รถเอสยูวีสีดำคันใหญ่ค่อยๆ คืบคลานไปตามถนนเล็กๆ สายนั้นอย่างช้าๆ ความแคบของถนนที่ไต่ไปตามไหล่เขายังผลให้ผู้โดยสารสองคนที่นั่งอยู่ทางตอนหลังแทบจะถอนหายใจออกมาทุกๆ ห้าวินาที
ผมไม่แปลกใจแล้วล่ะว่าทำไมคุณถึงไม่ค่อยกลับบ้าน ชายหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำทะเลเอ่ยกับหญิงสาวที่นั่งมาด้วยกันทางด้านหลัง
รุ่งกาลสบตาเจ้านายหนุ่มก่อนจะตวัดค้อนคมๆ ให้เขาแทนคำตอบเมื่อเห็นแววระริกขันในตาคู่นั้น เป็นเจ้านายกับลูกน้องกันมาเกือบสองปีทำไมเธอจะไม่รู้
...จะบอกว่าบ้านเราบ้านนอกล่ะสิ...
ฉันเตือนคุณแล้วว่าให้ลองไปดูทางแม่สลองก่อนคุณก็ไม่เชื่อ เธอตอบด้วยสีหน้าเคร่งๆ หางเสียงสะบัดงอนบอกถึงอารมณ์ที่เริ่มจะขุ่นมัว
เจมส์หัวเราะร่วนกับกริยาค้อนควักของเลขานุการสาว
ผมเห็นว่า...คุณจะได้ถือโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้านไปพร้อมๆ กันก็เท่านั้นเอง คราวนี้เขาตอบด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงานมากขึ้น
รุ่งกาลถอนหายใจก่อนจะตอบออกมาเบาๆ
ขอบคุณค่ะ...บอส
ทว่าชายหนุ่มกลับเบะปากเมื่อได้ยินสรรพนามแทนตัวเขาในท้ายประโยค
สอนไม่รู้จักจำนะคุณนี่
ก็คุณเป็นเจ้านาย เธอแก้ตัวแทบจะทันที
ผมไม่ชอบให้ใครเรียกผมแบบนั้น มันฟังดูวางอำนาจเกินไป บ่นพร้อมกับชักสีหน้าที่ดูยังไงก็คล้ายเด็กโดนขัดใจไม่มีผิด
บอส แกล้งเรียกด้วยอารมณ์หมั่นไส้ตะหงิดๆ
เจมส์ เขาแก้
บอส
เจมส์
บอสสสสสสสสสสสสสสส เธอลากเสียง
เจมส์!!! คุณยังอยากทำงานที่ออแกนิกส์อยู่หรือเปล่าเนี่ย เจมส์ย้ำเสียงหนัก ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้ามาดร้าย
โอเคค่ะ เจมส์ก็เจมส์ รุ่งกาลยอมแพ้ในที่สุด
เท่านี้ก็หมดเรื่อง ชายหนุ่มบอกพร้อมกับพยักหน้าอย่างพึงใจ
รุ่งกาลพินิจสีหน้าที่แลดูผ่อนคลายลงของเจ้านายหนุ่ม เธอทำงานกับเขาปีนี้เป็นปีที่สองแล้ว ต้องเรียกได้ว่าเป็นโชคดีของเธอที่หันไปพบประกาศรับสมัครงานแผ่นนั้นเข้าโดยบังเอิญ...
สภาพเศรษฐกิจตกต่ำในช่วงที่รุ่งกาลสำเร็จการศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัย ทำให้หญิงสาวต้องตระเวนหางานอยู่หลายเดือน ก่อนที่เธอจะมาพบกับป้ายประกาศรับสมัครงานที่ติดอยู่หน้าทาวน์เฮ้าส์หลังหนึ่งระหว่างที่เธอกำลังจะเดินกลับหอพัก
หญิงสาวมองมันด้วยความสนใจก่อนจะเข้าไปยืนอ่านใกล้ๆ
...ทำไมเธอไม่ทันสังเกตมาก่อนเลยว่า...บ้านหลังนี้เป็นสำนักงานบริษัท...ถามตัวเองในใจ
มาสมัครงานหรือเปล่าครับ เสียงห้าวที่ดังขึ้นทางด้านหลังทำเอาหญิงสาวถึงกับสะดุ้ง เธอยกมือขึ้นกุมหน้าอก พร้อมกับผ่อนลมหายใจช้าๆ
เปล่าค่ะ ฉันแค่เดินผ่านมา อีกอย่างถึงฉันสมัครไปเขาก็คงไม่รับหรอกค่ะ เพราะวุฒิการศึกษาไม่ตรงกับที่เขาระบุไว้ รุ่งกาลตอบหลังจากหายตกใจแล้ว เธอมองคู่สนทนาด้วยสีหน้าประหลาดใจที่ปิดไม่มิด
...ผู้ชายชาวต่างชาติตรงหน้าไม่เพียงแต่หน้าตาดีแต่ยังพูดไทยชัดแจ๋ว...
ไม่ลองดูก่อนล่ะครับ ไหนๆ ก็ผ่านมาแล้ว ไม่ได้ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร เขาแนะนำด้วยสีหน้ายิ้มๆ ชวนให้รู้สึกคล้อยตาม
ก็จริง
รุ่งกาลนิ่งคิดอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าเข้าไปด้านใน โดยมีชายหนุ่มก้าวเท้าตามไปติดๆ
หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าคนที่ยืนคุยกับเธอเมื่อสักครู่จะเป็นถึงเจ้าของบริษัท เธอถูกส่งไปพบผู้จัดการฝ่ายธุระการที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลไปโดยปริยาย
หญิงสาวกรอกใบสมัครที่ได้รับมาจากหนุ่มใหญ่วัยกลางคนที่กำลังง่วนอยู่กับแฟ้มเอกสารขนาดใหญ่ไปเงียบๆ เธอได้ยินเสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้นทว่าไม่ได้สนใจจะสังเกตท่าทีของคนที่รับสาย ได้ยินเพียงแต่เสียงนุ่มทุ้มที่รับคำว่า...ครับ...ครับ...ครับผม ติดกันไม่น้อยกว่าห้าครั้ง
ทันทีที่กรอกใบสมัครเสร็จ เธอก็หยิบเอกสารที่เตรียมไว้สำหรับการสมัครงานออกมาจัดเรียงแล้วแนบเข้าไปกับใบสมัคร คิดในใจว่า...เธอนี่บ้าจี้จริงๆ ที่เชื่อคำยุของคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกได้...
เสร็จแล้วค่ะ เธอเอ่ยกับคนที่นั่งตรงข้าม ทว่าแทนที่เขาจะรับเอกสารเธอไว้ หนุ่มใหญ่กลับบอกเธอให้ถือเอกสารไปยื่นอีกห้องหนึ่งที่อยู่บนชั้นสองของทาวน์เฮาส์แห่งนั้น ซึ่งเธอมารู้ทีหลังว่าเป็นห้องผู้จัดการใหญ่
หญิงสาวเหลียวซ้ายแลขวามองหาเลขาหน้าห้องอยู่ครู่ใหญ่แต่ไม่พบใคร จึงตัดสินใจทำใจดีสู้เสือยกมือเคาะประตูเบาๆ แล้วผลักเข้าไป
ขอประทานโทษค่ะ เธอเอ่ยก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นคนที่นั่งกอดอกอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง
เจมส์ยิ้มให้เธอพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
ดิฉันเอาเอกสารมาส่งค่ะ รุ่งกาลพยายามระงับความตื่นเต้นของตัวเองแล้วเอ่ยออกมา ในขณะที่เจมส์ยื่นมือออกไปตรงหน้าเพื่อรับเอกสาร
นั่งก่อนสิครับ
ขอบคุณค่ะ หญิงสาวนั่งมองเขาอ่านประวัติส่วนตัวของเธอด้วยความรู้สึกตุ้มๆ ต่อมๆ รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ามาก ทั้งๆ ที่เพิ่งจะผ่านไปแค่สองสามนาทีเท่านั้นเอง
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่อ่านผ่านตาไปอย่างลวกๆ
...วุฒิการศึกษาเธอไม่ตรงกับที่เขากำหนดไว้จริงๆ นั่นแหละ แต่ที่แน่ๆ คือเขาถูกชะตาเธอ...
คุณมีชื่อเล่นหรือเปล่ารุ่งกาล?
คุณคิดยังไงกับงานเลขานุการบ้าง?
คุณคิดว่าตัวเองพร้อมสำหรับงานนี้มากแค่ไหน?
เจมส์ป้อนคำถามเธออย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างพึงใจกับคำตอบส่วนใหญ่ของเธอก่อนจะถามคำถามสุดท้าย
พรุ่งนี้คุณคิดว่าจะมาทำงานได้ไหม?
รุ่งกาลอึ้งไปราวสองวินาทีก่อนจะตอบออกมาพร้อมรอยยิ้ม
ได้ค่ะ
งั้นก็...ยินดีต้อนรับสู่ออแกนิกส์ครับ
ออแกนิกส์เป็นบริษัทลูกที่แยกตัวออกมาจากบริษัทค้าส่งชาจีนรายใหญ่ของประเทศ ด้วยการหันมาเปิดตลาดสินค้าในกลุ่มของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และชาสมุนไพรที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี โดยอิงกับตลาดผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพด้วยการทำธรรมชาติบำบัด ซึ่งนั่นก็ทำให้ออแกนิกส์เติบโตจนกลายมาเป็นเจ้าของส่วนแบ่งใหญ่ทางการตลาดด้วยเวลาอันรวดเร็ว
สามเดือนสำหรับการเทรนงานและปรับตัวทำให้หญิงสาวเข้าใจความเอาจริงเอาจังที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ภาพลักษณ์ง่ายๆ สบายๆ ของเจ้านายหนุ่มมากขึ้น ในขณะที่เจมส์เองก็พอใจกับความมุ่งมั่นและความทุ่มเทเอาใจใส่งานของรุ่งกาล
สองหนุ่มสาวจึงกลายเป็นเจ้านาย-เลขาที่เข้ากันได้ดี จนถึงขนาดมีการคาดหวังกันในหมู่พนักงานว่า...ตำแหน่งเลขานุการของรุ่งกาลอาจเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นในไม่ช้า
หากจนแล้วจนรอด...เวลาก็ผ่านไปจนเกือบสองปี โดยที่เธอยังคงกินตำแหน่งเลขานุการอยู่ตามเดิม
เจมส์เป็นเจ้านายที่เอาใจใส่ลูกน้องเป็นอย่างดี เขาไม่ชอบให้พนักงานของออแกนิกส์แทนตัวเขาด้วยสรรพนามว่า...เจ้านาย...บอส...หรือสรรพนามอื่นใดที่อาจจะมีความหมายเช่นเดียวกับคำเหล่านั้น
ดังนั้นพนักงานส่วนมากจึงเรียกเขาว่า...คุณเจมส์ หรือคนที่สนิทสนมกันมากหน่อยก็อาจจะเรียกเขาว่า...เจมส์...เฉยๆ ในขณะที่รุ่งกาลมักจะใช้ทั้งสองแบบแล้วแต่ว่าสถานการณ์ในตอนนั้นเป็นอย่างไร และในบางครั้งเธอก็แกล้งขานสรรพนามที่เขาไม่ชอบด้วยอารมณ์หมั่นไส้...อย่างเช่นในวันนี้
แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 22:25:53
จากคุณ :
ธาร นาวา
- [
28 เม.ย. 52 22:21:15
]