Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    นังตาล..

    นังตาล..

    ราสส์ กิโลหก

    ลูกหมาเพศเมีย อายุเกือบ 4 เดือน ขนสีน้ำตาลสลับขาวลำตัวอ้วนปุกปุย วิ่งเล่นกับพี่น้องท้องเดียวกันอยู่ในบริเวณพื้นบ้าน อย่างสนุกสนานตามประสาลูกหมาที่ยังดูไร้เดียงสา

    “พี่รัตน์ เอาไปเลี้ยงสักตัวไหม ? พันธุ์นี้ฉลาดนะพี่”    อิ่ว. หญิง.สาวเจ้าของเรือนร่างอ้วนขาวจนกลม พูดพร้อมก้มลงอุ้มเจ้าลูกหมาตัวสีน้ำตาล นำมายื่นให้ผมดูใกล้ๆเหมือนจะเชียร์ให้นำกลับไปเลี้ยงที่บ้าน แต่ผมว่าเธอคงอยากจะระบายลูกหมาที่ แม่มันออกลูกมาจนเต็มบ้านมากกว่า

    ผมมองดู    เจ้าลูกหมาตัวน้อย ขนสีน้ำตาลปนขาวถูกทำความสะอาดจนขนเป็นมัน  คาดว่าเจ้าของคงดูแลรักษาเป็นอย่างดี มันมองดูผมเหมือนรู้จักกันมาก่อน ดวงตากลมโตดำขลับมองหน้าผมเขม็ง ปากร้อง หงิงๆๆๆ  ทำท่าจะกระโดดมาหา

    ความจริงผมกับพวกน้องหมา ก็ไม่ได้ถึงกับเกลียดหรือชอบ คือเฉยๆเลี้ยงก็ได้ไม่เลี้ยงก็ได้ ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ  ผมเคยเห็นคนบางคนที่ อินกับหมาจนเลี้ยงไปเป็นลูกเป็นหลาน ก็มีให้เห็นทั่วๆไป..

    “เอาไง ? คุณ !  ดูมันมอง ซิ คงอยากไปกับเรา”  ผมเอื้อมมือไปลูบหัวมันเบาๆ พร้อมหันไปถาม   นิ เมียผมที่ ยืนอยู่ข้างๆกับเจ้าของหมา   เมียผมเป็นญาติกับอิ่ว  โดยอิ่วเรียกเมียผม ว่า อี้ เพราะพวกเขามีเชื้อจีน

    “อี้ เอาไปเลี้ยงเถอะ น่ารักดีออก  นังตาลนี่เป็นลูกท้องแรก  ท้องนี้มี 6 ตัวเป็นตัวเมีย 3 ตัว มีคนเอาไปแล้ว 2 ตัวเหลือตัวเมียนังตาลนี่เป็นตัวสุดท้าย ตัวผู้ หนูจะเอาไว้เลี้ยงไว้เอง”  อิ่ว พยายามตื้อให้รับนังตาลเอาไปเลี้ยง

    “เอาก็เอา !  ดีเหมือนกันเอาไว้เฝ้าบ้าน”  นิพูดแล้วมองมาที่ผม   ผมพยักหน้าตกลง  

    พรุ่งนี้เราต้องเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านกัน โดยมีพาหนะเป็นรถปิคอัพส่วนตัว ระยะทางจากที่นี่กลับถึงบ้านประมาณเกือบ 500 กิโลเมตร การเดินทางไกลความพร้อมของรถมีความจำเป็นมาก โดยเฉพาะรถเก่าที่มีอายุการใช้งานมามากกว่า 10 ปี เช่นรถของผม

    หลังจากล่ำลากันตามธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว เราออกเดินทางกันแต่เช้ามืด กะระยะเวลาเดินทางถึงบ้านคง มืดค่ำแน่  บนรถมีผมและ นิเมียผม พร้อมด้วยแขกใหม่ของเราคือ นางตาลลูกหมาผู้น่ารัก ติดตามมาด้วย

    นังตาลนั้นเป็นหมาที่เรียบร้อยไม่ดื้อซน วางตรงไหนก็นอนตรงนั้น หรือมันคงตื่นเต้นไม่เคยนั่งรถก็เป็นได้  ผมให้มันนอนอยู่ที่บริเวณที่พักเท้าด้านซ้ายมือของรถ ก็คืออยู่ตรงเท้าของเมียผม ซึ่งนั่งอยู่ที่เบาะด้านหน้าของรถข้างๆคนขับ   เราขับมาเรื่อยๆไม่รีบร้อนเพราะหนทางมันไกลจนสุดกู่ ขับมาได้ประมาณ 100 กิโลฯเศษๆ เห็นนังตาลมันผุดลุกผุดนั่ง เหมือนมันกังวลใจอะไรซักอย่าง

    ผมอดสงสัยไม่ได้ ขับรถไปก็หันมามอง นังตาลไป  หรือมันคิดถึงบ้านคิดถึงแม่มันและ อิ่วเจ้าของเดิม

    “นี่เธอ ! นังตาลมันเป็นอะไร ?”ผม หันหน้าไปถามเมีย

    “นั่น ซิ ! ไม่รู้มันเป็นอะไร เดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่ง หรือมันคิดถึงบ้าน”

    “คงไม่ใช่หรอก เพราะตอนแรกๆไม่เห็นเป็นอะไร” ผมก็เดาไปตามเรื่องเพราะไม่รู้มันเป็นอะไรแน่  ขับรถมาก็เกือบสองชั่วโมง อากาศเย็นๆรู้สึกปวดท้องฉี่ขึ้นมา มองดูรอบๆมีแต่ท้องไร่ท้องนา ผมเลยตัดสินใจจะหาที่เหมาะๆเพื่อจอดรถปล่อยเจ้าน้ำเบาเสียหน่อย

    จนแลเห็นพื้นที่ต้องการ  จัดการชะลอความเร็วของรถหักพวงมาลัยจอดชิดขอบทาง  เปิดประตูลงจากรถเพื่อออกไปทำธุระส่วนตัว  พอเดินไปด้านข้างตัวรถผมตะโกนบอกให้ นิ ออกมายืดเส้นยืดสายบ้างเพราะนั่งรถมาหลายชั่วโมง จะได้สบายตัว

    ขณะที่ นิ กำลังเปิดประตูรถเพื่อออกมาด้านนอก  เธอก็แทบจะตกจากรถเพราะพอประตูอ้าออก นังตาลกระโจนพรวดออกไปอย่างเร็ว เหมือนรอโอกาสนี้มานาน  เมียผมร้องด้วยความตกใจจนผมต้องหันกลับมามอง เจ้าหมาน้อยโกยอ้าวออกมาเหมือนนักวิ่งร้อยเมตรที่ได้ยินเสียงปืนให้ออกจากเส้นสตาร์ท  มันวิ่งรี่ไปที่พุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกล ทำท่าเอาก้นเรี่ยๆดิน แล้วก็ปล่อย น้ำฉี่ออกมาพุ่งเป็นท่อประปาแตก คงอั้นมานานจนน้ำเต็มกระเพาะ  ทำท่าทางแหงนหน้าขึ้นฟ้า  เป็นการแสดงถึงความสบายกายสบายใจที่จัดการเอาเจ้าสิ่งถ่วงความสุขนี้ออกมาได้

    ผมมองดูมันฉี่จนเพลิน นึกขำท่าทางของมันจริงๆ  ความสงสัยของผมได้รับคำตอบแล้ว นังตาลมันปวดท้องฉี่นี่เอง ยังนึกชมว่ามันช่างเป็นหมาที่รักความสะอาด รู้ว่าที่ไหนควรฉี่และที่ไหนไม่ควรจะฉี่ ..

                                                     ********************************

    บ้านที่พักอาศัยของผมนั้นเป็นบ้านเช่า  สภาพบ้านเดี่ยวชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด  บริเวณที่ตั้งของบ้านเป็นที่ชุมชนมีบ้านเรือนปลูกสร้างอยู่หนาแน่นพอสมควรเพราะอยู่ในตัวเมืองคือเป็นเขตเทศบาลเมือง

    เรามาถึงบ้านเกือบมืดตามที่คาดการณ์ไว้ เพราะขับมาเรื่อยๆเหนื่อยก็แวะพักข้างทาง  เส้นทางสมัยนั้นถนนหนทางยังไม่มากมายหลายเลนเหมือนสมัยนี้  และเส้นทางส่วนมากยังเป็นแค่ถนนสองเลน รถสิบล้อก็มาก ต้องขับด้วยความระมัดระวัง

    บริเวณตรงหน้าบ้านมีพื้นที่  เป็นชานยื่นออกไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของตัวบ้านจึงมีหลังคากันแดดกันฝน ค้นหาลังไม้เก่าๆมา 1 ลังเอาผ้าที่ไม่ได้ใช้วางลงพื้นด้านล่าง  เพื่อให้ นังตาล ได้ที่นอนนุ่มๆ มันก็แสนรู้พอทำให้เสร็จ เจ้าหมานิสัยดีเดินลงไปนอนในลังทันที  นังตาลได้ที่พักที่เหมาะสมแล้ว

    ผมนั้นเป็นคนกินเหล้าครับ เวลาเมาๆเมียมักบ่นว่ากินทำไมเหล้าไม่เห็นอร่อยขมๆก็ขม  ผมก็จะพูดแถ กับเธอทุกครั้งว่า ใครๆเขาก็กินกันทั้งนั้น ถ้าเหล้าเป็นสิ่งไม่ดี ทำไมทางการถึงยอมให้มีการโฆษณาใหญ่โต  งานเลี้ยงต่างๆก็เห็นมีแต่เหล้าไ ม่ว่าไปไหนก็มีแต่คนกินเหล้า  ถ้าไม่กิน ซิ ! คงเป็นเรื่องแปลก ผมก็พูดแบบกวนน้ำให้ขุ่นๆ.. และทุกครั้งเธอจะทำหน้า เบ้ๆ แต่ก็เดินเข้าครัวไปจัดการทำกับแกล้มมาให้ผัวกิน ทุกครั้ง ..จะมีเมียต้องหาเมียแบบผมครับ....การกินเหล้าจึงจะคล่องคอ ไม่เหมือนบางคนกินเหล้าในบ้านไม่เป็นสุขเพราะได้กินกับแกล้มเป็นเสียงเมียด่า..จนสำลักเหล้าเกือบตายไปหลายคน..

    วันหนึ่งฤกษ์ยามงามดี พรรคพวกนัดมากินเหล้าสังสรรค์เฮฮาที่บ้านผม  เรื่องอย่างนี้มีเป็นประจำเพราะกินที่บ้านผมปลอดภัยไม่มีเสียงรบกวน   สิ่งแวดล้อมไม่เป็นพิษ    ไม่เหมือนบ้านคนอื่นๆ ..เราตั้งวงกันที่ชานหน้าบ้านนั่นแหละ โต๊ะเก้าอี้ไม่ต้องเอาสื่อปู นั่งกันเป็นวง

    การกินเหล้าของพวกขี้เหล้า เริ่มกินใหม่ๆก็คุยกันเรื่องงานเรื่องการ ดูเป็นหลักวิชาดีมีการถกเถียงเกี่ยวกับการงานบ้างพอเป็นพิธี  มีการพูดถึงเจ้านายบ้าง พูดถึงน้องผู้หญิงในที่ทำงานคนโน้นขาวคนนี้ดำ  คนนั้นอ้วนคนนี้ผอม  ก็ว่ากันไปเรื่อยตามภาษาคนมีปาก

    จนมาถึงยกสุดท้ายร้อยทั้งร้อยจะลงมาที่เมียของตัวเอง ใช่แล้วมันคือ มหกรรมนินทาเมียนั่นเอง สังเกตมาก็หลายครั้งหลายหนในทุกครั้งที่ตั้งวงดื่มสุรา ไม่เคยได้ยินใครชมเมียตัวเองเลย ทุกคนจะหาข้อบกพร่องของเมียมาประจานกันสนุกปาก ความลับต่างๆของเมียก็มาเปิดเผยกันตอนเมาโดยผัวตัวแสบ ผมละ สงสารคนที่เป็นเมีย จริง จริ๊ง!  ..คงจะนอนสะอึกโดยไม่รู้สาเหตุ เพราะผัวสุดที่รักเอาไปด่าในวงเหล้า..ฮิฮิ..

    จนได้เวลาอันสมควรแก่เหตุ ที่งานเลี้ยงจะเลิกรา คือจะกลับบ้านกันแล้ว  แต่เมียผมชอบพูดว่ายัดกันไม่ลงแล้ว คือเมากันจนปลิ้น พูดกันแทบไม่รู้เรื่อง ถึงจะได้แยกย้ายกันกลับบ้าน สมัยนั้นไม่มีตรวจจับคนกินเหล้าเหมือนสมัยนี้  พวกขี้เมารุ่นเก่าจึงขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านได้อย่างเสรี..

    ในการกินสังสรรค์ครั้งนี้เป็นวาระพิเศษ คือฉลองพรรคพวกที่ได้รับการพิจารณา ความดีความชอบเป็นพิเศษ จากเจ้านาย ตามภาษาชาวบ้านคือได้ สองขั้น กว่าจะเลิกจึงดึกกว่าทุกครั้ง เมียผมทนรอเก็บกวาดทำความสะอาดไม่ไหว จึงแอบไปนอนก่อน  ส่วนผมก็เมาจนเดินแทบไม่ไหว จานชามและเศษอาหารที่เหลือก็เลยปล่อยไว้ที่วงเหล้า คิดว่ามาเก็บตอนเช้าคงไม่เป็นไร

    ตอนเช้าตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงเมียกำลังเก็บจานชามและเศษอาหารอยู่ที่ชานหน้าบ้าน พอเดินออกไปเธอหันมาพูดกับผมด้วยความตื่นเต้นว่า พวกจานชามต่างๆและเศษอาหารไม่มีร่องรอยการรื้อค้น    คือหมายความว่า นังตาลซึ่งนอนอยู่ใกล้ๆ ไม่มาแตะต้องเศษอาหารในจานเลย ทั้งที่เศษอาหารเหล่านั้นมีทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ ซึ่งเป็นอาหารจานโปรดของมัน ผมถึงกับอึ้งในความเป็น สุนัขผู้ดีของนังตาล  มันคงไม่ใช่หมาธรรมดา ผมคิดไปไกล..  

    หลายเดือนต่อมาก็ตามธรรมชาติของหมา   นังตาลคงเป็นสาวเต็มตัว เดือน 12 หน้าหมาติดสัด มีหมาหนุ่มๆหลายตัวมาร้องมาหอนและกัดกัน เป็นที่อึกทึกอยู่ที่หน้าบ้าน พวกมันคงจะมาเปิดบริสุทธิ์กับหมาของผม  ทั้งที่ตรงหน้าบ้านผมก็มีหมาตัวเมียเหมือนกัน เห็นยืนๆอยู่แต่ไม่เห็นมีหมาตัวผู้ไปสนใจ หมามันคงรู้ว่าตัวไหนสวยหรือไม่สวย ไม่แตกต่างไปจากความรู้สึกของคน  ผมคิดว่างั้น ..

    อีกไม่นานนังตาลก็ตั้งท้องเพราะไม่ได้คุมกำเนิด  ไม่รู้ท้องกับตัวไหนเพราะมันมากันเป็นฝูง แต่ก็ช่างมันเพราะลูกหมามันไม่ต้องการมีพ่ออยู่แล้ว   ท้องเริ่มใหญ่ขึ้นทุกวัน เราสองคนผัวเมียคิดกันว่าจะให้นังตาลคลอดลูกที่ไหนดี มองดูทำเลแล้วคงไม่มีที่ไหนเหมาะสมเท่าที่มันเคยนอนอยู่ที่เดิม  เพียงแต่เราจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นบางอย่าง ไปเพิ่มเติมให้..

    แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 52 13:36:04

    แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 52 23:51:59

     
     

    จากคุณ : สวนดอก - [ 16 พ.ค. 52 20:09:44 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com