เราคิดว่า
ณ ที่นี้ คุณเจตนาไม่ได้กล่าวเลยว่าผู้อ่าน "ต้อง" แสดงความคิดเห็นที่มี
ต่อวรรณคดี หรือต้องแสดงความคิดเห็นให้ตรงกับเจตนาผู้เขียน
ดังจะเห็นว่า ในย่อหน้าที่สี่กล่าวไว้ว่า
ผู้อ่านบางคนอาจจะคิดว่า
วรรณกรรมแต่ละเรื่องเป็นสิ่งที่ผู้เขียน
ให้เราหยิบยืมมาเท่านั้น
ถ้าเราทำสิ่งที่หยิบยืมมานั้นเสียหาย
วรรณคดีวิจารณ์ก็คงจะรุ่งเรืองไม่ได้
ในทางกันข้าม ถ้าผู้อ่าน
ส่วนมากใฝ่ใจที่จะตีความ และสนใจที่จะแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับวรรณกรรมที่ตนอ่าน วงวรรณคดีก็จะตื่นตัวตามไปด้วย"
จุดประสงค์ของคุณเจตนา คือ หากผู้อ่านอยากจะแสดงความคิดเห็น
หรือวิจารณ์หนังสือแล้ว ผู้อ่านควรพึงระวัง ข้อควรระวังต่างๆ
เนื่องจากการวิจารณ์นั้นสามารถสร้างสรรค์และทำลายงานเขียนได้
หากจะว่าไปแล้วเรามีเสรีภาพที่จะวิจารณ์อย่างไรก็ได้ แต่การวิจารณ์
อย่างเสรีนั้น สุดท้ายแล้วก็จะออกไปสู่สาธารณะ เมื่อนั้นการวิจารณ์
จะกลายเป็นสมบัติของผู้อ่านคำวิจารณ์อีกทอดหนึ่งด้วย ผลที่เกิดขึ้น
หากผู้วิจารณ์ไม่มีความสามารถหรือสติปัญญาไม่เพียงพอที่จะวิจารณ์
เมื่อนั้นการวิจารณ์อาจจะเป็นการทำลายงานเขียนที่ดี โดยคาดไม่ถึง
การโต้แย้งที่ว่าคนโง่เขลาไม่มีเสรีภาพที่จะวิจารณ์หรือ
อาจต้องถามกลับว่า หากมีงานเขียนที่ถือเป็นงานชั้นเยี่ยม
งานเขียนนั้นสมควรได้รับคำวิจารณ์จากคนที่ไม่สามารถเข้าถึง
งานเขียนได้อย่างเต็มที่หรือไม่
กรณีที่ผู้อ่านเห็นว่างานเขียนนั้นไม่ดี เราเห็นด้วยกับคุณแมวเหมียวพุงป่องที่ว่า:
ความเงียบเหงาของผู้อ่านทุกคน ต่อนิยาย วรรณกรรม วรรณคดี
เรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือ หมู่ใดหมู่หนึ่ง .. เป็นการแสดงออกถึง
เสรีภาพขั้นสูงสุด เสรีภาพที่แสดงออก โดยการไม่กระทำใดๆ
แต่ส่งผลชัดเจน ความเงียบของผู้อ่าน "ทุกคน" วิจารณ์
วรรณกรรม/วรรณคดี ฯลฯ ชัดเจนว่า มันแย่ ..
จนทนอ่านไม่ไหว
(ในที่นี้ เราคิดว่าคุณเจตนาเลือกใช้คำว่า ผู้อ่าน ไม่ใช่ นักอ่านก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม)
ประเด็นในกระทู้นี้ท่าทางจะกลายเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ในบทความคุณเจตนา 
แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 23:18:37
แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 23:17:46
แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 23:16:48
แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 23:16:12