Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    สารคดีสารพัดสัตว์

    ดูรายการสารคดีเกี่ยวกับหนูๆ ...ดูน่ารัก (มั้ง?)    เป็นสารคดีที่ไปถ่ายทำว่าเขาฝึกหนูตัวน้อยให้ไปหาระเบิดได้อย่างไร    อืมม์...ดูเป็นหนูที่ฉลาดจริงๆ    เขาเลือกใช้หนูแอฟริกันค่ะ    ตัวโตน้องๆแมวอ่ะ...ตัวสีเทามั่ง  ดำมั่ง....ดูแข็งแรงบึกบึนมาก    ตอนเขาอุ้มนะ...ตัวมันเท่าแขนแน่ะ ?   โอ้...อย่ามาอยู่ใกล้เราเชียว  กึ๋ยส์...      เดิมการค้นหาระเบิดเพื่อทำลายนั้นทำโดยคนเรานี่แหละค่ะ ....แต่เป็นงานอันตรายมาก    ดังนั้น..จึงฝึกสุนัขมาแทน    แต่ก็ยังตัวโตเกินไป  น้ำหนักของมันทำให้เกิดการระเบิดได้และไม่สามารถหลบซ่อนสายตาศัตรู      
     
    ขอนอกเรื่องหน่อย ...... เรื่องนี้มีท่านหนึ่งเล่าออกอากาศทางโทรทัศน์    ว่าเพื่อนเขาเล่าให้ฟังว่ามีนายทหารไทยคนหนึ่งเดินลาดตระเวนชายแดนกับน้องหมาคู่ชีพ    ปรากฏว่าน้องหมาได้กลิ่นระเบิด....ระหว่างนาทีเป็นนาทีตายนั้น   เป็นใครก็ต้องหนีเอาตัวรอดก่อน    แต่น้องหมาตัวนี้เขาวิ่งเข้าใส่ระเบิดค่ะ....นอนทับไว้เพื่อปกป้องเจ้านายของมันไม่ให้โดนระเบิด    ที่สำคัญน้องหมาเขาได้ปฏิบัติหน้าที่ในการรับใช้ชาติจนนาทีสุดท้ายของชีวิต   ฟังแล้วก็ไม่มีอะไรมาก...แค่น้ำตาซึม          
     
    กลับมาเรื่องเจ้าหนูตัวยักษ์  เมื่อเห็นว่าเราควรจะเปลี่ยนสัตว์หาระเบิดในเขตอันตรายแล้ว   เขาก็เริ่มฝึกหนูโดยให้ดมหาระเบิดก่อนจะลองไปดมของจริง      ถ้ามันไปหยุดตรงไหนเป็นที่แน่ใจแล้ว     เจ้าหน้าที่เขาจะกดปุ่มสัญญาณดัง...คลิ้ก   แล้วน้องหนูตัวเบ้งนี่ก็จะเดินกลับมาเพื่อรับรางวัล คือ  อาหารจนเต็ม 2 แก้มเป็นที่ชื่นใจ   แล้วเจ้าหน้าที่เขาก็รู้จุดที่เขาจะเข้าไปเก็บกู้ระเบิดได้อย่างค่อนข้างปลอดภัย     เห็นแล้วอยากได้หนูฉลาดๆแบบนี้มาเลี้ยงไว้แถวชายแดนเขมรเราจัง    ชาวบ้านเราจะได้ปลอดภัยไม่ต้องพิการหรือเสียชีวิตจากการเหยียบกับระเบิด   แหม...แต่เห็นหนูที่เขาฝึกแล้ว    นึกถึงหนูตามตลาดน่ะ    ตัวมันโตมากแล้วก็ดูน่ากลัวด้วยอ่ะ     จำได้ว่าเราไปตลาดสดแล้วมีหนูแบบนั้นออกมาวิ่งตั้ง 2 ตัว    ตัวเบ้อเริ่ม  ขนฟู  หางตั้ง   น่ากลัวมาก   เดินส่ายอาดๆ   เรางี้..ยืนเงียบเลยไม่กล้าขยับ    กลัวมันกระโดดมากัดคอเราน่ะ....จินตนาการไปถึงหนูปีศาจโน่นเลย...ขนลุก
     
    พูดถึงหนูแล้ว .... จำได้ว่าดูสารคดีทางวิทยาศาสตร์เรื่องหนึ่ง   เขาทดลองหนูตะเภา (ค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อย)  ให้ลอดเข้าไปในกรงที่มีเมล็ดทานตะวันวางไว้ในแต่ละช่องประมาณ 200 เม็ดได้    อยากรู้ว่ามันจะเอากลับไปเก็บที่รังได้กี่มากน้อย    ปรากฏว่าเขาจะอมใส่กระพุ้งแก้มเขาน่ะ...จนตุ่ยเลยแหละ   2  แก้มเต็มๆ   ได้ไปประมาณ  170  เมล็ดเห็นจะได้     พอกลับไปที่รัง..เขาก็จะคายออกมา   แต่เนื่องจากมันเยอะมากคายเองไม่ได้    น้องหนูตะเภาเขาก็จะเอาขาหลังนี่แหละถีบแก้มตัวเองเพื่อดันเอาเมล็ดในแก้มออกมาให้หมด   แล้วแก้มยุ้ยๆของมันก็จะยุบเหมือนเดิม     แต่พอแกล้งมันด้วยการให้มันลอดออกมาทางซี่กรงเล็กๆหลังจากอมขนมเข้าไปจนแก้มป่องแล้ว   มันออกไม่ได้     หลังจากพยายามลอดมันทุกช่องแล้วก็ยังไม่ได้   มันก็เกิดดวงตาเห็นธรรมว่า....ถ้ายังโลภอยู่ก็คงหนีไปไม่พ้นบ่วงกรง (กรรม) เป็นแน่     มันจึงค่อยๆคายขนมออกมาและเอากลับไปเฉพาะเท่าที่มันจะเอาไปได้เท่านั้น    เห็นมั้ย ?   แค่เลิกคิดที่จะโลภเกินตัว....ไปไหนก็ได้  ไม่ต้องหนัก      เหมือนคนเราน่ะค่ะ    ตอนยังมีชีวิตอยู่ก็หาทางกอบโกยสารพัด....ทั้งลาภ ยศ ชื่อเสียง เงินทอง    ลืมไปว่าตอนที่เราตายไปเอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง     ถ้าได้ทุกอย่างมาด้วยความสุจริตแล้วก็ยังพอทำเนา   แต่ถ้าได้มาอย่างทุจริตนี่...ไม่น่าให้อภัยเลยนะคะ    โดยเฉพาะถ้าโกงบ้านโกงเมือง...โกงประชาชนตาดำๆได้นี่...นอกเหนือจากบาปกรรมที่รับไปเต็มๆแล้วเนี่ย...ก็จะมีแถมคำสาปแช่งไปอีกชั่วลูกชั่วหลานว่าไอ้โคตรเหง้าศักราชนี่มันโกงกันทั้งตระกูล   น่าสงสารลูกหลานที่อยู่ข้างหลังจริงๆ
     
    สารคดีเรื่องถัดมาเป็นนกพิราบ....มีไว้เป็นนกพิราบสื่อสาร    แต่นกเขาน่ารักมากเลยนะ   หัวมีหงอนด้วย    แล้วตรงคอเนี่ยจะเป็นสีเขียวปีกแมงทับไล่ลงไปเป็นสีชมพูด้วย   สวยจริงๆ   ความจริงมีพันธุ์สวยๆอีกเยอะ   แต่เราจะคุ้นกับนกพิราบที่ท้องสนามหลวงมากกว่าก็เลยนึกว่ามันมีพันธุ์นั้นมากที่สุด   ตัวอ้วนๆเดินต๊อกๆๆ จิกพื้นหาของกินตลอดเวลา   บางทีพื้นเป็นลายสีเป็นจุดๆ    มันก็จิกอยู่นั่นแหละ   ไม่รู้มันตาถั่วมองไม่เห็นหรือเป่า ?   แต่นกพิราบมันเก่งมาก...จะหาทางบินกลับบ้านได้ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนก็ตาม   จนนักวิทยาศาสตร์ก็ยังงงว่ามันใช้อะไรจดจำทิศทางในการบิน    ขนาดเราเป็นคน...ไปนอกเส้นทางหน่อยยังหลงเลย    

    วันนั้นขึ้นเรือข้ามฟาก....น้องนกพิราบเขาก็โดยสารมากับเรือด้วย    เป็นนกที่ขี้เกียจจริงๆ  บินได้แต่ตูจะไม่บิน...จะโดยสารเรือข้ามฟากอ่ะ  ใครจะทำไม   แล้วก็เดินไปเดินมาราวกับจะตรวจความเรียบร้อยก็ไม่ปาน  เห็นมันเดินมาเดินไปสุดแสนจะน่าหมั่นไส้......แต่มองไปก็ระแวงไปว่าน้องนกอย่ามาบินใกล้ๆเรานะ    เคยเจอน้องนกบินเฉี่ยวหัวไปทั้งฝูงหนเดียว    เลิกเลย   อย่ามาบินข้ามหัวชั้นอีกเลยนะ...ขอร้อง     แต่ที่จริงมันก็ไม่ได้ทำอะไรให้ใครอ่ะนะ   แต่ทำไมคนยังกินนกพิราบน้ำแดงได้นะ   สงสารมันจัง
     
    ตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย   เพิ่งจะเรียนวิชาจิตวิทยาที่เขาทดลองนกพิราบเรื่องพฤติกรรม    ว่าไว้ว่านกพิราบมักจะเลียนแบบคนอื่น    ถ้าเห็นใครทำรัง...ออกไข่...กกไข่  ก็จะทำบ้าง ?   สงสัยว่าถ้าฤดูนั้นมันไม่มีตัวไหนกกไข่เป็นตัวแรกแล้ว  นกพิราบที่เหลือนี่จะมีใครนึกออกมั้ยว่าจะต้องมีลูกมีหลานสร้างรังกันน่ะ    เรียนเสร็จเราก็ไปห้องสมุด   ขณะที่กำลังเดินขึ้นบันได   มองออกไปที่ช่องหน้าต่างกระจก   ก็เห็นนกพิราบที่กันสาดอีกฟากหนึ่ง    ยืนดูมันว่าทำอะไร....มีนกตัวสีเทาบินไปคาบกิ่งไม้  เศษฟางเท่าที่หาได้มากองไว้เป็นรังบนกันสาดเห็นเป็นรูปร่างแล้วว่าจะเป็นรังขนาดย่อมๆ    แต่พอตัวนี้บินออกไปหากิ่งไม้ใหม่   อีกตัวหนึ่งสีเทาอมเขียวก็บินมาจากกันสาดที่อยู่ใกล้ๆ ....แล้วก็มาคาบกิ่งไม้ของรังนี้ไปใส่รังมันเอง..ที่เห็นชัดๆว่าเพิ่งจะวางไปได้ไม่กี่อัน    แล้วก็จะเกาะอยู่อย่างนั้นรอจนเจ้าตัวสีเทาบินคาบเอากิ่งไม้เล็กๆมาวางเสร็จแล้วก็บินออกไปหาใหม่    เจ้าตัวเขียวนี่ก็จะบินไปคาบของเขามาอีกหนึ่งอัน   อยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ     เจ้าตัวเขียวนี่ก็ฉลาดแกมโกงไปหน่อย   สงสารเจ้าตัวสีเทาน่ะ...มันก็มองๆนะว่าทำไมรังมันไม่เต็มซะที...บินตั้งหลายรอบแล้ว    ที่ไหนได้โดนขโมยกิ่งต่อกิ่งแบบนี้เมื่อไหร่รังมันจะเสร็จกันล่ะ ?  
     
    มีอยู่วัน...หลานดูสารคดีเรื่องชีวิตสัตว์ทะเลทรายมาเล่าให้ฟังต่อ   นัยว่าประทับใจมาก    เป็นแมลงทะเลทรายตัวเล็กๆ  ที่เดินมาด้วยหน้าตาใสซื่อไม่รู้เรื่องอะไรกับใครทั้งสิ้น   หารู้ไม่ว่าเจ้าแมงป่องทะเลทรายที่พิษร้ายจ้องมันอยู่อย่างนิ่งเงียบ    รอให้เหยื่อใกล้เข้ามาอีกนิดเดียว  มันก็จะเข้าไปกินได้ทันที    เจ้าแมลงน้อยก็ดันมาคันขาอะไรเอาตอนนี้ก็ไม่รู้    ก็เลยเอาเท้าสองข้างถูกันไปมา   เจ้าแมงป่องก็นึกว่าเดินเขยิบเข้ามาในรัศมีของมันแล้ว...เสร็จตูล่ะ   พุ่งออกมาจากทรายทันที  แต่ชั่วเสี้ยววินาทีนั้นเองงูทะเลทรายที่มีพิษร้ายกาจที่สุดมาจากไหนไม่รู้ก็ฉกมาคาบแมงป่องตัวนั้นลงท้องไปในทันที....แล้วก็เลื้อยหายไป      ทิ้งให้เจ้าแมลงตัวนั้นเดินต่อไปด้วยหน้าตาบ๊องแบ๊วไม่รู้อิโหน่อิเหน่ตามเดิม....โชคดีจริงๆ
     
    วันหนึ่งไปกินข้าวที่พารากอนกับน้องที่ทำงาน     ตรงตู้ปลาเลย   นั่งไปพักนึง ...น้องบอกว่าพี่ดูสิ    ปลามันหิว .....รู้ได้ไง ?  ว่าไอ้ปลาขาวๆเป็นสิบตัวที่ว่ายวนไปวนมาในตู้นั่นน่ะมันหิว     อ๋อ...มันไม่มีอาหารเม็ดลอยอยู่เลยน่ะสิ   เลยนึกว่ามันหิว....เขาคงมีคนมาให้อาหารเป็นเวลามั้ง..คงยังไม่ถึงเวลากินของมันน่ะ    

    ไม่ใช่พี่...พี่ดูปากมันดิ....มันร้องว่าหิวทุกตัวเลยอ่ะ     เรามองปากปลาพวกนั้นดูบ้าง เออ...จริงแฮะ    ใครไม่เชื่อลองไปนั่งกินข้าวตรงตู้ปลาดูสิ....แล้วดูว่าปลามันพูดอย่างนั้นจริงรึเป่า   อิ  อิ

     
     

    จากคุณ : สร้อยสยาม - [ 13 มิ.ย. 52 13:43:03 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com