Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    อมตะ

    นิ่งเงียบอยู่ท่ามกลางความสงบ  สายตาทอดยาวจากเพิงผาสู่เบื้องล่าง     แสงวิบวามจากเปลวแดดสะท้อนลำน้ำที่ไหลซอนซบไปตามแนวหุบเขาเขียวครึ้มอย่างอ่อนเอื่อย    แม่น้ำหอมเอย....ขุนเขาที่เจ้าเดินผ่านบอกเล่าอะไรให้เจ้าฟังบ้าง?    ดินแดนที่เจ้าเดินทางผ่านมาแสนยาวไกลมีเรื่องราวใดบ้างหรือ?    และแม้แต่สถานที่แห่งนี้....สถานที่สุดท้ายแห่งชีวิตมนุษย์     เคยเล่าเรื่องใดให้เจ้ารับรู้บ้างหรือไม่?     หรือมีเพียงความเงียบที่เล่าขานความสงบแท้แห่งความตาย....ไม่เว้นแม้แต่    ชีวิตของผู้เป็นเจ้าชีวิต !

    บันไดทอดยาวสู่เบื้องบน...สุสานพระเจ้าไคดิ่ง     ผู้ทรงเป็นกษัตริย์อันทรงคุณแก่ชาวเวียดแต่เดิมมา   ลายสลักเสาหินที่กรำแดดกรำฝนมานับพันปียังคงอวดลวดลายมังกรแบบจีน    อันทรงพลังอำนาจแห่งความเป็นกษัตริย์ของผู้เป็นเจ้าของ     หากเป็นสมัยนั้นคนธรรมดาสามัญไม่มีทางที่จะก้าวล่วงเข้ามาได้     เมื่อเดินตามขั้นบันไดสูงขึ้นเรื่อยๆ       ความสูงนั้นทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะหันหลังกลับไปมองเบื้องล่าง    ค่าที่กลัวว่าจะมือไม้อ่อนจนเป็นลมไปเสียก่อน      บันไดหินทอดสู่ซุ้มประตูแสดงอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์....ความเรียบตรงของมันทำให้อดจินตนาการไม่ได้ว่า     คนงานสร้างสุสานจักต้องใช้ความเพียรสักเพียงไหนจึงจะสร้างบันไดขึ้นจากหินได้แต่ละขั้น      

    สายตายามที่ป่ายปีนนั้นถูกพรางไว้ด้วยเพียงมุมหินของบันไดสูง...ใครจะรู้ว่า     เมื่อพ้นขึ้นถึงชานพักแล้วภาพตรงหน้าตระหง่านสง่าเกินกว่าที่คิด      เสมือนเรามุดจากผืนดินเบื้องล่างอันต่ำต้อยเพื่อก้าวขึ้นสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้าเบื้องบน     เก๋งจีนหินรูปร่างทึบตันประดับลวดลายอันละเอียดวิจิตรที่ท้าทายกาลเวลาราวกับว่าจะไม่มีวันแตกดับยืนต้อนรับเราอยู่เบื้องหน้า     อีกเพียงบันไดสองข้างเท่านั้นที่จะพาเราให้ไปต่อ       ลานกว้างจัดวางประดับไว้ด้วยแนวเจดีย์   เสมือนป้ายบอกทางให้เราต้องเดินตรงไป     ถึงตอนนี้บันไดอีกเพียงไม่กี่ขั้นก็แทบจะก้าวขาไม่ออกเสียแล้ว    แต่เมื่อก้าวผ่านบรรดาเหล่าขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ที่ยืนเรียงรายสองข้างราวกับการรับเสด็จแลเหมือนการถวายอารักขาไปในตัว     อยากถามนัก....พวกท่านผ่านพ้นวันเวลาของบ้านเมืองในครั้งกระโน้นมาอย่างไร       แต่.....รูปปั้นหินก็ยังคงเป็นหิน...จะมีคำใดบอกเราได้อีกเล่า      

    ก้าวขาทีละก้าวเพื่อจะพบว่าสุสานนั้นปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว     แทบจะหมดแรง....หรือนี่เป็นกุศโลบายว่า     เมื่อใดที่เราได้เดินมาถึงบันไดขั้นนี้แล้ว     จำต้องทรุดเข่าลงถวายคำนับแก่พระเจ้าไคดิ่งในสุสานเมื่อนั้น       อาคารอันงามวิจิตรด้วยศิลปะจีนแท้นั้นไม่ได้ตกแต่งด้วยหินแกะสลักอันดูทึบทะมึนอีกต่อไป      ลวดลายจีนทั้งผนัง   กำแพง  ไปจนถึงพระแท่นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระเจ้าไคดิ่งนั้น    ล้วนประดับประดาไปด้วยกระเบื้องชิ้นเล็กสีสวยเป็นลวดลายดอกไม้พรรณพฤกษาอ่อนช้อยราวของจริง    ช่างดูมีสีสันและสดใสต่างกับทางเดินที่ก้าวผ่านขึ้นมาอย่างสิ้นเชิง      หรือนี่คือ...สรวงสวรรค์จริงๆ    

    แสงไฟที่ซ่อนตามมุมต่างๆสะท้อนให้เห็นแสงเงาบนเชิงลายอันละเอียดอ่อน    จิตรกรรมฝาผนังอันโดดเด่น คือ ลายมังกรดั้นเมฆซึ่งวาดระบายโดยศิลปินผู้ใช้เท้าต่างมือ    มิไยที่ใครจะทัดทานหากพระเจ้าไคดิ่งกลับชมชอบการทำงานของศิลปินผู้นี้    ผู้ที่ไม่ได้พิการทางกายและยิ่งกว่านั้นไม่ได้พิการทางศักยภาพอีกด้วย    ยามแหงนมองขึ้นไปเราจะได้เห็นมังกรนั้นแลราวมีชีวิตและกำลังเหาะเหินอยู่ท่ามกลางเมฆที่ไหลเลื่อนไปในฟากฟ้า   แลเมื่อมองอยู่นานเข้าก็ดูราวกับว่ามังกรเหล่านั้นกำลังจ้องมองเราลงมาอยู่เหมือนกัน    ถึงแม้จะพ้นกาลเวลามานานนัก .....แต่ก็ยังดูมีชีวิตชีวาไม่เสื่อมคลาย

    เมื่อหันหลังกลับ...ภาพตรงหน้าก็ทำให้เราต้องตะลึงพรึงเพริดอีกครั้ง     สูงกว่าขุนเขาที่ทอดตัวอยู่เบื้องล่าง  กว้างไกลไพศาลกว่าแผ่นดินเบื้องต่ำ  สงบเสียกว่าสายน้ำที่ไหลผ่านเลือนไปเบื้องหลัง        คงไม่สร้างขึ้นได้หากเหล่าข้าราชบริพารแลศิลปินมิได้มีความจงรัก    งานรังสรรค์สร้างสุสานอย่างเต็มสามารถบนยอดเขาอันสูงลิ่วที่แสนจะยากลำบากแม้แต่การป่ายปีนธรรมดา     จึงเข้าใจว่าทำไมสุสานของกษัตริย์จึงต้องสถิต ณ บริเวณนี้      สถานที่อันเปรียบประดุจสุสานแห่งสรวงสวรรค์

    หรือพระองค์เองกำลังประทับอยู่ ณ. ที่นี้    ทอดพระเนตรไปยังขุนเขาสลับสล้าง....สดับเสียงสายน้ำระเรี่ย....แลอาจชื่นพระทัยกับกลิ่นหอมของมัน    สายน้ำที่ไหลผ่านวันเวลาของผู้คน    สายน้ำที่ไหลผ่านกาลเวลายุคสมัย    สายน้ำที่ไหลผ่านรอยยิ้มและหยาดน้ำตา  สายแม่น้ำแห่งชนชาติญวน..... แม่น้ำหอม  

    สุดท้าย...แม้แต่ผู้เคยเป็นเจ้าชีวิตก็ยังเหลือเพียงสุสานไว้พักพิง   มีเพียงสงบจากความวุ่นวายของผู้คน    มีเพียงชีวิตหลังความตายอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย     ความตาย......อันเป็นอมตะ

     
     

    จากคุณ : สร้อยสยาม - [ 10 มิ.ย. 52 22:57:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com