วันนี้เป็นช่วงต้นเดือนพฤษภาคม หลังจากร้อนและแล้งมานานฝนกำลัง
จะมา เราควรเริ่มลงมือปลูกหญ้าแฝกเพื่อกันดินไหลออกจากที่ดินของเรา
ซะที และเพื่อเป็นการปรับปรุงสภาพดินของเราตามคำสอนของในหลวง พอ
คิดได้ดังนั้นฉันก็เริ่มลงมือจับจอบขุดดินสับลงไปตามแนวรั้ว สับไปเรื่อย ๆ
สักพัก ฉันก็ต้องตกใจเพราะเห็นอึ่งอ่างตัวเขื่อง มันผุดขึ้นมาดิ้นปัด ๆ ตาม
แนวที่เราสับจอบลงไป ก็พยายามมองว่าสับไปโดนตรงไหนของมันเพราะ
ไม่เห็นเลือดออกมาจากตัวมันเลย เห็นแต่มันดิ้นพลิกไปพลิกมา ม้วนหน้า
ม้วนหลัง สภาพที่เห็นคิดว่ามันคงเจ็บปวดทรมานมาก แต่ก็ยังสงสัยว่าสับไป
โดนตรงไหนหนอ พยายามมองหาแผลก็ไม่เห็น สักพักมันก็หงายท้อง
แล้วนอนเงียบไป เท่านั้นแหละฉันก็ลงนั่งไหว้ขออโหสิมัน แถมมีน้ำตาซึม
ออกมาหลายแหมะ ใจตกลงไปอยู่ตาตุ่ม คิดโทษตัวเองที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ
ทำให้มันต้องตาย แต่มาคิดอีกทีมันก็ระวังยากอยู่เพราะเจ้าพวกนี้มันชอบ
ซุ่มอยู่ในดินเรามองไม่เห็นหรอก ฉันนั่งปลงอยู่สักพักและมองให้แน่ใจว่า
มันนิ่งไปแล้วจริง ๆ กำลังจะหาวิธีจับมันไปฝังให้เรียบร้อย คืออันที่จริงฉัน
ต้องตัดสินใจนานหน่อยเพราะฉันเป็นคนไม่กล้าจับสิ่งมีชีวิตที่เคยมีชีวิตแล้ว
เสียชีวิตไป.....งงมั้ยเนี่ย! แล้วฉันก็ต้องแปลกใจอีกครั้ง ฉันเห็นมันพลิก
จากหงายท้องมาอยู่ในสภาพปกติคือยืนด้วยขาสี่ขาของมันแล้วจ้องหน้าฉัน
ตอนแรกนึกว่ามันลุกมามองหน้าเพื่อจำไว้อาฆาตเราซะอีก ที่ไหนได้มันใช้
ขาหลังตะกุยดินแล้วถดตัวถอยหลังมุดเข้าในดินเหลือหน้าโผล่มองฉันอยู่
อย่างนั้น ฉันอึ้งอยู่พักหนึ่งแล้วก็ขำทั้งตัวเองและตัวมันด้วย แหมมันช่าง
เจ้ามารยาจริง ๆ หลอกเรากลางวันแสก ๆ เลยแต่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นที่ไม่ได้
ทำบาปผิดศีลข้อ 1 โดยไม่ตั้งใจ เฮ้อ !.......โล่งอก
จากคุณ :
najcha
- [
6 พ.ค. 52 07:45:37
]