Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    # Until I die # หมอครับ...ผมรักคุณ : ตอน 1 - 2 มาต่อแล้วค่ะ (^-^')

    # Until I die # หมอครับ...ผมรักคุณ : ตอน 1 - 2 มาต่อแล้วค่ะ (^-^')

    1 ยอมแพ้-1

    “เสร็จแล้วล่ะ” เสียงยัยหมอจอมโหดดังขึ้น ผมถึงได้ลืมตามองรอบตัว ความเจ็บปวดมันหายไปเมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ผมกลัวจนเหงื่อท่วมตัว  ภาพแรกที่เห็นเมื่อลืมตาคือมือของยัยนี่จับมือผมเสียแน่น ผมเหลือบมองเจ้าของเสียงเมื่อครู่ สายตาเธอไม่ได้มองมาที่ผมแต่ยังคงตั้งอกตั้งใจสังเกตการณ์หมอพิมพ์ไม่วางตา ผมละสายตาจากเธอมาหยุดอยู่ที่มือเธออีกครั้ง.....



    เมื่อเช้ายัยโหดขึ้นมาที่วอร์ดแต่เช้า ตื่นนอนมาผมก็เห็นเธอเดินไปมาทั่ววอร์ด เช็คโน่นเช็คนี่อย่างทุกวันมาตลอดสองสัปดาห์ที่ผมมานอนอยู่ที่นี่  ผมมองกระโปรงสีสดใสของเธอพลิ้วไหวตามจังหวะก้าวเดิน เธอเหลือบมามองผมแวบหนึ่ง ผมรีบหลับตาลงเพื่อ...เออ เพื่ออะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ผมไม่อยากให้เธอเห็นว่าผมมองตามเธอ จนกระทั่งเธอมาหยุดที่เตียงของผมเพื่อแจ้งว่าวันนี้หมอพิมพ์จะใส่ท่อระบายเลือดออกจากปอดด้านขวาให้ผมนั่นแหละ ผมถึงได้ลืมตาขึ้นมาสบตาเธอ
    “จะทำอะไรก็ทำเหอะ อยากกลับบ้าน”
    “รู้แล้วน่าว่านายอยากกลับ ฉันเองก็อยากให้นายกลับบ้านเร็วๆเหมือนกัน ”
    ผมนิ่งไปนิด
    “เป็นห่วงฉันเหรอ” ไม่รู้ทำไมจู่ๆผมถึงอยากจะรู้ขึ้นมา
    “เหอะ ฉันอยากให้คนไข้ทุกคนกลับบ้าน งานฉันจะได้ไม่หนักต่างหากย่ะ” เธอตอบในขณะที่ก้มลงจดข้อมูลยิกๆอยู่ที่โต๊ะปลายเตียง
    “...” ...เชอะ ยัยบ้า
    เธอเงยหน้าขึ้นมองผม แววตาเจ้าเล่ห์  “งอนเหรอ?”
    “...” ...รู้สึกว่าหน้าจะร้อนขึ้นมาอีกแล้ว

    นี่ผมเป็นบ้าอะไรเนี่ย ทำไมคนอย่างผมถึงได้แพ้ทางยัยจอมโหดนี่อยู่เรื่อย......ถึงเวลาที่ผมจะเอาคืนบ้าง ให้ยัยนี่ได้รู้สำนึกว่าผมน่ะไม่ใช่คนที่จะยอมให้เธอปั่นหัวง่ายๆ ...เหอะ




    ....ผมละสายตาจากมือที่เกาะกุมกันอยู่ขึ้นมามองหน้าเธออีกครั้ง
    “เธอแอบแต๊ะอั๋งฉันเหรอ ยัยหมอโหด”  ผมเริ่มแผนการ
    “อยากจับมือฉันขนาดนั้นขอกันตรงๆก็ได้นะ”...เธอเสร็จแน่ ฮ่าๆ
    ดูเธอสิ หันมาทำหน้าโหดใส่ผมทันทีอย่างที่ผมคิดไว้ เพียงแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยจนกระทั่งหมอพิมพ์เก็บเครื่องไม้เครื่องมือเดินจากไปนั่นแหละ เสียงเธอก็ระเบิดออกมา
    “ปากเหรอที่พูด...ห๊า  คนอุตส่าห์หวังดี”
    เธอเริ่มปฏิบัติการโหดโดยการเอามือบีบจมูกผมซะแน่น

    “อ๊าก..ก ยัยบ้า จะฆ่าฉันหรือไง!” ผมโวยวายทันทีที่ปลดมือเธอออกจากจมูกของตัวเองได้

    “คิดว่านายเป็นฮีโมฟิเลียแล้วจะไม่มีใครกล้าทำอะไรนายงั้นเหรอ ฝันไปเถอะย่ะ เด็กมีปัญหาปากเสียเอาแต่ใจตัวเองอย่างนายมันต้องเจออย่างนี้แหละ”

    ยัยโหดยิ้มกริ่มภาคภูมิใจที่รังแกผมได้โดยไม่มีหลักฐานมัดตัว ก็อย่างที่เธอว่า ถ้าเธอเตะต่อยหรือทุบตีผมสักนิด ผมก็จะมีหลักฐานชั้นดีเป็นจ้ำเลือดเขียวช้ำเอาไปฟ้องหมอพิมพ์ได้ แต่ตั้งแต่เจอยัยนี่ เธอเป็นคนแรกที่ใช้วิธีเจ้าเล่ห์นี้ ก็แน่ล่ะ เธอมันไม่ใช่คนธรรมดา...แต่เป็นยัยปีศาจในคราบหมอสาว แถมสวยหุ่นดีอย่างนางแบบ ผิวเข้มสีน้ำผึ้ง ตาโตคมเข้มและใจดีกับคนไข้ทุกคนของเธอ...เอ่อ...ยกเว้นผมล่ะนะ  แล้วอย่างนี้ใครล่ะจะไปเชื่อถ้าผมบอกว่าถูกนางฟ้าประจำหอผู้ป่วยอย่างเธอรังแก

    คิดแล้วก็เจ็บใจ

    “อย่าอ้างโน่นอ้างนี่หน่อยเลย  เขินล่ะสิ” ผมยังคงดำเนินตามแผนการที่วางไว้ในใจ งานนี้ผมไม่ยอมแพ้อีกแน่
    ยัยหมอโหดหันมาจ้องหน้าผมด้วยความโกรธแค้นครู่หนึ่งก็เปลี่ยนเป็นแสยะยิ้มหวาน
    “ก็เห็นนายกลัวจนตัวสั่นงกๆงี้เลยไง ฉันเป็นคนใจบุญ เลยต้องยื่นมีเข้ามาช่วยเหลือน่ะ” ว่าพร้อมกับทำท่าทาง ‘สั่นงกๆ’ ประกอบ

    “ใครกลัว?”

    “ก็ใครล่ะที่จับมือฉันซะแน่นก่อนน่ะ แถมบีบเสียจนกระดูกแทบแตก” เธอว่าพร้อมยกมือที่จับมือผมชูขึ้นเป็นหลักฐาน

    พลาดท่าเธอจนได้!
    ...ผมรีบดึงมือออก ทำไมจู่ๆก็รู้สึกตัวร้อนๆนะ แล้วยัยนี่มองหน้าผมแล้วก็ทำหน้าแปลกๆอีกด้วย

    “มองอะไรยัยโหด?”

    “ทำไมหน้าแดงล่ะ หรือว่ามีไข้อีก” ว่าแล้วก็โน้มตัวลงมาเสียใกล้ เอาหลังมือข้างหนึ่งแตะหน้าผากผม มืออีกข้างแตะหน้าผากตัวเอง ผมได้กลิ่นแชมพูจากผมยาวๆดัดเป็นลอนของเธอด้วย...กลิ่นเดิมเหมือนทุกวัน ผมเริ่มรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเธอไล้มือลงมาที่ข้างแก้ม

    “ตัวก็ไม่ร้อนนะ
    หรือนายเขินที่จับมือฉันเหรอ”

    “ไม่มีทาง!”  
    ได้ยินตัวเองตะโกนเสียงดังมาก ผมปัดมือเธอออก เสมองไปทางอื่น

    “ฮ่าๆ นายเขินนั่นแหละ ดูสิ แดงไปถึงหูแล้ว” เธอทิ้งท้ายก่อนเดินจากไป
    “ยัยปีศาจ!”

    ...ผมแพ้

    ----------------------------------------------------------------------------

    2 ยอมแพ้-2

    ฉันเคยเจอผู้ป่วยโรคฮีโมฟิเลีย**มาบ่อยตลอดสามปีที่เรียนชั้นคลินิก ผู้ป่วยโรคนี้มักจะมาโรงพยาบาลบ่อยมากด้วยเรื่องอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆแต่จะมีอาการมากกว่าคนทั่วไป เพราะในเลือดของพวกเขามีสารที่จะช่วยให้เลือดแข็งตัวที่เรียกว่าแฟคเตอร์แปด (Factor VIII) อยู่ในระดับที่น้อยกว่าคนทั่วไปหรือบางคนก็ไม่มีแฟคเตอร์นี้อยู่เลย  หกล้มนิดหน่อยก็มีเลือดออกเอาง่ายๆ หรือหากมีบาดแผลเลือดจะหยุดยาก ต้องรักษาด้วยการให้ส่วนประกอบของเลือดที่มีแฟคเตอร์ที่ขาดอยู่บ่อยๆ

    นายตินห์ก็เป็นคนไข้ฮีโมฟิเลียคนหนึ่ง ฉันเจอเขาครั้งแรกเมื่อสามสัปดาห์ก่อน ครั้งนั้นนายนั่นโดนรุมกระทืบ...เอ๊ย โดนทำร้ายจนมีเลือดออกในข้อไหล่ และด้วยโรคประจำตัวที่ไม่เหมือนคนอื่นทำให้ต้องนอนโรงพยาบาลนานถึงสามสัปดาห์เต็ม  นี่เพิ่งจะได้กลับบ้านไปเมื่อไม่กี่วันก่อนก็มีเรื่องมีราวให้ต้องเจ็บตัวกลับมานอนโรงพยาบาลอีกหน ไม่รู้นายนั่นไปสร้างศัตรูไว้มากมายขนาดไหนถึงได้มีเรื่องเจ็บตัวกันทุกเดือน

    ครั้งนี้ท่าทางอาการหนัก หมอที่แผนกฉุกเฉินบอกว่าแรกรับหอบเหนื่อยมากเกือบจะต้องใส่ท่อช่วยหายใจเพราะมีภาวะเลือดคั่งในช่องเยื่อหุ้มปอดปริมาณมาก ดีที่ทำการใส่ท่อระบายเลือดออกได้เร็วทำให้อาการค่อยๆดีขึ้นจนเอาสายระบายออกได้เมื่อวาน คิดว่าจะได้กลับบ้านแล้วเชียว เมื่อคืนกลับอาการแย่ลง เหนื่อยมากขึ้นเวลานอน เมื่อส่งเอ็กซเรย์จึงรู้ว่าน่าจะมีเลือดออกในเยื่อหุ้มปอดอีกครั้งหนึ่งทำให้เหนื่อยมากขึ้น วันนี้พี่พิมพ์จึงแพลนจะใส่ท่อระบายอีกครั้งเพื่อระบายเลือดออกจนหมด

    ฉันจัดการงานอื่นๆเรียบร้อยแล้วจึงเดินมาบอกนายปากเสียให้เตรียมตัวเตรียมใจสักหน่อย

    “เมื่อคืนที่นายเหนื่อยขึ้นน่ะ ฉันกับพี่พิมพ์ดูฟิล์มแล้วคิดว่ายังมีเลือดออกในช่องปอด คิดว่าอาจเป็นเลือดที่ออกมาใหม่น่ะ วันนี้พี่พิมพ์เลยจะใส่สายระบายอีกทีนะ อาจต้องคาสายไว้นานหน่อยจนกว่าเลือดจะหยุด”
    “จะทำอะไรก็ทำเหอะ อยากกลับบ้าน”
    ดูนายตัวดีทำหน้าเข้า...สงสัยจะคิดถึงบ้าน คิดถึง...เอ่อ...แฟน...แล้วล่ะมั้ง
    “รู้แล้วน่าว่านายอยากกลับ ฉันเองก็อยากให้นายกลับบ้านเร็วๆเหมือนกัน ”
    ฉันพูดไปโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง เพราะรู้อยู่แก้ใจว่าเขาคงต้องอยู่ที่นี่อีกนาน อย่างน้อยก็หนึ่งสัปดาห์กว่าเลือดจะหยุดและถูกระบายออกมาจนหมด

    “เป็นห่วงฉันเหรอ” จู่ๆนายปากเสียก็โพล่งขึ้นมา
    ได้ยินประโยคนั้นใจฉันก็เต้นรัวขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ ไม่รู้ทำไมฉันถึงไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขา ได้แต่ก้มหน้างุดและตอบออกไปเสียงแผ่วเบา
    “เหอะ ฉันอยากให้คนไข้ทุกคนกลับบ้าน งานฉันจะได้ไม่หนักต่างหากย่ะ”
    “...”

    เราเงียบกันไปพักใหญ่
    ฉันเหลือบมองหน้านายตินห์แวบหนึ่งขณะที่มือยังคงจดอะไรยุกยิก  นายนั่นหน้าบึ้งทำท่าฮึดฮัดเหมือนเด็กเอาแต่ใจ อืม...เวลาไม่พูดมากดูไปนายนี่ก็น่ารักดี...

    คิดแล้วหัวใจก็เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ

    อะไรกันความรู้สึกแบบนี้...ฉันปัดความคิดไร้สาระออกไป รวบรวมสติเงยหน้าขึ้นมองหน้านายตินห์ทั้งที่ใจยังเต้นแรง พูดกลบเกลื่อนทำลายความเงียบ
    “งอนเหรอ?”

    “....”  ไม่มีเสียงตอบ

    แต่หน้าของนายปากเสียกลับค่อยๆแดงขึ้นเรื่อยๆโดยที่อากาศในหอผู้ป่วยก็ไม่ได้ร้อนอบอ้าวเหมือนวันก่อนๆ...นายปากเสียตอนไม่พูดนี่น่ารักเป็นบ้า

    ...เออ บ้า  คิดอะไรบ้าๆอยู่นะปัญชลีย์  

    เอ๊ะ รู้สึกว่าอากาศข้างในนี้จะเริ่มร้อนขึ้นมานิดๆแล้วล่ะมัง...ฉันเดินเร็วๆออกมาจากหอผู้ป่วยด้วยหัวใจที่ยังคงเต้นรัวและหน้าที่ค่อยๆร้อนผ่าวขึ้นเมื่อคิดถึงหน้าตาบึ้งตึงของผู้ชายที่เพิ่งเดินจากมา

    แพ้แล้ว...ฉันคงแพ้หน้าหล่อๆของนายปากเสียนั่นซะแล้ว

    ----------
    -----------------
    ------------------------

    **Hemophilia ฮีโมฟิเลีย เป็นโรคเลือดที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมชนิดหนึ่งที่ขาดสารที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวที่เรียกว่าแฟคเตอร์แปด (ฮีโมฟิเลียเอ) หรือแฟคเตอร์เก้า (ฮีโมฟิเลียบี) ผู้ที่มีอาการของโรคมักเป็นเพศชายเพราะถ่ายทอดทางโครโมโซมเพศ(X)ค่ะ ในที่นี้ตินห์เป็นฮีโมฟิเลียเอที่มีการทำงานของแฟคเตอร์แปดในระดับกลางคือ1-5%ของคนปกติซึ่งจะกล่าวไว้ในตอนหน้าค่ะ  ^^


    แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 52 20:38:42

    แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 52 20:27:33

    แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 52 20:25:41

     
     

    จากคุณ : hitch-hiker - [ 30 พ.ค. 52 20:03:39 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com