Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เรื่องเล่าในสถาบัน

    เวลาเราอ่านเรื่องผีของแต่ละสถาบันแล้ว    อดคิดถึงเรื่องเล่าของสถาบันเราบ้างไม่ได้ ..... อยู่โรงเรียนเก่าตอนม.ต้นก็ไม่ค่อยมีอะไร    แต่ตอนม.ปลายนี่สิ    เรื่องเพียบ   เริ่มจากที่แถวนั้นเป็นบริเวณวังเก่า...จุดที่สร้างโรงเรียนเราเป็นลานประหาร    ขุดเจอศพ (ตั้ง 100 ปีมาแล้วเนี่ยนะ ?)   กลางคืนจะได้ยินเสียงคนลากโซ่ตรวนไปตามพื้น ...บ้างก็ได้ยินเสียงคนทุ่มของลงน้ำ   กลิ่นธูป..ควันเทียน  ว่ากันไป      แม้แต่อาคารเรียนเราที่เป็นอาคารไม้เก่าแก่...ใช้เป็นห้องเรียนดนตรีไทยก็ว่ากันว่า...เวลาเย็นๆถ้าใครเดินผ่านจะได้ยินเสียงดนตรีเล่นเอง    แต่พอเดินเข้าไปดูก็ไม่มีใคร   บรื๋อออออส์...
     
    เรื่องเล่ามักจะมาจากพวกรุ่นพี่นี่แหละ..ตัวดี    ไม่ต่างจากตอนที่เราเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยเลย (ก้อมันรั้วเดียวกันนิ)   โชคดีที่เราไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมอยู่ที่มหาลัยเท่าไหร่    เป็นเด็กเดินเรียนไม่ใช่เด็กหอ(กลับบ้านทุกวัน)    แต่เวลามีกิจกรรมต้องไปอยู่หอกับเพื่อนก็ไม่มีอะไรดูปกติดี          แม้แต่บางคืนที่ครึ้มๆนอนไม่หลับ  ตื่นมานั่งที่ระเบียงแล้วเปิดเพลงฟังพร้อมกับเขียนกลอนเล่น     ก็ไม่มีอะไรให้เราต้องผวา (นับว่าโชคดีหรือเกิน)   แต่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า....    
     
    ที่หอหญิง...ชั้นบนสุด    ห้อง  413 (ถ้าจำไม่ผิดนะ)   เป็นห้องสุดท้ายติดบันไดหนีไฟ ......มีรุ่นน้องเจอพี่ผู้หญิงอยู่หน้าห้องก็คุยกับเขาอยู่ทุกวัน     ซึ่งส่วนใหญ่จะเจอตอนมืดๆเข้าใจว่าคงเรียนเสร็จเพิ่งกลับจากห้องสมุดหรือติวกับเพื่อน    ก็คุยกันดี ....   แต่วันหนึ่งไปเคาะประตูเพื่อที่จะเอาของกินไปฝาก    ห้องกลับเงียบสนิท...รุ่งขึ้นเช้าไปเคาะอีกก็ไม่มีใคร   เลยเล่าให้เพื่อนฟัง    แม่บ้านหอก็เลยบอกว่าห้องนั้นไม่มีใครอยู่มานานแล้ว...เพราะเจ้าของตายเลยไม่มีใครกล้าอยู่    ปิดตายเอาไว้   น้องคนนี้ไม่เชื่อ...ขอพิสูจน์   แม่บ้านเลยเปิดประตูเข้าไปให้...พบว่าเป็นห้องเปล่าที่มีแต่กลิ่นอับ   ไม่มีวี่แววว่าใครจะอยู่ได้แน่ๆ ..... โปรดใช้วิจารณญาณ
     
    หอพักชาย...เพื่อนคณะจิตรกรรมมาพักที่หอด้วย      รุ่งเช้า...เดินลงจากหอมาด้วยกัน     เพื่อนคนนั้นก็ออกปากว่า    อ้าว ?   หายไปไหนหมดแล้วล่ะ ?   เพื่อนงง...อะไร ?   อ้าว...ก็เมื่อคืนกูจะเดินขึ้นหอ    กูยังเห็นหุ่นไม่มีหัวตั้งหลายตัว...ตั้งอยู่หน้าหอนี่ ....ใครย้ายไปไหนแล้วล่ะ ?   แกคิดว่าคงมีงานแสดงประติมากรรมว่าจะมาดูเสียหน่อย   เพื่อนขนหัวลุก...เอ็งไม่รู้เหรอว่าเมื่อ 100 ปีที่แล้ว..แถวนี้มันเคยเป็นลานประหาร...ตัดคอคนมาไม่รู้เท่าไหร่ ....เพื่อนอึ้ง  ไม่รู้เหมือนกัน   ไม่มีหลักฐานยืนยัน
     
    ถนนเส้นหนึ่งในมหาลัยที่ไม่มีใครอยากผ่านตอนกลางคืนถ้าไม่จำเป็น .....  ทางโรยกรวดนั้นครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ตลอด...มีบ้านโบราณหลังย่อมซึ่งเล่ากันว่าเป็นบ้านของข้าราชบริพารเก่า    แต่เป็นทางลัดที่จะไปหอได้ง่ายที่สุด      คืนหนึ่ง....เด็กปีหนึ่งปั่นจักรยานมากับเพื่อน   ผ่านตรงต้นมะขามร้อยปีนี่พอดี ..... ทั้งดึก  ทั้งมืด  ทั้งเงียบ  .... ได้ยินแค่เสียงล้อจักรยานที่บดไปบนกรวดแต่ละเม็ด    ต่างคนต่างรู้กันว่าต้องปั่นผ่านจุดนี้ไปให้เร็วที่สุด  ...... เสียงลมหายใจที่หอบถี่ของเด็กหนุ่มทั้งสองสะท้อนแนวไม้แถวนั้นแผ่วๆ      ข้ามสะพานไม้เล็กๆแล้วก็ถึงหอพักชายพอดี      จอดจักรยานแล้ว....คนแรกก็หันมาเห็นเพื่อนที่ตามมายืนเงียบ..หน้าซีด    เป็นไรวะ ?   เอ็งไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ?   อะไร ?  มีอะไร ? ...... ก้อตอนเอ็งผ่านตรงต้นไม้นั่นน่ะ .....  กูเห็นผู้หญิงซ้อนจักรยานเอ็งมาด้วย...แล้วอยู่ๆก็หายไป     บ้าเป่าวะ ?  จักรยานกูมีที่ซ้อนที่ไหนล่ะ ?   เอ็งน่ะตาฝาด...กูไม่ได้ตาฝาด   กูยังเห็นเลยว่าเขาห่มสไบ...ผ้าสไบงี้ปลิวเชียว .... ไม่จำเป็นอย่าผ่านไปทางนั้นเด็ดขาด
     
    อีกเรื่องหนึ่ง...เกิดขึ้นกับเพื่อนเราเอง     เพื่อนคนนี้ติดอันดับดาวคณะ ...น่ารักทั้งหน้าตาและนิสัย      วันหนึ่ง....เจ้าตัวไม่สบายมากถึงกับนอนซมอยู่ที่หอ    ส่วนเพื่อนๆก็ไปเรียนกันหมด     ความที่ไข้สูง...นอนอย่างไม่รู้วันรู้คืน   แต่ไม่ว่าจะลืมตาขึ้นมากี่หน...ก็จะเห็นผู้หญิงนุ่งโจง  ห่มผ้าแถบ  ผมทรงดอกกระทุ่ม  หมอบอยู่ปลายเตียงและชะเง้อมองด้วยสายตาห่วงใย      เป็นอยู่อย่างนี้จนวันที่เธอหายไข้    ถึงได้เล่าให้เพื่อนฟัง .... เพื่อนห้องเดียวกันพากันขนลุก...ว่าแล้วก็ไปทำบุญอุทิศกุศลไปให้  ...... เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายังไง  เท็จจริงแค่ไหน?
     
    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่โจษจันกันมากที่สุด... ค่ำวันหนึ่ง..เด็กคณะหนึ่ง...เป็นแฟนกัน    ก็ไปหาที่เงียบๆพลอดรักกันริมสระน้ำในมหาลัย     พูดคุยกันไปตามประสาคนรัก...ครู่เดียวก็ได้ยินเสียงเหมือนใครเอาอะไรโยนลงน้ำ    เสียงนั้นไม่ได้ดังมากนักแต่ได้ยินชัดกันทั้งคู่  ....ก็ไม่ได้สนใจยังคุยกันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น     สิ้นเสียงนั้นไม่นาน ....ฝ่ายสาวก็มองเห็นเงาตะคุ่มๆเหนือผิวน้ำ....ความที่มืดสนิท  มองไม่ชัดว่าเป็นอะไรแต่เจ้าสิ่งนั้นเคลื่อนมาตามผิวน้ำใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  จึงชี้ให้ฝ่ายหนุ่มดู      แต่พอช่วยกันเพ่งดูดีๆก็เห็นเหมือนกันทั้งคู่ว่า...เป็นหัวคนลอยน้ำมา...ใกล้เข้ามา....ใกล้เข้ามา     สาวเจ้ากรี๊ดจนสุดเสียง...ส่วนหนุ่มไม่ต้องพูดถึง    วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต  ....กว่าสาวจะมีสติพอจะก้าวขาวิ่งหนีไปบ้างก็หลายอึดใจ      เช้ามาเรื่องนี้ก็โจษกันไปทั่วมหาลัย..ว่านักศึกษาเจอผีหัวขาดลอยน้ำมากลางดึก...จับไข้หัวโกร๋นกันทั้งคู่      ตกสายวันนั้นเรื่องก็ไปอยู่ในวงสนทนาของบรรดาอาจารย์ที่ทราบเรื่อง ... พอเล่ากันฟังเท่านั้น    นักการที่นั่งฟังอยู่ด้วยก็ตบเข่าฉาด...ผมว่าแล้วเสียงใครกรี๊ดเสียลั่น...แถมวิ่งซะป่าราบ    เมื่อคืน...ผมลงไปดักปลา...ลากอวน...ระดับน้ำมันก็ลึกพอดีคอผมเนี่ยแหละ   มิน่า...ทำเอาผมตกใจเสียหมดนึกว่าเด็กมันเล่นอะไรกัน
     
    คงไม่ต้องเดานะว่าหลังจากนั้น..คู่นั้นเขายังจะเป็นแฟนกันอยู่อีกหรือเปล่า     งานนี้ผี...พิสูจน์น้ำใจแฟน...ใครจะลองใช้ดูก็ได้ว่าไอ้ที่มันว่ารักเราน่ะ..รักแค่ไหน?

    จากคุณ : สร้อยสยาม - [ 12 มิ.ย. 52 23:12:28 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com