ความคิดเห็นที่ 3 อาศรมฯ ๖ ไม่มีสมาชิกใหม่ อาศรมฯ ๗ ร้อย.......ใจร้อยหลั่งเนื้อ                คำรัก โคลง......มิตรอุทิศหนัก                  ถั่งแท้ เรียง.......โคลงผูกโคลงปัก              ศิลป์สืบ คำ.........เพื่อนยิ่งสถิตแม้               โลกม้วยป่นสลาย. จากคุณ : ไข่นุ้ย. - [16 ต.ค. 44 14:41:46] ร้อย    พจน์พราวพรั่งพร้อม       วรรณศิลป์ โคลง   ดั่งสายธารริน               แต่งคล้อง เรียง   ด้วยประจักษ์จินต์           หมายสืบ คำ      หนึ่งไหว้ครูพ้อง              ผ่านแผ้วผจงจาร จากคุณ : ทอตะวัน   - [16 ต.ค. 44 21:04:26]     ร้อย     รสฤๅรื่นลิ้ม                 เทียมรส กวีนา โคลง   ก็หยาดวจีพจน์            พากย์น้อม         เรียง    รินฉ่ำหวานสด            เสวยสุข สวรรค์นอ คำ       พิสุทธิ์สะอาดพร้อม     พิลาสล้ำกวีสมัย จากคุณ : JustMe   - [16 ต.ค. 44 22:08:50] ร้อย     คะแนนหลุดแล้ว         ลอยลับ โคลง   ดั่งคนตกอับ               โอดเศร้า เรียง    พลังช่วยกระชับ           จิตเฉิด    ฉายเอย คำ      มั่น...ขยันเข้า              แค่ร้อยปล่อยไป จากคุณ : เหงาจังเลย - [18 ต.ค. 44 15:49:49]            ร้อย     พันจักราพาลพ้น         เพียงใจ     คำ     นบเอกรัตนไตร                   จิตน้อม     เรียง   รัชช์ขัตติยะไทย                  ถวายชีพ พลีนา     โคลง  เขียนเทียนธูปพร้อม             สีสะค้อมบาทครู จากคุณ : หมือนคว้าง - [18 ต.ค. 44 21:41:01] ร้อย   เอ็ดเจ็ดย่านน้ำ            เยือนกราย โคลง  คลื่นอักษรพราย         ผุดพร้อย เรียง  ระลอกกระทบชาย        ฝั่งก- วีเฮย คำ     ต่อคำสื่อถ้อย              ส่งซึ้งถึงกวี จากคุณ : ว้อบแว้บ*   - [19 ต.ค. 44 00:54:36]     หนาวใจใจปวดร้าว                รอนรอน เธอที่รักจากจร                     เหนื่อยล้า เหมือนมีดปักยากถอน            เลือนอดีต  ลืมเจ็บ เชิญฆ่ามิได้ท้า                     โปรดฆ่า     ข้าที จากคุณ : ยอดข้าว - [20 ต.ค. 44 16:38:59] ร้อย...ร่ำคำต่อคล้อง.......โคลงกวี โคลง..ค่าวแต่งให้ดี.........ยากแท้ เรียง...เลขเอกโทที.........ฝืนฝืด คำ......ละคำขีดแก้..........ขัดข้องขืนเคืองฯ จากคุณ : โมโน - [21 ต.ค. 44 17:50:10] อาศรมฯ ๘ - ๑๐ (ไม่มีสามาชิกใหม่เข้ามา) จากคุณ : ศาลายา - [ 13 มิ.ย. 52 19:25:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คคห.โดนลบอัตโนมัติ สงสัยเจ้าที่แรง... จากคุณ : ศาลายา - [ 13 มิ.ย. 52 21:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ... จากคุณ : ศาลายา - [ 13 มิ.ย. 52 21:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เพริศฟ้าฉลองสยาม เพริศ แพร้วพิภพพื้น...........พรรณกวี ฟ้า แจ่มอักษรสี.................สดแต้ม ฉลอง มิตรไมตรี.................เต็มจิต สยาม บ่แล้งกวีแกล้ม...........กล่อมเกื้อกรุงวิไล --------- แปลกใจ ไม่เคยได้เป็นคนแรกสักที สวัสดีทุกท่านนะครับ จากคุณ : ethanoic - [ 13 มิ.ย. 52 21:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หากชาวโคลงเคลิบเคลิ้ม            นอนสบาย รอแต่ไหวพริบกลาย                 เชื่องช้า คมความอรรถรสคลาย              เป็นเสื่อม-  สูญเฮย คงแต่ความอ่อนล้า                   ปล่อยร้างวรรณกรรม ฯ ชาวโคลงนอนยิ้มอย่าง             สุขสราญ มัวแต่เพลินฝันหวาน                ค่ำเช้า ยังคงปล่อยปฏิภาณ                 สนิมเขลอะ รอแต่วันเป็นเถ้า-                    แก่ด้วยความชรา ฯ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) - [ 13 มิ.ย. 52 21:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 21.40 น. ๏ จุด ... เทียน เจียนทุ้ด! สิบ        ธันวา สีเจ็ดแล ธูป ... ปัก ทักปุ๊บ ตา                   เหลือกค้าง เชิญ ... นก ชกเนิน ขา                หนีบขัด โคลง ... แรก แขกโลงร้าง           จากห้องกวีเมือง ๚ะ๛ (กะซิก กะซิก) 21.45 น. ----------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 26   ...นก......บ้านนอกหัดขึ้น.........บินลัด ฟ้าเฮย ...หลง....ทิศ ติดไวรัส.............หวัดร้าย ...ทาง....กลับ พับปีก ปัด.........ผลัดถิ่น แล้วฮือ ...มา......ออด มาอ้อนไหว้.......ฝากเนื้อ ฝากตัว จากคุณ : นกโก๊ก  - [ วันรัฐธรรมนูญ 23:18:28 ]   ความคิดเห็นที่ 27   ..........นกโก๊ก..สวัสดิ์ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ๏ นกอะไรเขี้ยวยื่น.............น่ากลัว มาฝากตงฝากตัว.................อ่อนน้อม จระเข้ฝากลำคลอง...............ละเชื่อ คมกริบเชิงโคลงพร้อม...........กำหราบได้ทั้งแดน...๚ะ๛ จากคุณ : เรียมนั่นเอง - [ 11 ธ.ค. 47 02:26:52 A:203.172.127.57 X: TicketID:081578 ] -----------------------------------------------------------------------------   จากคลังกระทู้เก่า ห้องราชดำเนิน (กวีการเมือง) http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/P3166245/P3166245.html จากคุณ : นกโก๊ก - [ 13 มิ.ย. 52 21:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เพราะฉัน "ไม่รู้" จึงดูจิต ดูกาย ดูชีวิตที่รินไหล ผ่านช่วงผ่านชั้นดั้นด้นไป วนว่ายตายในบทพรรณา ตายซ้ำตายซาก "อยาก" แล้ว "เบื่อ" เวียนผ่านเลือดเนื้อปรารถนา หวนคิดหวนค้นการด้นมา สุดสังเวชแววตาของตัวเอง. ธรรมะ พร เมตตา เพื่อเธอทุกคน. ------------------------------------------ บางวันล้า บางวันคึก บางวันเฉยๆ   เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่คงที่ เหมือนสายน้ำไหล เป็นอย่างหนึ่ง แล้วไปเป็นอย่างหนึ่ง อย่างหนึ่งกับอย่างหนึ่ง บรรจบกันแล้วก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่าอย่างแรก มันเริ่มเมื่อไหร่ และอย่างสุดท้ายมันจะจบเมื่อไหร่ ผมและคุณ เป็นอย่างไหน.. ------------------------------ ระลึกถึงทุกชีวิตมิตรสหาย :D จากคุณ : Ar@p - [ 13 มิ.ย. 52 21:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คคห.#6 สวัสดีครับ  คุณ ethanoic คุณเป็นคนแรกแล้วครับ ๏  ท่านคือคนแรกเข้า             มาตอบ สีสดอักษรสอบ                     ผ่านพ้น ทบกวีกับแกล้มกรอบ              สุรากรุ่น กวีหลั่งท่วมไทยท้น                กระแทกกระทั้นสวรรค์เห็น ๚ะ๛ ========================================= คคห. #7 สวัสดีครับ คุณ นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) หนัง The Darkknight ดูแล้วสนุกมากครับ ๏  ชาวโคลงคงคุดคู้                 คาหมอน ไหวพริบปฏิภาณคลอน             ค่ำเช้า โลกไวว่องยิ่งศร                      อิศเรศ  วิเศษพ่อ อย่าปล่อยอาศรมฯ เศร้า           โศกฟ้าอสงไขย ๚ะ๛ ======================================== คคห.#8 สวัสดีครับ  คุณ นกโก๊ก ดูแล้วทำให้เข้าใจว่าพลัดเข้ามาจากห้องกวีการเมือง ในยุคสมัยไวรัสหวัดนกอาละวาด ช่างเปรื่องปราดทางโคลงผวน ๏  จาก   ไวรัสจัดไว้                  รักโคลง ห้อง  ว่างห่างว่องโหวง               เหว่ว้า กวี   กี่วาโยง                            กี่เรื่อง  ราวเอย เมือง   นั่นมั่นเนื่องน้า                 นกโก๊กกวีขยัน ๚ะ๛ ======================================== คคห.#9 สวัสดีครับ ท่าน อาร์พี สวัสดีครับ เห็นชื่อท่านตั้งแต่ตั้งอาศรมโคลงเลยเชียว ดีใจจังที่ได้เห็นบ่อยๆ บทกวีไพเราะและลึกซึ้งครับ แต่ไม่คุ้นกับ "พรรณา" เคยใช้แต่ "พรรณนา" ๏ ไม่รู้คือไม่รู้                          ระวังจิต กายวจีชีวิต                             ยุ่งย้ำ ว่ายวนวัฏลิขิต                         กรรมต่อ วันทุกวันซ้ำซ้ำ                         ป่าช้าในตน ๚ะ๛ ======================================== จากคุณ : ศาลายา - [ 14 มิ.ย. 52 00:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถึง คุณศาลายา, ตอนแรกอ่านความเห็นที่ ๔-๕ ทำเอางงไปพักหนึ่ง สมัยนู้น เมือความเห็นใดไม่เหมาะสม หรือ มีข้อพิพาท ก็จะถูกลบไปเลย ปล่อยให้ผู้อยู่เบื้องหลังและสาธารณชนถกเถียง ตั้งวงก่ออกุศล ไปเรื่อยๆ ถ้าวงใหญ่ก็ก่ออกุศลได้มาก ถ้าวงเล็กสักพักก็ต่างคนต่างไปสู่ภพภูมิของตน แต่บางครั้ง ประเด็นลามปามไปขยายใหญ่โต เพราะเมื่อมีความเห็นต่าง มักเลยเถิดไปละเมิดบุพการีบ้าง สัญชาติบ้าง สีผิวบ้าง แหล่งกำเนิดบ้าง รสนิยมบ้าง ต่างคนต่างย้ายภพย้ายภูมิไปจนครบ ๓๑ ภูมิ, ส่วนมากจะอยู่แถวภูมิด้านล่าง พอทุกอย่างสงบลงแล้วแต่ละคนก็เก็บ "มรดกนั้น" ไว้คนละเล็กคนละน้อยตามกำลังกรรมที่แต่ละคนได้ลงแรงผลักดัน ... มีใครจะมารำลึกความหลังบ้างครับ ตั้งวงคุยกัน "ผมเก็บไว้หลายแผลเลย" "ฉันก็โดนไปหลายดอก" "หนูล่ะหน้าแตกนับครั้งไม่ถ้วน" ฯลฯ :D จากคุณ : Ar@p - [ 14 มิ.ย. 52 07:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ท่าน Ar@p ตื่นเช้าจังครับ ผมพึ่งตื่นงัวเงียร์มาปัดกวาด ก็เจอซีเนียร์แต่เช้า อาศรมฯ มีวิวัฒนาการครับ ผมกลับไปอ่านตั้งแต่ต้นหลายรอบ ถ้าใครอ่านแต่ คคห.4-5 อาจจะงงๆ ว่าเรื่องราวอะไร? ทำไมโหดๆ แต่จริง ๆ แล้วเป็นช่วงยุค 9/11 เหล่ากวีสาปแช่งผู้ก่อการร้าย มันออกมาโดยอารมณ์กวี ถูกที่ทางบ้าง แปร่ง ๆ บ้าง แต่อาศรมฯ ก็ผ่านการวิวัฒนาการ จนปัจจุบัน ผมติดตามอ่าน แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองได้ร่วมกับวิวัฒนาการนั้น ตั้งแต่แค่รู้สึกอยากเขียนโคลง เขียนโคลงได้ พลัดหลงในดงฉันทลักษณ์ สลึมสะลือในทะเลแห่งถ้อยคำ พยายามที่จะเขียนโคลงให้เป็น ปัจจุบันก็ยังพยายามอยู่ อยากเขียนโคลงสดได้              ดังฝัน เขียนลบอยู่ครึ่งวัน                    น่าหยุ้ง ได้แค่บทอัศจรรย์                     บทหนึ่ง  อึ้งอา โอวโอ่วโอ้วตุ่งตุ้ง                      จั่งซี้(มัน)ต้องถอนฯ จากคุณ : ศาลายา - [ 14 มิ.ย. 52 08:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 09.48 น. (กลโคลงผวน 'พยัคฆ์ย่างสิงขร' ... ผวนคำโคลงคู่หน้า เล่นคำอักษรสองตัว) ๏ จุด ... คิด จิตคุดคู้                   โคลงเคลง ธูป ... บอก talk บุบเบง                เบ่งบ้าง เชิญ ... อัด ชัดเอิ้นเอง                 อึดอัด โคลง ... เล่น เข่นโลงล้าง             โลกลี้ลับเลือน ๏ เพื่อน ... กัน พลันเกลื่อนกลุ้ม     กลัวเกรง โยง ... ท่าน ย่านโทงเทง              เเทกทึ้ง คำ ... คู่ คู่คลำเคลง                     โคลงคล่อง       มา ... บ่น มนต์บ้าบึ้ง                    บิดเบี้ยวโบ๋เบ๋- ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 10.03 น. ------------------------------------------------------------------------------------- จาก กระทู้บทกวี ห้องถนนนักเขียน ๏ บ้านโคลงผวน ๏..... ( ๑๙ ) ..... สวนเพลิน... เชิญผวน ..... ของคุณ : คนสาธารณะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7943181/W7943181.html ------------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 37   (พยัคฆ์ย่องยามสาม-ปล้ำล้ม-โดมิโน) 20.33 น. ๏ เล่นสวน รวนเส้นขัด..........ซัดเข็น กันฮา ฮาเล่น เห็นล้า เหม็น.............เล่นม้า ม้าย่อง ม่องย้า เห็น..............เย็นฮ่า ฮ่าเอย เอยหม่ำ อั้มเหมย อ้า............หม่าเอ้ยแม่มา   ๏ มาสวน มวนซ่าลิ้ม.............ซิ้มลา มาแล แลค่ำ รำแค่ อา...................ข่าแอ้ แอ้ก่อน อ่อนแก้ นา..............กาแน่ นอนฮา ฮาหน่อย ห้อยนา แล้............แน่ะล้าโคลงผวน ๏ ผวนมั่น ผันม่วนแล้...........แม้รวน-ล้มแล แลมะ ละแม่ ทวน................ม่วนแท้ แท้ยาก ทากแย้ ครวญ.........ยวนแค่ ขันนา นาแม่ แน่มา แน้.................แม่น้าใจดี ๏ ดีหนอก ดอกหนี้เด่น.........เน้นดี มาร์คโว โวกัด วัดโก้ มี....................กี่โม้ โม้แดะ แมะโด่ หนี..............ดีโน่ ขำฮา ฮาค่อย ห้อยคาร์โก้.............โข่กล้าเข็นไป   ๏ ไปม้า ปลาไม้ย่าง.............หมางไย เยอะนา นาย่อง น้องยาใจ................ใหญ่จ้า จ้าอิ่ม จิ่มอ้าไข...................ไอ้ข่า ต้มฟักโวย โวยเห่า เว้าโหย ว้า..............ห่าโว้ยหนาวแอร์ ๏ แอร์ไก่ ไอ้แก่ย้วย............กล้วยแหย อยู่นา นาด่วน นวลด่าแมร์..............แด่ม้า ม้านั่ง มั่งน้าแหม..................แนะม่า-ม้าแม่ แม่ผูก มุขแผ่กล้า................ผ่าแก้กลโคลง   ๏ โคลงรู้ ครูโล่งแจ้ง.............แร้งโจง-กระเบนฮา ฮาบ่อย หอยบ้าโขง..............บ่งข้า ข้าเล่น เข่นล้าโยง................หลงอย่า ลืมแน แนผิด นิดแผลอ้า................ผ่าแอ้อ้อผวน ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 21.35 น. ----------------------------------------------------------------------------------- มาเพิ่มเติม ปอลิง หน่อยคร้า คำผวน ...อยากจะชี้ชวนให้พี่น้องบ้านโคลงผวนเราดูคำคู่เรียงเคียงหมอน ...ตอนแต่งโคลงควรปล่อยใจให้สบายๆ ไปตามลมล่าง-ลมบน แร่ะคร้า (อารมณ์โคลง ใครจะบิ๊วมาได้นิ) ...วิถีกวีใจ ต้องคลำให้โคลงพาไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์โคลง นะคร้า ...คำโคลงคำหน้ามีวิถี'ภาษาใจ'เรียกคู่คำขวัญมาผันผวนได้ม่วนระเบิดเถิดเทิงแล ----------------------------------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 52 22:08:44     จากคุณ : นกโก๊ก    - [ 8 มิ.ย. 52 21:48:16 ]   : คนสาธารณะ, pumpond, y@mie, นิศามณี, อาลีอา *** ความคิดเห็นที่ 41   หาคู่เรียงเคียงหมอนนอนไม่หนาว ชวนหนุ่มสาวแต่งโคลงผวนม่วนอิหลี ปล่อยใจให้สบายอารมณ์ดี เป็นวิถีคลำโคลงจรรโลงใจ เล่น"รีรีข้าวสาร"สานปรองดอง "พยัคฆ์ย่องฯ"หลายลีลาพาหวั่นไหว "ตลบมุ้งโดมิโน"ตลบใจ "นางสิงห์ย่องฯ"ตอนเผลอไผลให้พรั่นพรึง ... ๏ ผลหมาก รากไม้....................มากผล ก้านกิ่ง แกร่งทานทน..................กิ่งก้าน แกว่งโยน ตากลมฝน...................โอนแกว่ง หล่นร่วง ทั่วลานบ้าน...................ร่วงล้นพะเนินกอง ๏ ทดลองปลูก ชำต้น..................ลำไย ไยลำ บาก กระไร........................พี่น้อง น้องพี่ ทำไฉน............................ปลูกช่วย  หน่อยนา ช่วยปลูก จะคอยจ้อง....................จำไว้ในวิชา     ๏ พ่นยา พาย่นหน้า.......................พาจน ยาฉีด ฉีดยาปน............................พิษร้อน ปุ๋ยใส่ ใส่ปุ๋ย ผล...........................ใบดก ทุนขาด ขาดทุนซ้อน......................ซากซ้ำเติมแผล ๏ แต่นี้ คง หนี้แผ่.........................ลามขยาย คลายสุข ทุกข์ระคาย....................บอบช้ำ ตายแน่ ไม่แก่ตาย.......................ทุกข์ท่วม ยำขยี้ หนี้ขย้ำ .............................อกโอ้ชาวสวน ... ด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวด แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 11:28:58 จากคุณ : ลำน้ำ C    - [ 9 มิ.ย. 52 11:27:18 ]   : pumpond, นกโก๊ก, y@mie, คนสาธารณะ, นิศามณี, คุณแม่ใจดี, อาลีอา *** ความคิดเห็นที่ 58   08.14 น. ๏ เอกเจ็ดโทสี่ สร้าง................คำลง โคลงนา หากช่วย Aid เจ๊ก คง...............สร่างซี้ คงรำ อ่า รำหลง.....................ครางส่ง พี่แล อำล่า เรือแพลี้.......................เฒ่ายี้ เตมีย์ ๏ Key กู คูกี่ครั้ง.....................นกไพร ขันแล เทศคู่ two case ไทย..............คู่สร้าง เป๊ก see ปี่ เสกไย..................ดูดปี่ ต๋งไก่ ไต๋ก๋ง ล้าง....................คู่ม้า หมาโกย ๏ ก๋งโหย โกยฮ่งฮ้ง................หอนสวน หวนซ่อน คำสอนผวน..............ส่งให้ ใสหงส์ ที่ รำควร....................มีท่า มาที่ สวนซิได้.......................ดั่งนี้ กวีใจ ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 09.41 น. แง่ม แง่ม ... ยามว่างงานมาลองมั่วปั่นโคลงผวนเล่น ตั้งใจเน้น เอก 7 โท 4 ด้วยอยากเห็น'ขวัญจินตกวี' ว่าวิถีโคลงจะส่งคำคู่เรียงเคียงหมอนมาให้ดังใจฝันหรือไม่ ----------------------------------------------------------------------------- เอกเจ็ดโท[/i]สี่ สร้าง[/i].........คำลง โคลงนา หาคู่คำผวน โคลงสวนบทแรกมั่วแหลกแร่ะคร้า เอกเจ็ด*Aid เจ๊ก สี่ สร้าง*สร่างซี้ คำลง*คงรำ คงสร่าง*ครางส่ง อ่ารำ*อำล่า พี่แล*แพลี้ ----------------------------------------------------------------------------- ไม่น่าเชื่อ*เมื่อน่าใช่...นกผีปล่อยใจให้คำโคลงบาทแรกที่แว้บเข้ามาพาไป วิถีกวีใจ ... ดันห่าได้ดังใจฝัน ... แถมดันห่าบอกใบ้เรื่องอะไรก็มะรุนิ ... กวีใจกู ----------------------------------------------------------------------------- แง่ม แง่ม ... มาแก้ไข เวลา เริ่มแต่ง 09.14 น. จิ้มผิด เป็น 08.14 น. แร่ะคร้า แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 52 10:20:01     จากคุณ : นกโก๊ก    - [ 11 มิ.ย. 52 10:11:52 ]   : pumpond, y@mie *** จากคุณ : นกโก๊ก - [ 14 มิ.ย. 52 10:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ๑๒๑๔ ๏  จุด ..ไฟ ใจ,ผุด พร้อม             ผนึกคำ           ธูป .......ใจ ไถจูบ จำ                  จดบ้าง เชิญ .....เทพ เสพย์เทอญ สำ -      คัญยิ่ง โคลง ....อ่อน คอนโอ่ง อ้าง         หนักอึ้งโอยฉัน ๚ะ ๏ จุด ....ผัน จันทร์พุธ ทั้ง             อาทิตย์ ธูป .......รัก ทักรูป มิตร                หมู่ล้อม เชิญ .....ฝัน สั่นเพลิน จิต             ใจห่ม โคลง.....ยับ คลับโยง พร้อม         ขับเฟ้นคำผวน ๚ะ๛ ๑๒๓๓ ๑๔๐๖๕๒ สวัสดีทุกท่านครับ จากคุณ : คนสาธารณะ - [ 14 มิ.ย. 52 12:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โคลงเอยอรรถรสล้า.............ลงไฉน ตื่มแต่อักษรวัย....................ดึกแล้ว จงกระชุ่มกระชวยไข..............ลานตื่น คืนหนุ่มสาวเจื้อยแจ้ว..............จีบด้วยโคลงหวาน จากคุณ : ethanoic - [ 14 มิ.ย. 52 19:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คคห.#13 คุณ นกโก๊ก ขยันสร้างกลโคลงผวนจริง ๆ นับถือ ๆ นอกจากกลโคลงผวนธรรมดา ๆ แล้วยังมีชื่ออีกหลายกล แจ่มๆ ขอเล่นแบบ 'พยัคฆ์ย่างสิงขร' ดูถี ๏ จุด ... สูงจูงสุดแล้ว             ลิ่วลง ธูป ... ปักทักปุ๊บปลง               ปล่อยปล้อย เชิญ ... เถิดเชิดเทินธง            ทวยเทพ โคลง ... รื่นคลื่นโรงร้อย         รุ่งเรื้องเรืองรอง ๚ะ๛ ================================= คคห.#14 คุณ คนสาธารณะ ขาโคลงผวนอีกท่าน ยินดีครับ ๏ จุด ... ผันจันทร์ผุดแล้ว               อาทิตย์ ธูป ... หรี่ที่รูปนิด                          หนึ่งน้อย เชิญ ... งัดชัดเงินปิด                     แสงอื่น  ใดเอย โคลง ... ส่องคล่องส่งสร้อย            สว่างซึ้งอนันตกาล ๚ะ๛ ================================== คคห. #15 คุณ ethanoic "โคลงหวาน" เป็นอย่างไร ต้องให้ซีเนียร์มาเฉลย ?!? ๏ จีบ ... สาวสาวนั่งซ้อน                รถสวย ด้วย ... บัตรเครดิตรวย                   รูดได้ โคลง ... กลอนกาพย์อาหมวย          บ่กระดิก หวาน ... อื่นหมื่นแสนไซร้               พ่ายแพ้เงินเสมอ ๚ะ๛ ================================== แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 22:52:58 จากคุณ : ศาลายา - [ 14 มิ.ย. 52 22:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สักวามาร่วมคล้อง...โคลงเคลง พอเริ่มจุดบรรเลง...ธูปไหม้ เชิญครูบ่นครวญเพลง...สมัยเก่า มานั่งยกมือไหว้...เมื่อใกล้วันกวี จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 15 มิ.ย. 52 10:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตาม.......เธอเพราะเพ้อพร่ำ            รำพัน กลิ่น.......ดั่งกลิ่นนางสวรรค์            เสกสร้าง ธูป.........จุดจากไหนควัน               ลอยกรุ่น มา.........แตะจมูกให้มล้าง              หวั่นแท้ตามผี จากคุณ : แดงน้อย (Little Red) - [ 15 มิ.ย. 52 15:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โคลงหวานหวานด้วยรัก     ประคองความ วัจจมธุรสงาม                    กอรปเกื้อ เช้าสายบ่ายเย็นยาม           ใดฤ หน่ายฤๅ หวานตราบสิ้นโลกเรื้อ         บ่เรื้อระอาหวาน จากคุณ : CrazyHOrse - [ 15 มิ.ย. 52 16:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลอยล่องควันธูปนั้น................อวลอล เร้าปลุกกวีจน.......................สั่นสะท้าน เราเป็นแค่ผ่านหน................คนผ่าน  มาเฮย ควันล่องกลัวมะเร็งจ้าน...........หลบลี้ข้างทาง กิกิกิ  แซวเสร็จก้อไปแระจร้า...ฟิ้ว แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 18:29:43 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 16:57:06 จากคุณ : กรวี - [ 15 มิ.ย. 52 16:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ๏ จุด....ไฟเผาไหม้แผ่น..................ดินเกิด ธูป.......ปักเซ่นระเบิด....................บาปเปรี้ยง เชิญ.....เดียรัจฉานเปิด..................แสดงสัตว์ โคลง....สัตว์ประเสริฐเดี้ยง.............ดับใต้ตี-นโคลงฯ แหะ แหะ ขอรับ มาอีหรอบนี้แล แหะ แหะ สวัสดี ขอรับ จากคุณ : นายทิวา - [ 15 มิ.ย. 52 18:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ควัน...ลอยยามจุดไต้...........................ถือคบ ธูป.....กรุ่นหอมตรลบ...........................แผ่กว้าง ตาม...หาเพื่อพาพบ..............................ผองเพื่อน โคลง..ส่งมาเสกสร้าง............................ต่อให้ฤทัยหวน จากคุณ : คุณแม่ใจดี - [ 15 มิ.ย. 52 21:29:36 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ฮ้าดดด เช้ยยย... ใครจุดธูปหนอ   จากคุณ : วฤก - [ 15 มิ.ย. 52 22:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่มีใครชวนผมหรอกหนา...................ผมมาเองครับ. แขวน รักไว้เทียบฟ้า               แลดิน คำ นั่นเพียงได้ยิน                  ย่อมรู้ ประดับ กับจิตจินต์                  นานเนิ่น ใจ ถอดให้ยอดชู้                   แนบข้างเคียงกาย ฯ จากคุณ : เจียวต้าย  - [ 6 ธ.ค. 48 19:16:02 ] จากคุณ : เจียวต้าย - [ 16 มิ.ย. 52 09:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 (กลโคลงผวน พยัคฆ์ตัวใหม่ รอพี่น้องบ้านโคลงผวนตั้งชื่อให้คร้าบบท่าน ศาลายา) ************************************************ 10.02 น. ๏ จุด ... ดับ จับดุจได้..................จอมใจ ธูป ... ว่า ถ้าวูบไว.......................ถิ่นเถ้า เชิญ ... ขัด ชัดเขินไข..................ชาญเชี่ยว โคลง ... เล่น เคล้นโลงเล้า............คล่องคล้องคลำโคลง ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 10.18 น. ************************************************ วัคซีนหวัดนกเข็มที่. 13     09.46 น. (เช้าลงโคลงเรือ*เชื่อลงโคลงเรา) กลโคลงผวน นางสิงห์ย่องยามเผลอ ๏ เช้าเสือ ใช่ เชื่อเศร้า.........หวั่นใจ ใจหวั่น ใช่ จั่นไหว...............ใส่ข้อง ใส่ข้อง ใช่ ส่องไข..............ห้องปาก ห้องปาก ใช่ หากป้อง...........ปากไข้หวัดกัน ๚ะ๛ (คริคริ) 09.51 น. ------------------------------------------------------------------------------------- จาก กระทู้บทกวี ห้องถนนนักเขียน ๏ บ้านโคลงผวน ๏..... ( ๑๙ ) ..... สวนเพลิน... เชิญผวน ..... ของคุณ : คนสาธารณะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7943181/W7943181.html -------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 95 22.58 น. ๏ เช้าสวน ชวนเศร้า สั่น........ชินชา สายหน่อย สร้อยหน่าย นา.....โศกเศร้า เพลง่าน พล่านเงน งา...........เพ่นพล่าน เที่ยงว่า ท่าเหวี่ยง เว้า...........แทบท้อโทงเทง ๏ บ่ายเจ๊ง เบ๊งจ่าย เจ้า..........บ้าบา เย็นขลุก ยุคเข็น ขา.............ยืดเย้อ ค่ำมืด ครืดหม่ำ หมา.............คู้คุด ดึกหื่น ดื่นฮึก เฮ้อ................ดับด้าวดาวเดือน ๏ รุ่งเยือน เรือนยุ่ง โย้...........เรือนรัก จี้เหน็บ เจ็บหนี้ หนัก..............จ่ายเจ้า ปลาเห็ด เป็ดหา หัก..............ป้อนปาก รัฐอ่อน ร้อนอัฐ เอ้าท์............แรดแร้งรุมเรือน ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 23.32 น. ----------------------------------------------------------------------------- แง่ม แง่ม ... ปีนี้ดูท่าว่า ... ชาวสวน-ตกที่นั่ง-ชวนเศร้า ... เหมียนเดิมอีกแย้ว เซ็งเป็ดจินๆ เรย พี่น้องเอ้ย ... ชาวสวน-มะมีโอกาสได้-ชวนสาว ... เรยรึเนี่ย ----------------------------------------------------------------------------- ดึกสวัสดิ์ฮับ*ดับสวัสดิ์ฮึก ... แง่ม แง่ม ... น้องมี่ดองกิ๊ฟด้วยเสือกี่ตัวคร้าาา ----------------------------------------------------------------------------- ว้าว ... กลโคลงผวนชุดนี้เผลอเล่นอักษรสองตัวแบบนี้ได้งัย ... ชะมิชิ ผวนคู่คำหน้าบาทโคลง ต่อด้วยอักษรคู่ท้ายคำผวน ... วรรคท้ายบาทโคลงเป็นชุดอักษรตัวหน้าบาทโคลง ----------------------------------------------------------------------------- สมควรมีชื่อใหม่นิ - กลโคลงผวน 'พยัคฆ์...............' - อารายดีน้า ----------------------------------------------------------------------------- เย้ เย้ ... พี่น้องบ้านโคลงผวนช่วยตั้งชื่อให้หน่อยจิคร้า ... แย้วจาให้กิงลองกองฟรี 1 ปี น้า ... คริคริ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 00:00:15 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 23:57:53 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 15 มิ.ย. 52 23:53:44 ] : อาลีอา ความคิดเห็นที่ 96 (พยัคฆ์เย้ยนางสิงห์) ๐๑๓๒ ๏ ฝนแปร แพป่น ป้าง..........พังผลาญ ตกหนัก ตักนก นาน.............ตื่นเต้น ตกแรง, แต่งรก ลาน............ตามไต่ ฝนสาด ฟาดชล, เส้น...........ฝั่งโพ้นพาฝัน ๚ะ ๏ ครันมอง คลองมั่น แม้น.....คลุมเครือ คลองหลัก ควักรอง เหลือ......ขุ่นข้น รับฝน หล่นพับ, เผือ.............แรงหลั่ง เตรียมรัก ตักเรียม ล้น...........ตุ่มตั้งเติมตาม ๚ะ ๏ ถามฝน ทนพล่าม เพ้อ.......เทียวทำ เนินขุด นุชเขิน คำ................หนึ่งนั้น ชายรัก ชักหลาย ลำ.............ชมชื่น เรียมปัก รักเปี่ยม ปั้น............หล่อเลี้ยงเริงสราญ ๚ะ ๏ นานวัน นั้นหว่าน เวิ้ง..........เนาเนิน สวนผัก ชักผวน เพลิน...........ชุ่ม,สร้าง นกสั่น นั่นฉก เชิญ...............นวลสนุก เต็มรัก ตักเล็ม ล้าง...............ตื่นเต้นตามตัว ๚ะ ๏ กลัวเมิน เกินมั่ว โม้............เกากัน มุกสิ มีสุข สรร.....................ใหม่มื้อ สาวขลุก สุขคราว ครัน...........ชวนส่ง มันส์ฮา รักด่วน รวนดัก ดื้อ................หล่นร้องเรียมหลง ๚ะ ๏ พง,บอก พอกบ่ง บ้าน.........เพลินเพลง ซอกอ่วม สวมออก เอง..........สุขซ้ำ สวน,กลับ ทรัพย์กวน เกรง......ชายส่อง ฝนปล่อย พลอยป่น ปล้ำ.........ผ่าวเพี้ยงเพลินฝัน ๚ะ๛ ๐๒๑๙ ๑๖๐๖๕๒ * กลบทนี้พี่นกโก๊กได้มายามเมื่อ..นางสิงห์เผลอ.. * *ข้าพเจ้าเลยขออาสาตั้งชื่อ กลบทโคลงผวน นี้ว่า...* *.........พยัคฆ์เย้ยนางสิงห์...........ขอรับ อิอิ...* แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 03:06:09 จากคุณ : คนสาธารณะ - [ 16 มิ.ย. 52 03:01:36 ] : อาลีอา ความคิดเห็นที่ 97 ๏ เข้าสวน ครวญเส่า สร้าง............เคียงครัน เดินผ่าน ดานเพลิน พลัน...............ดุ่มได้ เรางม ร่มเงา งัน..........................ลับล่วง ชวนกล่าว สาวกวน ใกล้................เสาะเสี้ยวสืบสาย ๚ะ ๏ สายหน่อย สอยหน่าย เน้น..........ซึมซับ ลาห่าง ลางหา หับ.........................หลบเร้น สวนใฝ่ ใช่ผวน พับ.......................สุดแสบ สาวขุด ทรุดข่าว เค้น....................สบสร้างแซมเสย ๚ะ .......................................................... หวาดกลัว เจ้ย...!! หวาดดี ยามดึกคร้า..เกือบสว่างเเล้ว งั้น อารุณสวาดด้วยเลยนะคร้า..ง่วงมากมายกว่าจะได้สองบท หลับเเล้วหลับอีก คริคริ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 04:42:19 จากคุณ : เลิฟๆ นางมารร้าย.. (อาลีอา) - [ 16 มิ.ย. 52 04:41:15 ] ความคิดเห็นที่ 98 08.19 น. ๏ สวนเอื้อ เสืออ้วน แอ่ว.............สาวสาว สาวอัด ซัดอาว อาว...................สิเศร้า เศร้าเย้ย เส่ยเย้า ยาว.................เสือแสบ แสบอย่า สาแย้ป เย้า.................สิสร้อยสรวมสิงห์ ๏ สิงห์เย้ย เสยยิ่งย้ำ.................สาปเสือ เสือพ่าย สายเผื่อเผือ................สุขสร้าง สร้าง kid สิทธิ์ค้างเครือ..............สาวสุข สุขบ่อย สร้อยบุกบ้าง................ศัพท์สร้างสนสวน ๏ สวนมุข สุขม่วน ไหม้..............สูญเสีย เสีย kid สิทธิ์เคลีย clear ...........สิทธิ์สิ้น สิ้นหญิง สิ่งยิน year..................เสื่อมสุข สุขปาก สากปลุก ปลิ้น...............สิเศร้าเสือสิงห์ ๏ สิงห์ตบ สบติ่ง เต้า..................ส่วนสวน สวนกริ่ง สิ่งกวน กวน.................แสบสู้ สู้เหี่ยว เสี่ยวฮู้ หวน....................สิงห์สั่ง สั่งเหยื่อ เสือหยัง ยู้...................เสื่อเสื้อสูสรวม ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 09.19 น. ----------------------------------------------------------------------------- แง่ม แง่ม ... นกผีหยั่นเนี้ยนก ... ก็เป็งนายเสือนะมะกล้าเย้ยนางสิงห์ ... กัว ----------------------------------------------------------------------------- แบบว่า ... กัวนางสิงห์ตบล้มระเนระนาด แบบว่า ... ตาม กลโคลงผวน 'พยัคฆ์........-หนูล้ม-โดมิโน' ... 4 มรณะนั่นฮิ ----------------------------------------------------------------------------- เด๋วรอดูพี่น้องเราก่องน้า พยัคฆ์เย้ยนางสิงห์...ของชำร่วยจานทอง เป็น'ซ่อมสะเก็ตฟรี 1 ปี' ก่อง...อิอิ จากคุณ : นกโก๊ก - [ 16 มิ.ย. 52 09:34:43 ] --------------------------------------------------- โดย: นกโก๊ก  วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:9:56:05 น.   ************************************* แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 10:16:14 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 10:14:15 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 10:12:09 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 16 มิ.ย. 52 10:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เพิ่งสังเกตชื่อกระทู้ จุดธูปเชิญโคลง ลงกันเพียบเลย ผมด้วย แฮ่... จากคุณ : CrazyHOrse - [ 16 มิ.ย. 52 12:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ๏ จุดธูปเชิญแต่งข้อ       โคลงขยัน ธูปก็เรียกเชิญขวัญ      สู่เหย้า อาศรมสรรพสารพัน    สหายกาพย์ กลับเถิดกลับมาเฝ้า     ต่อข้อคำโคลง๚ ......มากันพร้อมหน้าพร้อมตาดีแฮะ งานนี้ จากคุณ : โกฏิดารา (เทราสเฟียร์) - [ 16 มิ.ย. 52 13:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ ^ มาแซะมาขุดหนี้...ทวงความ กับโกฏิชายรูปงาม...หนุ่มน้อย น้องลืมอ่านโพยตาม...วันตก ฟากฤา ผองพี่ยังรอถ้อย...ตอบเนื้อกระทงดวง จากคุณ : พี่ไหมงอนไปแล้ว พี่กำลังจะตาม (sugarhut) - [ 16 มิ.ย. 52 14:21:57 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จากคห.๒๔ คิดแทบเป็นแทบตาย ก็ได้โคลงฝืด ๆ มาบทหนึ่ง เวลาล่วงมาอีกสี่ปี จุด  หมายคือช่วยคุ้ย                 คำโคลง ธูป  ส่งกระแสโยง                     จิตไว้ เชิญ  เพื่อนร่วมจรรโลง               ของเก่า โคลง  แรกที่วางให้                    ห่วยแท้ถาวร เสียเวลาอีกเป็นชั่วโมง และดูเหมือนจะฝืดยิ่งกว่าเดิมครับ. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 16 มิ.ย. 52 18:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จุดธูป หอมกลิ่นหร้ำ       กระแจะจันทน์  แม่ฮา เชิญ ชื่นชวนอัศจรรย์      จูบปล้ำ โค ถึกท่องบริกรรม         ใจสงบ ได้ฤๅ ลง พุ่งลงเล่นน้ำ             ล่องน้ำธารสวรรค์ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 16 มิ.ย. 52 18:48:33 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ๏ คืน.......ค่ำกระหวัดเกี้ยว.......ก่ายกัน นั้น..........แม่นางจากสวรรค์.....ว่ายฟ้า สวรรค์......วาดสวาทพลัน..........ฝันพร่าง ล่ม..........เจิ่งไหลนองหล้า........หลืบรื้นธารฝันฯ อ่า... แบบว่า บันดาลใจจาก คุณ CrazyHOrse (๓๐) แหะ แหะ สวัสดี ขอรับ สวัสดี ขอรับ ปล. ถึง ป๋าเจียวต้าย อ่านโคลงแรก ใน (๒๔) นึกย้อนแล้วยังประทับใจในห้วงเวลานั้น มากมาย ขอรับ แหะ แหะ สบายดี สุขภาพแข็งแรงนะ ขอรับ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 19:13:20 จากคุณ : นายทิวา - [ 16 มิ.ย. 52 19:11:08 ]

ความคิดเห็นที่ 32 #แอม งอนหากงามแน่แล้ว......งอนเลย แต่นี่ริ้วรอยเอย.............ผุดข้าง เลยนิ่งนิ่งแค่เปรย.........เพียงสกิด  นาแม่ คิดว่ายากจึ่งค้าง.............ค่อนแล้วเกลือบปี 5555...แซวโกฎ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 19:57:28 จากคุณ : กรวี - [ 16 มิ.ย. 52 19:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จุด ไฟกระจ่างแจ้ง   แ่จ่มจิต ธูป กรุ่นจุดความคิด  สิท้า เชิญ ชวนชิดชมชิด   คำควร โคลง ใคร่ใครแต่งท้า  อย่าช้า มาเทอญ ======================== หลายปีจะแวะมาซักทีครับ เฮ้ออออ ดูจะเป็นโคลงที่มึนๆพิกล จากคุณ : Arboramo - [ 16 มิ.ย. 52 22:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อยากตั้งข้อสังเกตเรื่องวรรคหลังบาทที่สี่สักหน่อยครับ เคยเห็นหลายคนเขียนแยก (ผมก็เคยเหมือนกัน) บางทีก็เคยติงว่าต้องเขียนติด แต่อยากขยายว่าความสำคัญมันมากกว่านั้น เพราะมันเกี่ยวกับจังหวะในการอ่าน อ่านผิด ก็จะเข้าใจจังหวะโคลงไม่ถูกต้อง ลองสังเกตดูนะครับ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 16 มิ.ย. 52 23:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 35 08.39 น. ๏ จุด ... ขับ จับขุด เข้า.................โคลงหลัก ธูป ... ร่าย ถ่ายรูปลักษณ์..............สลับหน้า เชิญ ... เล่น เช่น learn อัก-...........ขระพ่อ-ขุนแล โคลง ... เด่น เข็นโด่งข้า................สั่งได้ดังฝัน-ขวัญจินตกวีแลนา บารนี ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 08.44 น. ------------------------------------------------------------------------------------- จาก กระทู้บทกวี ห้องถนนนักเขียน ๏ บ้านโคลงผวน ๏..... ( ๑๙ ) ..... สวนเพลิน... เชิญผวน ..... ของคุณ : คนสาธารณะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7943181/W7943181.html -------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 109   05.25 น. กลโคลงผวน พยัคฆ์ตัวใหม่อีกแร่ะ ... ใครตั้งชื่อได้โดนใจมีรางวัลให้น้า ๏ รำเข่น โคลงขัด ให้...........เล่นคำ เราพี่น้อง ที่นำ....................ผ่องนี้ ผวนคำคู่ใจ จำ....................ใครจู่  จ้องนา ดังพี่ทองท่านจี้....................ที่จ้าน จัดแล ๏ แขไขส่อง เจตน์ข้อง...........จ้อง case ไขคู่ ก้าวขับ made...............กับข้าว คู่ มีนั่น ไทยเทศ...................มันนี่ - money เอย แจ้งเหตุ เพศภัย จ้าว..............เจตน์แห้ง โคลงหาย ๏ จ้าวนาย กู้หนัก หนี้.............จ่าย now พยัคฆ์ ย่องคู่ สิงห์สาว............อยู่คล้อง กระทิงแรด ผิดคู่ หนาว...........ผู้คิด  ขันฤๅ ผวน ฤ 'ลามก' ชี้จ้อง..............ช่องจี้ ใจกัน ๏ บ้านโคลงผวน เสกถ้วน........สวน take  ทำนา ผวนบอก ใบ้ดู เขก................บู่ได้ เข็น ครกนั่ง โงกเงก...............คลั่งนก  เขาแล จานนก ป่วยเป็นไข้................จกน้าน นานนม ๏ สมใจ เรือรัฐกู้...................ใสจม หลง หล่อ mark แหลชม........ลากหม้อ งาบซะ ขาดเงิน สม...............เขินงาด -งืดฮา คิดแบบซื่อ บื้อ ซ้อ................บ่ซื้อ ตื๊อขาย ๏ ตายหนอ ดอก เบี้ยนี่...........บี้ near  นัวเนียนา ตายแน่ ทั้งผัว เมีย.................ถั่วพลั้ง เสี่ยว กำถั่วดิน เฮีย................กินถั่ว-ดำ  ฮา สิ้นแร่ะ นกกาฮั้ง....................แซะลิ้น แร้งโหย ๚ะ๛ (คริคริ) 07.02 น. จากคุณ : นกโก๊ก    - [ 17 มิ.ย. 52 07:26:24 ] ************************************************ จากคุณ : นกโก๊ก - [ 17 มิ.ย. 52 08:46:21 ]

ความคิดเห็นที่ 36 08.51 น. ๏ หมด... สุข มุขสด สร้าง...............มุขใส เทียน ... อ่าน ท่านเอียน ไหม..........เมื่ออ้อน เขียน ... ที่ ขี่ ทียนไข....................ควันธูป โคลง ... อยู่ คู่โยงย้อน..................สรรพลิ้หวนหัน ๚ะ๛ 09.00 น. จากคุณ : นกโก๊ก - [ 17 มิ.ย. 52 09:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จุดธูปเชิญธรรม :) ------------------------------------ ฆ่าได้แล้วเป็นสุข คำถาม - บุคคลฆ่าอะไรได้ย่อมนอนเป็นสุข ฆ่าอะไรได้ย่อมไม่เศร้าโศก ข้าแต่พระโคดม พระองค์ย่อมชอบใจการฆ่าธรรมอะไร เป็นธรรมอันเอก ? พุทธดำรัสตอบ -บุคคลฆ่าความโกรธได้ ย่อมนอนเป็นสุข ฆ่าความโกรธได้ย่อไม่เศร้าโศก ดูก่อนพราหมณ์ พระอริยเจ้าทั้งหลายย่อมสรรเสริญการฆ่าความโกรธอันมีมูลเป็นพิษ มีปลายหวาน เพราะว่าบุคคลฆ่าความโกรธนั้นได้แล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก ธนัญชานีสูตรที่ ๑ ส. สํ. (๖๒๙) ตบ. ๑๕ : ๒๓๖ ตท. ๑๕ : ๒๒๓ ตอ. K.S. I : ๒๐๐ ----------------------------------------------- เราต่างเกิด-ตายในโกรธเกลียด ซุกใจบดเบียดอารมณ์แค้น ทะเลาะทะลายไร้พรมแดน โลกเราหรือจะแทนอเวจี. จากคุณ : Ar@p - [ 17 มิ.ย. 52 09:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 38 การจะปฏิบัติจนจิตเข้าใจถึงสภาพธรรม ที่เหนือความปรุงแต่ง จะกระทําได้ด้วยการลืมตาตื่น ออกจากโลกของความคิดฝันปรุงแต่ง แล้วหันหน้ามาเผชิญกับปรมัตถธรรม ที่กําลังปรากฏด้วยจิตที่เป็นกลาง พ้นจากความหลงยินดียินร้ายแม้แต่กับกิเลสบาปธรรม ไม่เพ่งจ้อง และไม่เผลอเติมความคิดปรุงแต่งลงในการรับรู้ นี้คือวิถีที่จะรีดกระแสความคิดปรุงแต่งให้เรียวเล็กจนขาดลง เมื่อกระแสของความปรุงแต่งขาดลง สภาพธรรมที่พ้นจากความปรุงแต่งก็จะปรากฏออกมาเอง (ที่มา-วิถีแห่งความรู้แจ้ง ของ พระอาจารย์ปราโมช ปราโมชโช) ------------------------------------ เป็นแต่คิด เป็นแต่ฝันมานานแล้ว หลับไหลอยู่ในแถวของความหลง หลงว่าตื่น ว่าฉลาดไม่อาจปลง วนว่ายในวงอวิชชา. นึกถึงกระทู้ "แมวออกลูก" สมัยบอร์ดพันทิพย์เฟื่องฟู (เพราะมีอยู่แห่งเดียว) สมาชิกสมัยนั้นเถียงกันว่า กระทู้แบบใดไร้สาระ และแบบใดไม่ไร้สาระ แต่ละคนพยายามต่อเนตเข้ามาเพื่อ "เถียง" (ทำไปได้) บางคนต้องเสียงานเสียการ ไม่รู้มิตรสหายเหล่านั้นยังระลึกอดีตชาติเหล่านี้ได้หรือเปล่า หรือว่า พวกเขาญาณเสื่อมไปหมดแล้ว อิๆ  :D จากคุณ : Ar@p - [ 17 มิ.ย. 52 10:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ...ดู ดู ดู ทุกท่านบรรเลงบท           คอยจรดแป้นพิมพ์จิ้มอักษร ร้อยถ้อยคำเรียงลำดับขับโคลงกลอน    ไม่เหนื่อยอ่อนนอนพับหลับเป็นตาย     ...อันตัวเราก็ชอบโคลงกลอนนัก      แต่ไม่ยักแต่งได้สวยอย่างที่หมาย คงต้องคอยอ่าน อ่าน อ่าน อยู่ร่ำไป       ไม่เป็นไร...ก็เรา...ชอบนี่นา... .................................................. อิอิ...ไม่เกี่ยวกันหรอกค่ะ  แค่อยากแจม... จากคุณ : ปานสายน้ำไหล - [ 17 มิ.ย. 52 12:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 40 11.57 น. ๏ จุด ... ผิด-ธรรมชาติ แจ้ง.........'จิตพุทธ' ธูป ... -ที่เจ้า-เผา จุด .................'เฒ่าจี้' เชิญ ... สำ-รวจธูป-ดุจ................'รูปทวด'   โคลง ... กาพย์กลอน-ฉันท์นี้........'ชี้นั่น' รูปบุราณ ๏ ถวาย... ทานทวน-คิดจ้อง.........'ข้องจิต' หยาบเอย องค์ ... สถูป-เข้าที่-สถิต.............'คี่เถ้า' -->(คี่เถ้า เอกโทโทษโทเอก ขี้เฒ่า) พระ ... -ใบ้สวด-มนต์คิด.............'บวชใส่' สงฆ์ใด พุทธ ... สั่ง-คิลานะเหล้า.............'พลั่งซู้ด' เสลดทราม ๏ จุด ... ย้ำ-จำท่องไว้................'จ้ำหยุด' ธูป ... -บ่ลุก-ไหม้ จุด.................'บุกล้อ'   เชิญ ... เพ่ง-พิศมวล-มนุษย์........'ผวนมิตร' พินิจเอย ธรรม ... ใช่ ลับ-ลี้ จ้อ................'ล่อจี้' ใจกัน ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 12.58 น. แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 52 13:09:50 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 17 มิ.ย. 52 13:07:31 ]

ความคิดเห็นที่ 41 . แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 52 16:40:39 จากคุณ : RpSriArsom (Ar@p) - [ 17 มิ.ย. 52 16:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 42 จาก คห.๔๑ ผมขอรำลึกถึงคุณ นายทิวา ที่นี่ครับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7982142/W7982142.html จากคุณ : เจียวต้าย - [ 17 มิ.ย. 52 19:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 43 http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=17315 กลิ่นธูปอวลตรลบฟุ้ง       อาศรม โคลงรื่นเคล้าควันรม        อุ่นเอื้อ เสพทุกข์สุขแซมขม        หวานขื่น ร้อนจุดไฟไหม้เนื้อ           ธูปให้คำหอม จากคุณ : KAVINT - [ 17 มิ.ย. 52 22:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 44 หอมหวลชวนเคลิบเคลิ้ม สุขทวี หอมกลิ่นมวลบทกวี มากน้อย หอมคำเหล่าเมธี ปวงปราชญ์ หอมบทเรียงบาทร้อย แห่งผู้ชาวโคลง ฯ มาลัยไกลย่อมสิ้น จรุงใจ ยามอยู่เหนือลมไป กลิ่นพ้น ปวงคำแห่งกวีใด หอมอยู่ เสมอนา ยามห่างยังเปี่ยมล้น ยิ่งให้หอมนาน ฯ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) - [ 17 มิ.ย. 52 22:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จุด ... เทียนลุกช่วงตั้ง              ตามพิธี ธูป ... ปัก, ช่อมาลี                  นบไหว้ เชิญ ... เทพทั่วธาตรี                ตามสดับ ความนา โคลง ... นี่ขอช่วงใช้                เชิดถ้อยธรรมกถา ฯ ยึด ... ติดมาแต่เบื้อง               บุพกาล โยง ... เรื่องราวพิสดาร             ป่าวร้อง ความ ... ตู่แต่งบรรสาร             เสียงเสนาะ สัจจ์ ... พุทธหลงพร่ำพร้อง        ผิดเพี้ยนเป็นพราหมณ์ ฯ จากคุณ : สดายุ... - [ 18 มิ.ย. 52 07:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 46 08.26 น. (เช้าลงโคลงเรือ*เชื่อลงโคลงเรา) ๏ ใคร ... โจง kid จิตโค้ง ........ โคลงใจ จุด ... อับ จับอุด ใน ............... จิตนั้น ธูป ... หัก ปักบอก ใคร ........... ทัก-หุบ บาน-เฮย เที่ยน ... นั่ง ทั่งเนียน ขั้น ........ สอดด้ายร้อย'ธรรม' ๏ เล่า ... คำ รำ เคล้าคู่ ........... เคลียคลอ เรียน ... ตก รกเตียน ขอ ........ มีดพร้า เขียน ... พลาด ขาดเพียร พอ .. ใจแค่ ไหนแล อ่าน ... เล่น เอ็นร่าน คว้า ........ จอบจ้วงจกใจ-ใครกันฤๅ พี่น้องเอย บารนี ๚ะ๛ 08.41 น. ************************************************ วัคซีนหวัดนกเข็มที่. 19     17.59 น. (พลบค่ำย้ำตอกกลอน*พบค้อนย้อนตอกกรรม) ๏ ธรรม-ท่องจำ ทำจ้อง-ท่องคำสวด ธรรม-สวดท่อง ส่องทวด-สวดมนต์เทศน์ ธรรม-จำท่อง จ้องทำ-คำต้นเหตุ ธรรม-เห็นเปรต เหตุเป็น-ผลเช่นไร ๏ จิต-พิสุทธิ์ พุทธสิ-ชี้ 'ทำ' มะ ตรัส-สะรู้ สู้ละ-ว่าสงสัย ตรัสรู้*ตูสลัด...ชัดหรือไม่ หมา-หมู่ใส่ ไม่สู้-ละกูตาย ๏ จิต-กายตัว กลัวตาย-ใช่ธรรมชาติ จิต-พิฆาต พลาดคริ-สิชิหาย จิต-พินาศ พลาดนิ-สิวอดวาย จิต-สลาย สายละ-สละธรรม ๏ละ-กายตู กูตาย-ไปไหนวะ ละ-ไหมล่ะ มะไล่-ใครฮึ่มฮั่ม ละ-คนตาย คายตน-สับสนคำ ระ-คายทำ คำทาย-ทำนายฤๅ ๏ คำ-คำทาย คายทำ-หรือ 'คายธรรม' ละ-อายคำ อำคาย-'ระคาย'หรือ ยาม-คนตาย คายตน-คนไห้ฮือ ทำ-ที่มือ ทื่อมี-มิเห็นธรรม ๏ ทำ-ไหว้พระ วะไพร่-ตอนไกลพระ เลอะ-เทอะหม่ำ ธรรมมะ-ทำท่าขำ ปลด-ระวาง รางวะ-ท่าจ้องหม่ำ ลด-ทำละ ธ รำ-ระกำใจ ๏ อยู่-ในทำ นำไทย-อยู่ในธรรม กรรม-กระทำ กรรม ธ-พระเห็นไหม พระ-เห็นแร่ะ แหะเล่น-เห็นอะไร พระ-ทำใจ ไทยจำ-ทำน้ำมนต์...อาบใจใครฤๅ เจ้าเอย บารนี ๚ะ๛ (แง่ม แง่ม) 19.09 น. ... ฯลฯ ... โดย: นกโก๊ก  วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:19:15:07 น. ************************************************ จากคุณ : นกโก๊ก - [ 18 มิ.ย. 52 08:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ได้อ่านบทกวีมานานพอสมควรครับ หนึ่งในบทกวีหลากหลายที่น่าสนใจ นั่นคือ " กลบท " ต่าง ๆ ความน่าสนใจของกลบท นั่นคือ นอกเหนือการเคร่งครัดตามฉันทลักษณ์อันเป็นแบบแผนแต่โบราณ แล้ว ( แต่ก็มีกลบท บางประเภท ที่ไม่สนใจฉันทลักษณ์ ) กลบท ยังสามารถพลิกแพลงแปลงเปลี่ยนสิ่งธรรมดา ให้เพริศแพร้วแพรวพรายลวดลายหลากล้ำ งดงามเป็นอย่างยิ่ง นี่กระมังครับ ที่พวกเราอนุชนคนรุ่นหลัง ต้องมานั่งเทิดทูนบูชาแสดงความคารวะเคารพบรรพบุรุษของพวกเราแต่โบราณ ว่าท่านเหล่านั้น มีคุณูปการอย่างมากต่อพวกเรา ในการที่ประดิษฐ์คิดค้น ภาษาพูดภาษาเขียน ใว้ให้ และที่สำคัญ การรู้จักนำคำพูดคำเขียนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มาเรียงร้อยถ้อยความได้อย่างงดงามยิ่ง ไม่ว่า จะแบ่งจำนแกแจกจ่ายได้หลากหลายประเภท เช่น โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน และ บทประพันธ์อื่น ๆ ใว้ ด้วยความที่ว่า คนไทยเป็นชนชาติหนึ่งในโลกที่มีความละเอียดรอบครอบพิถีพิถันด้านการใช้ภาษา ครับ เลยมีการแต่บทกวีขึ้นมา ผมได้เห็น อาศรมชาวโคลง มาระยะหนึ่ง รวมทั้งพ่อแม่พี่น้อง ( พูดเหมือน สส. หาเสียง เปี๊ยบ ) ที่ต่างมาแสดงความรู้ความสามารถ รวมทั้งความสุนทรยภาพ ให้ปรากฏเป็นบทกวี ต่าง ๆ น่าชื่นชมครับ ทั่น และหลาย ๆ ครั้งที่มาอ่าน อดจะคันไม้คันมือ ไม่ได้ ที่จะต้องเขียนบทกวีใว้บ้าง เพื่อสมานฉันท์ กับ ผองกวีที่ผ่านไปผ่านมา " โคลงผวน " ก็เป็นหนึ่ง ในสิ่งที่น่าศึกษา ครับ มีท่านอาวุโส " นกโก๊ก " และ หลาย ๆ ทั่น ชอบเขียนกัน น่าสนใจดี และ ได้ความฮา อยู่มิใช่น้อยครับ ทำให้ผมรำลึกนึกถึง " ทั่นสุนทรภู่ครูกวีศรีอักษร " ขึ้นมา ว่าทั่นก็เคยแต่งโคลงผวน เพื่อกำราบปราบปรามผู้ปรามาสดูถูก ว่าทั่นเขียนเป็นแต่ " กลอนตลาด " แต่แนวทางและรูปแบบอาจแตกต่างกันบ้างครับ แต่ที่เหมือนกันอยู่ นั่นคึอ ความรักและใส่ใจในภาษาไทย นั้นเอง " โคลงผวน " ในแบบฉบับของทั่น " สุนทรภู่ครูกวีศรีอักษร " นั้น จะผวนไปทั้งหมด แล้วปรากกเป็นโคลงธรรมดาอีกบทที่เป็นคำแปล ครับ นั่นคือความลึกล้ำของสติปัญยาสามารถและปฏิภาณไหวพริบ ของ" ทั่นภู่ " " โคลงผวน " ในรุปแบบของ " ทั่นนกโก๊ก " นั้น ผวนบางคำนำมาแต่งแปลงถ้อยความตามที่ต้องการ น่าชื่นชมครับ ผู้ใหม่ผู้เก่าแบบเรา ๆ ทั่น ๆ อาจงุนงงสงสัยและออกจะทึ่ง ไม่ได้ ว่า ช่างลึกล้ำเสียนี่กระไร ที่ร่ายมายึดยาว ต่อความยาว สาวความหด ปรากฏความหมาย สาธยายความมาก แล้ว ของวางโคลงใว้บทหนึ่งเพื่อเพิ่มไมตรี ครับ สุริเยศจึงอาจเอื้อ เห็นทาง เผยสิ่งบังอำพลาง กระจ่างได้ แสงจันทร์ที่เลือนลาง พอเพ่ง มองเฮย ยังช่วยอวยผลให้ แก่ผู้ตาดี ฯ ตาบอดหาใช่ผู้ เดียวกัน แสงสว่างใดสารพัน ทั่วถ้วน คงไม่อาจเทียมปัญ- ญาแน่ แท้นา แสงอื่นไหนใด ล้วน พ่ายแพ้โดยดี ฯ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) - [ 18 มิ.ย. 52 13:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คคห. # 17 ท่าน สีน้ำน้อย (sugarhut) อืมใกล้วันสุนทรภู่แล้วสินะ ขอคัดจากแต่งโคลงตำรับประมวญมารค "นิราศสุพรรณคำโคลงของสุนทรภู่ โคลงบทสุดท้ายจบเรื่องว่า ๏ โคลงไว้ใช้ชื่ออ้าง             ต่างนาม นาคปริพันธ์ตาม                  กบเต้น สระล้วนส่วนอักษรสาม          สกัดแคร่  แม่นา ก้านต่อดอกบอกบ่เว้น           ว่าไว้ให้ฟัง ๚ ๏ สาวเอยเคยอ่อนหนุ้ม          อุ้มสนอม (นาคปริพันธ์) ออมสนิทชิดกลิ่นหอม            กล่อมให้ ไกลห่างว่างอกตรอม             ออมตรึก  ระลึกเอย เลยอื่นขึ้นครองไว้                 ใคร่หว้าน่าสรวล ๚ ๏ เคราะห์กรรมจำห่างน้อง        ห้องนอน (นาคปริพันธ์) หวนนึกดึกเคยวอน                 ค่อนหว้า คิดไว้ไม่ห่างจร                      ห่อนจาก หากจิตมิตร์หลายหน้า             ล่าน้องหมองหมาง ๚ ๏ ยลโศกยามเศร้ายิ่ง             ทรวงเย็น (กบเต้น) คิดสุดขัดแสนเข็ญ                 โศกไข้ หวนหนาวหาวนึกเห็น              หน้าแห่ง  น้องแฮ ดวงจิตเด็ดจากได้                  จึ่งดิ้นดำโดย ๚ ๏ เสลาสลอดสลับสล้าง           สลัดใด (สระล้วน) สะอึกสะอะสะอมสะไอ            สะอาดสะอ้าน แม่แฝ่มาฟางมะเฟืองมะไฟ       มะแฝงมะฝ่อ  พ่อเอย ตะขบตะขาบตะเคียนตะคร้าน    ตะคร่อตะไคร้ตะเครา๚ ๏ เสียงซออออ่ออ้อ                เอื่อยเพลง (อักษรสาม) จับปี่เต๋งเต้งเตง                      เต่งต้อง ตอดตุ๋ยตุ่ยเต้นเหนง                เหน่งเหน้ง  ระนาดเอย ฆ้องหน่องหนองน่องหน้อง        ผรึ่งผรึ้งผรึงตะโพน ๚ ๏ หนาวลมห่มผ้าห่อน                หายหนาว (สกัดแคร่) ฟ้าพร่ำน้ำค้างพราว                   พร่างฟ้า เด่นเดือนเกลื่อนกลาดดาว          ดวงเด่น ใจเปล่าเศร้าซบหน้า                  นึกน้องหมองใจ ๚ ๏ เกือบรุ่งฝูงช้างแซ่                  แปร๋นแปร๋น (ก้านต่อดอก) กรวดป่ามาแกร๋นแกร๋น               เกริ่นหย้าน ฮูมฮูมอุ่มอึงแสน                       สนั่นรอบ   ขอบแฮ คึกคึกทะเทือนสท้าน                  ถิ่นไม้ไพรพนม ๚ " ============================== ๏ สักวาท่ากระท้อนกลอนโคลงขำ อยู่คู่คำโยงยักย้ายรักษา ท่าโอ่โถงแถลงกล่อมถนอมแม่มา เพ่งคับคลาคล้ายอยู่รู้อะไรเอย ๚ะ๛ ๏ สักวาท่ากระท้อน             กลอนโคลง ขำอยู่คู่คำโยง                    ยักย้าย รักษาท่าโอ่โถง                  แถลงกล่อม  ถนอมแม่ มาเพ่งคับคลาคล้าย             อยู่รู้อะไรเอย๚ะ๛ ============================== คคห.#18  ท่านแดงน้อย (Little Red) ๏ ตาม   ผีกวีเก่าย้อน           อาศรม กลิ่น พ่าอ้อมภิรมย์               รอบกั้น ธูป  จางแทรกฉายฉม           ผ่านฉาก มา  แตะจมูกพ่อนั้น              ย่อมน้อมยินดี ๚ะ๛ =============================== คคห.#19, 26  ท่าน CrazyHOrse ครับ ท่ากลิ่นธูปจะแรงพอใช้ อิอิ ๏ หวานตาลหวานอ้อยอาจ        ว่าหวาน หวานชั่วคราวไม่นาน                จืดสิ้น หวานลมปากขับขาน                เสนาะโสต หวานอยู่นานตราบลิ้น               กระดกได้ฉันใด ๚ะ๛ ============================== คคห.#20 ท่านกรวี ๏ ธูปโคลงหอมขับเน้น               ความขลัง ห่อนกระตุ้นมะเร็งรัง                  โรคร้าย หากเร้าต่อมโคลงหวัง                โคลงแผ่  กระจายแม่ รักดอกหยอกเล่นอ้าย                 ย่อมเข้าใจความ  ๚ะ๛ ============================== คคห.#21 ท่านนายทิวา โห เล่นศัพท์แรง "คนเป็นสัตว์ประเสริฐ" เลยขอรับ ๏ จุด  ไฟในจิตซึ้ง                   สัตว์ประเสริฐ ธูป   บาปบุญระเบิด                  บิดเบี้ยว เชิญ  ปวงปราชญ์ใจเปิด            ปลดโลกย์ โคลง  ค่าแม้เศษเสี้ยว              อาจเสี้ยวความดี ๚ะ๛ ============================== คคห.#22 ท่านคุณแม่ใจดี ๏ ยินดีคุณแม่เจ้า                   ใจดี มาต่อโคลงเป็นศรี                  แห่งห้อง ตามกลิ่นธูปเชิญกวี                 มาเถิด โคลงแห่มากึกก้อง                 กระตุ้นให้หทัยหวาม ๚ะ๛ ============================== คคห.#23 ท่านวฤก สวัสดีครับ ๏ เสียงโคลงเสียงเล่าอ้าง            อันใด  พี่เอย เสียงขับสังคีตใคร                      ย่อมรู้ สองเสียงเสนาะสดใส                 สนองโสต สองขับสำเนียงขู้                        ค่าล้ำคำลือ ๚ะ๛ ============================== คคห.#24 ท่านเจียวต้าย ยินดีต้อนรับครับ ๏ อาศรมโคลงเปิดกว้าง            ทุกทิศ เข้าออกตามแต่จิต                   ท่านแล้ว นำโคลงเก่ามาสถิต                  สถานเถิด โคลงคู่โคลงราวแก้ว                 แนบข้างเคียงกาย ๚ะ๛ ============================== คคห.#25 ท่านนกโก๊ก แฮ่ม มีกลใหม่อีกเร้อ ? ตั้งชือบ่เป็นเด้อ   พาสให้ท่านต่อไป ฯ ๏ จุด ... ดับจับดุจด้อย           จดจำ ธูป ... อับทับบอุ๊บอำ              ทึ่งแท้ เชิญ ... เถิดเชิดเทอญทำ       เชิญชื่อ โคลง ... เล่นเคล้นโลงแล้       คลี่คล้องคลอโคลง ๚ะ๛ ============================== คคห.#27 ท่านโกฏิดารา (เทราสเฟียร์) ๏ จุดธูปแล้วตั้งจิต               อธิษฐาน ศิษย์พี่และอาจารย์              จุ่งรู้ อาศรมเริ่มเบิกบาน              อีกขณะ นับหนึ่งสองสามสู้                จัดน้ำชารอ ๚ะ๛ ============================== คคห.#28 ท่านsugarhut แหะ ๆ ท่านโกฏิดารา มาตอบด้วยเน้อ ============================== คคห.#29 ท่านเจียวต้าย ๏ จุด  หมายดีแล้วย่อม              เห็นประจักษ์                   ธูป  แค่เป็นสัญลักษณ์               ชอบใช้ เชิญ  ท่านที่ใจสมัคร                 ชอบแต่ง  โคลงนา โคลง ที่ท่านวางไว้                   วิเศษล้วนควรชม ๚ะ๛ ============================== คคห.#30 ท่าน CrazyHOrse ๏ จุดธูป  อโรม่าไว้                 รอบหอ เชิญ   ชื่นกามารอ                  ชื่นชู้ โค   ชราล่าละออ                   หญ้าอ่อน ลง  แตะพลันแตกอู้                 กระจอกน้อยยังกระหาย ๚ะ๛ ============================== จากคุณ : ศาลายา - [ 19 มิ.ย. 52 00:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แหะ ๆ ดึกแล้ว แต่งโคลงมะออก - -" ============================== คคห.#31 ท่านนายทิวา เล่นบทอัศจรรย์ ศาลายา ยังแต่งบ่ออก แหะๆ ============================== คคห.#32 ท่านกรวี แหะ ๆ ท่านโกฎิดาราท่าทางจะโจทย์เยอะ ============================== คคห.#33 ท่านArboramo สวัสดีครับ ยินดีที่ท่านเข้ามาวางโคลงครับ ============================== คคห.#34 ท่านCrazyHOrse เห็นด้วยครับ วรรคสุดท้าย (สี่คำสุดท้าย) ควรเขียนติดกัน เพราะไม่ใช่สร้อยโคลง ถ้าใครอ่านทำนองเสนาะเป็น จะเขียนเพื่อช่วยในการอ่านก็ไม่เป็นไร เช่น อย่าได้ถามเผือ  การอ่านทำนองเสนะต้องพักสูดลมเข้าก่อนขึ้นเสียงสูง เป็น  อย่าได้ ถามเผือ ขณะที่ คล่าวน้ำตาคลอ อ่านต่อเนื่องได้เลยไม่ต้องพักลมหายใจ แต่ในการเขียนผมเห็นว่าควรเขียนติดกัน ============================== คคห.#35, 36, 40,46 ท่านนกโก๊ก แรงไม่ตกจริง ๆ แต่งโคลงผวนกลใหม่ ๆ ได้เรื่อย ๆ ตอนนี้แต่งผวนไม่ออกขอรับ แหะๆ การตั้งชื่อโคลงยากเกินไปสำหรับผม ขอบายครับ ============================== คคห.#37,38   ท่านAr@p ๏ จุด  หมายการฆ่าแล้ว             นอนสุข ธูป  ปักหมายห่างทุกข์               โศกได้ เชิญ พุทธพจน์ปลอบปลุก           วิสัช- ชะนานา ธรรม  ฆ่าความโกรธไซร้            ย่อมไร้โศกศัลย์ ๚ะ๛ ๏ หลงในฝันเนิ่นแล้ว                 หลับไหล ใต้อวิชชาใส                            เชื่อแก้ว ฝันฤๅตื่นตกใน                         หลงสว่าง เวียนว่ายอวิชชาแล้ว                  อวดรู้ความหลง ๚ะ๛ ============================== คคห.#39 ท่านปานสายน้ำไหล ยินดีต้อนรับครับ ============================== คคห.#41 ท่าน Ar@p ลบอะไรไปเอ่ย ? อิอิ ============================== คคห.#42 ท่านเจียวต้าย ... ซีเนียร์เค้าคุยกัน ศาลายาไม่เกี่ยว อิอิ.. ============================== คคห.#43 ท่านKAVINT สวัสดีครับ ============================== คคห.#44 ท่านนกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) ๏ หอมกลิ่นโคลงที่ฟุ้ง       ทวนลม นานยิ่งหอมทวีฉม             ฉ่ำหล้า ธูปเทียนที่เคยดม             พาลแผ่ว นานเนิ่นจางหายอ้า           บ่สู้หอมโคลง ๚ะ๛ ============================== คคห.#45 ท่านสดายุ... ลึกซึ้งครับ ๏ จุด  เทียนประทีปคลุ้ง            พิธีพราหมณ์ ธูป  เปลี่ยนสู่พุทธตาม              แต่งแต้ม เชิญ  จุดเถิดสหายสยาม           สมานจิต โคลง นิ่งหนึ่งขณะแย้ม             เลิศชั้นพันธุ์สยาม ๚ะ๛ ============================== คคห.#47 ท่านนกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) เห็นด้วยครับ ท่านนกโก๊กมีเอกลักษณ์มากกับโคลงผวน ============================== จากคุณ : ศาลายา - [ 19 มิ.ย. 52 01:44:12 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตามกลิ่นธูปมา จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 19 มิ.ย. 52 08:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เขียนโคลงไม่เป็น  โชว์รูปดีกว่า ๏  เจ็ดวันเว้นจีบน้อง       กรวี จุดธูปห้าวันหมี               หลบหน้า สามวันเฒ่าอาพี             เป็นหวัด วันหนึ่งแอบแก้ผ้า           ผึ่งน้องพองลม  ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 19 มิ.ย. 52 08:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 52 จุด-ธูป-เชิญ-โคลง, จุด-เทียน-เชิญ-ธรรม ---------------------------------- จุดจิตกอบคำตั้ง           เคี่ยวขวัญ ธูปท่องฉลุลายยัน        ฝั่งฟ้า เชิญมิตรเร่งรังสรรค์      คำสถิต โคลงเคลื่อนเอกโทท้า   ถั่งแท้โคลงหอมฯ จุดธรรมหลอมสติตั้ง     ปณิธาน เทียนส่องปัญญาญาณ  จิตจ้อง เชิญสรรพสัตว์สำราญ   สำเร็จ เถิดพ่อ ธรรมสู่จิตจิตพ้อง         อมตะแก้วเกษมแสนฯ 19062552-0912 -------------------------------------- *ทิวา เคยบ่นไว้เมื่อพุทธันดรก่อนว่า "ผมไม่ค่อยได้เขียนโคลง"..นั่นซิ พอจะเขียนก็เขียนไม่ออก "คำฝืด" ต่างจากป๋าคัมฯ ที่นึกจะ "ปล่อย" ที่ไหน ก็ปลู๊ดปล๊าด โคลงของป๋าไม่เคยติดขัด..เอาแรงมาจากไหนนะ แรงคิด แรงฝันฯลฯ หรือว่า ผมไม่มีแรงเหมือนทิวา หรือว่า แรงมีอยู่ แต่ผมเพียงแต่หลับไหลไปตามภพภูมิต่างๆ จนไม่ทราบตำแหน่ง แห่งที่ในสังสารวัฏอันหาจุดเริ่มต้นไม่ได้ หาจุดจบไม่เจอ หรือ...ธรรมะกำลังแสดงตัว เปิดเผยสัจจะ ฯลฯ อิๆ ----------------------------------------------- 028 ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น ปัญหา มีบางคนกล่าวว่า หัวใจของพระพุทธศาสนา คือ ธรรมทั้งปวงที่ไม่ควรยึดมั่นดังนี้ พระพุทธองค์ตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างไร ? พุทธดำรัสตอบ.....ดูก่อนจอมเทพ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้สดับว่า ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น ถ้าข้อนั้นภิกษุได้สดับแล้ว ภิกษุนั้นย่อมทราบชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันยิ่ง ครั้นทราบชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันยิ่งแล้ว ย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวง ครั้นกำหนดรู้ธรรมทั้งปวงแล้ว เธอได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ดี เธอย่อมพิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยง พิจารณาเห็นความหน่าย พิจารณาเห็นความดับ พิจารณาเห็นความสละคืนในเวทนาทั้งหลายนั้น เมื่อพิจารณาเห็นดังนั้น ย่อมไม่ยึดมั่นสิ่งอะไร ๆ ในโลก เมื่อไม่ยึดมั่นย่อมสะดุ้งหวาดหวั่น ย่อมดับกิเลสให้สงบได้เฉพาะตัว และทราบชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ดูก่อนจอมเทพ กล่าวโดย่อด้วยข้อปฏิบัติเพียงเท่านี้แล ภิกษุชื่อว่าน้อมไปแล้ว ในธรรมเป็นที่สิ้นแห่งตัณหา มีความสำเร็จอันยิ่งยวด ถึงที่สุดอันยิ่งยวด เป็นผู้ประเสริฐกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ   จูฬตัณหาสังขยสูตร มู. ม. (๔๓๙) ตบ. ๑๒ : ๔๗๐-๔๗๑ ตท.๑๒ : ๓๘๒-๓๘๓ ตอ. MLS. I : ๓๑๐-๓๑๑ ที่มา-http://www.84000.org/true/028.html แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 09:36:36 แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 09:35:21 จากคุณ : RpSriAsrom (Ar@p) - [ 19 มิ.ย. 52 09:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 53   อรุณเบิกเบื้อง     บูรพา เกิดวิญญาณ์         หยั่งรู้ สู่ศรัทธา               อริยสัจ มรรคาผู้                ผ่องใส   ไทจากห้วง        โมหันธ์ โลกียผัน               ผิดเพี้ยน กิเลสสรรพ์            สาปส่ง อวิชชาเหี้ยน          ห่อนคืน ๚ะ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 19:00:38 จากคุณ : ลิ้มบ่อเมี้ย (ลิ้มบ่อเมี้ย) - [ 19 มิ.ย. 52 18:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 54 มีเรือลอยล่องน้ำ............คงคา ถึงฝั่งจึงสั่งลา................จอดไว้ ฉันใดไม่นำพา...............เรือนั่น เดินดุ่มจากไปได้............ห่อนไห้อาทร กราบสวัสดีอาพีและผองมิตรรักแห่งอาศรมครับ จากคุณ : ปะหล่อง - [ 19 มิ.ย. 52 23:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 56 อ้าววววววววววววววววววเข้ามาอีกที   คคห    ที่เขียนเอาไว้ก่อนหน้านี้โดนลบไปซะงั้น  เออหนอ..?? ก่อนลบแจ้งหน่อยก้อดีนะเจ้าค่ะ.. จากคุณ : กรวี - [ 20 มิ.ย. 52 20:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 57 วลัย....ต่างรติคล้อง..........ครองเคียง รัตน์....มาสมิถุนาเรียง.......ร่วมห้อง สม.....รสกระดิ่งเสียง........วิวาห์สนั่น ลั่นเอย ฤกษ์...ยี่สิบแปดพร้อง.......แห่ห้อมชมวัง สวัสดีคุณศาลายา พี่ทิวา อาคัมภีร์ และพี่น้องชาวอาศรมนะครับ ผมขออนุญาตประชาสัมพันธ์ข่าวถึงน้องศาลาไทยนะครับ คือกระผมจะขอเรียนเชิญน้องเค้ามาร่วมงานแต่งของกระผม 28 มิย นี้ครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 52 19:25:05 จากคุณ : เหล็กสละโสด (mildsteel) - [ 20 มิ.ย. 52 22:12:46 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ========================================= คคห.#50,51  ท่าน คัมภีร์โบราณ โอ้โห! โคลงระดับครู แล้วยังบอกว่าเขียนโคลงไม่เป็น - -"" นึกถึงบทนี้เลยครับ ๏ อยุธยาปูนป่าช้า                สรวงสวรรค์ บัวเฟื่อทิพย์กนกวัลย์            ร่วงฟ้า มาเปื่อยป่นอาถรรพ์              แหลกล่ม เหลวถ่อยทุกเส้นหญ้า           บ่าน้ำตาสยาม ๚ ========================================= คคห.#52  ท่าน RpSriAsrom (Ar@p) ท่านมากับหัวข้อธรรมะ ขอบคุณครับ ๏ พุทธธรรมวิเศษล้าง            ลาญเข็ญ เห็นสักแต่ว่าเห็น                   รูปนั้น รู้สักแต่ว่าเป็น                       รู้เถิด ไม่ยึดอารมณ์สะบั้น                ยกแล้วปล่อยวาง ๚ะ๛ ... ไม่มีแรงยกอะคับ ========================================= คคห.#53  ท่าน ลิ้มบ่เมี้ย โห โคลงห้า มาเอง ท่านคมทวน คันธนู กล่าวไว้ว่า "ผู้ที่แต่งโคลงห้าได้นั้น ย่อมแต่งทุกบรรดาโคลงได้หมด" รู้สึกว่าท่านลิ้มบ่เมี้ยจะลดโทหนึ่งที่ในบาทที่สี่ และไม่มีการร้อยโคลง คงเป็นลีลาใหม่ เพราะ โคลงห้าพัฒนา ของท่านจิตร ภูมิศักดิ์ เป็นโทคู่   ๏ กรุงเทพฯคลุ้ง               คาวหืน   ควันกามกลืน                   กลบไหม้   คาวกลางคืน                    คลุมทาบ   เมืองร้องไห้                     เหือดขวัญ ๚ะ   ๏ น้ำฟ้าฟาด                   ฟองหาว   คือกามฉาว                      ชุ่มฟ้า   กลิ่นสาบสาว                    กำซาบ   กามย้อมหล้า                   แหล่งสยาม ๚ะ ขณะที่ โคลงห้าดั้น ในโองการแช่งน้ำฯ มีการร้อยโคลง             ๏ น้ำฟ้าฟาด                  ฟองหาว             ดับเดโช                       ฉ่ำหล้า             ปลาดินดาว                   เดือนแอ่น             ลมกล้าป่วน                  ไปมา ๚ะ             ๏ แลเป็นแผ่น                เมืองอินทร์             เมืองธาดา                     แรกตั้ง ขุนแผน  แรกเอาดิน                    ดูที่              ทุกยั้งฟ้า                      ก่อคืน ๚ะ ========================================= คคห.#54  ท่าน ปะหล่อง สวัสดี กวีใหญ่ ขอรับ ๏ ทุกสิ่งทุกอย่างแท้                    ทุกขัง แปรเปลี่ยนอนิจจัง                       ทั่วถ้วน เป็นอยู่อนัตตาสัง-                       ขารแต่ง   เองเอย สู่วิมุติวิโมกข์ล้วน                        ยกแล้วปล่อยวาง ๚ะ๛ ========================================= คคห.#56  ท่าน กรวี คคห.#55 หายไป สงสัยมีคำต้องห้าม bot ลบอัตโนมัติคงทำงาน เหมือน คคห. #1 และ #2 ที่หายไป ดีที่เอะใจเลยเซฟมาวาง ไว้ที่ คคห.#4 และ #5 ครับ ========================================= คคห.#57  ท่าน เหล็กสละโสด (mildsteel) ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ๏ สุข  สโมสรซาบซึ้ง            สุดแสน สันต์  สงบรวมดินแดน           ตราบม้วย วัน  มหาฤกษ์มหาแถน           อวยสุข วิวาห์ คู่อยู่ยืนด้วย                 ต่างให้อภัยกัน ๚ะ๛ ล.ป. เจ้าสาวสวยมากครับ (ดูจากรูป) ========================================= จากคุณ : ศาลายา - [ 21 มิ.ย. 52 00:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอวางโคลงชุดยาว ๆ หน่อย แต่งโคลงไม่เป็น ต้องแต่งบ่อย ๆ ขอรับ ๏ จุด   ประกายโคลงเฟื่องฟุ้ง      อลังการ์ ธูป   สถิตเชิญบูชา                    เด่นด้าว เชิญ   เทพเสกภาษา                 สรรเสนาะ โคลง   อยู่คู่โลกอะคร้าว            คลี่คล้องจักรวาล ๚ะ ๏ จุด   หมายง่ายง่ายให้            แต่งโคลง ธูป   แค่ประกอบโยง                ยกไว้ เชิญ   มาร่วมเปิดโปง               หลังฉาก โคลง  แต่งง่ายง่ายให้              เอกถ้วนโทเต็ม ๚ะ ๏ จุด  แรกความย่อสั้น             สามสิบ  คำนา ธูป   ทู่คู่โทหยิบ                      ยกคล้อง เชิญ   สัมผัสคมกริบ                ระหว่างบาท โคลง  เอกเจ็ดโทต้อง              สี่ถ้วนควรจำ ๚ะ ๏ จุด   เอกโทอย่างนี้               สัมผัส  ดูเทอญ ธูป   ลิ่วลมสูงตัด                     แต่งได้ เชิญ  หวานผ่านเสียงจัต-           ตวาบ่ง   บาทเอย โคลง   หนึ่งพึงจำไว้                 หมั่นซ้อมเสมอเสมอ ๚ะ ๏ จุด   กระสวนควรอ่านน้อม      โคลงครู ธูป   ประทีปล่องลอยชู             เชิดถ้อย เชิญ   คำเก่าคำหรู                   มาประดับ โคลง   งดงามเรียงร้อย             เวี่ยไว้ในกรรณ ๚ะ ๏ จุด   สุดท้ายแปะไว้              ในบอร์ด ธูป   ปักเรียงรายตลอด             เว็บอ้าง เชิญ   ครูวิจารณ์หยอด             คำติ   ชมเทอญ โคลง   แต่งแผลงผวนบ้าง         แบ่งไว้ฝึกฝน ๚ะ๛ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 52 00:14:56 จากคุณ : ศาลายา - [ 21 มิ.ย. 52 00:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เห็นปะหล่อง และเพื่อนเก่าเพื่อนใหม่เข้ามา เห็นความชื่นใจกระเพื่อมพองอยู่ในใจตน พวกคุณเป็นอย่างไรกันบ้าง ยังพอดำเนินอัตภาพให้เป็นไปได้อยู่หรือ ---------------------------------------------- จิตคือมิตรสหาย --------------- คือจิตคือมิตรคือสหาย.ที่ร่วมเป็นตาย ตะเกียกตะกายสัญจร. กี่โกฏิกี่กัปทุกข์ทอน.กี่โลงศพนอน เกลือกกลิ้งแทบพื้นธรณี. กำหนดบทกรรมตามมี.ป่นปี้กี่ที เผลอใจไปซบอวิชชา แบกเรือแบกกิเลสตัณหา.ไม่รู้เวลา หลงทิศหลงทางย่างไป. ---------------------------------------------------------------------------------------- 102 ยอดของมิตร ปัญหา (เทวดาทูลถาม) อะไรหนอเป็นมิตรของคนเดินทาง อะไรหนอเป็นมิตรในเรือนของตน อะไรเป็นมิตรของคนมีธุระ เกิดขึ้น อะไรเป็นมิตรติดตามไปถึงภพหน้า ? พุทธดำรัสตอบ พวกเกวียน พวกโคต่างเป็นมิตรของคนเดิน ทาง มารดาเป็นมิตรในเรือนของตน สหายเป็นมิตรของผู้มีธุระ เกิดขึ้นเนือง ๆ บุญที่ตนทำเองเป็นมิตรติดตามไปถึงภพหน้า มิตรสูตรที่ ๓ ส.สํ. (๑๖๓) ตบ. ๑๕ : ๕๐-๕๑ ตท. ๑๕ : ๕๐ ตอ. K.S. I : ๕๑-๕๒ ที่มา-http://www.84000.org/true/102.html จากคุณ : Ar@p - [ 21 มิ.ย. 52 08:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ท่าน ศาลายา  ครับ อย่าเรียกกวีใหญ่เลย อ่านแล้วมันเดียม ๆ ยังไงไม่รู้ ไอ้ผมมันประเภทผีเข้าผีออก เดี๋ยวก็แต่งได้  เดี๋ยวก็แต่งไม่ได้ ยังอยู่ไกลคำว่ากวีครับ ...................................... ป๋าอาร์พี ยินดีที่เห็นป๋าเช่นกันครับ จากคุณ : ปะหล่อง - [ 21 มิ.ย. 52 11:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 63 แวะมาทักทายมวลมิตรชาวอาศรมค่ะ เทียนหอมจุดแต่งแต้ม        พราวแสง จรุงกลิ่นมะนาวแพง           ห่มห้อง เปิดโคลงอ่านเร้าแรง          รมย์รื่น   “สี่สี่” นานนะน้อง             นับนิ้วนำเสนอ เหมือนห่างเหินห่างไร้         อาศรม ชีพหนึ่งปลิวตามลม           หล่นฟ้า แวบเวียนผ่านชื่นชม          มวลหมู่  สหายเอย โคลงแต่งเติมต่อหล้า         ว่ายฟ้าวรรณศิลป์ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 52 01:08:53 จากคุณ : คุณหนูนา - [ 22 มิ.ย. 52 01:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สังสารวัฏ-สังสารสัตว์ ----------------------------------------- หลับไหลหลับลึกนึกคิด.หลงผลาญชีวิต ล้มลุกคลุกเกลือกกลิ่นโลก ลืมวันลืมคืนกลืนโศก.พลัดพรากวิโยค วินาศอยู่ในความคิด หลงภาพหลงพายว่ายทิศ.นาวาชีวิต วิกฤติลึกลึกตัวตน เป้าหมายตะกายทุกหน.หลงแบกตัวตน ฝ่าบทนิยามเดิมเดิม กุศลใดใดไม่เติม.โมหะเหิมเกริม ในซอกกระโหลกแคบแคบ ปรัชญาคารมนอนแนบ.มุมคิดเจ็บแสบ กลางบึงกลางเบื้องอบาย ส่ำสัตว์คือเราทั้งหลาย.เกิดดับลับหาย ในห้วงทะเลวัฏฏะ โชคดีพบองค์อริยะ.ประทานอมตะ สำหรับชำระใจตน. 0815062125521 *เห็นพี่สาวเข้ามาทำให้นึกถึงอะไรหลายอย่าง ตลอดถึงน้ำจิตน้ำใจ และความทรงจำที่ยังติดแน่นอยู่ในใจ เข้าใจว่าพี่สาวคงสบายดี และยังเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง เคี่ยวกรำกับกองทัพโลกธรรมที่โถมใส่อย่างไม่ย่อท้อ สำหรับผม (นักรบที่ชำรุดจากสงคราม) คงยึดแต่ "พุทโธ" เป็นที่พึ่ง" ครับ :) จากคุณ : Ar@p - [ 22 มิ.ย. 52 07:58:56 ]

ความคิดเห็นที่ 65 สวัสดีตอนเช้าเหล่า                กระวีกระวาด ผลเพื่อไทยชนะขาด               เข่นห้อย อีสานสุขสมสวาท                  ประกาศศักดิ์   ศรีเวย เปรี้ยวปากหลายวันว้อย           จั่งซี้(มัน)ต้องถอน ฯ ขออนุญาต หลบไปถอน ดึก ๆ จะกลับมาปัดกวาดอาศรมฯ ขอรับ จากคุณ : ศาลายา - [ 22 มิ.ย. 52 08:59:17 ]

ความคิดเห็นที่ 66 สวัสดี ขอรับ แหะ แหะ แวะมาลงชื่อ ขอรับ อิอิ ปล. ถึงเจ้าเหล็กฯ (๕๗) ๏ ยินดีด้วยกับความรัก สายใยทอถักเส้นทางฝัน ความรักงดงามทุกคืนวัน ทรงจำในใจนั้นนิรันดรฯ แหะ แหะ มีความสุขมากมายเน้อ จากคุณ : นายทิวา - [ 22 มิ.ย. 52 18:27:52 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ว่าไปแระเมื่อไหร่อาทิวาจะมีข่าวดีเหมือนตาเหล็กบ้างน้อ เจ้าเหล็ก รวมรักร่วมถักร้อย...............ลงเคียง สองจิตผูกรายเรียง..............รักไว้ สานสืบสิ่งสรรค์เพียง...........เพื่อผูก  จิตเฮย ตระหนักประจักษ์ได้.............รักนี้สม่ำเสมอ โคลงมั่วๆไปหน่อยเหอๆๆๆๆ..... จากคุณ : กรวี - [ 22 มิ.ย. 52 18:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขออวยพรบ่าวสาวล่วงหน้าครับ ๏ บำบวงปวงเทพไท้           ทั่วปัฐ-   พีเอย อ้าช่วยอวยชัยจรัส               เจริดหล้า จำเริญจำสองสวัสดิ์             สังวาส บุญผ่านผายแผ่นฟ้า            ผ่องแผ้วพูนเกษม จากคุณ : ลิ้มบ่อเมี้ย - [ 22 มิ.ย. 52 19:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 69 "เธอก็เหมือนหมาขี้เรื้อนนั่นแหละ" (แล้วไม่มีประโยคใดๆ ต่อจากนั้น"-ผู้พูดเองก็นั่งเงียบ เหมือนว่า ได้ทำภารกิจอะไรบางอย่างเสร็จแล้ว) ผู้ที่คุ้นเคยอยู่กับลาภยศอย่างเราท่าน ฟังประโยคข้างต้นแล้วลมคงออกหูไปตามๆ กัน แต่ถ้าทราบว่า เป็นคำสอนของครูบาอาจารย์สักองค์หนึ่งแล้ว ต้องหยุดคิด ครูบาอาจารย์มักมีคำสอนตรงๆ เราไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ว่า "มันคือคำสอน" มักปักใจคิดว่า "มันคือคำด่า" พอนึกได้ว่า ผู้พูดไม่เคยตั้งจิตคิดร้ายอะไรกับเรา ก็เบาใจได้ว่า "เออ..มันคือคำสอนนะ" รีบนำมาใคร่ครวญ พูดกับตนเองเรื่อยๆ บ่อยๆ เพื่อให้ "จิต" ตัวดีของเราจำได้ เก็บไว้เป็นอุปกรณ์สู้กับความโง่เขลา ว่ากันตามจริง คำสอนสั้นๆ แบบนี้จำได้ง่าย ติดหูนาน เช่น "ฆ่าความโกรธได้อยู่เป็นสุข", "จิตที่ฝึกแล้วนำสุขมาให้ " ฯลฯ คนเราจดจำคำสอนแบบนี้ไว้มาก แต่น่าเสียดายที่มันลงไปไม่ถึงใจ ก่อนออกจากบ้านเช้านี้ ผมบอกตัวเองว่า "เธอก็เหมือนหมาขี้เรื้อนนั่นแหละ" แล้วคุณล่ะ ก่อนออกจากบ้าน ได้บอกตัวเองว่า อะไร ? :) จากคุณ : Ar@p - [ 23 มิ.ย. 52 08:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 70 แวะมาอาศรม รื่นรมณ์อักษร ซึ้งในคำกลอน ย้อนรสพระธรรมฯ แวะมาอาศรม เห็น Ar@p ขึ้นธรรมมาสน์หลายสถาน ได้ใจ ได้พิศย้อนตัวเอง แหะ แหะ จำได้ว่า ๕ ปีอาศรมฯ เพื่อนพ้องน้องพี่ เคยร่วมลงแรงลงใจ "ลงแขกงานบุญ" กัน ร่วงเวลามาถึงเพลานี้ ก็ผ่านไปนานโขพอสมควร กำลังคิดว่า น่าจะมี "งานบุญ" อีกสักครา ในเวลาอนาคตอันใกล้ ๆ นี้ แหะ แหะ กระป๋ม กำลังคิดถึง "ล้อมวงเสวนา-ผ้าป้าหนังสือ" ขอรับ โยนเชื้อทิ้งไว้ก่อน เพื่อเปิดประเด็น "แลกเปลี่ยน-วิวาทะ" เผื่อว่าจะมี "งานบุญ" สำหรับวาระครบรอบอาศรมฯปีนี้ แหะ แหะ ไม่เคร่งเครียด ไม่ซีเรียส ไม่ตึงไป ไม่หย่อนไป เป็นธรรมดาโลก ธรรมดาธรรมดา เป็นไปเช่นนั้นเอง ขอรับ แหะ แหะ มาแหล้วก็ไปล่ะ ชะแวบ จากคุณ : นายทิวา - [ 23 มิ.ย. 52 17:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ว่าถึงงานบุญใครสนใจจะร่วมทำบุญกับกรวีบ้างค่ะ ***ขอเรียนเชิญเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างศาลาแก้วพระจุฬามณีถวาย ” สมเด็จองค์ปฐม (พระพุทธสิกขีทศพลที่ ๑)" เป็นพุทธบูชา ณ สำนักสงฆ์ธรรมเจริญ (วังน้ำย้อย บ้านขุนพัง) หมู่ ๘ ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ใน วัน อาทิตย์ ที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๒*** วันนี้ได้บริจาคอวัยวะกะสภากาชาดไทยไปแระ สบายใจจัง หลังจากคิดอยู่ 10 ปีแต่มะได้บริจาคสักกะที วูปี้.. จากคุณ : กรวี (กรวี) - [ 23 มิ.ย. 52 18:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ถ้าใจเธอยังศรัทธา...มีหรือรักจะราโรย --------------------------------- เหล็กละมุนละม้ายคล้ายคล้ายรัก อุ่นทรวงอุ่นนักในอกอุ่นอุ่น เธอถนอมบางรักด้วยบางไอบุญ บางเวลาจึงบางการุณงอกเงยฯ คงรักงามยามพินิจจิตเธอชัด และบางญาณทัศน์ก็แง้มเผย เปิดโลกเปิดเวลามาชมเชย สัมผัสบางไอระเหยอันลี้ลับฯ บนย่างก้าวเท้าย่ำกระทำทัก สองใจที่มั่นหนักบางคำศัพท์ สะกดแล้วสะกดเล่าเช้าสำทับ ก่อนนอน"นะคะ-นะครับ"นับพยางค์ฯ หลายคำร่วมกันทุกวันสะกด ต่อเติมเพิ่มอนาคตเติมบทอ้าง ประโยครักมักยาวรอคำวาง แต่ก็เติมทุกช่องว่างอย่างมั่นใจฯ ประโยครักคงอีกยาวผ่านหนาวร้อน สุขทุกข์ร่วมตะลอนสู่วันใหม่ รักจะงาม หรือยืนยาวไปเท่าใด ถ้า "ศรัทธา" ยังเต็มใจ...ต้องโชคดี. 1-240625520010 *ตั้งใจเขียนให้เหล็กละมุน ขอให้โชคดีครับ :D จากคุณ : Ar@p - [ 24 มิ.ย. 52 00:42:20 ]

ความคิดเห็นที่ 73 จุด...นี้เมื่อก่อนโน้น              เคยมา ธูป...ส่งกลิ่นควันพา             รำลึกย้อน เชิญ...ท่านร่ายข้าฯศึกษา      พลางก่อน โคลง...ที่ครูเคยป้อน            บัดนี้เท่าเดิม (-/-) กราบสวัสดีท่านอาจารย์ทุกท่าน มาโผล่หน้าเป็นระยะๆ มาทีก็เขียนโคลงที เช่นนี้จึงไม่เคยพัฒนาเจ้าค่ะ แหะๆ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 10:13:26 จากคุณ : เซียงยี้ (เซียงยี้.) - [ 24 มิ.ย. 52 10:12:38 ]

ความคิดเห็นที่ 74 มารายงานตัวด้วยความระลึกถึงสม่ำเสมอ ๏ "เชียงคาน" แวะพักค้าง    คืนคนึง หอมกลิ่นความคิดถึง          ทั่วห้อง สายน้ำผ่านรำพึง               ผองเพื่อน โคลงฝากสู่พี่น้อง             ค่ำเช้าเป็นไฉน ๚ ศาลาไทย ... มาค่ะ !!!     แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 13:20:49 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 24 มิ.ย. 52 10:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ๏ ยี่สิบสี่บัดนี้                        มิถุนา   ยนเอย สองห้าห้าสองมา                   อีกครั้ง ประชาธิปไตยครา                  เจ็ดสิบ  เจ็ดแม่ เกิดแก่เจ็บตายตั้ง                  ไข่ล้มขมไฉน ๚ะ ๏ เจ็ดสิบเจ็ดขวบเข้า              ขัดเข็ญ ประชาธิปไตยแปลงเป็น           แปลกหล้า ผู้แทนที่เห็นเหม็น                  ย่อมเศษ   สวะเวย กลิ้งกลอกหลอกชนอ้า            ปากปลิ้นกินเมือง ๚ะ ๏ ยังมีปวงแอบปล้น               ประชาชี หลบเลือกตั้งแต่มี                  จิตกระเหี้ยน กระหือรืออยากสักที               นั่งแท่น   เป็นแต่ปากครองเพี้ยน            ที่แท้แสนเขลา ๚ะ ๏ ดูถูกปวงราษฎร์ปลิ้น            ปลอกเอา ไพล่ว่าไพร่โง่เขลา                 ไพร่ฟ้า สุนัขไล่งับเงา                        สูญลาบ บุญบาปอยู่คู่หล้า                    ดาบนั้นคืนสนอง ๚ะ ๏ แอบแท่นแอบสั่งสิ้น            ยุติธรรม แอบเปลี่ยนแอบกระทำ            แบ่งข้าง แอบบุญแอบบาปกรรม            ใครแอบ  ได้ฤๅ   แอบราษฎร์แท้แอบอ้าง           แอบปล้นคนไทย ๚ะ ๏ โปรดคืนมาเถิดแท้               เสรี ประชาธิปไตยต้องมี                ทุกชั้น โปรดคืนสิทธิ์ศักดิ์ศรี               เสมอภาค ประชาใหญ่ในหล้านั้น              แน่แท้อธิปไตย ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลายา - [ 24 มิ.ย. 52 11:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 76 นั่งชื่นชมภาพข้างบน  คห.74   เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่แอบแฝงในภาพอันดูธรรมดา  แต่มากค่าด้วยความหมายครับ นอกเหนือจากการชื่นชมฝีมือการถ่ายภาพ  ที่เลือกแสงและมุมองได้ดีเช่นกัน  ครับ ภาพที่ปราฏเบื้องหน้า  คือ " เรือลำน้อยที่ลอยแน่นิ่งในห้วงชลาลัย " เลยเป็นที่มาของการเขียนโคลงบทนี้  ในอีกมุมมองหนึ่งซึ่งอาจไม่ใช่เพียงการมองเห็นธรรมชาติที่สวยงาม  ตามรูปของคุณศาลาไทย  เท่านั้น เดียวดายโดยนิ่งด้วย            ดุษฎี วางเรื่องราวเคยมี                ใหญ่น้อย รำลึกเรื่องเลวดี                   หลายหลาก จนค่ำคืนเคลื่อนคล้อย          ผ่านพ้นโดยพลัน ฯ ความสงบอาจสยบทั้ง           ความแปร-  ปรวนเฮย ตรองสิ่งทวน , ตามกระแส     โลกนั้น ความชังชอบ  ดังแห            คลุมจิต-  ใจนา ควรสลัดสิ่งขวางกั้น             เพื่อพ้นพันธนา-  การเอย ฯ จากคุณ : ค้างคาวกินกล้วย (the darkknight) - [ 24 มิ.ย. 52 11:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 77 สวัสดีครับทุกท่านที่เข้ามาเยือนอาศรมฯ 24 มิถุนายน 2552 ศาลายา ขี้เกียจเลยหลบอู้ ไม่ตอบกระทู้ตั้งหลายเพลา !!! ขออภัยด้วย ขอรับ !!! =================================== ท่าน Ar@p #61 #64  #69 #72  เข้ามาด้วยน้ำใจเมตตา นำธรรมะมาให้ส่องใจตน ขอบพระคุณครับ #62 จิตคือมิตรสหาย ๏ คือจิตมิตรสหายตะกายโลกย์        ร่วมทุกข์ร่วมโศก กี่กัปป์ลับกัลป์สัญจร ๚ะ ๏  คือจิตมิตรอยู่ยั้ง                          ยืนโลกย์ รับทุกข์สุขแลโศก                           ส่ำสิ้น ทุกที่กี่กัปป์วิโยค                             ยังบ่   หน่ายพ่อ หลงวัฎฎ์สัตว์แดดิ้น                          ด่ำด้วยโมหันต์๚ะ #64 สังสารวัฏ-สังสารสัตว์ ๏ สังสารวารวัฏฎ์สัตว์หลง                กำเกวีนเวียนวง ในซอกหลอกตนวนอบาย ๚ะ ๏ สังสารวารวัฎฎ์ล้อ                      เกวียนหมุน เวียนเก่าเล่าบาปบุญ                      บ่รู้ ส่ำสัตว์กัดแทะสุญ-                       ญตาจิต ซอกหลืบจักรวาลคู้                       คุกคล้องจองอบาย ๚ะ # 69 เธอก็เหมือนหมาขี้เรื้อนนั่นแหละ ๏ หมาขี้เรื้อนเกาขี้เรื้อน                บรมสุขเอ่ยเอื้อน สิ่งใดไม่เทียบเปรียบปาน ๚ะ ๏  มนุษย์สั่งสมสมบัติบ้าน             บรมสุขทุกด้าน เทียบได้หมาเกาขี้เรื้อน  ๚ะ ๏  หมาเกาขี้เรื้อนสุข                    กับเกา ว่าสุขเลิศบรรเทา                         ทุกข์เปื้อน มนุษย์คลั่งสั่งสมเอา                    สมบัติ แท้เทียบหมาขี้เรื้อน                     ต่างตั้งในหลง ๚ะ ================================= #61 ท่านปะหล่อง เข้าใจขอรับ แปะโคลงบ่อย ๆ นะขอรับ ชอบอ่าน ================================ # 63 ท่านป้า คุณหนูนา สวัสดีครับ โคลงสวยครับ ๏ ห่างเหินเหินห่างร้าง                   อาศรม เคยร่ำโคลงอภิรมย์                      รื่นฟ้า แวบเวียนผ่านชื่นชม                     เพียงนิด ศิษย์ใหม่ชื่นใจจ้า                        ท่านป้าแปะโคลง ๚ะ ================================= # 66, #70 ท่านนายทิวา สวัสดีครับ เห็นกลอนท่านปรากฎในคม-ชัด-ลึก ประจำเลย ================================= #67, 71ท่านกรวี โห ใจบุญขนาด  บริจาคอวัยวะเลยนะนั่น งานทำบุญอยากไปทำ แต่ต้องเฝ้าบ้าน ฝากไปด้วยใจละกาน ================================= #68 ท่านลิ้มบ่อเมี้ย สวัสดีครับ ================================= #73 ท่านเซียงยี้ สวัสดีครับ ๏ จุด   นี้มาพึ่งได้                       ไม่นาน ธูป   ปักเชิญอาจารย์                    ก่อนกี้ เชิญ  ท่านลากสังขาร                   มาสัก   หน่อยรา โคลง  ที่ครูเคยชี้                        จักได้สดสวย ๚ะ ================================ #74 ท่านศาลาไทย สวัสดีครับ ว้าวดีใจจัง ได้เห็นโคลงสวย ๆ อีกแย้ว ๏ เชียงคานฟังชื่อคล้าย                   ขื่อคาน สตรีอาจไม่โปรดปราน                     ชี่อนี้ น้ำโขงแผ่ไพศาล                           คานสงบ ไหลหลั่งโคลงเรื่อยรี้                       ชื่นเพี้ยงเชียงคาน ๚ะ แหะๆ ================================== จากคุณ : ศาลายา - [ 24 มิ.ย. 52 11:57:26 ]

ความคิดเห็นที่ 78 # 76 ท่าน ค้างคาวกินกล้วย (the darkknight) == ทำไมอมยิ้มท่านเป็นสี่เหลี่ยม และไม่มีที่ให้กิ๊ฟครับ ? == ท่านเห็น "เรือลำน้อยที่ลอยแน่นิ่งในห้วงชลาลัย" (คคห.74) แต่ศาลายาสายตาสั้นคิดแต่เรื่องกิน จำไว้ว่า ที่นั่น "กุ้งเต้น" ขึ้นชื่อมาก ๏  แหวกขุนเขาแผ่น้ำ              เป็นผืน โขงฉ่ำอวดวันคืน                    อวดฟ้า เรือน้อยนิ่งคนยืน                    อย่างสงบ คนึงกลิ่นกุ้งเต้นอ้า                  คุดคู้แช่บหลาย ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลายา - [ 24 มิ.ย. 52 12:42:56 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ชื่นชมโคลงและรูปภาพของพี่ศาลาไทย สวยๆๆ ตอนนี้หนูกำลังด้อมๆมองๆอยู่แถวห้องกล้องค่ะ พี่ศาลาไทยเล่นกล้องด้วยเร้อ โปรดชี้แนะ จากคุณ : เซียงยี้ (เซียงยี้.) - [ 24 มิ.ย. 52 13:21:28 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คุุณค้างคาวกินกล้วย ดีใจจังค่ะชอบรูปที่ถ่ายมาจากแก่งคุดคู้ ขอบคุณสำหรับคำชม ปลื้ม... คุณศาลายา "กุ้งเต้น" แห่งแก่งคุดคู้ ได้ยินมาหลายที แต่ไม่เคยได้ลองชิม ไปคราวนี้ได้ชิมแต่อาหารของชาวไทยทรงดำ แห่งบ้านป่าหนาด โดยเฉพาะ "ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว" บอกได้คำเดียวว่า สุดยอด !!! เจ้าเซียงยี้ คิดถึงจัง อยู่เย็นเป็นไฉน แปลง่าย ๆ ว่าสบายดีหรือเปล่า พี่พกกล้องคอมแพ็คใช้ง่ายไปเพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่แอบไปดูรูปสวย ๆ ที่ห้องกล้องบ่อยเหมือนกัน ๏ "ตลิ่งของ" สองฝั่งน้ำ     ยามเย็น เรียบง่ายเหมือนที่เห็น        เช่นนั้น คนเราเล่าเปล่าเป็น           ไปเรื่อย               เพียรไขว่คว้าฝ่ากั้น           มุ่งเฝ้าตามฝัน ๚ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 24 มิ.ย. 52 14:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ภาพหนึ่งภาพอาจสะท้อน           ร้อยความ หมายเฮย อยู่ที่ใครจักนิยาม                     ภาพนั้น ภาพมากสิ่งให้ถาม                    ให้ตอบ เพราะภาพไร้ขอบกั้น                 แบ่งห้วงจินตนา ขออวยพรส่งให้                        เหล็กละมุน ให้รักเกื้อการุณย์                      โอบล้อม เอาใจใส่ค้ำจุน                          คู่อยู่ เสมอนา รักเปี่ยมสุขพรั่งพร้อม                 ก่อนเข้าประตูวิวาห์ จากคุณ : แดงตัวน้อย (Little Red) - [ 24 มิ.ย. 52 14:20:55 ]

ความคิดเห็นที่ 82 "บนคาน"ขึ้นอยู่แว้ว............สบายใจ เหลือบเห็บเร็นริ้นไร............วุ่นว้า หนาวเหน็บอีกเจ็บใน..............ปวดปร่า หายหมดเมื่อฉันกล้า..............นิ่งหน้า"บนคาน" ยัยหนู "เชียงคาน"  กรวี  "บนคาน"  อ่ะน่ะ  555 วุ๊ย...แก้ซะตามทำมะเนียม แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 15:31:22 แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 15:27:45 จากคุณ : กรวี - [ 24 มิ.ย. 52 14:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ๏ จุด ... เทียนเวียนเวี่ยใกล้                แจกัน ธูป ... ปักดักแมลงวัน                        หวี่ด้วย เชิญ ... ครูภู่อัศจรรย์                         มากล่อม โคลง ... ศิษย์คิดแทบม้วย                  มั่วแล้วแจวหนี ๚ะ๛ ๏ "แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวจนเลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน" ๚ะ ๏ เมื่อได้อ่านกานต์กลอนครูสอนสั่ง ประดุจดังดาวฤกษ์ที่เบิกหน ความจับใจใช้คำชื่นฉ่ำชน จึงซุกซนเลียนบ้างเอาอย่างครู ใครจะว่าบ้ากลอนสุนทรแบบ จังหวะแคบบังคับเหมือนจับหมู ไม่ดีดดิ้นปลิ้นพลิกกระดิกดู ลองจะรู้ไม่ง่ายสบายนัก ดูให้ดีที่เห็นอยู่เป็นนิจ สัมผัสชิดสามสี่ให้มีหลัก สัมผัสข้ามตามห้าเจ็ดช้าชัก พึงประจักษ์ใจจิตแล้วคิดตาม หากแต่งบ้างอย่างนี้อย่างมีแบบ ใช่คับแคบแต่รู้คือครูสยาม คิดอ่านเขียนเรียนไว้ด้วยใจงาม ค่อยนิยามสิ่งใหม่วิไลมี ด้วยเหตุนี้ที่เห็นจึงเค้นคิด ฝากลิขิตคำกลอนอักษรศรี เป็นบทใจไหว้ครูตามรู้นี้ ไหว้กวีแห่งโลกวิโมกข์นั้น ยี่สิบหกยกวันสำคัญยิ่ง เดือนอ้างอิงมิถุนายนฟ้าฝัน สุนทรภู่ครูกลอนเบิกพรพลัน โลกจงผันคลายร้อยด้วยกลอนเอย  ๚ะ ๏ ไหว้ครูภู่เอกหล้า                    โลกกวี โคลงกาพย์ทาบกลอนศรี             สุขถ้วน รังสรรค์กลั่นกลอนดี                   เดือนเด่น  เพ็ญเอย โคลงเอกเสกโลกล้วน                 เลิศฟ้าสถาพร ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลายา - [ 24 มิ.ย. 52 15:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เชียงคานสองฝั่งน้ำ-            ของชล ทิวทัศน์งามยิ่งยล               ลึกล้ำ เงานิ่งสะท้อนบน                 เงานิ่ง กระซิบเพียงเสียงน้ำ            แว่วเวิ้งใจไหว จากคุณ : KAVINT - [ 24 มิ.ย. 52 20:58:49 ]

ความคิดเห็นที่ 85 มีท่านผู้รู้ ( ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าใคร ? )  กล่าวใว้ครับ ว่า " เพียงหนึ่งภาพ  อาจกำราบพันเรื่องราว    หนึ่งรอยยิ้มพริ้วพราว  อาจเกินกล่าวพันกาพย์กลอน " ซึ่งอาจถูกหรือไม่  สุดแต่ใจจะไขว่คว้า  ขอรับ ผมก็ชื่นชอบการดูภาพถ่าย  แต่ก็ฝักใฝ่ในการถ่ายภาพ  ด้วยเช่นกัน แต่ว่าวิวัฒนาการด้านภาพถ่ายและการถ่ายภาพ  เจริญรุดหน้าไปมาก จนกล้องที่เคยซื้อใว้  ดูล้าสมัยไปบ้าง  เลยแอบไปถอยกล้องรุ่นใหม่มาใว้  แบบว่ากลัวตกยุค  นั่นเอง  อิอิ คห.83  " คุณศาลายา "  เขียนโคลงและบทกวี  มาให้ชื่นชม ( อีกแล้ว ) คมคายแบบไม่ระคายเคือง  ยิ่งนัก  ครับ เลวดีหาใช่อ้าง         สรรพคุณ การเกิดสูงหาหนุน    จิตล้ำ การเกิดต่ำใช่สถุล    ใจชั่ว มีแต่ดีเลวย้ำ           ติดเนื้อตามตน ฯ นามโครตปรากฏได้     สกุลพงษ์ ดีชั่วตามดำรง             ชีพนั้น การสูงต่ำมองตรง        การกอปร-  กรรมเฮย หาใช่หมายมุ่งชั้น       ต่ำต้อยตนสูง ฯ เลวทรามแลต่ำช้า       หาใช่ค่าอ้างตัวตน สูงต่ำแห่งผู้คน           หาใช่ผลแห่งโครตวงษ์ ดีชั่วที่ตัวทำ              ความสูงต่ำที่ดำรง คงตนอย่างมั่นคง       ด้วยซื่อตรงตั้งตนดี ฯ ออกแนวธรรมะ  ตามท่าน คห.72 " ar@p " แต่อาจไม่สูงวัยเท่า  แน่นอน  อิอิ แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 52 19:53:01 จากคุณ : ค้างคาวกินกล้วย (the darkknight) - [ 24 มิ.ย. 52 21:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ชื่นชมภาพที่  คห.80  ของคุณ " ศาลาไทย " อีกสักครั้ง หวังว่าคงไม่แจ้งข้อกล่าวหา  ว่าละเมิดลิขสิทธิ์  นะครับ มองภาพแล้ว  เห็น " เรือนแพ "  จะบอกว่าเห็นเรือพ่วง  ก็ไม่เหมาะไม่ควร  อิอิ แต่มองไปมองมา  เหมือนแพที่ชาวประมงผู้ใว้เลี้ยงปลา  ก็ได้ แต่อยากบอกว่า  ภาพแสน romance ยิ่งนักครับ ผูกพันกันห่างให้                โหยหา กันพลักพรากจากลา          ล่วงแล้ กันแปรเปลี่ยนสิเนหา          หายห่วง-  ไยเฮย กันลุ่มหลงเท็จแท้              ที่ผู้หมายลวง ฯ เคียงคลอจนผ่านพ้น           เภทภัย คืนผ่านวันผันไป                 มากน้อย ยังมีจิตโยงไย                   เป็นหนึ่ง จนเมื่อจันทร์เคลื่อนคล้อย   รุ้งฟ้าแสงระวี ฯ จากคุณ : ค้างคาวกินกล้วย (the darkknight) - [ 24 มิ.ย. 52 21:24:58 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ขึ้นไม่ขึ้นคนเชียร์เพลียไปแล้ว พอแรงแผ่วเลยปลงคงไม่ไหว ท่านว่าเรื่องอย่างนี้อยู่ที่ใจ คานของใครของมันร้อยพันคาน ขึ้นลงขึ้นลงได้เหมือนสายน้ำ เป็นเรื่องธรรมชาติท้าว่าต้องผ่าน จากลุล่วงฤดูหนาวอันยาวนาน จนถึงกาลฝนแรกแตกรากใบ ต้องผ่านร้อนผ่่อนร้ายไปให้รอด รอไฟมอดสิ้นโศกสู่โลกใหม่ หลังฝนแรกโปรยฝนบนหัวใจ กลายเป็นทุ่งดอกไม้อีกไม่นาน จากคุณ : KAVINT - [ 24 มิ.ย. 52 22:19:47 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ชาวโคลงรุ่นใหม่คงไม่คุ้นกับ คุณเหล็กละมุน (mildsteel) เขียนโคลงได้หวานสุด ๆ คนหนึ่ง และผมชอบอ่านไม่เคยเบื่อ มาส่งข่าวว่า 28 มิ.ย.52 นี้  จะสละโสด (57) สหายอาพีเขียนกลอนอวยพรไว้ก่อนแล้ว ขอนำมาทำบัตร อวยพรใหม่  รีบทำไปนิด  อย่าว่ากันนะคุณเหล็ก ป.ล. ชอบโคลงหนูกรวี (82)  และกลอนของ KAVINT จริง ๆ        อยากให้รางวัลนะ  เอิ๊ก ๆ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 24 มิ.ย. 52 22:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เวดดิ้งการ์ด อีกอัน เขียนให้เหล็กละมุนและเจ้าสาวโดยเฉพาะ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 24 มิ.ย. 52 22:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 90 พอมีใครต่อใครอวยพรให้เจ้าเหล็กถึงนึกขึ้นได้ แม้จะหลังไมค์แสดงความยินดีล่วงหน้าไปแล้ว ทำ "เวดดิ้งการ์ด" มาต่อท้ายเฮียคัมฯ อีกใบ ฮิ ๆ ป.ล. แก้รูปใหม่ไปไว้ด้านล่าง ย่อให้เล็กลงอีก ได้ยินเสียงบ่นว่าเอารูปใหญ่มาข่ม เปล่าซะหน่อย แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 52 08:18:56 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 24 มิ.ย. 52 23:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 91 มีการเอารูปใบใหญ่มาข่ม  เอารูปเก่ามาสู้มั่ง แก่งคุดคู้ ก็ไปมาแล้ว ข้ามไปฝั่งลาวแป๊บนึง แต่ยังหารูปไม่เจอ ขอเอาโคลงคุณแดงน้อย มาอวยพรเหล็กละมุน (เจ้าสาวสวยนิ) ใครอยากแต่งงาน.. ยกมือขึ้น... จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 25 มิ.ย. 52 07:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ^ ^ ยกมือ ยกมือ ๕๕ จะ search หาโคลงของคุณเหล็กละมุนมาศึกษา ก็ search engine หยุดบริการชั่วคราวครับ จึงยังไม่ได้มีโอกาสรู้จัก แต่ขอแสดงความยินดีด้วยค่า ^_____^ จากคุณ : เซียงยี้. - [ 25 มิ.ย. 52 08:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 93 "เวดดิ้งการ์ด" ให้เจ้าเหล็กจ้ะ ขอให้มีความสุขสม่ำเสมอนะจ๊ะ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 25 มิ.ย. 52 08:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ฉันก็มีความรัก --------------------------------- ฉันก็มีความรักมาทักเช้า ดูจิตไปเบาเบาสุขเศร้าอยู่ สุขทุกข์วนไหวใจตามดู กายใจใครตามรู้อยู่สบายฯ "ไม่เพิ่มทุกข์เพิ่มโทษโกรธใครอีก" กระซิบบอกใจปลีกวิเวกไว้ แต่ละชีพแต่ละชังล้วนบังใจ มืดวนอยู่ในเงามายาฯ บอกใจ...ได้เวลามาตื่นรู้ สัมผัสจิตพินิจดูให้รู้ว่า สุขก็เถอะ ทุกข์ก็เถอะ มีโรยรา เป็นปกติเป็นธรรมดาอยู่เช่นนั้นฯ "สุขแท้" จงตามรู้ "อยู่อีกฝั่ง" ไม่ต้องหาไม่ต้องหวัง ไม่ต้องฝัน มันเกิดเอง เป็นเอง เรื่องของมัน เมื่อ "บุญถึง" ก็มหัศจรรย์แก่ตัวเองฯ 2552250812-1 *เขียนให้แก่ทุกคน...ผู้วางกระทู้, และมิตรสหาย กวิน..เสียงคำเธอดีมากเมื่อไหร่จะรวมเล่ม คัมภีร์โบราณนอกจากเสียงดีคำดีแล้ว ถ่ายรูปก็เก่ง ออกแรงทำบัตรอวยพรให้สวยสดงดงาม..ขอบคุณมากเลย ศาลาไทย...ภาพสวย..คำดี..แต่ขนาดเลยมาจิ้นแคบ อิๆ เออ..ถ้าชาวอาศรมพบกันเมื่อไหร่ ขอให้เป็นแถวอนุสาวรีย์นะคุณ-ที่พงหลีก็ได้ เลือกสถานที่ที่ไม่ "อโคจร" (สถานที่ที่โคสามารถไปได้-อิๆ) ตอนนี้อาร์พีอยู่ไกล...ระลึกถึงมิตรสหายทุกคนครับ จากคุณ : Ar@p - [ 25 มิ.ย. 52 08:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 95 87  พี่เสือ... วุ๊ยสาธุคร่า..  แหะๆๆๆ 88  ป๋าขราป๋าติดต่อให้รางวัลได้เลยนะเจ้าค่ะ ให้เบอร์อีเมล์ไว้ก่อนเลย  5555 kopkul_m@hotmail.com  กิกิกิ จากคุณ : กรวี - [ 25 มิ.ย. 52 12:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 96 มาขอบอกว่าชอบรูปของศาลาไทย ที่ความคิดเห็นที่ 74 มาก แต่ภาพที่ความคิดเห็นที่ 80 ดูมืดไปสักนิด เลยชอบน้อยหน่อย และชอบรูปของเฮียคลำ.. อ๊ะไม่ใช่ ต้องเฮียคัมภ์ ที่ส่งประกวด ในความคิดเห็นที่ 91 มากมาย แต่ไม่ยักบอกว่าเป็นภาพที่ไหน รู้แต่ว่าเป็นยามเย็น พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า และต้องขอขอบคุณที่เอาโคลงเราไปลงไว้ด้วย อิอิ.. ต้องขอบคุณเหล็กละมุน ที่มาแจ้งข่าว ทำให้บรรยากาศอาศรมคึกคักไปอีกแบบ แล้วก็ต้องร้องเพลงแซวคุณกรวีซะ เป็นโสดทำไม อยู่ไปก็เศร้าเหงาทรวง ไม่คิดจะหาคู่ควง เดี๋ยวจะล่วงพ้นวัยไปเปล่า.... สงสารคานบ้างเถิด              กรวี คานย่อมอยากจักมี             คู่บ้าง เป็นคานเดี่ยวหลายปี            คงเบื่อ ควรปล่อยหาคู่สร้าง             คู่ข้างคู่เคียง คานก็คงอยากจะอัพเกรดจาก คานเดี่ยว เป็นคานคู่ต่างระดับดูบ้างละนะ หุหุ แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 52 13:55:47 จากคุณ : แดงตัวน้อย (Little Red) - [ 25 มิ.ย. 52 13:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ยืนมองดวงดาวเดียวดาย กำทรายปรายโปรยละเม็ดร่วง ทุกเม็ดแทนละห้วงดวง ละแดที่เปลี่ยวดาย สองเม็ดทรายไหลสู่ผืนน้ำ ฉ่ำมธุรสธารสาย ความรักจับมือทักทาย ทรายกับทรายไม่เหงาแล้ว ฉันยังยืนมองดวงดาว หนาวโลกพรำน้ำค้างแก้ว เพียงลมพัดผ่านแผ่วแผ่ว เหมือนพายุพัดซัดหัวใจ ฯ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 25 มิ.ย. 52 15:53:16 ]

ความคิดเห็นที่ 98 มองดาวระยิบระยับแย้ม           พร่างพราว เหมือนพูดคุยเรื่องราว              ชื่นชู้ คุยถึงเหล็กละมุนคราว             แรกหนุ่ม เป็นเรื่องน่ากระซิบผู้                ร่วมห้องร่วมวิวาห์ จากคุณ : แดงตัวน้อย (Little Red) - [ 25 มิ.ย. 52 19:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สาย ๆ จะต้องไปชลบุรี  เรื่องงานเหมือนเดิม ขอบคุณ CrazyHOrse ที่ให้ Give ไว้ที่ 89 ให้ Give ตอบไว้ที่ 97 นะ ใครว่างรีบจัดขบวนขันหมากไปสู่ขอ เซียงยี้ ด่วน 92  ถ้าอยากอ่าน โคลงโดยเหล็กละมุนต้องเข้าไปอ่านกระทู้เก่าในเวบ อาศรมชาวโคลง หนู กรวี 95 จะเอารางวัลจริงนะ  ไปทวงเอาจาก ศาลายา คนเฝ้ากระทู้ Ar@p 94 เดี๋ยวนี้เขียนอะไรขลัง ๆ ลึก ๆ ขอเอาบางตอนมาใส่ภาพ ของคัมภีร์ เพิ่มคุณค่า ๆ  และเพื่อตอบป๋าแดงน้อยเรื่องสถานที่ในภาพด้วย ส่วนเวลาเป็นเวลาเช้าครับ ไปดักรอพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมอ่างเลย ชุดนี้ถ่าย ไว้เกือบ 20 ภาพมั๊ง สุดท้าย  เหล็กละมุน และ เจ้าสาว  ชาวอาศรมยินดีด้วยครับ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ วันสุนทรภู่ 06:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 100 แอบเข้ามายินดีกับคุณพี่เหล็กละมุนครับ... สละโสดไปซะแล้ว จากคุณ : โกฏิดารา (เทราสเฟียร์) - [ วันสุนทรภู่ 06:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 101 "ใจตั้งมั่น" คนโบราณนี่เก่ง และลุ่มลึก พวกเขาสังเกตจนรู้จักพฤติกรรมของ "จิต" อย่างถ่องแท้ พวกเขาสรุปสั้นๆ ว่า "ใจตั้งมั่น" แล้วจะปลอดภัย มีคุณมาก ความมหัศจรรย์ต่างๆ เกิดขึ้นมาเอง จากใจที่ตั้งมั่นนั้น ตรงกันข้ามใจที่ "ไม่ตั้งมั่น" กวัดแกว่งไปตามความรู้สึก "ชอบ-ไม่ชอบ" นำหายนะ ครั้งแล้วครั้งเล่ามาให้ตลอดเวลา หากนำอดีตของเราเองมาเรียงกัน ก็เห็นได้เอง และทราบชัดว่า เราทำสิ่งวิบัติมากมายได้อย่างไร ในเมื่อใจลึกๆ ก็โหยหาสิ่งอันวัฒนาทั้งนั้นฯ เธอได้ทราบข่าวคราวของ "ใจที่ตั้งมั่น" บ้างหรือยัง ? ------------------------------------------------------------ ขอให้มิตรสหายทุกคนมีความสุข โล่งใจ เบาใจ เบิกบาน 25522606-2 จากคุณ : Ar@p - [ วันสุนทรภู่ 08:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เรือน้อยลอยแผ่วพริ้ว               เหนือนที พร่ำบอกผ่านวารี                     สู่เจ้า แม้ตะวันลับราตรี                     มืดบอด จักอยู่แลคอยเฝ้า                    จวบฟ้ารุ่งอรุณ จากคุณ : แดงตัวน้อย (Little Red) - [ วันสุนทรภู่ 09:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 103 มาตอบป๋าคัมซะหน่อย รางวัลน่ะอยากได้คับ ไม่โกหก 555  เขียนกลอนแล้วมีคนชอบก็คือได้รางวัลเหมือนกัน   ตอบอาร์พีว่า ซื้อแม๊กซ์แบบอันใหญ่ๆมาแล้ว ก็เอาไว้เย็บเล่มโดยเฉพาะ อิๆ ว่างๆก็พิมพ์แล้วเย็บเป็นเล่มไว้บ้างเก็บไว้เผื่อฮาร์ดดิสก์เสีย จะได้ยังมีผลงานไว้อ่านตอนแก่เฒ่า คุณศาลายา เห็นตั้งกระทู้โคลงในห้องกวีการเมืองอยู่ เข้าไปอ่านๆ แต่ไม่ได้เข้าไปตอบเลย คือว่าแต่งกลอนมันช้า ช่วงนี้ตอบกระทู้การเมืองแบบไม่ต้องร้อยกรองทันใจกว่า เนอะ น้องไหม แต่งโคลงดีกว่าแต่งงาน อยู่แล้ว รับรองจ้ะ ขออวยพรให้คุณเหล็กละมุนและเจ้าสาวด้วยคับ ขอให้รักกันมั่นคงยั่งยืนนะ , Love to some is like a cloud To some as strong as steel For some a way of living For some a way to feel And some say love is holding on And some say letting go And some say love is everything And some say they don't know (จาก Perhaps Love-John Denver&Placido Domingo) จากคุณ : KAVINT - [ วันสุนทรภู่ 10:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ฝากให้เหล็กละมุน LOVE STORY (Taylor Swift) http://www.youtube.com/watch?v=0v3d6SFcDys (ฟังเสียงเปียโน และอะไรสักอย่าง) มนุษย์เรา เจอเสียงของความรักตั้งแต่เมื่อใด ในใจลึกของคนทุกชาติภาษาโหยหารักมาก นัยว่า รักงดงาม, รักสดชื่น, รักทำให้ชีวิตยืนยาว (แต่ก็ยังมีคนเถียงว่า "ขมนะ" ชาย-หญิงจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรโดยปราศจากรัก (บางคนถาม) (ไม่ใครตอบหรอก เพราะเราต้องตอนตัวเอง) รักเลยคล้ายๆ สนามกว้างใหญ่ ที่เราต่างหลบเข้ามาอาศัยดื่มกิน "สุข-ทุกข์" ช่วยกันป้ายน้ำตาปลอบโยน ไม่มีใจดวงใดจะเศร้าอยู่ตลอดไป ไม่มีใจดวงใดจะสุขได้อย่างเดียว หรือมีใครเลือกได้เล่า จากคุณ : Ar@p - [ วันสุนทรภู่ 11:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 105 #94 ท่าน Ar@p - บทกวีนี้ลึกล้ำ และสุดยอดครับ โดยเฉพาะบาทจบ    เมื่อ "บุญถึง" ก็มหัศจรรย์แก่ตัวเองฯ ๏ มหัศจรรย์พันลึกโอ้                    ความรัก แก่เจ็บตายประจักษ์                      ประสบถ้วน ตัวตนแบกตนหนัก                        ทุกโลก   โศกแม่ เองแย่งยึดเองล้วน                        ล่วงแล้วรักอะไร ๚ะ # 96 ท่าน Little Red - สงสารคานซะง้าน ... บ่สงสารคนเลยเนาะ #97 ท่าน CrazyHorse - แหมช่างละเอียดละออ ดูถึงแต่ละห้วงละแด จับคู่ทรายทีละเม็ดทีละเม็ด ดูสายลมทีละแผ่วทีละแผ่วที่ผ่านใจ แหม ๆ ๆ ๆ ๆ   แต่ชอบอ่ะ   #98 ท่าน Little Red - ถ้าเป็นเรื่องลับๆ นะครับ =>กระซิบกระซาบแล้ว     อาจหวุ้นวายเชียวฯ 5555 #99 ท่านคัมภีร์โบราณ - ง่า แล้วจะเอารางวัลอะไรอะครับ หนังสือตำรับประมวลมารคอะเป่า? หลังไมค์โดยพลัน 555 #100 ท่านโกฏิดารา (เทราสเฟียร์) - ลำดับสวย แต่ไม่ยอมวางโคลง ไม่ย้อมไม่ยอม #101 ท่าน Ar@p  - "ใจตั้งมั่น" = สมาธิ? ๏ ใจฉันมั่นอยู่เสี้ยว                       วินาที แตกเสี่ยงโหดเลวดี                        ดิบบ้าง หากนำอดีตเรียงปี                         ปวงจด   จำเฮย เห็นแต่โคลงฝันค้าง                       ป่วยไข้โหยหา ๚๛ #102 ท่านแดงตัวน้อย (Little Red) - พลังโคลงไม่ตกเลยขอรับ ๏ เรือลอยลำผ่านเวิ้ง                  วังวน ลอยนิ่งราวถูกมนต์                     แม่น้ำ ถามใจแม่ใยหน                         ยลห่าง   หายแม่ ฤๅปล่อยลอยเรียมย้ำ                  อยู่คล้ายเรือไฉน ๚ะ๛ #103 ท่าน KAVINT - ในห้องกวีการเมือง ผมแต่งแบบว่าคิดอะไรได้ตอนนั้นก็พิมพ์ไป แบบระบาย ๆ ไป ร้อยกรองบ้าง ไม่ร้อยบ้าง แล้วแต่แรงบันดาลใจขอรับ (เขาจะด่าไหมนี่ ฮี่ๆๆๆ) #103, #104 - แหมทุกท่านช่างมีเพลงใจดวงใจจริง ๆ ผมฝากเพลงนี้ไปฉลอง ในงานเลี้ยงก็แล้วกันครับ ฮี่ๆๆๆๆ http://www.youtube.com/watch?v=QqErTNcbbIY จากคุณ : ศาลายา - [ วันสุนทรภู่ 13:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เหล็กละมุนอุ่นละไมด้วยไฟรัก หลอมและหล่อรูปสลักแห่งรักมั่น แด่วันชื่นคืนสุขทุกคืนวัน ตราบนิรันดร์ตลอดไปนะmildsteel / จากคุณ : xxx(เฒ่า) - [ วันสุนทรภู่ 19:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 107 สองรักรวมหนึ่งรัก แจ้งประจักษ์ตลอดไป สองจิตรวมหนึ่งใจ จารึกไว้ในวันนี้ ขอพรพระไตรรัตน์ ดลสวัสดิ์พิพัฒน์ศรี ให้ครอบครัวสุขทวี นับแต่นี้ตลอดกาล ขอขอบพระคุณพี่น้องชาวอาศรมสำหรับคำอวยพรมาก ๆ ครับ ขอขอบคุณคุณศาลายา พี่ทิวา น้องศาลาไทย คุณกรวี คุณลิ้มบ่อเมี้ย พี่แดงน้อย คุณเซียงอี้ น้องโกฏดารา คุณ KAVINT คุณ xxx คุณอาร์พีและเฮียคัมภีร์(ซึ่งต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับบทกลอนขนาดยาวและการ์ดสวย ๆ ของปรมาจารย์ทั้งสอง) รวมถึงพี่จอมยุทธสำหรับคำอวยพรหลังไมค์ครับ กระผมจะ save เก็บโคลงกลอนที่พี่ ๆ น้อง ๆ ชาวอาศรมเขียนให้ไว้ในสมุดประสาทพรด้วยครับ ในพิธีแต่ง ผมได้จัดทำ presentation การอ่านบทกวีประกอบภาพ (ที่บางบทกลอนฟุ้งระเหยเป็นบทเพลง) เอาไว้ ไว้จะ upload ไว้ใน web ในโอกาสต่อไปนะครับ จากคุณ : เหล็กวิวาห์ (mildsteel) - [ วันสุนทรภู่ 20:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ส่วนตัว  ไม่รู้จัก " คุณเหล้กละมุน " ครับ แต่เห็นว่าอาศรม ฯ คึกคักได้ปานนี้  อาจเป็นเพราะ " คุณเหล็กละมุน " เคยมีบทบาทและลีลาภาษาวรรรกรรม  เป็นแน่ ขอยินดีด้วยครับที่ได้พบเพื่อแท้ร่วมเรียงเคียงชีวิต  มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน ขอให้มีความสุขเสมอในชีวิตคู่ครับ  ทั้งคู่เลย    ให้พรั่งพร้อมน้อมรับกับสุขแสน ทั้งแนบแน่นไมตรีที่ล้ำค่า อยู่ร่วมเรียงเคียงกันมั่นชีวา ดั่งจันทราคู่ดาวพริ้มพราวพราย   บ้างหนักเบาเข้าใจในทุกสิ่ง บ้างเท็จจริงรู้นิยามความหลากหลาย บ้างร้อนหนาวขอเพียงเคียงคู่กาย เพื่อขวนขวายสร้างฝันอย่างมั่นคง ฝากเพลงให้แด่ " สองหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักครับ " http://www.carefor.org/content/view/975/156/ ยินดีด้วยครับ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) - [ วันสุนทรภู่ 20:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 109 อ้อ  ฝากอีกเพลงหนึ่ง  ในรูปแบบเพลงต่างชาติต่างภาษา แต่คำว่า  รักนี้  ช่างอ่อนหวานและล้ำค่ายิ่งนัก http://www.youtube.com/watch?v=gQc_62XTEd8 จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) - [ วันสุนทรภู่ 20:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 110 แปลกนะ กายกับใจ, แม้จะคอยค้ำจุนกันให้ชีวิตดำเนินไปได้ แต่ก็มีลักษณะที่ต่างกัน กายที่อยู่นิ่ง ไม่เคลื่อนไหว มีแต่จะพิกลพิการไปเรื่อยๆ อ่อนแอ ไม่ปลอดภัย เป็นเหยื่อของผู้อื่น (ก็ไม่ยอมหนีนี่นะ) กายที่เคลื่อนไหว จะแข็งแรง สุขภาพดี แพทย์ยืนยันเช่นนี้ และแนะนำให้เราท่าน ที่มีชีวิตอยู่ในอาคาร  ออกกำลังกายเสียบ้าง หาไม่แล้วจะเป็นโรคหัวใจ ฯลฯ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เป็นในสัตว์ทุกชนิด ทำไมสัตว์ป่าจึงปราดเปรียวมาก อยู๋ตามลำพังได้ โดยไม่มีบ้านเรือนคุ้มกาย มีความระมัดระวังตัวดีเยี่ยม ชนเผ่าอย่างซาไก ประสาทหูประสาทตาเขาไวมา (เด็กช่างกลที่หูตาว่องไว ยังไม่ถึงพวกเขาเลย) แต่ใจที่อยู่นิ่ง ไม่เคลื่อนไหว กลับแข็งแรง ดังหินผา คนโบราณเปรียบใจที่ "ตั้งนิ่ง" ว่าเหมือนภูเขา ไม่หวั่นไหว ที่ระบุยิ่งไปกว่านั้น (เกินการนึกคิดของเราท่าน) ใจที่ตั้งนิ่งขนาดจะใหญ่กว่าจักรวาล ใหญ่กว่าทุกสิ่ง เพราะใจแบบนั้นจะตั้งอยู่เต็มทุกพื้นที่ของความ "ว่าง" ใจที่ตั้งนิ่งเต็มพื้นที่ของความว่าง เป็นใจที่เข็มแข็งที่สุด ในทางกลับกันใจที่เคลื่อนไหว อ่อนไหว หรือแม้แค่ขยับ ็เป็นใจที่อ่อนแอ มีแต่ทุพพลภาพไปเรื่อยๆ เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเกลียด เดี๋ยวชอบ เดี๋ยวชัง ฯลฯ คนเราจึงต้องขยับกายบ่อยๆ ออกกำลังกายมากๆ ความมหัศจรรย์ของกาย อยู่ที่การเคลื่อนไหว ในขณะที่ใจต้องหมั่นนิ่ง ตั้งไว้ให้มั่น ความตั้งมั่น นิ่งสงบ เป็นความมหัศจรรย์ของใจ นี่คือเรื่องแปลกของตัวเราทุกคน นี่คือความธรรมดา ธรรมชาติที่เป็นมาแล้วแสนนาน และจะเป็นไปอีกนานแสนนาน :) ปล. ลองสำรวจดูใจเธอว่า วันนี้ "นิ่ง" กับ "เคลื่อนไหว" อย่างไหนมากกว่ากัน... ถ้าเธอมีเวลาอีกหน่อย ลองเปรียบเทียบดู "ใจที่นิ่ง" กับ "ใจที่เคลื่อนไหว" อย่างไหน "เบาสบาย โล่งเบา เบิกบาน" กว่ากัน. ทราบผลแล้ว  เล่าให้ฉันฟังบ้างนะ :) แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 52 10:37:57 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 52 09:15:05 จากคุณ : Ar@p - [ 27 มิ.ย. 52 09:14:32 ]

ความคิดเห็นที่ 111 เอาเวอร์ชั่นภาษาทางภาคเหนือบ้างนะครับ "ใจ๋สองคล้องกั๋น เที่ยงมั่นบ่สิ้น ฮักฮ่วมอยู่กิ๋น เจ้นดินเจ้นฟ้า" แปลเป็นภาษาไทยกรุงเทพว่า "ใจสองคล้องกัน มั่นคงไม่สิ้น รักร่วมอยู่กิน ตราบสิ้นดินฟ้า" แต่ส่วนตัวผมชอบภาษาเหนือมากกว่า อ่านแล้วเสียงมันไพเราะดี ขอให้คุณเหล็กมีความสุขมาก ๆ นะครับ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 52 14:20:30 จากคุณ : ปะหล่อง (ปะหล่อง) - [ 27 มิ.ย. 52 14:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 112 21.31 น. ๏ Ar@p ร้อยสิบเข้า .......... ใจคลำ ธรรมชาติ 'จิตใจ' คำ .......... คู่นี้ กาย-ใจ-จิต ชักนำ ............ เปิด-ปิด-เปิดแล อย่า 'นิ่งนอนใจ' ชี้ ............ ใช่รู้'ระวังใจ' ๏ คลายล็อคจิต ใช่ต้อง ...... คิดล็อค-ใจแล ปล่อยจิต ปลิดจ้อย ออก ..... แจ่มจ้า ใจปิด จิตไป นอก .............. ในนิ่ง จิตว่าง จ่างวิด คร้า ............. วิดแจ้งกระจ่างใจ ๏ My Blog หมายบอกใบ้ .... ไขคำ วัคซีนหวัดนก ยำ .............. ใหญ่นี้ ผวนเห็น เผ่นหวน-ชำ ......... แระ-เคล็ด-คำแล คำคู่ คู่คำ ชี้ ..................... สลับได้ดังใจ ๏ เว้นไว้ คู่หนึ่ง ห้าม .......... สลับคำ คำคู่ 'จิตใจ' จำ ................. หลักหมั้น 'ใจจิต' นั่นผิดธรรม ............ คำที่ 'ต้องห้าม'แน 'จิต' ที่นำหน้า นั้น .............. จักต้อง'นำใจ' ๏ ใจเป็นนาย ใช่รู้ .............. กายเป็น บ่าวนา จิตนั่นเป็นเจ้า เห็น .............. ชัดแจ้ง ฝากท่านคิด ประเด็น ........... เคล็ดคู่-คำแล เล่นคำ รำเข่น แร้ง ............. นกรู้คำผี ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 22.16 น. ----------------------------------------------------------------------------- ๏ >>> ไขล็อคประตูจิต*คิดล็อคประตูใจ<<< ๏ 02.35 น. (พลบค่ำย้ำตอกกลอน*พบค้อนย้อนตอกกรรม) ๏ กังหันต้องลม ตรมร้อง น้องเปลี่ยนใจ พี่เล่นไข ไล่เข็น เช่นนั้นหรือ ลมพัดหัน พลันหัด พัดกระพือ 'อารมณ์' คือ ลือคม คารมแรง ๏ อารมณ์จิต ฤทธิ์จม หลงลมหลอน ลมใจร้อน จรไล่ ไปทุกแห่ง กุญแจไข ใจแข ไขแม่แรง จิตไม่แจ้ง แหม่งใจ ไม่ทันมือ ๏ ทำไมหวือ มือไว ใจเร็วนัก มือไม่หัก มักให้ อะไรหรือ ใจไม่หยุด มุดใหญ่ ทำไมดื้อ จิตมืดตื้อ มื้อติด 'ล็อคปิดประตู'จิตใจ ๚ะ๛ 02.59 น. ----------------------------------------------------------------------------- 03.00 น. (เช้าลงโคลงเรือ*เชื่อลงโคลงเรา) ... กลโคลงผวน ตลบมุ้งโดมิโน ... ๏ ดูกังหันพัดพลิ้ว...........ดังกู กูที่ผวนคำดู..................กี่ทู้ ทู้บอกเคล็ดคำครู...........talk บู่ ฤๅน้อง น้องพี่ตามอ่านรู้.............นี่พ้องเพียงใจ ๏ ใจคิดข้องขัด ให้..........จิตไข ไขที่ จิตปั่นใจ................ขี่ไท้ ไท้พลาด พลิกพลิ้วไป......ทาษไพร่ โห่ฮ้า ฮ้า พ่อครูคิดได้..............ห่อผ้ากันลม ๏ ลมคลื่น ลื่นข่มโล้.........กินแรง แรงจู่จ้วงพายแทง............ทิศแจ้ง แจ้งควับ กลับใบทะแยง....จับแกว่ง สลับแล แลโท่งเท่ง ใช่แกล้ง.........โล่งแท้แล่น'สลับ-ฟันปลา' บารนี ๚ะ๛ 03.36 น. ----------------------------------------------------------------------------- - จารึกไว้ด้วยขวัญจินตกวี ... เปิดประตูกลด้วยกุญแจผีกระบี่ใจไร้ลักษณ์ - ------- นกผี ---> กวีคำผวน*กวนวะคำผี*กวนหวีคำพระ <--- หนีผก ------ Create Date : 13 มิถุนายน 2552 Last Update : 13 มิถุนายน 2552 3:52:43 น.    46 comments   Counter : 141 Pageviews. แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 52 22:25:24 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 27 มิ.ย. 52 22:19:45 ]