Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า ตอน ความอันศจรรย์บนนากาก็อต

    ตอน ผีโพรงที่ลำตะคอง (หลอนครั้งแรก)
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7555350/W7555350.html
    ตอน ผีโพรงที่ลำตะคอง (ฝูงผีบุก)
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7561061/W7561061.html
    ตอน ผีทวงสมอง
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7569912/W7569912.html
    ตอน ช่วยด้วย
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7575674/W7575674.html
    ตอน หัวใคร ในทะเล
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7581096/W7581096.html
    ตอน ทำไมพี่ถึงไม่ช่วยผม!
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7589318/W7589318.html
    ตอน กลิ่น
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7650035/W7650035.html
    ตอน เขามาเตือน
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7630569/W7630569.html
    ตอน วิญญาณป่าที่เขาใหญ่
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7613807/W7613807.html
    ตอน เขามานำทาง
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7664958/W7664958.html
    ตอน เหงามั้ยจ๊ะ
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7689756/W7689756.html
    ตอน ผีถ้วยแก้ว
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7703708/W7703708.html
    ตอน ผีที่อินเดีย ตอนแรก
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7732635/W7732635.html
    ตอน เขา....มาเกาะที่ไหล่
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7754283/W7754283.html
    ตอน ท่อนแขนใครบนหาดทราย
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7784939/W7784939.html
    ตอน ผีที่อินเดีย(ภาคสองเสียงในความมืด)
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7813860/W7813860.html

    เรื่องที่ 18 ความอัศจรรย์บนนากาก็อต

    ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว พี่ได้ดูสารคดีเกี่ยวกับประเทศเนปาล ความงดงามอันน่ามหัศจรรย์ทำให้พี่ตั้งใจมั่นว่า จะต้องไปเยือนดินแดนแห่งนี้ให้ได้สักครั้ง ในชีวิต

    เวลาผ่านไปนานนับสิบปีกว่าพี่จะได้สมหวัง แม้มนต์เสน่ห์แห่งเนปาลจะลดน้อยลงไปบ้างเพราะอารยธรรมตะวันตกที่แพร่เข้าไปประกอบกับเป็นเมืองท่องเที่ยวแต่เนปาลก็ยังคงดินแดนแห่งความศรัทธา แผ่นดินแห่งความศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

    การเดินทางไปประเทศเนปาลเป็นทริปพิเศษที่ไกด์ประจำของแม่จัดขึ้น พวกเราเดินทางไปแค่ 12 คนโดยนั่งเครื่องไปลงที่กาฎมัณฑุ จากนั้นจึงนั่งรถต่อไปยังโพคราเลยเพื่อที่จะไปชมน้ำตกเดวิด ซึ่งเกิดจากภูเขาที่แยกออกจากกันปล่อยให้ธารน้ำอันเชี่ยวกรากไหลเข้าไปในโตรกลึกและไปทะลุออกที่แม่น้ำสตี ที่นั่นจะมีเครื่องประดับและสินค้าพื้นเมืองของเนปาลมากมาย แต่ต้องดูให้ดีๆเพราะบางทีก็เจอประเภท เมดอินไชน่า ปนอยู่ด้วยเหมือนกัน สนนราคาต่อรองกันชนิดลดวูบจนน่าใจหาย เพราะบางครั้งพ่อค้าบอกราคาต้น 2000 เราต่อรวดเดียวเหลือ 500 ได้(นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกือบสิบปี ไม่แน่ใจว่าในสมัยนี้ยังทำแบบนี้ได้หรือไม่)

    จากโพคราเรามุ่งหน้าไปที่จิตวัน อุทยานสำคัญของเนปาลซึ่งยังเป็นป่าดงดิบ พวกเราได้นั่งหลังช้างออกไปชมธรรมชาติซึ่งได้แก่แรดดำ และกวางรวมทั้งนกยูงป่า ระหว่างที่กำลังชมไพรกันอยู่นั้นพวกพี่ก็ได้ยินเสียงเหมือนหมาร้องเอ๋ง เอ๋ง มารู้ทีหลังว่านั่นก็คือเสียงเก้ง ซึ่งกำลังร้องเตือนว่ามีเสือเข้ามาใกล้ ซึ่งก็น่าจะเป็นไอ้เสียงคำรามอย่างรำคาญตอนที่ช้างเดินเข้าไปในกลุ่มต้นไม้ทึบ

    มารู้ทีหลังว่าเสียงที่ว่านั่น เป็นเสือจริงๆ มันห่างจากพวกเราไปแค่ 5 เมตรเท่านั้นเอง

    พักที่จิตวันหนึ่งคืน หนาวตัวแทบแข็งเพราะที่พักของที่นี่ไม่มีเครื่องทำความอุ่น มีแต่กระทะใส่ถ่านยัดเข้าไปในที่นอน(ซึ่งเป็นวิธีของคนอังกฤษโบราณ) จากนั้นก็เดินทางย้อนกลับมาที่โพคราอีกครั้ง พักหนึ่งคืนเพื่อจะรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลสาบเฟวา โดยตั้งใจว่าจะนั่งเรือไปนมัสการวิหารพระแม่ที่เกาะกลางแม่น้ำด้วย

    เรื่องน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นที่โรงแรมในโพครานี่แหละค่ะ

    ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักตามอัธยาศัยก่อนรับประทานอาหารค่ำ พี่นอนห้องเดียวกันกับแม่ ดูเหมือนตอนนั้นจะเป็นเวลาประมาณบ่ายสามโมงได้ พี่รู้สึกเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น มันรู้สึกเหมือนมีเสียงเด็กห้าหรือหกคนกำลังวิ่งเล่นและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เสียงนั้นเลื่อนไปที่เตียงของแม่ เด็กคนหนึ่งพูดว่า

    “เจอแล้ว เจอแม่แล้ว”

    เสียงชุลมุนคล้ายเด็กมุงรอบเตียงดังอึกทึกไปหมด แต่พี่ไม่เห็นแม้แต่เงาของใครสักคน ตอนที่กำลังสับสนว่านี่เรากำลังฝันหรือเป็นเรื่องจริงกันแน่พี่ก็ได้ยินเสียง ทรงอำนาจ ตวาดดังลั่น

    “อย่ามากวนคนอื่นเขา ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้!”

    เสียงเด็กเงียบกริบไปในพริบตา พี่รีบลุกขึ้นและหันไปมองแม่ซึ่งยังคงหลับสนิท เลยคิดว่าเราคงฝันไป และเล่าให้แม่ฟังระหว่างทานอาหารค่ำ แม่มองหน้าแล้วบอกว่า

    “ได้ยินเหมือนกันหรือลูก”

    ง่ะ ไม่ได้ฝันหรอกเหรอเนี่ย

    คืนนั้นก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตอนเช้าตื่นกันตั้งแต่ตีสี่เพื่อออกไปชมพระจันทร์เต็มดวงที่ลอยเด่นกลางท้องฟ้าที่ทะเลสาบเฟวา ยืนถ่างตาดูจนกระทั่งถึงแปดโมงเช้า หลังจากนั่งเรือข้ามไปไหว้ศาลพระแม่แล้วก็เดินทางมุ่งหน้ากลับกรุงกาฎมัณฑุเพื่อแวะชมสวยมภูและพุทธนาถ จากนั้นจึงขึ้นไปยังยอดเขานากาก็อต เมืองแห่งพญานาคของชาวเนปาล

    ปีนั้นอากาศที่เนปาลหนาวจัด ตลอดการเดินทางตั้งแต่ออกจากกรุงเทพจนกระทั่งถึงวันที่ขึ้นเขานากาก็อตจึงเจอแต่หมอกหนาเกือบตลอด การขึ้นไปพักที่โรงแรมฟอร์ดซึ่งเป็นโรงแรมเก่าแก่บนยอดนากาก็อตในครั้งนี้จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเพราะต้องวิ่งไปให้ถึงที่หมายก่อนห้าโมงเย็น ไม่อย่างนั้นได้นอนกินข้าวลิงกลางทางอย่างแน่นอน

    คืนนั้นบนยอดเขามีลมแรงมากแถมอากาศหนาวจัดจนแทบจะออกมายืนชมวิวไม่ได้ หลังจากอิ่มหนำสำราญกับอาหารมื้ออร่อยประกอบกับการต้อนรับอันอบอุ่นของพนักงานโรงแรมฟอร์ดทำให้พวกเรารู้สึกประทับใจจนแทบไม่อยากขึ้นนอน คนที่ยังแข็งแรงจึงเล่นสนุกกับแขกที่มาพักด้วยกัน(ซึ่งก็ไม่พ้นการเต้นรำแบบพื้นเมือง) ส่วนพวกผู้ใหญ่กว่าก็จะขึ้นไปนอนพักบนห้อง ตัวพี่เดินออกไปยืนที่หน้าประตูและดีใจที่เห็นว่าลมพายุสงบลงจึงรีบไปชวนแม่ให้ออกไปดูดาวด้วยกัน ซึ่งค่อนข้างจะผิดหวังเพราะแม้ฟ้าจะมืดสนิทแต่ก็เต็มไปด้วยเมฆหมอกทำให้มองอะไรไม่เห็นเลย ตอนนั้นเองที่พี่นึกในใจว่าหากที่นี่เป็นแผ่นดินแห่งสวรรค์ เป็นดินแดนแห่งหิมาลัยอันศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ลูกได้เห็นดวงดาวบนท้องฟ้าด้วยเถิด

    ทันทีที่คิดจบ พี่ก็ต้องขนลุกไปทั้งตัว เพราะเมฆหมอกที่ปกคลุมท้องฟ้ากระจายออกเป็นวงกลมเหมือนถูกเป่า มันแผ่ขยายกว้างออกและมลายหายไปอย่างรวดเร็ว พี่ยืนตะลึงจ้องท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้วยความรู้สึกอัศจรรย์ใจ แม่พี่พูดขึ้นมาว่า

    เชื่อหรือยังว่าสิ่งมหัศจรรย์นั้นมีอยู่จริง

    แน่นอนค่ะว่าพี่เชื่ออย่างสนิทใจ สิ่งมหัศจรรย์มีจริงแต่เกิดได้ไม่บ่อยนัก ภาพหมอกที่กระจายออกเหมือนถูกคนเป่ายังคงประทับใจพี่อยู่เสมอมา และเป็นสิ่งที่ทำให้พี่ยึดมั่นอยู่เสมอว่า

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีจริง

    */*/*/*/*/*

    ต้องขอออกตัวกันสักหน่อย เพราะเรื่องในตอนนี้อาจจะดูเหลือเชื่อไปสักนิด แต่หากท่านอยู่ในเหตุการณ์ ณ เวลานั้นแล้ว ความมหัศจรรย์อาจจะเป็นคำจำกัดความที่น้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำ บางครั้งปาฏิหารย์จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคนเรามีความศรัทธาอย่างเต็มหัวใจ

    มูนนี่ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาเข้ามาเข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็น จะพยายามลงชุดเรื่องสยองทุกวันศุกร์ค่ะ เพื่อความสะดวกของผู้อ่านทุกท่าน โดยเฉพาะท่านที่อยู่แดนไกล

    ครั้งนี้ต้องขออภัยนะคะที่ไม่ได้คุยกับทุกท่าน เพราะมูนนี่กำลังเร่งงานค่ะ

    จากคุณ : Moony_Lupin - [ วันวิสาขบูชา 15:45:48 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com