23 มิถุนายน 254
เขียนถึงพี่ต่อ
หลังจากวันที่ขึ้นดอยวันวิสาขบูชาวันนั้น มันทำให้อินทำใจได้มากเลยล่ะ
บางทีการเจ็บมากมันก็ทำให้รู้ตัว ทำให้ทำใจได้ พี่ต่อคิดดูสิ ขนาดอินยังไม่ได้บอกพี่ต่อออกไป
ยังต้องเจอเรื่องที่ทำให้อินเสียใจขนาดนี้
อินคิดว่าทำใจได้แล้วมานานมากจนกระทั่งไปสัมมนาที่เชียงดาวนั่นแหละ
อินถึงรู้ตัวว่า จริงๆแล้วอินยังทำใจไม่ได้ ยังเลิกคิดไม่ได้ อินชอบแอบมองพี่ต่อบ่อยๆ
จนบางทีกลัวว่าอินจะเผลอ กลัวพี่ต่อจะรู้ กลัวทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม รู้ไหมตอนที่ไปเที่ยวน้ำตกกัน
อินไม่ได้มีความสุขหรือสนุกอย่างที่อินแสดงออกเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ ความรู้สึกตอนนั้นของอิน
คล้ายกับว่าพี่ต่อเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปจากที่อินอยากให้เป็น จากที่เคยหวัง พี่ต่อไม่ผิดหรอกค่ะ
พี่ต่อดีกับคนอื่น ใส่ใจคนอื่นอย่างที่อินเคยได้รับ แล้วสิ่งที่อินเคยได้พอมันหายไปก็เลยรู้สึกแปลกๆ
บางทีพาลอิจฉาคนที่ได้รับคนนั้นด้วยซ้ำ อินไม่ควรจะรู้สึกแบบนี้เลยใช่ไหม แต่อินทำไม่ได้ บางครั้งรู้ว่าผิด
แต่ความถูกผิด ก็ต้องถูกพับเก็บไปเมื่อความไม่มีเหตุผลได้ทำหน้าที่แทน
ครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากครั้งก่อนๆ พี่ต่อกับออมสนิทกันมากจนน่าอิจฉา
ตอนประชุมเรื่องที่อินรับผิดชอบ พี่ต่อไม่สนใจเลย ไม่ช่วยอินเลย อินแทบจะร้องไห้ ไม่ใช่ว่าอ่อนแอ
แต่หงุดหงิด ทำไมทีเรื่องของออมพี่ต่อช่วย พี่ต่อฟัง อินยิ่งน้อยใจและเกิดอาการอยากประชด อยากเอาชนะ
เมื่อไม่สนใจอิน อินก็จะไม่สนใจพี่ต่อเหมือนกัน แต่มันก็แค่ความรู้สึกในใจ อินไม่ได้แสดงออกมาแบบนั้นหรอก
และจะทำแบบนั้นไม่ได้ด้วย เพราะพี่ต่อไม่ได้ทำอะไรผิดต่ออินเลย อินก็ได้แต่หลบๆ เลี่ยงๆ บ้าง
ในคราวที่คิดได้ว่า อย่าอยู่ใกล้พี่ต่อมากให้เจ็บเปล่าๆ อินยังนึกดีใจเลยที่ตอนไปเชียงดาว
อินหยิบโปสการ์ดไปหลายใบ เบื่อก็หยิบมาเขียน รู้สึกแย่ก็หยิบมาเขียน บางครั้งอินก็อยากจะทำให้พี่ต่อรู้
ทำให้พี่ต่อได้เห็นว่า อินทำอะไรก็ได้ อินทำอะไรเป็น ไม่ใช่ตัวถ่วงหรือเกะกะ ขี่รถเครื่องก็ไม่เก่งอย่างออม
แต่อินก็แค่คิด เพราะอินคิดว่า มันไม่ใช่ตัวอิน ทำไปก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงอินก็คืออิน
ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่อินเป็นเลยสักคน แต่การที่ได้พูดคุยกับพี่ต่อน้อยลงก็ดีต่ออินเหมือนกัน
มันทำให้อินเลิกคิดถึงมากๆ เลิกอิจฉา เลิกน้อยใจ
แม้ในช่วงที่มีประชุมตอนเย็นอินจะได้เจอพี่ต่อบ้าง แต่ก็ไม่นานและ
เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากมายอินรู้สึกเหมือนใจอินสงบขึ้นแล้วนะช่วงนี้ แต่อินรู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่าง
ที่คอยแกล้งอินเสมอเลย ทุกครั้งที่อินเลิกคิด เลิกร้องขอในใจว่าอยากเจอพี่ต่อ มันก็มักจะมีความบังเอิญ
จริงๆ จะบอกว่าอินไม่อยากเจอก็ไม่ใช่หรอก แค่คิดขำๆ ว่า ถ้าได้เจอพี่ต่อก็คงดี แต่มันบังเอิญเกินไปรึเปล่า
เพราะอินได้เจอพี่ต่อจริงๆ อินนั่งกินข้าวอยู่ในห้องชมรม คิดเล่นๆ ว่า ถ้าพี่ต่อมาก็คงดี
ตอนนั้นพี่โทก็นอนหลับอยู่มุมห้องนั่นแหละ อินไม่ได้ปลุก แต่พี่โทก็งัวเงียขึ้นมาดูแล้วก็หลับต่อ
อินดีใจที่เห็นพี่ต่อเปิดประตูเข้ามา จากนั้นอินก็รู้สึกมือไม้มันเกะกะยังไงไม่รู้ ไม่รู้จะคุยอะไร
จริงๆ อินเป็นคนที่คุยเก่งนะ แต่ต้องมีเรื่องให้คุย พี่ต่ออาจจะคิดว่า อินนี่พูดไม่รู้เรื่องเลยแฮะ
ก็ช่วงนั้นอินเจ็บคอ ไม่สบายเท่าไหร่ เสียงพูดก็แทบจะไม่มี อินรู้ตัวนะ เวลาพี่ต่อถามอีกอย่าง
อินก็จะตอบไปอีกอย่าง พอตอบออกไป อินก็รู้สึกอยากกัดลิ้นตัวเองที่ตอบออกไปแบบนั้น
แต่ที่พูดไม่รู้เรื่องเพราะอินตื่นเต้น แล้วไม่นานพี่โทก็ออกไปเหลือพี่ต่อกับอินสองคน พี่ต่อถามว่า
จะไปไหนรึเปล่า อินก็บอกว่า
เดี๋ยวจะไปสหกรณ์ ซึ่งตอนที่อินบอกพี่ต่อไป มันอีกชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึงเวลาที่อินตั้งใจว่าจะไป
พี่ต่อพูดขึ้นมาว่า อย่าเพิ่งไป รีบไปทำไม
อินไม่ได้รีบอะไรหรอก แต่อินไม่รู้จะอยู่ทำไม ไม่มีใครอยู่บนชมรมเลย แต่อินก็แอบดีใจนะ
เห็นไหมคะพี่ต่อ พออินจะทำใจแข็งตัดใจจากพี่ต่อทีไรแล้ว ก็จะมีเรื่องน่าดีใจเกิดขึ้นแบบนี้เสมอ
อิน
23.43 น.
~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
11 กรกฎาคม 254
เขียนถึงพี่ต่อ
พี่ต่อจำได้ไหมว่าเราชอบหนีเที่ยวกันช่วงที่มีวันหยุด คราวนี้เราไปกันที่บ้านแม่กลางหลวง
ที่นี่น่าอยู่มาก บรรยากาศดี อินชอบเดินถ่ายรูปต้นไม้ใบหญ้าบ้าง รถพี่ต่อบ้าง ถ่ายรูปบ้านพักบ้าง
อินว่ามันเป็นอะไรที่ดูน่ารักและอบอุ่นดี ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ อินแทบไม่ได้คุยกับพี่ต่อเลย
บางครั้งอินก็รู้สึกแย่ น้อยใจ (อีกแล้ว) คือ อินรู้สึกเบื่อๆ เซ็งๆ นิดหน่อยว่า
ทำไมไม่มีเรื่องที่ทำให้อินยิ้มได้เกิดขึ้นบ้างเลย ไม่เกี่ยวกับออมหรือใครหรอก
จนคืนที่สองซึ่งเป็นคืนสุดท้ายก่อนเราจะกลับ ไม่รู้ว่าตอนนั้นอินคิดอะไร อินมองพี่ต่อ
เห็นพี่ต่อใส่เสื้อกันหนาวคณะแล้วทำให้อินคิดว่า
ถ้าพี่ต่อเรียนจบแล้วล่ะ อีกไม่กี่เดือนเอง พี่ต่อก็จะเรียนจบแล้ว คงไม่ได้เจอกันอีก
จะมีโอกาสอีกกี่ครั้งกันที่จะได้ไปเที่ยวสนุกสนานกันแบบนี้ คล้ายๆ กับอินกำลังจะสูญเสีย
อะไรไปในความรู้สึกก็เลยไม่สบายใจ อินโทรศัพท์หาเพื่อนรักของอิน จริงๆตอนนั้นตีหนึ่งแล้วนะ
ปกติอินก็ไม่โทรหาเพื่อนดึกขนาดนี้ด้วย อินคุยกับเพื่อน ก็ทำให้อินสบายใจขึ้นนะ
ถึงอินจะแทบไม่ได้คุยกับพี่ต่อเลยตั้งแต่มาที่นี่ แต่ที่ๆ บรรยากาศดีๆ แล้วได้โทรศัพท์ถึงเพื่อนที่ดีที่สุด
สำหรับเรา อินก็พอใจแล้ว เพื่อนของอินคนนี้เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ คอยรับฟังปัญหาของอิน
อย่างเรื่องพี่ต่อก็เหมือนกัน อินบอกว่า
อินพยายามแล้ว แต่ยิ่งทำใจมันยิ่งคิด แล้วมันรู้สึกแย่ เขาก็บอกว่า ตอนนี้อาจจะยังทำใจไม่ได้
แต่ไม่นานก็ได้เองแหละ อินบอกเลยนะว่า อินไม่ชอบผู้ชายดื่มเหล้าแต่สำหรับพี่ต่ออินรู้สึกเฉยๆนะ
อินรับได้ อินไม่แคร์ ไม่เห็นว่ามันจะทำให้อินขัดใจอย่างที่เคยคิดเอาไว้ ว่าคนที่อินชอบต้องเป็นแบบนั้น
ต้องเป็นแบบนี้
อินบ่นกับเพื่อนไปไม่นาน เหมือนความบังเอิญจะแกล้งอินอีกแล้วที่ทำให้อินได้คุยกับพี่ต่อ
ตอนแรกอินคิดว่าพี่ต่อจะไปนอนแล้วซะอีก ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้คุยกันและอินก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
อินไม่รู้สึกง่วงเลย อยากจะนั่งมองท้องฟ้าเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ไม่คิดเลยว่า เช้าวันที่ 10 กรกฎาคม
จะเป็นวันที่ดีที่สุดวันนึงสำหรับอิน อินชอบเวลาเช้าตรู่แบบนี้ที่สุดเลยและเช้าวันนั้นก็ยิ่งทำให้อิน
ชอบช่วงเวลาเช้ามากขึ้นไปอีก
อินได้นั่งคุยกับพี่ต่อถึงเช้าทั้งที่ตอนแรกพี่ต่อดื่มเหล้าไปเยอะ ท่าทางจะเมา
อาการดูน่าเป็นห่วง หลับไปงีบนึง สักครึ่งชั่วโมง จู่ๆ พี่ต่อก็ตื่นขึ้นมาแล้วขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วก็หายไปพักนึง
อินคิดว่าพี่ต่อคงไปนอนแล้ว แต่พี่ต่อกลับมานั่งที่เดิม แล้วก็ดูมีสติขึ้นมามากและดูไม่ง่วงด้วย
แต่พี่น้อยสิง่วง อินก็เลยเดินไปส่งแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม ยังแอบคิดอยู่เลยว่า พี่ต่ออาจจะไปนอนแล้วก็ได้
อินไม่สนิทกับพี่เอ็มกับพี่ต่อเท่าพี่โท ยังคิดอยู่เลยว่า จะอยู่แบบนี้เงียบๆ ไปถึงเช้าก็คงสนุกพิลึก
อินไม่รู้จะชวนคุยเรื่องอะไรดี ก็ได้แต่นั่งมองทุ่งนา มองสีท้องฟ้า อินก็ตอบคำถามพี่เอ็มบ้าง พี่ต่อบ้าง
ถามกลับบ้าง แต่บอกตรงๆ ว่าอึดอัดที่มันเงียบเกินไป สักพักนึงพี่เอ็มก็วางกีต้าร์ลงและนอนไป
บนม้านั่งฝั่งตรงข้ามอินกับพี่ต่อ กลายเป็นว่า เหลือแค่อินกับพี่ต่อ นั่งพูดคุยกันไปเรื่อยๆ
ให้ความเงียบเข้ามาเป็นเพื่อนอยู่บ้าง อินนั่งหันข้างให้พี่ต่อ ส่วนพี่ต่อนั่งหันหน้ามาด้านอิน
อินรู้สึกเป็นการพูดคุยกันที่เป็นตัวตนของอินและพี่ต่อมาก ไม่ใช่คุยไปเรื่อยๆ แบบทุกครั้ง
อินชอบคำพูด ความคิดของพี่ต่อในบางมุมมองนะ เราพูดคุยกันหลายเรื่องเลยนะพี่ต่อ
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องหนังสือที่อินชอบ ความคิดของแต่ละคน ส่วนเรื่องกาแฟ
พี่ต่อเคยบอกอินมาหลายครั้งแล้วว่าดื่มกาแฟมากมันไม่ดี มันก็จริงนะพี่ต่อ อะไรที่มากไปก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ
พี่ต่อคิดว่าบางคนดื่มกาแฟเพราะเป็นแฟชั่นมากกว่าจะชอบจริงๆ เมื่อก่อนอินก็ไม่ได้ชอบดื่มกาแฟ
แต่พอได้ดื่มแล้วรู้สึกมันมีความหอม หวาน ขม กลมกล่อมและกลิ่นที่เป็นกลิ่นหอมอบอุ่นของกาแฟ
มันทำให้อินตกหลุมรักกาแฟและบางครั้งบรรยากาศในร้านกาแฟก็มีส่วนช่วยให้อินหลงรักกาแฟมากขึ้น
อินจำได้ว่าบอกพี่ต่อไปประมาณนี้และบอกชื่อร้านประจำที่อินชอบไปนั่ง อินถ่ายรูปมุมที่เรานั่งด้วย
ในความรู้สึกอิน มันสวยมากเลยล่ะพี่ต่อ พี่ต่อจำพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่นี่ได้ไหม
แม้จะไม่มีดวงอาทิตย์ให้ดูตอนเช้า ก็มีดวงอาทิตย์เทียม ใครจะรู้ว่าการที่เราได้นั่งมองแสงแรกของเช้าวันใหม่
กับคนที่เราเกิดความรู้สึกดีๆ ด้วยน่าประทับใจมากๆ แต่อินก็ไม่รู้เหมือนกันว่าประโยคๆ นึงที่พี่ต่อพูดกับอิน
พี่ต่อกำลังบอกอะไรอินอยู่รึเปล่า คนเราชอบอยู่กับความฝันมากกว่าความจริง
อิน
22.45 น.
แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 12:58:16
แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 12:57:21
แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 12:54:02
จากคุณ :
ต้นอ้อสีม่วง
- [
14 มิ.ย. 52 11:50:38
]