ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์ - กินเนื้อหมา
ช่วงปลายฝนต้นหนาวของปาดังเบซาร์
จะตกอยู่ประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม
ซึ่งน้ำยางจะเริ่มออกมากที่สุดในช่วงนี้ต่อเนื่องก่อนหยุดกรีดยางพารา
วันหนึ่ง ขณะกำลังทำงานในธนาคารไทยแห่งแรก ตอนนั้นประมาณห้าโมงเย็น
เหล้าขาวมาชวนบอกไปด้วยกันเร็ว ๆ
ถามว่าไปไหน แกบอกแต่เพียงว่ามาตะ (มาด้วยกัน)
เลยเดินไปบอกหัวหน้าว่าไปธุระกับเหล้าขาว
หัวหน้าก็ไม่ว่าอะไรบอกไปเถิด ไม่มีงานค้างแล้วก็ไม่เป็นไร
นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ Honda Pop 90 CC สีเขียว
วิ่งไปเลาะไปตามตะเข็บชายแดนระยะทางกว่าสามกิโลเมตร
เข้าไปในป่ายางพารา เจอบ้านหลังหนึ่ง
พบว่าในบ้านมีคนเชื้อชาติจีนนั่งกินอะไรอยู่แล้วสามคน
ต่างก็ทักทายเหล้าขาวและเชิญชวนมานั่งข้างในบ้าน
เหล้าขาวเดินเข้าไปในครัวหยิบจานใส่เนื้อออกมาให้จานหนึ่ง
เป็นเนื้อลักษณะออกสีน้ำตาลออกแดงเหมือนเนื้อวัว
ผัดแบบขลุกขลิกกับเครื่องยาจีนและขิง กลิ่นเครื่องเทศแรงมาก
เลยถามเหล้าขาวว่าอะไรในจาน
แกบอกกินไปเถิดของดี หายากมากด้วย
พลางรินเหล้าเฮนเนสซี่ใส่น้ำแข็งพร้อมโซดามาให้แก้วหนึ่ง
จะปฏิเสธก็ใช่ที่ เพราะทั้งเหล้าขาวและเพื่อนของแกจ้องมองอยู่
อีกอย่างจะกลับก็ลำบากแล้วเพราะมาไกลเกินกว่าจะเดินกลับเพราะใกล้ค่ำแล้ว
เลยกินเข้าไปคำหนึ่งพร้อมกับจิบเหล้าแก้เขิน
แกเลยบอกว่าเป็นเนื้อหมา
และที่กินกันนี้ไม่ใช่กินกันพร่ำเพรื่อ
ต้องเริ่มเข้าหน้าหนาวจึงจะกิน
เวลาหน้าร้อนจะไม่กินกัน เพราะจะทำให้ร่างกายร้อนมาก
กินแล้วบำรุงร่างกายให้สู่ภัยหนาวได้
เพราะปาดังเบซาร์สมัยก่อนกันดารมาก
หยูกยาก็หายาก หรือมีก็แพงมาก
กอปรกับการกินอาหารตามธรรมเนียมของจีน
ช่วงหน้าหนาวจะเป็นช่วงกินเพื่อบำรุงรักษาสุขภาพร่างกาย
ให้สมบูรณ์แข็งแรงก่อนผจญกับฤดูกาลในหน้าอื่น ๆ ต่อไป
เช่น การกินโสมเกาหลี การกินเขากวาง หรือยาบำรุงต่าง ๆ
(ถ้าอ่านหนังสือกำลังภายในบางเล่มจะเล่าเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้)
สิ่งเหล่านี้เป็นความเชื่อและวัฒนธรรมท้องถิ่น
ซึ่งการปฏิเสธถือว่าเป็นดูถูกวัฒนธรรมท้องถิ่น
อาจเป็นภยันตรายอย่างหนึ่ง
เหมือนเช่น การไปงานของคนมุสลิม
ถ้ามีการเลื้ยงน้ำชากาแฟหรืออาหารการกินแล้ว
ถ้ามีการจิบหรือกินร่วมแล้ว ก็จะถือว่าเป็นอาคันตุกะ
แขกผู้มาเยือนที่ควรต้อนรับและให้เกียรติอย่างยิ่ง
จะไม่มีการทำร้ายแขกผู้มาเยือนอีกเลย
หรือฆ่าฟันแขกผู้มาเยือน เว้นแต่จะผิดชั่วช้าจริง ๆ
ในครั้งหนึ่ง สมเด็จพระเทพฯ เสด็จเยือนกลุ่มชาวเผ่าอาหรับ
ก็จะมีการฆ่าแพะแล้วย่าง ถวายเฉพาะส่วนหัวแพะพร้อมกับตาแพะ
ตามธรรมเนียมชาวเผ่าอาหรับหรือคนมุสลิมแล้ว
เฉพาะระดับหัวหน้าเผ่า หรือ โต๊ะอิหม่าม (ครูผู้สอนศาสนา)
หรือแขกผู้มีเกียรติสูงสุด (VIP) เท่านั้น
ถึงจะได้รับประทานหัวแพะกับตาแพะเท่านั้น
ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ ก็ทรงพระเสวยตามที่ถวายและเขียนลงในหนังสือ
เกี่ยวกับการเสด็จประพาสเยือนกลุ่มชนอาหรับ
ครั้งหนึ่งเพื่อนที่เป็นปลัดอำเภอ
บอกว่าคนจีนเวลาจัดเลี้ยงโต๊ะจีนชอบเลี้ยงหูฉลาม
ไม่เห็นว่าจะอร่อยตรงไหน หรือมีรสชาดสู้กับอาหารไทยได้
เลยบอกแกว่า เขากำลังกินวัฒนธรรม ไม่ใช่กินอาหาร
แกเลยบอกว่า เออจริง ลืมคิดไป แล้วไม่พูดอะไรต่อ
ได้ถามเหล้าขาวว่าแล้ว หมาไม่กินเนื้อกันเองหรือ
แกบอกว่าไม่กิน อาจจะไม่ชอบกินเครื่องยาจีน
แต่บางตัวก็กินเนื้อหมาด้วยกัน
เคยอ่านหนังสือพิมพ์และชมภาพยนต์ทีวี
มีครั้งหนึ่ง บ้านหลังหนึ่งขังหมาไว้ในบ้านกว่าห้าสิบตัว
แล้วหนีหายไปไปไม่ทราบ ปล่อยให้หมาอดอาหาร
ปรากฎว่า หมากัดกันเอง ฆ่ากันเอง เพื่อกินเนื้อหมาให้อยู่รอด
กว่าชาวบ้านจะทราบข่าวแล้วตามตำรวจไปช่วยเหลือออกมา
ก็มีหมาตายและตกเป็นอาหารกว่าสิบห้าตัวแล้ว
ทั้งตัวใหญ่ ตัวเล็ก และตัวที่ไม่แข็งแรงกลายเป็นเศษเนื้อเศษกระดูกไปแล้ว
คราวต่อไปจะเล่าถึง การหาหมามาทำอาหาร
จากคุณ :
ravio
- [
9 มิ.ย. 52 13:50:55
]