Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เรื่องเล่าจากรวงรัง

    วันที่แดดอุ่น และฉันนอนดึก  แต่ต้องตื่นเช้าเพราะเสียงจิ๊บๆของนก
    โทรศัพท์หาใครบางคนที่อยู่ไกล
    “ มีนกมาทำรังที่หน้าต่างห้องตรงลูกกรงติดมุ้งลวด  จะทำยังไงดี ”
    “ ตัวเล็กกว่านกกระจอก ปากโค้งๆ  ท้องสีเหลือง ปีกสี…เขาเรียกสีอะไรนะ ”  ฉันหยุดคิด
    แต่คนปลายสายบอกมาก่อนว่า “ ปีกสีเขียวมะกอก นกกินปลีอกเหลือง คิดว่าใช่นะ ”
    “ นกกินปลีอกเหลือง เหรอ   มีสองตัวบินเข้าบินออกคาบเศษใบไม้มาแปะๆกับลูกกรงและมุ้งลวด
    ตรงหน้าต่างด้านที่มีระเบียง ”
    “ น่าจะเป็นตัวผู้กับตัวเมีย  คงก่อร่างสร้างรัง เตรียมวางไข่กระมัง ”  เสียงปลายสายว่า
    “ แล้วฉันต้องทำยังไง ”  
    “ ไม่เห็นต้องทำอะไร  ถ้าไม่เดือดร้อนก็ให้เขาอยู่ไป แต่ถ้าคิดว่าเดือดร้อนก็ไล่ไปซะก็สิ้นเรื่อง ”
    “ ก็…ไม่เท่าไหร่นะ  ทนได้ ”  ฉันหยุดคิด  ใจหนึ่งก็คิดว่าคงสกปรก  
    แต่ก็อยากเห็นเศษใบไม้ใบหญ้ากลายสภาพเป็นบ้านหลังเล็ก
    อีกหน่อยตื่นตอนเช้าก็จะได้ยินนกเด็กๆร้องจิ๊บๆ แค่คิดฉันก็อิ่มใจ
    ฉันคุยกับปลายสายอีกสองสามคำก็วางสาย  นั่งดูนกตัวน้อยผลัดกันบินเข้าบินออก

    เหนื่อยไหมเจ้า…อยากถาม
    ต่อไปฉันคงเปิดออกไประเบียงช่วงหกโมงเช้าถึงสี่โมงเย็นไม่ได้
    เกรงใจเจ้าตัวเล็ก ฉันยิ้มน้อยๆกับตัวเอง
    …
    กว่าสองสัปดาห์
    เศษไม้ใบหญ้าก็ขึ้นรูปก่อร่าง  นกน่ารักแต่รังรก  พวกมันสร้างบ้าน  เตรียมวางไข่สร้างครอบครัว
    มีสายตาของฉันเฝ้ารอชื่นชม
    คนอยู่ไกลโทรศัพท์มาอัพเดทข้อมูลเป็นระยะ

    แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง  
    วันที่ฝนตกหนัก ลมกรรโชกและฉันไม่อยู่บ้าน
    ใครบางคนอาจเป็นแม่ที่เข้าไปปิดหน้าต่าง
    และ…รังนกถูกปลดดึงลงหล่นที่ระเบียงห้อง
    …
    หัวใจสลาย
    รู้สึกแน่นในช่องอก

    เช้านี้ฉันนั่งรอ
    นกเล็กตัวแรกบินมาเวลาเดิม เกาะลูกกรงมองซ้ายมองขวา ไม่พบรัง
    ปากส่งเสียงร้องจิ๊บๆ และบินออกไปเกาะสายไฟข้างนอก
    นกอีกตัวบินเข้ามา เกาะลูกกรง มองซ้ายมองขวา ไม่พบรัง
    ปากก็ส่งเสียงร้องจิ๊บๆ และบินออกไปเกาะสายไฟข้างนอก
    นกสองตัวผลัดกันบินเข้าบินออก  เป็นอยู่อย่างนี้สามสี่รอบ

    ฉันนั่งมองจากในห้อง ไม่กล้าขยับตัว
    อยากบอกพวกมันว่า “ ขอโทษ ”
    ขอโทษที่ไม่สามารถช่วยเหลือพวกมันได้
    ฉันไม่รู้ว่าพวกมันคุยกันว่าอย่างไร
    ไม่รู้ว่ามันมีน้ำตาหรือไม่
    ที่ฉันรู้แน่ๆในตอนนี้คือ
    หยดน้ำใสๆที่ไหลลงข้างแก้ม

    ฉันรู้สึกเศร้าเหลือเกิน  

    “ รังนกพังแล้วนะ ”  
    “ หือ..ว่าไงนะ ”  ฉันเล่าให้เขาฟัง เก็บน้ำเสียงสั่นๆนั้นไม่มิด  เขาเงียบไป
    “ ถ้าอยู่ใกล้จะไปหาเดี๋ยวนี้  ”  น้ำเสียงอ่อนโยนมาตามสาย
    “ ไม่เป็นไร แค่อยากเล่า อยากบอกใครสักคน เดี๋ยวคงดีขึ้น ทั้งนกนั่นและฉันด้วย คงต้องใช้เวลา ” ฉันว่า

    “ ฮื่อ..คงต้องใช้เวลา  ชีวิตก็เป็นเช่นนี้  สุขแต่พอดี ทุกข์แต่พอดี มีเกิดก็มีดับเป็นอนิจจัง รังนกที่พังไป  เดี๋ยวก็สร้างใหม่ได้ นกสองตัวนั้นก็คงจะได้เรียนรู้เรื่องการเลือกทำเลสร้างบ้าน  ความล้มเหลวคือบทเรียนที่มีค่า   คิดในแง่ดีสิ อย่างน้อยรังที่พังตอนนี้ก็ยังไม่มีไข่ ไม่มีตัวนก บ้านพังก็สร้างใหม่ รังพังก็สร้างใหม่ ขอเพียงอย่าหมดแรงกายแรงใจไปซะก่อน ”

    ฉันเงียบฟังเขาว่าและคิดตาม  จริงสินะ ยังดีที่ยังไม่มีชีวิตใหม่ในรังนั้น
    นกสองตัวก็ได้เรียนรู้ ฉันเองก็ได้เรียนรู้

    ยิ้มทั้งน้ำตา
    “ ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ ”
    “ ไม่เป็นไร  ขอบคุณที่โทร.มาเช่นกัน   อืม… ว่าแต่ว่า  เมื่อไหร่เราจะสร้างรังของเราบ้างล่ะ ”
    ………
    ………

    แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 08:19:12

    จากคุณ : สิงห์อมบ๊วย - [ 11 พ.ค. 52 00:40:06 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com