ในชีวิตของเรา
มีกี่สิบคนกี่ร้อยคน ที่เราหลงลืมไป ทีละเล็กละน้อย จนแทบไม่เหลือเลยบ้างรึเปล่า
จริงๆมนุษย์ทุกคน มีความทรงจำที่เก็บไว้ลึกๆ ลึกจนฝังในมองไม่เห็นมัน
จนคิดว่า มันไม่มีตัวตน
แต่จริงๆ มันอาศัยอยู่ภายในความทรงจำส่วนใดส่วนหนึ่งของเรานี่แหละ
อยู่ที่ว่า จะมีอะไรมาพุ่งชนความนึกคิดของเรา ให้เราได้หวนคิดอีกครั้ง
ผมก็มี คุณก็มี
ตอนนี้ ณ ปัจจุบันนี้ ผมเป็นครูสอนศิลปะโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งแถบริมๆกรุงเทพ
ชีวิตครูของผม มันไม่ราบเรียบอย่างที่คิดหรอก
การที่จะเป็นครู มันไม่ได้เป็นกันง่ายๆ ต้องใช้ใจ ...เป็นอย่างมาก
แต่ผมก็พอที่จะผ่านมามันมาได้
ทำให้ชีวิตประจำวันของผม วันๆหนึ่งหมดไปอย่างรวดเร็ว จนผมหลงลืมอะไรไปหลายอย่าง
ลืมครอบครัว ลืมคนรัก ลืมเพื่อนๆไปบ้าง
ในวันหนึ่ง
หลังเลิกเรียนในวันอังคาร ตอนเย็นๆ
ผมยังคงอยู่ที่โรงเรียน ทำงานเอกสารเล็กๆน้อยๆไป
เลยถือโอกาสเข้าเนท เชกเมล ดูเวบนั้นเวบนี่ไปเรื่อย
ผมเจอเมลฉบับหนึ่ง
ทั้งชื่ออีเมล ชื่อหัวข้อ
ชื่อที่คุ้นเคย
ผมยิ้มมุมปากนิดๆ คลิกเปิดอ่าน
เป็นยังไงบ้าง สบายดีรึเปล่า ไม่ได้เจอกันนาน ทำอะไรอยู่ หวังว่าคงได้คุยกันบ้างนะ
.จาก เตย
น้องเตยนี่นา
แฟนสมัยเด็กของผมนี่
ผมไม่ได้เจอเธอมานาน ราวๆ 5-6 ปีได้ นับตั้งแต่เธอไปเรียนต่อที่เชียงราย ผมไม่ค่อยได้ข่าวเธอเท่าไร เพราะเธอไม่ค่อยเป็นจุดสนใจของชาวบ้าน ค่ายตำรวจ
ใช่แล้ว ผมอาศัยอยู่ในค่ายตำรวจ
บ้านผมและบ้านเธอ เป็นห้องแถว บ้านพักข้าราชการ พ่อผมและพ่อเธอเป็นตำรวจทั้งคู่
เรารู้จักกันมาตั้งแต่อายุ 7-8 ปี
เตย
ผมรู้จักเธอบ้าง เพราะเธอค่อนข้างซนพอควร ชอบเล่นซนกับเพื่อนข้างบ้านที่ทโมนๆทั้งนั้น แต่จุดเด่นของเตยคือ เธอผิวขาว ร่าเริง หัวเราะง่าย ผู้ชายเล่นอะไรเธอเล่นหมด
ส่วนผม ตอนนั้นก็ถือว่าเป็นเด็กโตแล้ว จวนจะ 10 ปีอยู่แล้ว ผมเลยไม่ค่อยไปสุงสิงกับกลุ่มของเธอนัก
มีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่ผมจำได้ดี
ช่วงบ่ายแก่ๆในวันหยุดปิดภาคเรียน
แถวแทงค์น้ำริมห้องแถวหลังตรงข้ามกับบ้านผม เป็นบ้านของลุงตำรวจคนหนึ่ง ซึ่งแกดุมาก และเป็นที่เกรงกลัวของเด็กๆ แถมแกก็ชอบที่จะขู่เด็กๆซะด้วย
กลุ่มของเธอไปเล่นพิเรนร์อะไรไม่รู้
ผมสังเกตตั้งแต่ตอนเห็นเธอเดินย่องๆแอบเข้าไปกับเพื่อนแล้ว
สักพักก็วิ่งแตกกระเจิงกันคนละทิศละทาง
สงสัยเจอลุงยักษ์ออกมาเอ็ดตะโรเช่นเคย
แต่ภาพเหตุการณ์ฉายซ้ำก็เกิดขึ้นได้แทบทุกวัน
เด็กอะไร......ไม่รู้จักเข็ด
ช่วงเย็นๆราวๆเกือบ 6 โมงเย็น
ผมขี่จักรยานผ่านสนามเด็กเล่นซึ่งไกลจากบ้านเหมือนกัน ผิวปากอารมณ์ดี สบายๆ
ก็เห็นน้องเตยแล้ว เธอคงกำลังเดินกลับบ้าน หลังจากเล่นสนามเด็กเล่นเสร็จละมั้ง
ผมมองเธอจากข้างหลัง
ลักษณะของเธอตลกดี หัวฟูๆยุ่งๆ
กำลังคิดว่า รับไปด้วยดีรึเปล่านา
.......................ขณะที่กำลังคิด
เธอหันหน้ามาเห็นผมพอดี
ตั้มใหญ่..........ไปด้วย
ผมหน้าเหวอ
เบรคแทบไม่ทัน
ผมจอดรับเธอ ไม่รู้จะพูดอะไรดี ซ้อนเธอมาซะแล้ว
เธอก็คงงๆ ว่าทำไมเธอถึงกล้า
เพราะเด็กๆขนาดเรา ถ้าใครเห็นลักษณะเช่นนี้ ไม่ว่าจะซ้อนจักรยาน เดินคู่กัน 2 ต่อสอง เป็นโดนล้อว่าเป็นแฟนกันแน่ๆ
เป็นอย่างที่คาดคิด
เสียงเด็กๆเพื่อนพ้อง ทั้งรู้จัก ไม่รู้จัก ส่งเสียงแซว
เป็นแฟนกันๆๆๆๆ กิ๊วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เตยนั่งเงียบ ผมก็เงียบ เราอายกันทั้งคู่
พอถึงบ้าน ส่งเธอลง เธอรีบลงวิ่งหายไปในบ้าน คงอาย
ผมยิ้มนิดๆ ยังไงๆดื้อซนขนาดไหน เธอก็เป็นเด็กผู้หญิง
ผมไม่เคยลืมเหตุการณ์วันนี้ได้จริงๆ จนจะอายุ 27-28 ปีแล้วก็ตาม
และก็ยังทึ่งในความกล้าบ้าบิ่นของเธอ จะเรียกว่าติดใจก็ไม่เชิงหรอกนะ
เวลาเราเจอหน้ากันที เธอจะมีปฏิกิริยาทันที เธอจะหลบหน้าหลบตาผมเสมอ คงจะอายผม
ทำให้พอผมขึ้น ม.1 ผมก็จีบเธอในวัย ป.4
อาจจะฟังดูแก่แดด แต่เราทุกคนล้วนมีประสบการณ์รักครั้งแรกช่วงเวลานี้ไม่ใช่เหรอ
จากคุณ :
คุโระโกะ
- [
26 พ.ค. 52 15:36:13
]