสิเอ็ง จ้องจับผิดข้าล่ะสิไม่ว่า บ้าชะมัดไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย จ้องจับผิดกันอยู่ได้ สงสัยนักว่า อาจารย์พิชัยแกไม่มีอะไรทำแล้วหรือไง ถึงคอยแต่จะมาเอาเรื่องข้าได้ทุกวัน”

    อาชวยังคงทำหน้าหยอกล้อเพื่อนผมยาวของเขา จนอีกฝ่ายต้องผลักศีรษะหนักๆเข้าให้ที แล้วภวภูมิก็รวบมือขึ้นกอดอก คิ้วมีรอยขมวดวุ่นยามพูดถึงเรื่องของตนเอง แสดงความไม่พึงพอใจกับสิ่งที่ตนต้องเผชิญอยู่ออกมาชัดเจน

    “อาจารย์เขาคงยังไม่หายระแวงแกล่ะมั้งภูมิ ก็เล่นไปชกศิษย์รักอาจารย์พิชัยแกเสียหน้าคว่ำหน้าหงายขนาดนั้น แต่พูดตรงๆนะแก คิดแล้วฉันก็ยังสะใจไม่หายเหมือนกันว่ะ หมั่นไส้ไอ้พวกต่อหน้าลับหลัง หน้าไหว้หลังหลอก ผักชีโรยหน้าพวกนี้มานานแล้วเหมือนกัน ถ้าตอนนั้นฉันอยู่กับแกนะ จะแถมให้:-)อีกหมัด”

    นักศึกษาสาวทรวดทรงนักกีฬากล่าวขึ้น รูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่ในระดับผู้หญิงด้วยกัน ผมซอยสั้นสีน้ำตาลทะมัดทะแมง แลดูเผินๆแล้วคล้ายทอมบอย หากความจริงหล่อนก็เป็นแค่เด็กสาวที่มีนิสัยห้าว ลุยไหนลุยกันก็เท่านั้นเอง

    “เฮ้ย พริม ชื่อแกก็ออกจะหวานเป็นกุลสตรี แต่วาจาแกนี่หมาไม่แดกเลยว่ะ หรือความจริงแกเป็นกระเทยแปลงเพศหรือเปล่าวะ”

    อาชวหันไปล้อเพื่อนสาวแสนห้าวของเขา พริมคลี่ยิ้มเย็นยะเยือก...

    แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 13:46:53

    จากคุณ : MeiDong - [ 28 เม.ย. 52 13:34:21 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com