ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเลยว่าไม่เคยเขียนบทความ ความเรียง บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ผ่านปลายนิ้วสัมผัสคีย์บอร์ดมาก่อนเลย และก็ไม่แน่ใจด้วยว่า งานเขียนชิ้นนี้จะถูกจัดในหมวดใดของถนนนักเขียน
ผมเป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยรัฐบาล วันนี้เกิดความรู้สึกอยากจะขีดๆ เขียนๆ อะไรบางอย่างถึงคนอ่าน แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
นานมากแล้วครับที่ผมจำความได้งานเขียนสุดท้ายของผมเกิดขึ้นใน
วัยเด็ก เป็นภาพที่ผมคว้าปากกากับเศษกระดาษขึ้นมาบันทึกอะไรต่อมิอะไร อ่านออกบ้าง ไม่ออกบ้าง แต่ก็อ่านมันอย่างภูมิใจ
คิดถึงตอนนี้ก็เกิดน้อยใจขึ้นว่า ทำไมตอนนี้เราไม่ทำอย่างตอนเด็ก
แล้วก็ตามมากับความรู้สึกที่ เราก็แก่เหมือนกัน
ก่อนนั่งพิมพ์ผลงานนี้ ผมเปิดทีวีครับ มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งซึ่งผมไม่ทราบชื่อเรื่อง ไม่ทราบตัวผู้แสดง แต่จะพยายามหาข้อมูลมาให้ผ่านทางเฉลิมไทย
เนื้อเรื่องกล่าวถึงเด็กผู้ชายคนหนึ่งครับ เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติของร่างกาย
เกิดมาก็มีการเติบโตที่เร็วกว่าเด็กปกติ ไม่ทันไรสิบขวบ ก็มีผมขาวโพลนทั้งหัวแล้ว
แต่เค้ามีความคิดเหมือนเด็กทั่วๆไป ชอบเล่น ชอบแสวงหาสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ
ท่านผู้อ่านเคยมั้ยครับ ตอนเด็กๆที่ชอบถามไปซะทุกเรื่อง อยากรู้ว่าทำไมถึงมีรุ้ง อยากรู้ว่าทำไมฝนตก อยากรู้ว่าทำไมช้างตัวโตกว่าหนู
เคยหรือไม่ครับ เวลาไปเที่ยวทะเล เห็นท้องฟ้ามีเมฆแล้วคิดไปต่างๆนานา เป็นรูปม้า รูปหมา รูปแมว
มันคงเหมือนกับผมแหละครับ ที่ตอนเด็กตอนนั้น ทำไมถึงอยากจะขีดเขียน แต่พอมาตอนนี้ ในวัยที่สูงขึ้นผมกลับมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไปอย่างง่ายดาย
เรากำลังเสื่อมสภาพครับ เรามีความสามารถที่หายไปจากวัยเด็ก
เราขาด"ความอยากรู้อยากเห็นและจินตนาการ"
คิดดูครับ วันนี้เราทำงาน เราเรียนในชั้นที่สูง เรารู้เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ เรารู้ว่าเหตุใดจึงมีรุ้ง มีฝนตก เรารู้ว่าการเจริญของสัตว์
จุดนี้แหละครับเป็นตัวบั่นทอนความสามารถที่เราเคยมีด้วยความที่ "เรารู้"
วันนี้ เรากลับมองเมฆไม่เป็น ม้า หมา แมว เพราะเราขาด"จินตนาการ"
ย้อนกลับไปที่ภาพยนตร์ครับ เด็กในเรื่องที่ผมขาวโพลนตอนสิบขวบนั้นผมคิดว่าเค้าน่าอิจฉานะ
ผมว่าเค้าเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ อย่างน้อยเค้าก็มีความอยากรู้ไม่อายที่จะกล้าแสวงหา
และบางที "เค้ามองก้อนเมฆเป็นสูตรคณิตศาสตร์ได้"
จากคุณ :
ต่างมุม
- [
24 มิ.ย. 52 00:39:33
A:192.168.1.254 X:118.173.147.113
]