Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เสียงรำพันของนกบนดาวโลก : นกในช่องว่าง

    เสียงรำพันของนกบนดาวโลก
    นกในช่องว่าง

    ๑.
    ช่องว่าง
    มีไว้เพื่อเติมเต็ม , หรือ
    มีไว้เพื่อรักษาระยะห่าง

    ผมนั่งมองสิ่งต่างๆ รอบตัวเกือบ ๙๙.๙๙ เปอร์เซ็น ล้วนแต่มี “ช่องว่าง” หรือ “ที่ว่าง” ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ แก้ว ถัง ตู้เย็น ดวงดาวและแสงของหิ่งห้อย กว้าง – แคบแตกต่างกันไป ตามแต่การนำมาใช้ประโยชน์ และตามแต่ที่เราจะดูจะมองมัน

    เคยสังเกตและเคยคิดไหมว่า ถ้าหากไม่มีช่องว่างของดาวแต่ละดวงท้องฟ้าจะสวยไหม? ตามที่ผมคิดคงไม่สวยแน่ มันอาจจะสว่างจ้าจะเกินจะเงยหน้ามองมัน เช่นเดียวกับแสงของหิ่งห้อย ถ้าหากมันบินติดกันเป็นสีเขียวพรืด มันจะสวยได้อย่างไร?

    มันจึงมีช่องว่างเพื่อก่อให้เกิดความสวยงาม

    และนั้นเป็นเรื่องความงามที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติ

    ธรรมชาติสรรสร้างสิ่งที่สร้างสรรค์เสมอ

    และผมเชื่ออยู่ทุกขณะจิตว่า “ธรรมชาติไม่เคยทำร้ายใคร” นั้นหมายถึงว่าถ้าเราไม่ไปทำร้ายมันก่อนด้วย

    เช่นนั้นมันก็หมายความว่า “ธรรมชาติก็มีชีวิตเหมือนมนุษย์เช่นกัน”

    มีรัก โกรธ แค้น เคือง

    ใช่ไหม?

    มาว่ากันที่ “ที่ว่าง” ที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อหาประโยชน์จากมันบ้าง

    ที่ว่างของ “ตะกร้า” ของคนทั่วไป แน่นอนมันมีไว้เพื่อใส่เสื้อผ้า แต่ที่ว่างของ “ตะกร้า” ของบรรณาธิการมีไว้เพื่อใส่ตันฉบับของนักเขียนที่ส่งมาแล้วและ “ไม่ผ่านการพิจารณา” ปลายทางของต้นฉบับก็ไม่พ้นต้อง “ลงตระกร้า” ตามที่พูดๆ กัน (ซึ่งเข้าใจว่าสมัยนี้ไม่ได้ลงตะกร้าเสียแล้ว เพราะมีหลายสำนักพิมพ์ที่มีนโยบายใช้ประโยชน์จากกระดาหน้าเดียว มันก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็ลดการใช้กระดาษไปได้บ้าง)

    ที่ว่างของ “กระเป๋า” ของทุกคนก็ต้องเอาไว้ใส่เงิน ถ้าหากที่ว่างนั้นมีมากเกินไป แน่นอนผลที่ตามมาก็ไม่พ้นไม่พอกินไม่พอใช้ เป็นกังวลและฟุ้งซ่านไป แต่ถ้าหากที่ว่างในกระเป๋ามีน้อยเกินไป ก็อาจจะฟุ่มเฟือยกับการใช้จนเกินความจำเป็น และตกเป็นทาสมันในที่สุด ทางที่ดีก็ต้องมี “ระยะห่าง” หรือ “ช่องว่าง” ระหว่างเรากับมัน นั้นละมันถึงจะเกิดความพอดี ทำให้เรากับเงินไม่ทะเลาะกันในเรื่องที่ว่ามันห่างหายจากเราไป หรือมันเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตเรามากเกินไป

    และจะว่าไปยังมีอีกสองสิ่งที่เราไม่ควรจะมี “ที่ว่าง/ช่องว่าง” ให้กับมันมากนัก และเราควรจะ “รักษาระยะห่างของที่ว่าง/ช่องว่าง” นั้นควบคู่กันไปด้วย

    สองสิ่งที่ผมพูดถึงคือ “มิตรภาพและความรัก”

    คนเราไม่อาจจะมีช่องว่างของ “มิตรภาพและความรัก” ในชีวิตมากนัก ไม่มีใครที่อยู่ได้โดยไม่ปฏิสัมพันธ์กับใคร ไม่มีใครอยู่ได้โดยไม่มีความรัก ทั้งรักคนรัก และรักกันฉันท์เพื่อนมนุษย์ เราทุกคนล้วนต้องมีเพื่อนและมีความรักด้วยกันทุกคน

    แต่ถ้ามันมีมากไปก็ไม่ดีเหมือนกัน...

    มีเพื่อนมากไปก็ไม่ดี ใกล้ชิดกันเกินไปก็ไม่ดี สนิทกันเกินไปก็ไม่ดี เราทุกคนควรจะต้องรักษาระยะห่างระหว่างมิตรภาพไว้ รักษาไว้เพื่อว่า วันใดวันหนึ่งหากมิตรภาพนั้นสลายลง ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง เราจะได้ไม่เสียใจมากนัก หัวใจเราก็จะไม่สลายลงไปกับมัน

    และที่สำคัญเผื่อว่าวันหนึ่งมิตรภาพและความรักหวนกลับคืนมาเราก็จะได้มี "ช่องว่างแห่งการให้อภัย" กันและกัน

    ผมเคยเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เรียกว่า "รักเพื่อน" อย่างสุดจิตสุดใจ รักขนาดที่ว่า คนรักของผมเองก็ไม่เคยได้รับความรักลักษณะที่ผมรักเพื่อน พูดง่ายๆ รักจนไม่มีที่ว่างพอจะเพื่อว่ามิตรภาพเราจะจบลงด้วยเรื่องง่ายๆ เรื่องไม่เป็นเรื่อง หรือเรื่องที่ไม่สามารถทำให้มิตรภาพเราหวนกลับมาเหมือนเดิมได้

    มันเป็นความรักในแบบที่เราสนิทกันเกินไป รู้ใจกันเกินไป และเข้าใจกันมากเกินไป จริงๆ เหล่านี้ดูเหมือนว่ามันดี แต่แท้จริงแล้ว เค้าลางแห่งการละเมิดความเป็นส่วนตัวระหว่างกันกำลังจะเข้ามาเยื่อน บางครั้งระหว่างเรากับเพื่อนความรู้สึก ความรักคงเป็นเหมือนเช่นเดิม แต่บางครั้งเราลืมไปว่า เราโตขึ้น และเราต่างมีวิถีของเราเอง แต่ช่องว่าง/ระยะห่าง ระหว่างเรากลับไม่มีเลย ซ้ำร้ายเรายังเอามันมาปะปนกันอีก จนแยกไม่ออกระหว่างมิตรภาพและโลกส่วนตัว สุดท้ายมิตรภาพอาจจะทลายลงด้วยการไม่รักษาระยะห่างเท่าที่มันควรจะมีจะเป็นก็ได้

    มันจึงเป็นเรื่องน่าเศร้า...ฉะนั้นเราทุกคนจึงควรรักษาระยะห่างระหว่างมิตรภาพไว้เพื่อให้ “โลกส่วนตัว” เข้าไปแทนที่  

    เช่นเดียวกับ “ความรัก”  รักคนรัก...รักโดยไม่มีที่ว่างไว้เผื่อใจ รักโดยไม่มีช่องว่างไว้ให้กับคำว่าเสียใจ สุดท้ายสิ่งที่เราต้องเจอ “โดยลำพัง” ก็ไม่พ้นความทุกข์ใจ เสียใจ

    แม้กระทั่งความรักในชีวิตคู่ก็ควรจะต้องมีระยะห่าง หรือช่องว่างระหว่างกัน มีไว้เพื่อให้ต่างคนต่างไม่เบื่อหน่ายกัน มีไว้เพื่อให้แต่ละคนรักษา “โลกส่วนตัว” ของแต่ละคนดั่งที่เคยมีมาก่อนที่จะอยู่ร่วมกัน

    ถึงตอนนี้เราควรปล่อยให้ความรักระหว่างเราคล้ายดังดวงดาว เปล่งแสงในระยะห่างอย่างพอดี เกื้อหนุนความสวยงามให้แก่กันละกัน

    ดีไหม?

    ฉะนั้นระหว่างความสัมพันธ์ของคนเราสิ่งที่ควรมี คือเติมช่องว่างระหว่างกันให้พอดี และรักษาระยะห่างกันไว้ให้พอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป

    ว่าไหม?
    แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
    ๐๗ – ๐๖ – ๕๒
    กระท่อมผิงดาว – อิงจันทร์ ริมชี
    มหาสารคาม

    จากคุณ : สยามวรรณกรรม - [ 8 มิ.ย. 52 10:56:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com