แสงฉานเข้าบ้านก่อนพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาเพียงเล็กน้อย ชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกเผยให้เห็นเสื้อยืดสีขาวที่ใส่ไว้ชั้นใน ก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นจนถึงข้อศอกเพื่อคลายร้อน
อินสเป็คเตอร์*จากออแกนิกส์เป็นยังไงบ้างฤทัย ชายหนุ่มเอ่ยถามหนึ่งฤทัยที่เตรียมตัวพร้อมจะกลับบ้านหากยังรีรออยู่เพื่อรายงานถึงการทำงานตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ทั้งที่เลยเวลาเลิกงานมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว
ระบบการทำงานแบบครอบครัวนอกจากจะทำให้ผู้ร่วมงานรู้สึกสบายใจแล้วในบางครั้งเมื่องานยังไม่เสร็จทุกคนก็จะอยู่ช่วยงานด้วยน้ำใจ ต่างจากระบบทุนนิยมของชาติตะวันตกที่ต่างคนต่างทำงานในส่วนของตน แทบไร้ซึ่งปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมงานโดยสิ้นเชิง
คุณเจมส์พักห้องขาวค่ะ พี่ไลท์ต้องไม่เชื่อแน่ๆ เลยว่า...อินเสป็คเตอร์อีกคนเป็นใคร หญิงสาวตอบเจ้านายหนุ่มด้วยน้ำเสียงสดใส
ใครหรือ?
รุ้งค่ะ โลกกลมจริงๆ เลยนะคะ
รุ้งไหน? แสงฉานขมวดคิ้ว หรี่ตาลงเล็กน้อยขณะเอ่ยถาม
...นึกไม่ออกจริงๆ ว่าเขารู้จักใครที่ชื่อรุ้ง แถมยังเป็นคนที่หนึ่งฤทัยรู้จักคุ้นเคยอีกต่างหาก...
อ้าว! พี่ไลท์จำรุ้งไม่ได้เหรอคะ? เมื่อก่อนเล่นด้วยกันออกบ่อย จริงสิรายนั้นดูเหมือนจะสนิทกับไบร์ทมากกว่า
ชื่อน้องชายที่หลุดออกมาจากปากหญิงสาวเรียกเอาความทรงจำเก่าๆ ของชายหนุ่มให้ผุดพรายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
...รุ้ง...รุ่งกาล!?...
...นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้เจอเธอ?...
ชายหนุ่มจำบทสนทนากับหนึ่งฤทัยในช่วงถัดมาแทบไม่ได้ รู้ตัวอีกทีเขาก็กลับมาถึงห้องนอนแล้ว แสงฉานตรงไปยังโต๊ะเขียนหนังสือ ค้นลิ้นชักด้านล่างกุกกักอยู่พักใหญ่ก่อนจะพบสิ่งที่ต้องการ
เขากำลังจะดันลิ้นชักกลับ พลันสายตาเหลือบไปเห็นกล่องโลหะขะมุกขะมอมกล่องเล็กๆ ที่ซุกตัวอยู่ในมุมก้นลิ้นชัก ชายหนุ่มขมวดคิ้วก่อนจะหยิบมันขึ้นมาเปิดออกดู
...แหวนพลาสติกวงเล็กๆ สองวงนอนนิ่งอยู่ในนั้น...
ชายหนุ่มลุกจากที่พร้อมกล่องโลหะและกรอบรูปในมือ เขาทรุดตัวลงบนที่นอนทั้งที่ยังอยู่ในชุดทำงาน หยิบแหวนทั้งสองวงออกมาพินิจพิจารณา หัวแหวนพลาสติกสีฟ้าและสีขาวยังคงส่องประกายล้อแสงไฟ
...น่าแปลกที่กาลเวลาไม่ยักกะทำให้มันเสื่อมสภาพลงเลยแม้แต่น้อย เหมือนกับความทรงจำที่ยังคงกระจ่างชัดอยู่ในใจ...
ละครโทรทัศน์หลังข่าวซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้น จบลงด้วยการแต่งงานของพระเอกนางเอกตามแบบพิธีทางคริสตศาสนา
เจ้าบ่าว-เจ้าสาวในชุดสีขาวอันแสดงถึงความบริสุทธิ์สาบานถึงความรักอันเป็นนิรันดร์ต่อหน้าพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า ทำเอาเด็กผู้หญิงหลายคนฝันไฝ่อยากจะเป็นเจ้าสาวเฉกเช่นนางเอกสาวคนสวยบ้าง
เมื่อวัดประจำหมู่บ้านจัดงานเฉลิมฉลอง พ่อค้าแม่ค้าจากที่ต่างๆ พากันมาออกร้านขายของเป็นที่ครึกครื้น ในขณะที่เด็กๆ อย่างรุ่งกาลและตะวันฉายเองก็พลอยตื่นเต้นสนุกสนานไปด้วย สองคู่ซี้ชวนกันไปเที่ยวงานวันตั้งแต่วันเตรียมงานด้วยซ้ำ โดยมีเขาตามไปด้วยในฐานะพี่ชายที่ต้องคอยดูแลน้อง
แผงลอยขายเครื่องประดับจำพวกสร้อยคอ แหวน กำไลดูจะดึงดูดใจเด็กผู้หญิงอย่างรุ่งกาลได้ไม่ยากนัก
พี่ไลท์รุ้งจะเอาแหวน รุ้งจะแต่งงานเหมือนพี่ดาวในทีวี เธอบอกกับเขาก่อนจะเร่เข้าไปเลือกดูแหวนพลาสติกหัวสีต่างๆ ด้วยความสนใจ โดยมีตะวันฉายเข้าไปเลือกดูเป็นเพื่อน
แล้วรุ้งจะให้ใครเป็นเจ้าบ่าวล่ะ? คนเป็นเพื่อนเอ่ยถาม
รุ่งกาลทำท่าตรึกตรองอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะบอกออกมา
ให้พี่ไลท์เป็นเจ้าบ่าว ให้ไบร์ทเป็นหลวงพ่อ
ให้เค้าเป็นเจ้าบ่าวไม่ได้เหรอ เค้าอยากเป็นพระเอก เด็กชายตะวันฉายต่อรอง
ก็ไบร์ทตัวเล็กนี่นา สู้กับผู้ร้ายไม่ชนะหรอก ต้องตัวโตๆ แบบพี่ไลท์ เด็กหญิงให้เหตุผล
เอางั้นก็ได้ คนเป็นเพื่อนยอมตามอย่างว่าง่าย เพราะฉากพระเอกถูกผู้ร้ายรุมทำร้ายก่อนตำรวจจะมานั้นดูไม่ค่อยประทับใจเขาเท่าไหร่
ด้วยเหตุนี้...แสงฉานจึงต้องจ่ายเงินค่าแหวน แล้วกลับมาเล่นละครตามที่รุ่งกาลวาดฝันที่บ้าน
ผ้าปูโต๊ะในห้องรับแขกถูกเด็กหญิงรื้อออกมาจัดการทำเป็นเสื้อคลุมให้บาทหลวงจำเป็น ในขณะที่เจ้าตัวเองก็ใช้ผ้าปูที่นอนคลุมตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าต่างชุดเจ้าสาว
แล้วพี่ไลท์ไม่ต้องแต่งตัวเหรอ ตะวันฉายเอ่ยถามคนเจ้าความคิดที่ทำท่าคิดหนักเมื่อได้ยินคำถามนั้น
จริงสิ เจ้าบ่าวก็ต้องใส่สูทผูกเน็คไทเท่ๆ
ว่าแล้วเจ้าตัวก็ไปค้นเสื้อกั๊กของผู้เป็นตามาให้เขาใส่ ติ๊ต่างว่าเป็นเสื้อสูทตัวเท่ ก่อนที่พิธีแต่งงานในจินตนาการจะเริ่มขึ้น
คุณรวีที่เข้ามาพบเด็กๆ สามคนกำลังเล่นละครโรงเล็กโดยบังเอิญรีบคว้ากล้องถ่ายรูปมาเก็บภาพหลักฐานเอาไว้ได้ทันเวลาพอดี
...ภาพนั้นคงอยู่ในอัลบั้มเก่าๆ ที่ถูกเก็บรวมกันไว้ในห้องนอนน้องชาย ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับในอีกหนึ่งปีถัดมา...
ในตอนนั้น...การแต่งงานแบบเด็กๆ กินเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็สิ้นสุดลง แล้วตะวันฉายและรุ่งกาลหาเรื่องอื่นๆ มาเล่นแทน เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทั้งตัวเขาเองและรุ่งกาลถอดแหวนออกจากนิ้วตอนไหน แต่คงเป็นตอนที่เล่นด้วยกันอยู่ในบ้านหลังนี้แหละ เลยมีคนเก็บแหวนทั้งสองวงใส่กล่องไว้ให้เขาได้นึกถึง
ชายหนุ่มเก็บแหวนลงกล่องตามเดิม ก่อนจะวางกล่องใบนั้นลงบนตั่งเล็กข้างหัวนอน รอยยิ้มจางๆ แต้มอยู่บนใบหน้าคมคายขณะที่เขาพิจารณากรอบรูปในมือเป็นอันดับถัดมา
ในกรอบไม้สีขาวเรียบๆ สำหรับตั้งโต๊ะนั้น คือภาพเด็กสาวรวบผมเป็นหางม้าผูกโบว์สีขาวอันโตแลดูสดใสสมวัย เธอยืนเคียงข้างเขาที่อยู่ในชุดครุยวิทยฐานะก่อนจะเข้าสู่พิธีพระราชทานปริญญาบัตร รุ่งกาลหอบช่อดอกไม้อันโตไว้ในอ้อมแขนพลางส่งยิ้มร่าเริงให้กล้อง
เขาจำได้ว่ากว่าจะได้ภาพนี้ออกมา...ตากล้องต้องบอกให้ทั้งเขาและเธอขยับเข้าไปยืนชิดกันอยู่หลายครั้ง เมื่อต่างฝ่ายต่างทำท่าลังเลไม่แน่ใจว่าควรจะยืนใกล้กันในระดับไหนจึงจะ พอดี
...และนั่นคือครั้งสุดท้ายที่เขาพบเธอ...
ถึงตอนนี้...ภาพเด็กสาวในวันวานก็ยังคงกระจ่างชัดอยู่ในใจ เขานึกไม่ออกจริงๆ ว่าเด็กสาวแสนซนอย่างรุ่งกาลจะกลายมาเป็นอินสเป็คเตอร์บริษัทจัดจำหน่ายชาสมุนไพรรายใหญ่ได้อย่างไร
แต่ที่แน่ๆ คือ...ความคิดถึงที่ซุกตัวอยู่ในส่วนลึกของหัวใจดูเหมือนจะขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
...คิดถึงเธอเหลือเกิน...แสงฉานบอกตัวเองในใจ
* Inspector
จากคุณ :
ธาร นาวา
- [
วันแรงงาน 14:06:40
]