1.
ฟ้ามืดมานานแล้ว หากการฝึกซ้อมของชมรมฟันดาบเพิ่งจะสิ้นสุดลง นักศึกษาปัจจุบันไหว้ขอบคุณอาจารย์ผู้สอนและพี่ศิษย์เก่าที่มาเป็นคู่ซ้อมให้ ช่วยกันเก็บอุปกรณ์ของชมรมและของส่วนตัว ก่อนแยกย้ายกันไปกินอาหารค่ำ พักผ่อน หรือกลับที่พัก
ผู้ชายชมรมนี้ส่วนใหญ่เป็นเหมือนปลาสลิดบางบ่อนั่นแหละค่ะ... ต้องตัดหัวออกก่อนถึงจะดูน่ากิน ชลทิชาซึ่งยืนเท้าเอวอยู่ด้านหน้าลานจอดรถหน้าสนามซ้อมของชมรมฟันดาบสากลออกปาก ขณะมองสมาชิกชายที่เริ่มถอดเสื้อใส่ซ้อมโชกเหงื่อออกพาดบ่าเดินไปมาอยู่ในพื้นที่ของชมรม มีอยู่ไม่กี่คนหรอก ที่จัดอยู่ในประเภทปลาแซลมอน... ราคาแพง ก้างน้อย เนื้อเยอะ กินได้ทั้งตัว แถมเอาหัวไปต้มซีอิ๊วได้อร่อยอีกต่างหาก
ที่พูดแบบนี้ได้ เพราะเธอเองก็เป็นอดีตสมาชิกชมรมคนหนึ่งที่กลับมาช่วยงานของชมรมบ่อย ๆ ในช่วงว่างหลังเลิกงานด้วยหลังจากจบการศึกษาแล้วเธอก็ได้งานทำในจังหวัดที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ แต่วันนี้ มีเหตุให้เธอไม่สามารถมาช่วยสอนเทคนิคพื้นฐานในการฟันดาบสากลให้รุ่นน้องได้เช่นทุกวัน และต้นเหตุดังกล่าวก็กำลังยืนขนาบข้างเธออยู่ถึงสองคน
แพมาลา บรรณารักษ์สาวท่าทางกระวนกระวายที่อยู่ทางขวามือของเธอในยามนี้เป็นคนโทรศัพท์มาหาเมื่อเที่ยงที่ผ่านมา นอกจากรุ่นพี่ที่เคยทำงานสภานักเรียนด้วยกันมาจะทำให้เธอต้องประหลาดใจด้วยการถามหาเพื่อนสนิทของเธอ พร้อมขอให้เธอพาพบไปเขาทั้งที่รู้จักเจ้าตัวเพียงแค่ชื่อแล้ว คนปลายสายยังทำให้เธอนิ่งอึ้งด้วยความสนเท่ห์หนักยิ่งกว่าเดิมโดยยืนยันอย่างมั่นใจว่ามี เขา เท่านั้นที่ช่วยแก้ปัญหา สำคัญมาก เรื่องนี้ได้
ยามนั้น ทนายความสาวได้แต่เงียบฟังเรื่องราวด้วยความหนักใจ ไม่ใช่เพราะเกรงจะขอร้องให้เขาช่วยไม่ได้ เนื่องจากเธอรู้พื้นนิสัยเขาดีว่าเป็นคนมีน้ำใจ แต่เธอรู้สึกว่าเรื่องที่อีกฝ่ายเล่าออกจะ พิลึก จนนึกไม่ออกว่าเขาจะทำสีหน้าอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทว่าอาการร้อนรนผิดวิสัยคนใจเย็นของอีกฝ่ายทำให้เธอใจอ่อนรับปากว่าจะพยายามช่วย และอาสาไปรับอีกฝ่ายกับน้องสาวซึ่งจะมาถึงเชียงใหม่ในเวลาห้าโมงเย็นที่สนามบิน แล้วพามาพบเขาที่มหาวิทยาลัยด้วย
หากยามนี้ ท่าทีของมิ่งมาลี สไตล์ลิสต์ประจำนิตยสารหัวนอก น้องสาวฝาแฝดของแพมาลาซึ่งดูจะไม่อนาทรร้อนใจอะไรไปกับแฝดพี่เลย ซ้ำดูเพลิดเพลินกับการมองนักกีฬาฟันดาบทั้งหลายหลังเลิกซ้อมเสียอีก และยังเป็นคนถามความเห็นเกี่ยวกับหนุ่ม ๆ ในชมรมฟันดาบให้เธอตอบอยู่เมื่อครู่นี้ด้วย ทำให้เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเจ้าตัวมีส่วนได้ส่วนเสียกับ เรื่องสำคัญ ที่พี่สาวฝาแฝดว่ามาจริงหรือไม่
แต่จะว่าไปพี่น้องสองสาวที่หน้าถอดพิมพ์เดียวกันมาคู่นี้ก็เป็นฝาแฝดที่นิสัยต่างกันคนละขั้วมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ด้วยในขณะที่ฝ่ายพี่อ่อนหวาน เรียบร้อย ขี้อาย ไม่ค่อยพูด และสนิทกับคนอื่นยากอยู่สักหน่อย ฝ่ายน้องกลับเป็นคนร่าเริง ช่างคุย เข้ากับคนง่าย เฮไหนเฮนั่น และปากกล้า ไม่กลัวใครหน้าไหน คนที่เธอพอจะเกรงใจอยู่บ้างก็มีแต่พี่สาวที่เกิดก่อนไม่กี่นาทีของตนเองคนเดียวเท่านั้น
ดูท่าเธอจะยอมตามอีกฝ่ายมาอย่างเสียไม่ได้มากกว่าจะสนใจเรื่องดังกล่าวจริง ๆ กระมัง
พี่คิดว่าพี่เจอแซลมอนแล้วนะ แต่ยังเห็นหน้าไม่ชัด มิ่งมาลีเอ่ย พร้อมสะกิดเรียกชลทิชาโดยไม่ละสายตาจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังนั่งเก็บดาบสำหรับซ้อมใส่กระเป๋าอยู่ข้างบันไดทางขึ้นของอาคารที่ทำการสโมสรนักศึกษา ชักอยากรู้แล้วสิว่าเพื่อนทิชาคนนั้นเป็นแบบไหน... ปลาสลิดบางบ่อ หรือ ปลาแซลมอน
คนฟังได้ยินแล้วก็ได้แต่กลอกตา พี่มิ้งค์ดูแล้วตัดสินใจเอาเองดีกว่าค่ะ
ครั้นเธอขานชื่อเพื่อนออกมา นักกีฬาฟันดาบคนที่ตกเป็นเป้าการเฝ้ามองของรุ่นพี่เธอก็เงยหน้าขึ้นมาตอบรับและลุกขึ้นจะเข้าไปทักตามเสียงเรียก แต่ทันทีที่สังเกตเห็นว่า เธอมากับหญิงสาวอีกสองคน เขาก็รีบคว้าเสื้อยืดที่ถอดพาดไว้บนม้ายาวมาสวมกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนเดินเข้ามาหาพร้อมยิ้มเจื่อน ๆ ให้ผู้มาใหม่ โดยเฉพาะกับแพมาลาที่ยืนหน้าแดงอยู่ตรงหน้า
ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าทิชามีเพื่อนมาด้วย เลยเสียมารยาทไปหน่อย
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ต้องขอโทษเหมือนกันที่ต้องมารบกวนทั้งที่ไม่ได้นัดเอาไว้ บรรณารักษ์สาวแย้งด้วยความเกรงใจ ในขณะที่ฝาแฝดของเธอไหวไหล่น้อย ๆ เหมือนขันกับอาการของพี่สาว
ไม่นึกเลยว่าเพื่อนของทิชาจะน่ารักขนาดนี้ พี่เห็นตอนแรกยังนึกว่าเป็นเด็กมหาวิทยาลัยซะอีก มิ่งมาลีบอกพลางยิ้มหวานให้เขา และเป็นยิ้มชนิดที่ฝ่ายเขาซึ่งเป็นผู้ชายแท้ ๆ ถึงกับเขินจนต้องเอามือสะกิดแขนเพื่อนสนิทเพื่อขอความช่วยเหลือ
ณต... นี่พี่แพมกับพี่มิ้งค์ เป็นรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยมของฉันเองแหละ ทนายความสาวแก้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการแนะนำแต่ละฝ่ายให้ได้รู้จักกัน ส่วนนี่ก็ผู้หมวดประณต เพื่อนทิชา ที่พี่แพมกับพี่มิ้งค์อยากเจอตัวไงคะ
ประโยคสุดท้ายนั้นทำให้นายตำรวจหนุ่มเลิกคิ้วน้อย ๆ เป็นเชิงถาม และขอให้เธอขยายความเพิ่ม
พี่เขาอยากขอความช่วยเหลือจากนายน่ะ เธอบอก แต่เรื่องมันยาว นายไปอาบน้ำ แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังระหว่างนายกินข้าวเย็น เพราะพวกฉันอิ่มกันมาแล้วละ
แม้ยังไม่คลายสงสัย แต่เขาก็พยักหน้ารับง่าย ๆ โดยไม่ซักถามอะไรต่อ ก่อนหันไปเสนอความเห็นกับหญิงสาวที่เพิ่งพบหน้าครั้งแรก ถ้าคุณแพมกับคุณมิ้งค์ไม่ว่า ผมขอเวลาครึ่งชั่วโมงสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้ากับทานข้าว แล้วไปพบกันที่ไหนสักที่ เพราะคงไม่เหมาะเท่าไหร่ถ้าผมทานอาหารอยู่คนเดียวในขณะที่เราคุยธุระกัน
ข้อเสนอดังกล่าวทำให้เกิดรอยยิ้มนิดหนึ่งผุดขึ้นที่มุมปากของมิ่งมาลี ขณะที่เงยหน้าขึ้นสบตาเจ้าของร่างสูงตรงหน้า พี่นึกว่าตำรวจชอบให้คนอื่นเลี้ยงซะอีก
แล้วคนธรรมดาไม่ชอบให้มีคนเลี้ยงข้าวเหรอครับ ประณตย้อนยิ้ม ๆ กับคำถามคล้ายหาเรื่องของอีกฝ่าย แต่อยู่ดี ๆ จะให้คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลี้ยงมันก็ยังไง ๆ อยู่...
มิ้งค์... พูดแบบนี้ได้ยังไง เรามาขอให้เขาช่วยนะ แพมาลากระตุกมือน้องสาว เน้นชื่ออีกฝ่ายหนัก ๆ เป็นการปราม สีหน้าที่บอกชัดว่ากำลังเคืองอยู่จริง ๆ ของเธอทำให้คนถูกเตือนจำต้องเงียบไปโดยปริยาย
พี่ขอโทษแทนมิ้งค์ด้วยนะคะ เขาเป็นคนแบบนี้เองแหละ เธอบอกเสียงอ่อยเหมือนเกรงว่าเขาจะโกรธจนไม่อยากพูดด้วยอีก แม้จะเห็นอยู่แล้วว่าเขาไม่มีทีท่าขุ่นข้องใจแต่อย่างใด ถ้าผู้หมวดสะดวกอย่างนั้น ก็เอาตามที่ผู้หมวดว่าก็ได้ค่ะ แต่พี่ไม่ค่อยได้มาเชียงใหม่ เลยไม่ค่อยรู้ว่าจะมีที่ไหนพอให้เราคุยกันแบบเป็นส่วนตัวสักหน่อยได้ เพราะพี่มีเอกสารบางอย่างอยากให้ทิชากับผู้หมวดช่วยดูด้วย
ชายหนุ่มทำเสียงอืมในลำคออย่างครุ่นคิดก่อนหันมาขอข้อสรุปจากเพื่อนร่วมชมรมในฐานะคนกลาง เธอว่าไง ฉันว่าตามนั้น
ช่วงนี้น้องอ๋อง รูมเมทนายไม่อยู่ นายอยู่คนเดียว ห้องนายกว้างกว่า นั่งสบายกว่าห้องฉันเยอะ จะหยิบจะค้นอะไรก็สะดวกกว่าด้วย เอาห้องนายก็แล้วกัน ทนายความสาวว่าหลังจากนิ่งนึกอยู่พักใหญ่ ซึ่งทั้งฝ่ายผู้มาเยือนและเจ้าของห้องต่างก็ไม่มีข้อขัดข้องอย่างใด
งั้นอีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่ห้องผมนะครับ นายตำรวจหนุ่มสรุป ถึงแล้ว ทิชาโทรบอกหน่อยก็แล้วกัน
ทันทีที่ลับหลังประณตซึ่งขอตัวไปเก็บของและเปลี่ยนเสื้อผ้าไปแล้ว สไตลิสต์สาวก็หันมายิ้มอย่างมีเลศนัยให้อดีตรุ่นน้องโรงเรียน พี่ว่าเพื่อนทิชาไม่ใช่แค่แซลมอนหรอก แต่เป็นปลาหิมะเชียวละ แค่ได้เห็นเนื้อขาว ๆ อย่างเดียว ยังไม่ต้องเอาไปทำอะไร ก็น่ากินจะแย่แล้ว
คำพูดดังกล่าวทำให้ชลทิชาหัวเราะแหะ... จะว่าจริงก็จริง แล้วนี่ก็ถือเป็นคำชมจากคนที่ทำงานในแวดวงที่เชื่อสายตาได้เสียด้วย แต่เธอกลับแอบโล่งอกที่เพื่อนสนิทไม่ได้ยิน เพราะขืนได้ยินเข้า เขาคงหน้าแดงไปถึงหู แล้วก็พูดอะไรไม่ออกไปไปจนกว่าจะถึงเวลาได้คุยธุระอย่างจริงจังแน่ ๆ
แหม เว้ย ทิชาหรอกเรอะ ตัดผมใหม่แล้วสวยขึ้นเยอะนี่หว่า ... พี่เกือบตามไปด่าไอ้ณตมันอยู่เชียวว่า หาแฟนได้แล้วทำเป็นหวงไม่พามาให้พี่เชื้อรู้จักกันบ้าง ที่ไหนได้กลายเป็นคนกับเองไปซะนี่
เสียงของใครคนหนึ่งที่แว่วมาจากหน้าประตูห้องเก็บอุปกรณ์ทำให้ทนายความสาวต้องหันไปหา อุทานชื่อของเขาออกมา และเกือบจะวิ่งเข้าไปพบอยู่แล้วด้วยความดีใจ เพราะค่าที่ไม่ได้พบหน้าอีกฝ่ายมาพักใหญ่ หากไม่นึกขึ้นมาได้เสียก่อนว่า ตนเองมี แขก มาด้วยอีกสองคน
ทิชาไปคุยกับเขาสิ ไม่ต้องเกรงใจพวกพี่หรอก มิ่งมาลีเอ่ยขึ้นราวกับอ่านใจเธอออก พร้อมสะกิดแพมาลาซึ่งคล้ายกำลังจมอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองอยู่ให้ยืนยันตามนี้ด้วย และทำให้ฝ่ายหลังถึงกับสะดุ้ง หากเมื่อตั้งสติได้ก็พยักหน้าสนับสนุนคำของอีกฝ่ายโดยดี
ถึงจะไม่สบายใจอยู่ลึก ๆ อย่างบอกไม่ถูก หากที่สุดแล้ว เมื่อหาสาเหตุไม่ได้และอาจเป็นเพราะเธอคิดมากไปเอง ชลทิชาก็ตัดสินใจขอตัวจากสองพี่น้องชั่วครู่ ทิชาขอไปคุยกับพี่เต้นแป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวกลับมา
สไตลิสต์สาวยืนยิ้มมองรุ่นน้องซึ่งผละไปพบพี่ศิษย์เก่าของชมรมอยู่ครู่หนึ่งจึงหันไปมองบรรณารักษ์สาว เอื้อมมือไปดึงอีกฝ่ายเข้ามาชิดตัว และบีบมือที่เย็นเฉียบของแฝดพี่หนัก ๆ ครั้งหนึ่ง
เราเป็นพี่น้องกัน เกิดวัน เดือน ปีเดียวกัน ทำไมมิ้งค์จะไม่รู้ว่าแพมคิดอะไร
แพมาลาหันหน้ามามองแฝดน้อง และสิ่งที่เธอได้รับจากฝ่ายหลัง คือ สายตาเยือกเย็นผิดจากรอยยิ้มที่ระบายอยู่บนใบหน้า ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะเอียงศีรษะเข้ามากระซิบข้างหูแผ่วเบา
มิ้งค์ชักเริ่มเชื่อที่แพมพูดแล้วละว่า ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ขึ้นอยู่กับเขาคนเดียวจริง ๆ ... ถ้ายังไง แพมเตรียมใจเอาไว้ด้วยก็แล้วกัน
(มีต่อนะคะ)
จากคุณ :
ปิยะรักษ์
- [
23 พ.ค. 52 03:19:00
]