วันที่แดดอุ่น และฉันนอนดึก แต่ต้องตื่นเช้าเพราะเสียงจิ๊บๆของนก
โทรศัพท์หาใครบางคนที่อยู่ไกล
มีนกมาทำรังที่หน้าต่างห้องตรงลูกกรงติดมุ้งลวด จะทำยังไงดี
ตัวเล็กกว่านกกระจอก ปากโค้งๆ ท้องสีเหลือง ปีกสี
เขาเรียกสีอะไรนะ ฉันหยุดคิด
แต่คนปลายสายบอกมาก่อนว่า ปีกสีเขียวมะกอก นกกินปลีอกเหลือง คิดว่าใช่นะ
นกกินปลีอกเหลือง เหรอ มีสองตัวบินเข้าบินออกคาบเศษใบไม้มาแปะๆกับลูกกรงและมุ้งลวด
ตรงหน้าต่างด้านที่มีระเบียง
น่าจะเป็นตัวผู้กับตัวเมีย คงก่อร่างสร้างรัง เตรียมวางไข่กระมัง เสียงปลายสายว่า
แล้วฉันต้องทำยังไง
ไม่เห็นต้องทำอะไร ถ้าไม่เดือดร้อนก็ให้เขาอยู่ไป แต่ถ้าคิดว่าเดือดร้อนก็ไล่ไปซะก็สิ้นเรื่อง
ก็
ไม่เท่าไหร่นะ ทนได้ ฉันหยุดคิด ใจหนึ่งก็คิดว่าคงสกปรก
แต่ก็อยากเห็นเศษใบไม้ใบหญ้ากลายสภาพเป็นบ้านหลังเล็ก
อีกหน่อยตื่นตอนเช้าก็จะได้ยินนกเด็กๆร้องจิ๊บๆ แค่คิดฉันก็อิ่มใจ
ฉันคุยกับปลายสายอีกสองสามคำก็วางสาย นั่งดูนกตัวน้อยผลัดกันบินเข้าบินออก
เหนื่อยไหมเจ้า
อยากถาม
ต่อไปฉันคงเปิดออกไประเบียงช่วงหกโมงเช้าถึงสี่โมงเย็นไม่ได้
เกรงใจเจ้าตัวเล็ก ฉันยิ้มน้อยๆกับตัวเอง
กว่าสองสัปดาห์
เศษไม้ใบหญ้าก็ขึ้นรูปก่อร่าง นกน่ารักแต่รังรก พวกมันสร้างบ้าน เตรียมวางไข่สร้างครอบครัว
มีสายตาของฉันเฝ้ารอชื่นชม
คนอยู่ไกลโทรศัพท์มาอัพเดทข้อมูลเป็นระยะ
แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง
วันที่ฝนตกหนัก ลมกรรโชกและฉันไม่อยู่บ้าน
ใครบางคนอาจเป็นแม่ที่เข้าไปปิดหน้าต่าง
และ
รังนกถูกปลดดึงลงหล่นที่ระเบียงห้อง
หัวใจสลาย
รู้สึกแน่นในช่องอก
เช้านี้ฉันนั่งรอ
นกเล็กตัวแรกบินมาเวลาเดิม เกาะลูกกรงมองซ้ายมองขวา ไม่พบรัง
ปากส่งเสียงร้องจิ๊บๆ และบินออกไปเกาะสายไฟข้างนอก
นกอีกตัวบินเข้ามา เกาะลูกกรง มองซ้ายมองขวา ไม่พบรัง
ปากก็ส่งเสียงร้องจิ๊บๆ และบินออกไปเกาะสายไฟข้างนอก
นกสองตัวผลัดกันบินเข้าบินออก เป็นอยู่อย่างนี้สามสี่รอบ
ฉันนั่งมองจากในห้อง ไม่กล้าขยับตัว
อยากบอกพวกมันว่า ขอโทษ
ขอโทษที่ไม่สามารถช่วยเหลือพวกมันได้
ฉันไม่รู้ว่าพวกมันคุยกันว่าอย่างไร
ไม่รู้ว่ามันมีน้ำตาหรือไม่
ที่ฉันรู้แน่ๆในตอนนี้คือ
หยดน้ำใสๆที่ไหลลงข้างแก้ม
ฉันรู้สึกเศร้าเหลือเกิน
รังนกพังแล้วนะ
หือ..ว่าไงนะ ฉันเล่าให้เขาฟัง เก็บน้ำเสียงสั่นๆนั้นไม่มิด เขาเงียบไป
ถ้าอยู่ใกล้จะไปหาเดี๋ยวนี้ น้ำเสียงอ่อนโยนมาตามสาย
ไม่เป็นไร แค่อยากเล่า อยากบอกใครสักคน เดี๋ยวคงดีขึ้น ทั้งนกนั่นและฉันด้วย คงต้องใช้เวลา ฉันว่า
ฮื่อ..คงต้องใช้เวลา ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ สุขแต่พอดี ทุกข์แต่พอดี มีเกิดก็มีดับเป็นอนิจจัง รังนกที่พังไป เดี๋ยวก็สร้างใหม่ได้ นกสองตัวนั้นก็คงจะได้เรียนรู้เรื่องการเลือกทำเลสร้างบ้าน ความล้มเหลวคือบทเรียนที่มีค่า คิดในแง่ดีสิ อย่างน้อยรังที่พังตอนนี้ก็ยังไม่มีไข่ ไม่มีตัวนก บ้านพังก็สร้างใหม่ รังพังก็สร้างใหม่ ขอเพียงอย่าหมดแรงกายแรงใจไปซะก่อน
ฉันเงียบฟังเขาว่าและคิดตาม จริงสินะ ยังดีที่ยังไม่มีชีวิตใหม่ในรังนั้น
นกสองตัวก็ได้เรียนรู้ ฉันเองก็ได้เรียนรู้
ยิ้มทั้งน้ำตา
ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ
ไม่เป็นไร ขอบคุณที่โทร.มาเช่นกัน อืม
ว่าแต่ว่า เมื่อไหร่เราจะสร้างรังของเราบ้างล่ะ
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 08:19:12
จากคุณ :
สิงห์อมบ๊วย
- [
11 พ.ค. 52 00:40:06
]