ในขณะที่ผมหลับตา พร้อมนึกถึง ของขวัญ ที่น้องฟ้ากำลังจะให้ผมในวันนี้ ใจผมเต้น.. เต้นอย่างอยากรู้เต็มที ความรู้สึกของการรอคอยนี้ช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า ทั้งๆ ที่เวลาอาจจะแค่ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
ในช่วงเวลารอคอยของขวัญนั้น ความคิดผมก็ไหลย้อนไปถึงอดีตที่ผมกับน้องฟ้าเพิ่งจะมาเป็นแฟนกัน น้องฟ้ามีรอยยิ้มสดใสสมวัยของนักเรียนมัธยมปลาย และรอยยิ้มนั้นเองที่ดึงดูดผมให้ทำความรู้จักกับเธอ ส่วนผมในตอนนั้นก็หล่อไม่เบาในมาดหนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย กว่าเราจะได้จูงมือกันก็เริ่มปีที่สองที่รู้จักกัน และปีนี้เป็นปีที่ห้าแล้วสินะ.. ที่เราสองคนเป็นแฟนกัน และผมยังคงรอ...
รอนานไหมคะ พี่ต้น เสียงหวานๆ ใสๆ ทักมาทำให้ความคิดของผมหยุดลงเพียงแค่นั้น
ยังหลับตาอยู่หรือเปล่าคะ
ผมพยักหน้าแทนคำตอบ พร้อมทั้งยิ้มให้เธอ หลังจากที่เธอยื่นมือมาสัมผัสมือของผม
สำหรับของขวัญชิ้นนี้....... น้องฟ้าพูดและหยุดค้างไว้
การสัมผัสมือของเธอและคำพูดที่หยุดค้างไว้ ทำให้ผมคาดเดา ของขวัญ อย่างตื่นเต้นอยู่ในใจ ของขวัญชิ้นนี้จะใช่สิ่งที่ผมต้องการหรือไม่ อีกไม่กี่นาที... ใช่เหลืออีกไม่กี่นาที ก็จะรู้คำตอบแล้ว
ผมเริ่มขยับริมฝีปาก และคาดหวังถึงสิ่งรอคอย....
ฝ่ามือของผมในขณะนี้ กำลังสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มและไออุ่นที่สื่อผ่านมาถึง และ...
เมี้ยว!
หือ!!.. ผมลืมตา และกระพริบตาเพื่อปรับสายตารับกับภาพที่อยู่บนมือ
สิ่งที่ผมเห็น และคำตอบของเสียงนั้นอยู่บนฝ่ามือผมในขณะนี้ และมันกำลังเคล้าเคลียอย่างเอาใจ พร้อมทั้งส่งเสียง เมี้ยวว อีกครั้งเพื่อยืนยันว่า.... ฉันเป็นแมว
ครับ.. ของขวัญปีนี้ เป็นลูกแมวตัวสีขาว วัยกำลังน่ารักน่าเลี้ยง และน่า...เตะ อย่างยิ่ง ทำให้ความคาดหวังของผมหลุดลอย โธ่.. นึกว่าจะได้จูบแรกจากน้องฟ้าเป็นของขวัญวันเกิดเสียแล้ว T_T
พี่ต้นต้องดูแลมีมี่ให้ดีๆ นะคะ
คร๊าบบบ..... ผมตอบรับเธออย่างยานคาง
น้องฟ้าเห็นสีหน้าผมแล้วอมยิ้ม ดูแลให้เหมือนความรักของเราที่ผ่านมานะคะ สุขสันต์วันเกิดคะ พูดจบ เธอก็จุ๊บแก้มผมหนึ่งทีอย่างแผ่วเบาและรวดเร็ว พร้อมทั้งเดินหนีอย่างเขินอาย
ผมดีใจครับ นี่เป็นของขวัญล้ำค่าที่สุดในปีนี้เลย
..........................................................
ตลอดสอง-สามอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมขมักเขมันในการเปิดกระป๋องเพื่อให้อาหารมีมี่ เจ้ามีมี่มาคลอเคลียที่ขาผมอย่างเอาใจทุกครั้ง เพราะรู้ว่าเป็นมื้ออาหารที่จะได้หม่ำกิน ผมเริ่มคุ้นเคยกับการเลี้ยงดูมีมี่มากขึ้นเรื่อยๆ น้องฟ้าเองก็หมั่นมาเยี่ยมเจ้ามีมี่อยู่เสมอ
เธอเล่าให้ผมฟังถึงที่มาของเจ้ามีมี่ว่า ตอนที่เธอไปเดินเล่นที่สวนจตุจักร และคิดอยู่ว่าจะให้ของขวัญวันเกิดกับผมอะไรดี แล้วเธอก็เดินไปก็คิดไป จนกระทั่งเดินผ่านร้านขายสัตว์เลี้ยง เธอก็เห็นมัน
น้องฟ้าบอกว่า ฟ้าปิ้งแรกเห็นเลยคะ พี่ต้น เห็นปุ๊บก็รู้สึกถูกชะตา อย่างกับเคยเกิดเป็นลูกมาก่อน ฟ้าก็เลยคิดว่า นี่แหละของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับพี่ต้นและ..ฟ้า
ครับ เธอว่าอย่างนั้น
ผมจึงต้องเลี้ยงมีมี่อย่างดีด้วยอาหารกระป๋อง แล้วเดือนนั้นทั้งเดือนผมก็หม่ำแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลากหลายรส เพื่อ..ลูกน้อยของเธอและผม T_T
หลังจากได้ยินเรื่องราวและความรู้สึกของน้องฟ้า ทำให้ผมเริ่มสอนมีมี่ให้เรียนรู้ถึงกติกามารยาทางสังคม ก่อนอื่นมาตรวจดูว่า มีอะไรบ้างที่มันทำได้แล้ว
ข้อที่หนึ่ง การขออาหาร.. เรื่องนี้เหมือนเป็นสัญชาตญาณของสัตว์ชนิดนี้หรือเปล่าไม่ทราบ เพราะมีมี่ได้กระทำอย่างถูกต้อง โดยการค่อยๆ ย่องมาเคล้าเคลียขออาหาร ...เก่งมากลูกพ่อ
ข้อที่สอง การทำความสะอาด.. ผมว่าเจ้าลูกผมตัวนี้หมั่นทำความสะอาดมากกว่าผมเสียอีก เพราะเห็นเลียขน เลียขา ได้อย่างคล่องแคล่ว โอเคข้อนี้ทำเครื่องหมายถูก ถือว่าผ่าน
ข้อที่สาม การดูแลสุขภาพ.. ครับมันกินอิ่มแล้วก็นอนๆๆ นอนได้ทั้งวัน เอ้า..ถือว่า ดูแลสุขภาพได้ดี เพราะยังเป็นลูกแมวเมียวอยู่ แต่ต้องระวังหน่อย มาร์กหมายเหตุไว้ ระวังมีมี่อ้วนลงพุง ผมกลัวลูกผมจะหาแฟนไม่ได้ (อ้อ..ผมลืมบอกไป มีมี่เป็นเพศหญิงครับ ลูกสาวผมตัวนี้)
ข้อที่สี่.. ผมนึกไม่ออก
ด้วยเหตุของข้อที่สาม ผมจึงปรึกษากับน้องฟ้า เราสองคนจึงตัดสินใจสร้างสะพานทางเดินให้ลูกสาวเราโดยเฉพาะ เพื่อให้เธอออกกำลังกาย ผมหาเศษไม้แล้วตอกตะปูยึดติดผนังบ้าน ความกว้างของแนวไม้มีหลายขนาด ขนาดใหญ่สุด มีมี่สามารถเดินได้อย่างสบาย เผื่อมีคู่ก็สามารถพากันเดินได้ ส่วนขนาดเล็กสุด มีมี่ต้องค่อยๆ เดินเดี่ยว เลี้ยงการทรงตัวบนพื้นไม้กว้างสองนิ้ว การออกแบบสะพานทางเดินก็แล้วแต่น้องฟ้าจะชี้ให้ผมติดตั้ง
และแล้ว.. ก็เสร็จสมบูรณ์ตามความต้องการ ผมจับมือกับน้องฟ้าอย่างดีใจกับผลงานประดิษฐ์ชิ้นนี้ และเพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จ ทั้งผมและน้องฟ้าต่างเดินเรียกหามีมี่ให้มาฉลองร่วมกัน
ผมและน้องฟ้าเรียกหา มีมี่.. มีมี่ ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงต้องเลียนเสียงแมว เจ้าแมวตัวน้อยก็ไม่ตอบรับ เลียนเสียงอยู่นานห้านาที ไร้วี่แววการขานรับ
ดังนั้นเราสองคนจึงเดินหา... ทั้งใต้โต๊ะ เก้าอี้ ตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า รองเท้าหนังคู่โตของผม (ผมเคยเห็นครับว่าบางครั้งเจ้ามีมี่เอาหัวซุกเข้าไปนอนในรองเท้า.. ก็น่ารักดีครับ) และตอนนี้รองเท้าหนังของผมหรือที่นอนของมีมี่ก็ว่างเปล่า
ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน และการก้มดูทุกซอกมุม ทำให้เราสองคนเริ่มเหนื่อย และเริ่มเดินคลานสี่ขา และเอาหัวมาชนกัน เรานั่งพักกันที่ห้องนั่งเล่น และหันหน้ามาคุยตกลงใจกันใหม่ว่า เปลี่ยนวันฉลองของมีมี่เป็นวันอื่น
.................................................................
หนึ่งเดือนต่อมา สะพานไม้ที่ผมและน้องฟ้าสร้างให้มีมี่ยังคงเป็นหมัน
มีมี่ลูกสาวผมกับฟ้า เริ่มอ้วนขึ้นทุกวันๆ เธอกินแล้วก็นอน แถมยังขออาหารมากกว่าสามมื้ออีก ผมว่าผมคงต้องจัดการอะไรบางอย่างเสียแล้ว น้องฟ้าเองก็เริ่มนึกภาพเจ้าการ์ฟิลด์ตัวขาวๆ อ้วนๆ.. แปลก.. ที่เธอไม่ซีเรียส เธอบอกว่า แมวอ้วนๆ น่ารักดี เธอว่างั้นครับ
ผมเลยคิด... แค่คิดครับว่า แล้วถ้าน้องฟ้าอ้วนล่ะ ผมจะทำอย่างไรดี สงสัยต้องสร้างสะพานคนแทน ให้ซะแล้ว แต่กลัวว่าจะสร้างเหนื่อยหรือเปล่า
น้องฟ้าอยู่ๆ ก็ตีแขนผม เหมือนกับรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ เธอบอกว่า เธอไม่อ้วนหรอก
เว้ยยย.. ผมสะดุ้งตกใจ เธอรู้ความคิดของผมได้ไง!!
ผมไม่กล้าถาม เพราะเห็นสายตาพิฆาตส่งมาให้
ผมจึงต้องไก๋ไถลไปว่า แมวอ้วนๆ พี่ก็ว่าน่ารักจ๊ะ (ก็ลูกสาวเธอนี่น่ะ อ้วนก็ไม่เป็นไร.. ประโยคนี่ผมได้แต่คิด กลัวอย่างอื่นที่เหนือนอกจากสายตาพิฆาต)
แต่ก็ยังไม่วาย ที่จะแหย่เธอเล่นอีกว่า พี่ขอเรียกไมเคิลแทนฟ้า เอ้ยแทนมีมี่ ก็แล้วกัน
/เผียะ/
โอ้ย พูดผิดหน่อย ทำรุนแรงจัง ผมแกล้งถูแขนที่โดนตี
น้องฟ้าตวัดหน้ามองผม พร้อมอธิบายว่า มีมี่เป็นแมวตัวเมีย ต้องชื่อ ปั๊ปโป๊ะสิคะ ไมเคิลน่ะเป็นแมวตัวผู้ แถมยังออกกวน อืม..ที่จริงก็คล้ายกับพี่ต้นนะคะที่ชอบพูดจากวนฟ้าอยู่เรื่อย ฟ้าอ่ะชอบปั๊ปโป๊ะที่ออกจะเรียบร้อย และน้องฟ้าก็นั่งท่าพับเพียบเสมือนหนึ่งว่าตนเรียบร้อย
(มารยา สาไถชัดๆ) ได้แต่วงเล็บคิดล่ะครับ ใครจะกล้าต่อกรกับคุณน้องฟ้าได้ แต่ก็นะ ผมอดหมั่นไส้ท่าทางดัดจริตนิดๆ ของน้องฟ้าไม่ได้ จึงได้แต่งึมงำพูด ร้อยเรียบน่ะสิ
พี่ต้น ว่าอย่างไรนะคะ
เอ่อ.. เปล่าจ๊ะ
(หมายเหตุ : ไมเคิลกับปั๊ปโป๊ะเป็นชื่อแมวคู่รักกันในตัวการ์ตูนหนังสือญี่ปุ่นคะ)
............................................................................
น้องฟ้ากับผมเริ่มแบกภาระค่าอาหารกระป๋องที่นับวันจะเพิ่มขึ้น มีมี่มักมีการขออาหารที่เรียกคะแนนความสงสารจากผมได้หลากหลายวิธี ทั้งจากแววตาที่พอผมมองดูแววตาเธอแล้ว.. เฮ้อ.. ผมก็อดใจไม่อยู่ ต้องให้อาหารเธอจนได้ หรือจากการเคล้าเคลียไม่เลิก จนผมรำคาญ และบางครั้งก็จากทำท่าจะอึใส่หน้าผมขณะที่ผมแกล้งนอนหลับทำเป็นไม่เห็นเธอเข้ามาหา เธอรู้ครับว่า ผมแกล้งนอนในตอนกลางวันของวันอาทิตย์ เธอจึง.... T_T ช่างทำได้นะไอ้มีมี๊
[แมวทุกตัวจงฟัง ไม่ควรทำตามมีมี่เป็นอันขาด
ถ้าไม่อยากอ้วน
โรคอ้วนเป็นภาวะเสี่ยงต่อมะเร็งอันร้ายกาจ
โดยเฉพาะแมวเพศเมีย ]
ผมเน้นทุกตัวอักษร พร้อมกับกดข้อความนี้ ส่งฟอร์เวิร์ดผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากโดนไอ้มีมี่ละเลง.....ไปซะเรียบร้อยแล้ว T_T
กลับมาเข้าเรื่องกันต่อครับ เรื่องราวการส่งจดหมายพึลึกพึลั่นเมื่อกี้นี้ผมคงฝันกลางวันไป เพราะพอผมตื่นมา มีมี่ได้แต่เกาแกรกๆ ที่หน้าของผม การเกาครั้งนี้ฝากรอยข่วนเป็นทางเล็กน้อย พอทนได้ครับ T_T
ดังนั้นมื้ออาหารของมีมี่จากสามมื้อปกติ ก็กลายเป็นสี่มื้อที่ปกติไปเสียแล้ว นี่ยังไม่รวมอาหารว่างบ้างในบางครั้งที่แม่เขาซื้อมาฝากลูกสาว
..........และ..ผมกับฟ้า เริ่มจะชินกับความอ้วนของมีมี่เสียแล้ว
(มีต่อคะ)
จากคุณ :
สัมผัสรักในใจเรา
- [
3 มิ.ย. 52 08:20:45
]