Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ..."รุ้งในเงาตะวัน" ตอนจบ : ในแสงตะวันมีสายรุ้ง...

    รุ่งกาลมาถึงไร่แสงตะวันตั้งแต่เช้าตรู่ หญิงสาวยกมือไหว้คุณรวีที่ออกมารอใส่บาตรหน้าประตูรั้วก่อนจะเดินเข้าไปโอบร่างท้วมของผู้สูงวัยกว่าด้วยกริยาประจบประแจงไม่ต่างจากยามเป็นเด็ก

    “คิดถึงแม่แสงจัง”

    “คิดถึงแล้วทำไมไม่กลับบ้านตั้งสองสามปี” คุณรวีบ่นขณะกวาดสายตาสำรวจ ‘ลูกสาวคนเล็ก’ โดยละเอียด

    “โธ่! ก็รุ้งต้องทำงานนี่คะ ที่ได้กลับมานี่ก็มาทำงานนะคะ”

    “ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยยายเด็กบ้างาน รู้ไหมพ่อเจมส์เจ้านายเราเขาเล่าให้แม่ฟังหมดแล้วว่าเราทำวีรกรรมอะไรเอาไว้บ้างในที่ทำงาน”

    รุ่งกาลหน้าง้ำเมื่อได้ยินประโยคบอกเล่านั้น

    ...เจมส์นะ นินทาเราได้...ชิ...

    “แน่ะ! ดูสิยังมาทำหน้างอใส่แม่อีก มาช่วยแม่ใส่บาตรเลยพระมานู่นแล้ว”

    คุณรวีดุไม่จริงจังนัก ในขณะที่รุ่งกาลกุลีกุจอช่วยหยิบนั่นส่งนี่ให้ผู้สูงวัยกว่าด้วยความเต็มใจ

    หญิงสาวรอจนคุณรวีกรวดน้ำเสร็จจึงค่อยถือถาดเปล่าเดินตามผู้สูงวัยกว่าเข้าบ้าน

    “กินอะไรมาหรือยังรุ้ง วันนี้รู้สึกในครัวจะทำข้าวต้มปลาล่ะมั้ง อยู่กินข้าวเป็นเพื่อนพ่อกับแม่หน่อย พี่ไลท์ออกไปดูไร่ตั้งแต่มืดกว่าจะกลับคงสายๆ นู่นแหละ แล้วนี่เจอพี่เขาหรือยัง?”

    รุ่งกาลส่ายศีรษะทำหน้ายุ่ง หากดูเหมือนว่า...คนที่ถูกเอ่ยถึงดูจะอายุยืนกว่าที่คิด เมื่อชายหนุ่มโผล่เข้ามาในห้องรับแขกพร้อมๆ กับคำถาม

    “นินทาอะไรผมอยู่หรือครับแม่”

    “เปล่าสักหน่อย แม่กำลังชวนน้องกินข้าว” ผู้เป็นมารดาตอบ

    แสงฉานพินิจมองหญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายทางกับกางเกงสแล็กสีดำสนิท ผมยาวถึงกลางหลังถูกเจ้าตัวมัดรวบเป็นหางม้า เผยให้เห็นใบหน้ารูปไข่และเครื่องหน้าอันประกอบด้วยดวงตายาวรีสีน้ำตาลล้อมกรอบไว้ด้วยขนตาดกหนา ปลายจมูกโด่งเชิดตั้งอยู่เหรือริมฝีปากรูปหัวใจ

    หญิงสาวแต่งหน้าอ่อนๆ ยิ่งทำให้ใบหน้าคล้ายตุ๊กตายิ่งดูชวนมอง

    รุ่งกาลยกมือไหว้เขาตามมารยาท

    “สวัสดีค่ะพี่ไลท์” เธอทักทายเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ฟังดูเป็นทางการจนเขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างกระทันหัน

    “สวัสดีรุ้ง สบายดีไหม?” เขาเอ่ยถามพร้อมกับยื่นมือออกไปแย่งถาดในมือเธอมาถือไว้เสียเอง

    “สบายดีค่ะ พี่ไลท์ล่ะคะ?”

    “สบายดี ขอบใจ”

    “แม่ขอไปล้างมือแป๊ปนึง ไลท์กับรุ้งไปที่ห้องกินข้าวก่อนเลยนะลูก” คุณรวีเอ่ยกับสองหนุ่มสาวก่อนจะเดินจากไป





    แสงฉานมองคนตัวเล็กบางที่เดินอยู่ข้างกาย เค้าหน้าหญิงสาวไม่ค่อยเปลี่ยนไปจากในวัยเด็กสักเท่าไหร่ ทว่าชายหนุ่มก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง

    ...จากเด็กหญิงซนๆ ใครจะคิดว่ารุ่งกาลจะกลายเป็นผู้หญิงสวยหวาน น่าทนุถนอมแบบนี้...

    “ไปอยู่กรุงเทพเป็นยังไงบ้าง?” เขาเอ่ยถามเป็นการเปิดประเด็น ขณะเดินไปยังห้องรับประทานอาหารด้วยกัน

    “ก็...สนุกดีค่ะ” รุ่งกาลตอบสั้นๆ ทั้งที่ความตั้งใจแต่แรกที่ทำให้เธอมาถึงไร่แสงตะวันแต่เช้าก็คือ...เธออยากพบหน้าแสงฉานเร็วๆ แต่เมื่อพบกันแล้ว...เธอกลับไม่รู้ว่าจะพูดคุยอะไรเสียอีก...

    หญิงสาวลอบมองคนข้างกาย

    ...ร่างสูงโปร่งของแสงฉานดูจะกำยำขึ้นกว่าแต่ก่อน ใบหน้ารูปไข่นั้นดูคมคายด้วยคิ้วหนาเข้มพาดเฉียงอยู่เหนือดวงตาสีดำแกมเทา ขนตาชายหนุ่มไม่ดกนักหากยาวงอนเป็นแพสวย ระหว่างดวงตาทั้งสองข้างคือจมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหนาได้รูป

    สิ่งเดียวที่ทำให้เขาแลดูผิดไปจาก ‘พี่ไลท์’ ในความทรงจำก็คือท่าทีเคร่งขรึมจนแทบจะดูเป็นดุสำหรับคนที่ห่างเหินกันไปพักใหญ่

    ...บางทีอาจเป็นเพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกระมัง...หญิงสาวบอกตัวเอง





    เจมส์มาร่วมโต๊ะอาหารเป็นคนสุดท้าย

    “อรุณสวัสดิ์ครับ” เขาทักทายทุกคนพร้อมกันในคราวเดียว ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ รุ่งกาลที่ว่างอยู่

    “ผมกำลังคิดอยู่เชียวว่าคุณจะทิ้งผมให้ทำงานคนเดียวหรือเปล่า” เขาเอ่ยกับเธอยิ้มๆ

    “พูดแบบนี้แสดงว่าอยากฉายเดี่ยวใช่ไหมคะ? ดีเหมือนกันรุ้งกำลังอยากใช้สิทธิ์ลาพักร้อนพอดี” หญิงสาวตอบหน้าตาย ทำเอาคนคิดจะเล่นมุกต้องรีบกลับลำโดยด่วน

    “ผมรู้ว่าคุณไม่ใจร้ายกับผมแบบนั้นหรอก”

    “ก็ไม่แน่เหมือนกันนะคะคุณเจมส์” ตอบเสียงเย็นหากดวงตาเป็นประกายอย่างพึงใจที่แกล้งคนตรงหน้าได้สำเร็จ ก่อนที่เธอจะหันกลับมาตักข้าวต้มในชามตรงหน้าเข้าปากเป็นการตัดบท

    แสงฉานมองกริยาต่อปากต่อคำของทั้งคู่ ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจที่เขาเองก็บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารเช้าก่อนจะลุกจากที่

    “ผมขอตัวไปจัดการงานในออฟฟิตก่อน อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่หน้าตึกนะครับ” ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว โดยมีสายตาของคุณพงษ์และคุณรวีมองตามไปด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่ผู้สูงวัยทั้งสองคนจะหันมาสบตากันเอง

    ...ไม่รู้นายไลท์เป็นอะไรของเขา...





    สามสิบนาทีไม่ขาดไม่เกินแสงฉานก็มาพบกับสองหนุ่มสาวที่หน้าตึกตามที่นัดหมาย โดยมีชายวัยกลางคนซึ่งได้รับการแนะนำในภายหลังว่าเป็นหัวหน้าคนงานประจำไร่ตามหลังมาด้วย

    เขาพาเจมส์และรุ่งกาลเดินอ้อมตึกไปทางด้านหลัง ก่อนจะพาเดินขึ้นไปตามทางเดินแบบขั้นบันไดเล็กๆ ซึ่งทอดสูงขึ้นไปบนเนินเขาด้านทิศตะวันออกพร้อมกับอธิบาย

    “ตรงส่วนนี้เป็นเขตไร่เมี่ยงเก่าที่ทำกันมาตั้งแต่ชาวบ้านรุ่นแรกๆ ย้ายมาตั้งรกรากที่นี่ อันที่จริงผลผลิตตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้วเพราะปลูกกันมานาน แต่ผมอยากอนุรักษ์ไว้”

    ถัดจากเนินเขาที่เป็นไร่ชาเมี่ยง ชายหนุ่มก็พาสองหนุ่มสาวอ้อมเนินไปยังส่วนของไร่กาแฟที่ชายหนุ่มบอกว่า...

    “ผมปลูกไม่เยอะ เพราะคุณภาพยังสู้กาแฟจากแม่สรวยไม่ได้ แต่อย่างน้อยผมก็อยากให้คนที่มาเที่ยวได้ชินกาแฟแท้ๆ ที่ปลูกในพื้นที่จริงๆ”

    จากไร่กาแฟ...แสงฉานเดินไปพลางสั่งงานไปด้วยตลอดทางจนไปถึงไร่ชาสมุนไพร พื้นที่ราบเล็กๆ บนไหล่เขาถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ตามชนิดของสมุนไพร ตั้งแต่พืชสวนครัว เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ และใบเตย ไปจนไม้ยืนต้นอย่างขี้เหล็ก และมะรุม ก่อนจะจบลงที่สวนหม่อนซึ่งกินอาณาเขตกว้างขวางไม่ต่ำกว่าสิบไร่

    “ผมเน้นชาใบหม่อนมากกว่าชาชนิดอื่นๆ เพราะมีร้านค้าในเมืองรับซื้อเป็นลูกค้าประจำอยู่หลายเจ้า ส่วนลูกหม่อนที่ออกมาผมให้คนงานเก็บเข้าส่วนกลาง ให้กลุ่มแม่บ้านแปรรูปเป็นแยมขายเป็นของที่ระลึกของหมู่บ้าน”แสงฉานอธิบาย

    ชายหนุ่มเก็บลูกหม่อนสุกจัดจนเป็นสีม่วงเข้มราวสี่ห้าพวงส่งให้ลูกทัวร์กิติมศักดิ์

    “เด็ดชิมจากต้นได้นะครับ ผมรับรองได้ว่าอร่อยและไร้สารพิษจริงๆ”

    เจมส์ส่งผลไม้ที่ได้มาเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ พยักหน้าอย่างพึงใจก่อนจะเอ่ยชม

    “อร่อยจริงๆ ครับ”

    “เหนื่อยกันหรือเปล่าครับ ผมให้ฤทัยจัดอาหารกลางวันรอไว้ที่น้ำตก เดินไปอีกนิดก็ถึงแล้ว” แม้ปากจะเอ่ยถามเป็นกลางๆ หากสายตาอ่อนโยนทอดมองไปยังคนที่หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อเป็นรอบที่สิบเห็นจะได้

    ...เครื่องสำอางอ่อนๆ ที่แต่งมาแต่เช้าหลุดหายไปหมดแล้ว เผยให้เห็นผิวแก้มเนียนละเอียดที่ระเรื่อขึ้นเพราะความร้อน...

    รุ่งกาลดูจะไม่ชินกับชีวิตกลางแจ้งสักเท่าใดนัก หากถึงกระนั้นหญิงสาวก็ไม่ปริปากบ่นแม้สักคำ

    เจมส์มองตามสายตาเจ้าของไร่หนุ่ม ก่อนจะเอ่ยออกมา “ขอพักขาสักครู่เถอะครับ กลับไปเห็นทีจะต้องหัดออกกำลังกายเสียบ้าง เดินได้ไม่เท่าไหร่ก็ชักจะหมดแรงเสียแล้ว”

    เป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบสี่ชั่วโมงที่แสงฉานเห็นว่า...ชายหนุ่มตรงหน้าก็

    ...ไม่เลวนัก...

    จากคุณ : ธาร นาวา - [ 4 พ.ค. 52 14:11:51 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com