ความคิดเห็นที่ 1 เนื้อเรื่อง ภาพยนตร์เล่าเรื่องของเอริก้า เบน (แสดงโดย จูดี้ ฟอสเตอร์) เธอเป็นหญิงสาวนักจัดรายการวิทยุ Street walk ซึ่งเป็นรายการ วิทยุแบบเล่าเรื่องราว บทความ หรือนิยายออกอากาศให้คนฟัง บางทีก็อัด เสียงตามที่ต่าง ๆ ในเมืองมาเปิดในรายการ   เรียกว่าเป็นรายการออกสวย งามหน่อย  เธอกำลังมีชีวิตที่มีความสุขอย่างมาก เธออยู่ในช่วงกำลังเลือก ชุดแต่งงานสำหรับงานแต่งของเธอกับแฟนหนุ่มในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า แต่แล้ววันหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อเธอกับแฟนหนุ่มไปเล่นด้วยกันใน สวนสาธารณะตอนกลางคืน แล้วต้องเจอกับแก๊งวัยรุ่นวิปริต ที่ชอบถ่ายวิดีโอ ตอนซ้อมคนอื่นเก็บไว้ดูเล่น เธอกับแฟนหนุ่มถูกรุมซ้อมอย่างทารุณโหดร้าย ซ้ำแล้วซ้ำอีกท่ามกลางความสะใจของเหล่าวัยรุ่นที่พยายามถ่ายวีดิโอให้ได้ มุมสวย ๆ  ฉากเด็ด ๆ  เธอถูกทำร้ายจนหมดสติไป      เอริก้านั้นสลบไปนานถึงสามอาทิตย์  ช่วงแรกเธอบาดเจ็บหนักจนต้อง ใส่ท่อช่วยหายใจนอนในห้องไอซียูหลายสัปดาห์   และเมื่อเธอฟื้นตื่นขึ้นมา ก็พบกับความจริงอันโหดร้าย เมื่อรู้ว่าแฟนหนุ่มของเธอถูกทำร้ายอย่างหนัก จนเสียชีวิตไปตั้งแต่มาถึงโรงพยาบาล และงานศพได้จัดไปแล้วในช่วงที่เธอ ยังไม่ฟื้น  ทำให้เธอไม่มีโอกาสแม้แต่จะร่วมงานศพของเขา   ส่วนตัวของ เธอแม้เวลาจะผ่านไปแล้วหลายสัปดาห์ ก็ยังคงหลงเหลือบาดแผลความเจ็บ ปวดอยู่ทั่วทั้งร่างกาย และใบหน้าที่ปูดบวม ที่ดูเหมือนจะยิ่งตอกย้ำความเจ็บ ปวดทางจิตใจของเธอให้มากขึ้น     หลังจากได้ออกจากโรงพยาบาล  เธอพบว่าชีวิตของเธอได้เปลี่ยนไป จากชีวิตที่มีความสุข ชีวิตที่งดงาม ผู้หญิงที่มีรอยยิ้ม และรู้สึกว่าเมืองที่เธอ อยู่ช่างน่าอยู่สวยงาม เธอกลับต้องอยู่กับความเจ็บปวดจากการสูญเสียคน รัก     เธอมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัว  หลาย ๆ ครั้งที่เธอมองเห็นภาพตอนที่ เธอถูกทำร้ายโผล่แว๊บขึ้นมาซ้ำ ๆ  เหมือนจะวนเวียนหลอกหลอนเธอ (ภาพอดีตตอนที่ถูกทำร้าย ที่แว๊บ ๆ เข้ามา คล้ายกับภาพติดตาแบบนี้ทาง แพทย์เรียกว่า flash back) ซึ่งนี่เป็นอาการหนึ่งของ PTSD     นอกจากนั้นความกลัวและความเศร้าทำให้เธอมีอาการนอนไม่หลับ   หลับยาก เธอหวาดกลัวแม้กระทั่งการเดินออกจากอพาร์ตเมนต์ที่เธออยู่ เพราะว่าทางที่จะออกจากตึกนั้นมืด คล้ายกับบริเวณคืนที่เธอถูกทำร้าย (สิ่ง นี้เรียกว่าอาการ reexperience คือเมื่อเจอสิ่งของหรือสถานที่ ที่คล้าย ๆ กับ ในเหตุการณ์รุนแรงที่เจอ จะกระตุ้นให้เกิดความหวาดกลัวขึ้นมา ทำให้ผู้ป่วย จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์หรือสิ่งที่ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ร้าย ๆ นั้น) จนทำให้ วันแรก ๆ นั้น เธอไม่กล้าแม้แต่จะเดินออกจากบ้านตัวเองตอนกลางคืน     เอริก้ามีอาการตกใจง่าย  ยามที่เธอเดินตามถนน เธอจะหันซ้ายแลขวา ตลอดเวลา  หากเพียงแค่มีผู้ชายเดินผ่านมาใกล้  ๆ  เธอก็จะตกใจกลัวจนตัว สั่น หายใจหอบเหนื่อย  จากเมืองที่เธอเคยชอบกลายเป็นเมืองที่ทำให้เธอ รู้สึกหวาดกลัวไม่ปลอดภัยตลอดเวลา     อาการเหล่านี้ทั้งหมดที่เธอเป็นคืออาการที่เรียกว่า ภาวะผิดปกติทางจิต ใจ จากเหตุการณ์รุนแรง หรือ PTSD (ซึ่งจะอธิบายเพิ่มเติมในท้ายบทนะ ครับ)     เธอพยายามติดต่อกับตำรวจเพื่อสืบถามความคืบหน้าของคดี แต่พบว่า คดียังไม่ไปถึงไหนเลย  ที่จริงแล้วเอริก้าเองไม่ได้กลายเป็นนักฆ่าใจโหด เลยตั้งแต่ตอนแรก  แต่ด้วยความที่เธอรู้สึกหวาดกลัว ไม่มั่นใจในความ ปลอดภัยในชีวิต (ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้พบได้บ่อย ๆ ในผู้ป่วย PTSD ที่จะ รู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย โลกนี้ไม่ปลอดภัย) ทำให้เธอช่วยเหลือตัวเองด้วย การไปหาซื้อปืนมาพกติดตัวไว้เพื่อป้องกันตัวให้อุ่นใจเท่านั้น     แต่วันหนึ่งเมื่อเธอเข้าไปซื้อของในร้านขายของชำแห่งหนึ่ง เกิดมีโจรบุก เข้ามาปล้นและยิงเจ้าของร้านตาย  จากนั้นโจรยังพยายามจะหาตัวเธอที่ เหลืออยู่ในร้านอีกหนึ่งคนเพื่อจะฆ่าปิดปาก (ทั้งร้านมีแค่เธอกับเจ้าของร้าน เท่านั้น) ทำให้เอริก้าตัดสินใจที่จะยิงคนร้ายก่อน เพื่อป้องกันตัว  สิ่งที่แสดง ให้เห็นว่าเธอไม่ได้ใจโหดมาแต่แรกก็คือในตอนที่ยิงคนร้ายเราจะเห็นว่าเธอ ยิงด้วยมือที่สั่นเทา ไม่มั่นใจ หลังยิงเธอมีอาการตกใจ กลัว จนต้องรีบหนี กลับบ้าน     เราจะเห็นเอริก้าค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ  ต่อมาวันหนึ่งเธอนั่ง รถไฟใต้ดิน และพบกับวัยรุ่นสองคนที่ขึ้นมารีดไถเงิน หรือสิ่งของจากคน อื่น  เมื่อวันรุ่นทั้งสองเดินมาเอามีดขู่เพื่อจะเอาเครื่องเล่น MP3จากเธอ เธอ ยิงวัยรุ่นทั้งสองคนตายคาที่ แต่คราวนี้ด้วยความแม่นยำและมือที่ไม่สั่นอีก ต่อไป เธอไม่ตกใจกลัวเหมือนครั้งแรก เธอชินกับมันมากขึ้น     สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ความหวาดกลัวของเธอลดลง จากการที่เคยถูกผู้ชาย ทำร้าย เป็นผู้ถูกกระทำ ตอนนี้เธอกลับเป็นฝ่ายทำร้ายพวกเขา ทำให้เธอ รู้สึกว่า เธอไม่ได้เป็นเหยื่ออีกต่อไป เธอเป็นฝ่ายควบคุม เป็นผู้ตัดสิน  ใน ทางจิตวิทยาเองนั้น ความกลัวสามารถดีขึ้นได้ด้วยการเผชิญกับสิ่งที่กลัว (เรียกว่า exposure therapy) เช่น กลัวแมว ก็ให้ใกล้ชิดกับแมว เอาแมวมา เล่นมาอยู่ใกล้ ๆ  กลัวความสูงก็ให้เจอความสูงบ่อย ๆ จนชิน จนรู้สึกว่าควบ คุมได้ความกลัวก็จะหายไป ในกรณีของเอริก้าก็คงเป็นเช่นนั้น     เอริก้าเริ่มดำรงตนเป็นศาลเตี้ย เธอฆ่าผู้ชายหื่นกามที่ทำการุณกรรมต่อ เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอกำจัดหัวหน้ามาเฟียที่ก่อเหตุชั่วช้านับไม่ถ้วน ที่ตำรวจ ไม่สามารถลงโทษได้ตามกฎหมายเนื่องจาก ไม่มีหลักฐาน  พยานที่หักหลัง แม้แต่ภรรยาเขาเองก็ถูกฆ่าปิดปากด้วยวิธีทารุณจนหมด       การที่เอริก้าทำตัวเป็นศาลเตี้ยนั้น ภายในใจลึก ๆ เธอเองกลับไม่ได้รู้สึก ดีอะไร ... เธอไม่ได้ดูมีความสุข  เธอกลับรู้สึกว่า “เธอกลายเป็นอีกคน เหมือนมีคนแปลกหน้าอยู่ในตัว ที่ค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาในตัวเธอมากขึ้น เรื่อย ๆ  จนรู้สึกว่าตัวเองไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิม “ จากคุณ : ผมอยากที่จะเชื่อ - [ วันฉัตรมงคล 14:17:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นักสืบเมอร์เซอร์ เริ่มเข้ามาสืบคดีการตายหลาย ๆ ครั้งและพบว่าทุกครั้ง เกิดจากปืนกระบอกเดียวกัน เมอร์เซอร์เป็นตำรวจที่ดี เขายึดมั่นในกฎหมาย มีอุดมการณ์ แม้ความต้องการจะกำจัดคนชั่วของเขานั้นหลาย ๆ ครั้งไม่ สามารถทำได้เพราะไม่สามารถเล่นงานด้วยกฎหมายได้ เขาเข้ามาตามติด คดี “ฆาตรศาลเตี้ย” นี้ และเข้ามาเจอเอริก้าโดยบังเอิญ     และในที่สุดเมื่อเอริก้าได้ร่องรอยของเหล่าคนร้ายที่ทำร้ายเธอ เธอ ปฏิเสธไม่ยอมให้กฎหมายจัดการ แต่เธอเลือกที่จะจัดการกับพวกมันด้วยตัว ของเธอเอง โดยในที่สุดเมอร์เซอร์นั้นกลับกลายเป็นคนที่เข้ามาช่วยเธอให้ หลุดพ้นความผิด ด้วยการจัดฉากให้เหมือนกับว่าเขาเป็นคนยิงเพื่อป้องกันตัว เอง และปล่อยให้เอริก้าหนีรอดไปได้ทั้ง ๆ ที่ขัดกับอุดมการณ์ที่เขาเคยมีมา ตลอดก็ตาม     ภาพยนตร์จบด้วยฉากที่เอริก้าเดินผ่านสวนสาธารณะเดิมที่เธอถูกทำ ร้าย แต่คราวนี้เธอไม่ได้หวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว  และเธอได้พูดว่า “เธอไม่ โอกาสกลับไปเป็นคนเดิมอีกแล้ว คนแปลกหน้าคนนี้ได้กลายเป็นตัวเธอไป แล้ว”   หากถามว่าอะไรที่ทำให้เธอเปลี่ยนแปลงไป ... สิ่งที่ทำให้เธอเปลี่ยน ไปจนกลายเป็นคนแปลกหน้านั้นไม่ใช่ใครที่ไหนที่จริงก็คือ ตัวเธอเอง แต่ เป็นตัวเธอที่เต็มไปด้วยความเศร้า  ความหวาดกลัว  ตามมาด้วยความโกรธ แค้น และคงสิ้นสุดด้วยความรู้สึกผิดบาปที่ได้ฆ่าผลาญชีวิตคนไปหลายคน จนทำให้คิดว่าเธอคงไม่สามารถกลับไปเป็นเอริก้าคนเดิมที่มีจิตใจบริสุทธ์งด งามอีกต่อไป แต่ตรงกันข้ามเธออาจจะต้องติดอยู่กับสภาพจิตใจที่ไม่มีวัน สงบสุขไปตลอดชีวิต (แน่นอนว่าคนทั่วไป ที่เดิมมีศีลธรรมอันดี ไม่ใช่พวก ต่อต้านสังคม antisocial การฆ่าคน แม้มีเหตุผลยังไง ก็ย่อมรู้สึกผิดติดค้าง ในใจอยู่ดี) จากคุณ : ผมอยากที่จะเชื่อ - [ วันฉัตรมงคล 14:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การแก้แค้นช่วยได้จริงหรือ ?     หลาย ๆ ครั้งที่หากมีใครมาทำให้เราโกรธ สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ นึกไว้ในใจ คือ อยากแก้แค้น เอาคืน เช่น หากมีใครขับรถปาดหน้าเรา เราก็อาจจะอยาก ขับไปปาดหน้าคืน เป็นต้น ตามสไตล์คำพูดหนังจีน “สิบปีแก้แค้นยังไม่ สาย” แต่การแก้แค้นนั้นช่วย(จิตใจ)เราได้จริง ๆ หรือ     หากถามว่า แก้แค้นไปเพื่ออะไร ? .... เราคาดหวังอะไรจากการแก้แค้น นั้น ... จริง ๆ แล้วคำตอบของหลาย ๆ คนเป็นคำตอบง่าย ๆ คือ “เพื่อให้ตัว เรารู้สึกดีขึ้น” หรือคือ “อยากให้ใจเราดีขึ้น” นั่นเอง ... สิ่งนี้ย้อนกลับมาว่า แล้วจริง ๆ การแก้แค้นนั้นทำให้ใจเราดีขึ้นจริงรึเปล่า ? เพราะ “การแก้แค้น” กับ “จิตใจดีขึ้น” มันเป็นอะไรที่ตรงข้ามกัน เช่น “การฆ่าคน (แก้แค้น)” กับ “จิตใจที่ดีขึ้น” นั้นยากที่จะไปด้วยกันได้      หากมีใครมาพลักเราตกคลองสกปรก การที่เราลุกขึ้นมาจับคน ๆ นั้นมา พลักตกคลองบ้าง คงไม่ช่วยให้ตัวเราสะอาดขึ้นหรือดีขึ้น แต่ทางที่จะช่วยให้ เราดีขึ้นน่าจะเป็นการกลับบ้านไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้า ใหม่มากกว่า เช่นกัน การแก้แค้นนั้นคงไม่ได้ทำให้จิตใจที่บอบช้ำของเราดี ขึ้น แต่บางครั้งอาจจะทำให้จิตใจเราแย่ลงไปกว่าเดิม เหมือนเช่นที่เอริก้า เป็น แม้เธอจะได้ความ”สะใจ”กลับมาจากการฆ่าคนร้าย แต่สิ่งที่เธอต้องอยู่ ด้วยไปตลอดคือความรู้สึกผิด กับจิตใจที่ยากจะกลับไปเป็นคนเดิมได้อีกจน ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งเหล่านี้คุ้มกันหรือไม่      หากมีใครมาทำให้เราโกรธหรือเสียใจ สิ่งที่สามารถช่วยให้จิตใจเราดี ขึ้น น่าจะเป็นการ ยอมรับในอารมณ์ของตัวเอง ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ปล่อย วาง และให้อภัย ยกตัวอย่างในกรณีของเอริก้า นั่นคือ  เธอต้องยอมรับในสิ่ง ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าตัวเธอเองกำลังโกรธ กำลังเสียใจ ยอมรับว่าแฟนเธอได้ จากไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นได้เกิดไปแล้วและผ่านไปแล้ว ตอนนี้เธอรอดมาได้ และต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป การยอมรับได้จะช่วยให้เราปล่อยวางได้มากขึ้น ปล่อยวาง ความคาดหวังที่จะล้างแค้น การยึดติด และสุดท้ายให้เรียนรู้ที่จะ ให้อภัย เพื่อที่เราจะสามารถละความโกรธได้      หลายคนบอกว่า จะให้อภัยได้ยังไงในเมื่อเขาทำผิดกับเรา สิ่งหนึ่งที่ ต้องแยกกันคือ เราให้อภัยไม่ได้แปลว่าเขาไม่ได้ทำผิด สิ่งผิดก็ยังคงเป็น ผิด สิ่งที่ใครทำผิดไว้ก็ต้องได้รับโทษกันไปตามกฎหมาย (หรือหาก กฎหมายทำอะไรไม่ได้ ก็อาจจะต้องเชื่อในกฎแห่งกรรมล่ะครับ) เพียง แต่ “เรา” ยกโทษให้ การยกโทษนั้นก็เพื่อ “ตัวเรา”เอง ความโกรธแค้นนั้น เหมือนไฟ มีแต่จะเผาไหม้จิตใจของเราเองเท่านั้น การให้อภัยคือการดับไฟ นั้นลง        การให้อภัยนั้น คือการให้ทานอย่างหนึ่ง (อย่างที่เรียกว่าอภัยทาน) ผู้ที่ ให้จะเป็นผู้ที่ได้ ได้จิตใจที่สงบ ได้จิตใจที่ดีขึ้นนั้นเอง     ในชีวิตจริงนั้นเหตุการณ์รุนแรงแบบในภาพยนตร์นั้นเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ เห็นได้ทั้งจากตามหน้าหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์  หลาย ๆ ครั้งที่อุบัติเหตุ การถูกข่มขืน การถูกทำร้ายร่างกาย  เหตุการณ์วินาศภัย ได้เปลี่ยนแปลง ชีวิตของผู้ประสบเหตุการณ์นั้น ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง หลายคนมีอาการหวาดกลัว ไปตลอดชีวิต บางคนเป็นซึมเศร้า บางคนมีบาดแผลในจิตใจ แต่สิ่งเหล่านี้จะ ดีขึ้นได้หากคน ๆ ได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว     อีกประเด็นหนึ่งที่ถูกนำเสนอและพูดถึงในเรื่องนี้อย่างเด่นชัดคือเรื่อง ของศาลเตี้ย  ที่จริงแล้วศาลเตี้ยเป็นอะไรที่พูดกันมานานแล้ว และมีปรากฏ ในภาพยนตร์มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นหนังที่เป็นศาลเตี้ยแบบ ชัดเจน  เหมือนที่กล่าวมาเช่นเรื่อง “ล่า”  “closure” หรือซีรี่ย์ยอดนิยมล่าสุด เช่น Dexter  หรือศาลเตี้ยแบบดูดีก็คือหนังตระกูลซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งหลาย ไล่ มาเลยตั้งแต่  Punisher, Hulk  หรือแม้แต่ Batman  บางคนอาจจะงงว่ายัง ไง ? เพราะหากมองว่าศาลเตี้ยคือการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เพื่อความ ยุติธรรม ความถูกต้อง ฮีโร่เหล่านี้ย่อมเข้าข่ายทั้งสิ้น      ในภาพยนตร์เรื่องนี้เองก็แสดงให้เห็นว่าความคิดเกี่ยวกับเรื่องศาลเตี้ย นั้น หากถามแต่ละคนย่อมมีคนตอบหลาย ๆ ความเห็น ซึ่งมีทั้งเห็นด้วยว่าทำ ให้สังคมดีขึ้น  ไม่เห็นด้วยเพราะว่าผิดกฎหมาย เห็นด้วยเพราะไม่เห็นจะต่าง อะไรจากตำรวจเพียงแค่ไม่ได้เป็นตำรวจ  ไม่เห็นด้วยเพราะไม่เห็นจะต่าง จากฆาตกรตรงไหน  เห็นด้วยเพราะกฎหมายไม่เห็นทำอะไรได้เลยความ ยุติธรรมไม่มีในโลก คนรวยไม่มีทางติดคุก ฯลฯ อะไรแบบนี้เป็นต้น มีฉาก หนึ่งในภาพยนตร์ที่ให้คนโทรมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องศาลเตี้ย   เราก็จะได้ยินคำตอบออกมาประมาณนี้  จนทำให้ดูเหมือนภาพยนตร์เองก็ตั้ง คำถามกับเราเหมือนกันว่า แล้วคนดูเองคิดยังไง     หากมามองถึงนักสืบเมอร์เซอร์ในเรื่อง แม้ตลอดมาเขาดูเหมือนจะเป็น คนที่ยึดมั่นในกฎหมายในอุดมการณ์มาตลอด แต่บางครั้งเราจะเห็นเขาหลุด ความปรารถนาที่จะกำจัดเหล่าคนร้ายโดยไม่สนใจกฎหมายออกมาหลาย ครั้ง  มีตอนหนึ่งที่เขาพูดกับเอริก้าว่า “เขาไม่สามารถจัดการกับเจ้าพ่อ มาเฟียได้ ... เพราะเขาทำตามกฎหมาย” แล้วพูดย้ำอีกว่า “ ไม่สามารถทำ ได้...ตามกฎหมาย” แสดงให้เห็นว่าแม้จะยึดมั่นกับอุดมการณ์แต่เขาเองก็ รู้สึกไม่พอใจที่กฎหมายเล่นงานคนพวกนี้ไม่ได้  สิ่งนี้เป็นเหมือนความขัด แย้งในใจของเขาเอง ระหว่างความต้องการ ในการกำจัดคนชั่ว กับมุมมอง ความคิดในเรื่องของอุดมการณ์และกฎหมาย      แต่ในที่สุด เมื่อเขาเห็นวิดีโอที่พวกวัยรุ่นทำกับเอริก้าและแฟนของเธอ นั่นคงเป็นจุดสุดท้ายที่ทำให้เขาทำตามความต้องการมากกว่าอุดมการณ์และ กฎหมาย  นั่นคือเขาตัดสินใจที่จะช่วยเธอฆ่าคนพวกนั้นเพราะรับไม่ได้กับสิ่ง ที่คนเหล่านี้ทำ จากคุณ : ผมอยากที่จะเชื่อ - [ วันฉัตรมงคล 14:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มารู้จักกับภาวะผิดปกติทางจิตใจจากเหตุการณ์รุนแรง                     Post Traumatic Stress Disorder : PTSD     PTSD เป็นความผิดปกติทางจิตเวชที่เกิดกับคนหลังจากเจอหรือเห็น เหตุการณ์ร้ายแรง  เหตุการณ์รุนแรงนั้นยกตัวอย่างเช่น รถชน ถูกทำร้ายร่าง กาย ข่มขืน ไฟไหม้ แผ่นดินไหว เป็นต้น      จริง ๆ ความผิดปกตินี้มีมานานแล้วแต่ในประเทศไทยเองไม่ค่อยเป็นที่ รู้จักเท่าไหร่นักจนเกิดเหตุการณ์สึนามึ ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น พบได้บ่อยแค่ไหน      ในประชากรทั่วไปพบได้ 1-3 % แต่ในคนที่ประสบเหตุรุนแรงจะพบได้ มากขึ้นหลายเท่าตัวเช่น ในผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุรุนแรง  ในผู้ชายพบได้ 25%   ในผู้หญิงพบได้ 14% ในผู้ที่ถูกทำร้ายด้วยอาวุธ ในผู้ชายพบได้ 19% ในผู้ที่ประสบเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรง พบได้ 19 % ในผู้หญิงที่ถูกข่มขืน พบได้ 9 %     PTSD นั้นพบได้ทุกอายุ แต่จากการสำรวจจะพบเยอะในช่วงวัยรุ่นตอน ปลายและวัยผู้ใหญ่ เหตุผลก็เพราะเป็นวัยที่เกิดอุบัติเหตุได้บ่อยที่สุดทั้งสอง เพศ ส่วนผู้หญิงถูกข่มขืนบ่อยที่สุดก็ประมาณช่วงวัยนี้ อาการ     PTSD นั้นหากพูดง่าย ๆ จะประกอบไปด้วยอาการ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ 1. การนึกถึงเหตุการณ์นั้นซ้ำๆ (reexperienced)  แสดงออก เช่น ฝันร้าย (nightmares)  เห็นภาพเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เหมือนภาพติดตา (เรียกว่า flashbacks)   มีความกลัวอย่างมากต่อสิ่งที่คล้ายหรือทำให้นึกถึง เหตุการณ์นั้น เช่นผู้ป่วยคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุรถชนอย่างรุนแรง หลังจาก นั้นเธอกลัวรถมาก จนขับรถไม่ได้ เวลาข้ามถนนก็จะกลัวจนใจสั่นหน้าซีด หรืออย่างเอริก้าที่กลัวความมืดเพราะทำให้นึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น 2.  มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นั้นหรือสิ่งที่เกี่ยวพันกับเหตุการณ์นั้น (avoidance)  เป็นพฤติกรรมที่สืบต่อมาจากอาการ reexperienced คือผู้ ป่วยจะหลีกเลี่ยงสิ่งของ เหตุการณ์ บุคลหรือสถานที่ที่ทำให้รู้สึกกลัว  เช่น ผู้ ป่วยรายหนึ่งถูกสามียิงแต่รอดมาได้ หลังจากนั้นเธอไม่สามารถดูข่าว ฆาตรกรรม หรือแม้กระทั่งดูภาพยนตร์ที่มีฉากยิงกันได้อีกเลย จนเธอต้อง หลีกเลี่ยงการดูทีวีไปหรือบางคนอาจแสดงออกด้วยการจำบางส่วนของ เหตุการณ์นั้นไม่ได้ (โดยไม่ได้เกี่ยวกับการบาดเจ็บที่สมอง) ยกตัวอย่าง เช่นผู้ป่วยหญิงรายหนึ่งที่ถูกข่มขืน เมื่อรอดมาได้เธอจำเหตุการณ์ขณะที่ถูก ข่มขืนไม่ได้เป็นต้น   3. อาการตื่นกลัว (hyperarousal)  ผู้ป่วยจะมีอาการ นอนไม่หลับ หงุดหงิด ง่าย  โมโหง่าย ไม่มีสมาธิ ตกใจง่าย สมาธิไม่ดี กลัวอะไรต่าง ๆ ได้ง่าย บาง คนได้ยินเสียงดังก็จะสะดุ้งตกใจทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในผู้หญิงที่ถูกข่ม ขืน หลายคนจะมีอาการตื่นกลัว หากเจอกับผู้ชาย เวลาออกนอกบ้านก็จะ ระแวดระวังอย่างมาก (คล้ายกับที่เอริก้าเป็นในช่วงแรก)     อาการของโรคมักจะเกิดหลังจากเหตุการณ์รุนแรงตั้งแต่ภายในอาทิตย์ แรก ๆ  แต่บางคนอาจเกิดหลังจากเหตุการณ์รุนแรงหลาย ๆ เดือนก็ได้ อาการส่วนใหญ่จะเป็นเรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ (หากไม่ได้รับการรักษา) และ อาการมักรุนแรงขึ้นในช่วงที่มีความเครียด ความผิดปกติที่พบร่วม     ผู้ที่มีอาการ PTSD นั้นควรได้รับการรักษาเพราะหากไม่รักษา ผู้ป่วยมัก มีอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวลร่วมด้วย โดยพบได้มากถึงกว่าครึ่งของผู้ที่มี อาการ PTSD     นอกจากนั้นจากการศึกษาพบว่าผู้ที่มีอาการ  PTSD มีการพยายามฆ่าตัว ตายมากกว่าคนปกติถึง 14 เท่า     และผู้ป่วยที่เป็น PTSD มักมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น เรียน หนังสือไม่ได้ บางคนที่เป็นจากรถชนไม่กล้าขับรถอีกเลย คนที่ทำงานก็มัก ทำไม่ไหวหรือทำได้ไม่ดีเท่าเดิม ผู้หญิงที่ถูกข่มขืนต่อมาแต่งงานก็ไม่ สามารถมีเพศสัมพันธ์กับสามีได้ เป็นต้น การรักษา  สิ่งสำคัญคือให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด (เพราะยิ่งรักษาเร็วยิ่งมี โอกาสหายเร็วและผลการรักษาดี)  สำหรับบุคคลใกล้ชิด การรับฟังและให้กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญ  การรักษาด้วยยา ยาหลักที่ใช้รักษาคือ ยาต้านเศร้า (antidepressant)   ยาจะช่วยลดอาการต่าง ๆ ได้ดี โดยเฉพาะอาการตื่นกลัว บางครั้งในช่วงแรก หากผู้ป่วยมีอาการกลัวมาก แพทย์อาจให้ยาคลายกังวลร่วมด้วย (anxiolytic)  การรักษาโดยการทำจิตบำบัด ในบัจจุบันพบว่าการรักษาด้วยวิธีปรับ ความนึกคิด (cognitive behavior therapy หรือ CBT) เป็นวิธีหนึ่งที่ได้ผลดี มาก จากคุณ : ผมอยากที่จะเชื่อ - [ วันฉัตรมงคล 14:25:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อวานได้ไปดู winged creatures  ก็เป็นหนังที่เกี่ยวกับอาการ PTSD เยอะเหมือนกัน ... หนังดีมาก ชอบสุด ๆ หนังจบแล้วตบมือให้ในโรงเลย ... ทีมผู้สร้างเดียวกับ 21 grams ใครชอบหนังแนวแบบนี้แนะนำไปดูเลยครับ จากคุณ : ผมอยากที่จะเชื่อ - [ วันฉัตรมงคล 14:26:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หนังเข้าคิวเรื่องต่อไปคือ horsemen ค่ะ นักสืบเมอร์เซอร์น่ารักอะ หล่อ อันที่จริงดูไปก็ลุ้นไป แอบเสียดายที่นักสืบตัดสินใจทำอย่างในหนัง เหมือนกม.จะแพ้ต่อความเห็นอกเห็นใจเลย แต่หนังก็ปูพื้นมาที่จะทำให้เข้าใจว่าทำไมถึงมีคนเรียกร้องศาลเตี้ยนะ หนังฝรั่งส่วนมากชอบเอาเรื่อง PTSD โยงกับสงคราม อีกอย่าง บ้านเขาก็มีเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่ค่อนข้างรุนแรงด้วย คิดๆ ไป บ้านเราก็โชคดีกว่าเขาในหลายเรื่องนะ จากคุณ : scottie - [ วันฉัตรมงคล 15:52:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เสียดายที่นักสืบเมอร์เซอร์ตัดสินใจแบบนั้นด้วยค่ะ ตัวเองจบกฎหมายเองก็รู้ดีว่า กฎหมายหลายเรื่องมีช่องโหว่ และมีหลายกรณีที่กฎหมายไม่ทันใจ หรือไม่สาสมเหมือนใจคนที่สูญเสีย แต่ศาลเตี้ยก็ไม่ใช่ทางที่ควรทำ ทุกวันนี้ก็ยังไม่สบายใจกับเรื่อง การรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาที่แม้จะทำผิดจริง ๆ อยู่ดี สถิติน่าสนใจเหมือนกันนะคะ เรื่องผู้ชายมีเปอร์เซ็นต์การเป็น PTSD มากกว่าผู้หญิงในกรณีประสบอุบัติเหตุ อยากรู้จัง เพราะอะไร อยากดูทั้ง Winged Creatures แล้วก็ Horsemen แต่ที่เชียงใหม่ ไม่มีค่ะ ต้องรอเป็นดีวีดีสถานเดียวเท่านั้น ป.ล. รหัสเลขประหลาดอาจเกิดจากการเครื่องหมายหน้าข้อในเวิร์ด เวลาก็อปปี้มาลงในนี้ ให้ลบออกก่อน แล้วใส่เป็น - จะดีกว่าค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 00:27:53 จากคุณ : ปิยะรักษ์ - [ 6 พ.ค. 52 00:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Winged Creatures  น่าดูเหมือนกันครับ แต่ยังไม่ได้ไปเลย ต้องเป็นโรงของพวกลิโด้เท่านั้นหรือเปล่าครับ จริง ๆ ผมว่าคนที่แค้นนั้น สำหรับความคิดผม เพราะเค้าต้องการให้คนอื่นรู้สึกถึงความรู้สึกของเค้า ว่า ความเจ็บปวด เป็นอย่างไร หรืออยากจะให้คน ๆ นั้นสำนึกนั่นเอง จากคุณ : X RoBiN - [ 6 พ.ค. 52 13:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเข้าใจว่าเข้าแต่ lido เลยครับ ... แต่หนังดีครับ (แต่อาจดูยากนิด ๆ ) ขอบคุณคุณปิยะรักษ์ที่แนะนำครับ บางทีก๊อปมาจากเวิร์ดผมก็ไม่ทันสังเกตว่ามันเจ๊งน่ะครับ (ps. อ้าวพึ่งรู้ว่าอยู่เชียงใหม่ .... เจอคนบ้านเดียวกันรึนี่) จากคุณ : ผมอยากที่จะเชื่อ - [ 6 พ.ค. 52 14:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หง่า winged creatures ไม่ได้ฉายที่ลิโด้นี่นา หรือออกไปแล้ว แต่เราดูเช็คหนังที่นี่ทุกสัปดาห์เลยน้า อ้อ ไปหาเรื่องเกี่ยวกับหนังมาแล้วค่ะ คิดอยู่ว่าน่าดู แอบชอบเคท เบคคินเซล จากคุณ : scottie - [ 6 พ.ค. 52 22:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ๋อ มันเข้าศุกร์หน้าครับ ตอนนี้ยังไม่เข้า (ที่ผมไปดูเป็นรอบพิเศษน่ะครับ) แต่ไม่แน่ใจว่าตอนเข้าจริง ๆ จะเข้าที่ลิโด้ สยาม หรือสกาล่า แต่เข้าแถว ๆ นั้นแหละครับ ส่วนผมชอบดาโกต้า แฟนนิ่งครับ ชอบมาก ๆ ชอบตั้งแต่ตัวกะเปี้ยกใน I am Sam แล้ว โตขึ้นก็ยังเล่นดีเหมือนเดิม จากคุณ : ผมอยากที่จะเชื่อ - [ 7 พ.ค. 52 22:28:02 ]