" พี่คะ . . . "
เสียงหวาน ๆ นั้น ทำให้ผมต้องชะงักจากการหมุนสวิทช์หาภาพที่ต้องการอย่างหน้าดำคร่ำเครียด
จากหน้าจอมอนิเตอร์ลำดับภาพ ละสายตาหันขวับมาทันที
เจ้าของร่างเล็ก ใบหน้ากลม ขาวใส ในเสื้อสูทสีเทา ที่เหมือนกับจะเตรียมตัวไปอ่านข่าวนั้น
ดูจะตกใจมากกว่าผมเสียอีก
ซึ่งก็น่าจะเป็นเหตุมาจากใบหน้าที่ราวกับเต้าหู้ทรงเครื่อง
ประกอบกับหนวดเคราที่รกรุงรัง
และย่ามขอทานที่แขวนไว้บนพนักเก้าอี้ของผม เป็นส่วนประกอบนั่นแหละครับ
ผมเลยรีบเปิดยิ้มจากใต้หนวดบนริมฝีปากให้เธอ อย่างชนิดที่เรียกว่า สามสิบสองซี่
คราวนี้ พอสบตากันอีกครั้งหนึ่ง ก็ดูเหมือนกับว่า สีหน้าเธอ จะดูจะมีไมตรีให้แก่กันและกัน
มากกว่าเมื่อสักครู่นี้ อีกนิดนึง
" อ้อเอาสคริปต์ข่าวบ่ายของอ้อมาให้พี่ตัดค่ะ เทปเค้ามาให้พี่แล้ว ใช่ไหมคะ "
" ครับ ขอบคุณครับ "
ผมรับสคริปต์นั้นมา แล้วก็เลยยิ้มให้เธอกว้าง ๆ แบบคนไข้ที่โรงพยาบาลศรีธัญญาอีกครั้งหนึ่ง
คราวนี้ เธอยิ้มตอบแฮะ ผิดคาดเลย
" อ้อไม่เคยเห็นหน้าพี่เลย เห็นแค่หันหลังให้ แล้วก็ไว้ผมยาว อ้อก็เลยนึกว่า พี่ สุชาดา . . . "
" ผมเพิ่งเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานนักครับ . . . " ผมหัวเราะ หึ หึ " . . . คุณก็คงยังจะไม่คุ้นหน้าผม "
เธอยิ้มอีกครั้ง ผมเลยฉวยโอกาสหมุนเก้าอี้กลับมาหาเธอแล้วก้มศีรษะเล็กน้อย
" ผม . . . พจนารถครับ ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รู้จัก "
" อ้อชื่อ . . . "
" คุณอารดา . . ." ผมพูดแซงเธอ
" . . . ชื่อผู้ประกาศข่าวก็ขึ้นอยู่บนซับไตเติ้ลอยู่ทุกวันบนจอทีวี
แล้วอีกอย่างหนึ่ง ทำไมผมจะไม่ทราบ
ในเมื่อผมตัดข่าวที่คุณอ่านออกอากาศมากะมือ "
เธอเลยหัวเราะ ผมก็พลอยหัวเราะไปกับเธอด้วย
แต่บัดนั้น ก็มีมือเบ้อเร่อที่มีน้ำหนักราวกับงวงช้าง มาตบไหล่ผมจนสะเทือน
พร้อมกับเสียงกัมปนาทราวกับ ท่านเปา ตอนสั่งเปิดมีดประหาร
" เฮ้ย ! ข่าวต่างประเทศเสร็จรึยังวะ พวกออนแอร์เค้าคอย "
ผมหัวเราะแหะ แหะ แล้วก็หมุนเก้าอี้กลับมาทำหน้าย่นใส่จอมอนิเตอร์ที่กำลังทำงานอยู่
" ได้เดี๋ยวนี้ครับพี่ "
" เออ . . . ดี . . ." น้ำหนักปานงวงช้างนั้นตบลงบนไหล่ผมอีกครั้งหนึ่ง
" . . . อ้ายนี่ . . . เจอสาวเป็นไม่ได้ . . . เป็นอู้ . . ."
ผมได้ยินเสียงคุณอารดาหัวเราะคิก
" งั้นอ้อขอตัวก่อนนะคะ พี่จะได้ทำงาน "
คุณอารดาเดินไปแล้ว ผมก็ทำงานต่อ . . . ก็เท่านั้นเอง . . .
. . . . . . . . .
ผมต้องขออนุญาตอธิบายเสียก่อนว่า
ณ ปัจจุบันนี้
ผมทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตัดต่อในฝ่ายข่าว
ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่องใดช่องหนึ่งในประเทศไทยนี้แหละ
ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้โดยตรง
แต่เมื่อตอนที่ผมเข้ามาสมัครงานที่สถานีแห่งนี้
เขามีตำแหน่งว่างเฉพาะ เจ้าหน้าที่ลำดับภาพ ( ก็ตัดต่อนั่นแหละ)
ผมก็เลยต้องเข้ามาเอาไว้ก่อน ในฐานะที่เคยมีประสบการณ์มาบ้าง
จนกว่าจะมีโอกาส . . .
มีโอกาส . . . ที่ผมจะได้กลับไปเป็นนักข่าวที่ผมถนัด . . .อีกครั้งหนึ่ง . . .
. . . . . . . . .
" หวัดดีค่ะ . . .พี่ . . ."
เสียง คุ้น ๆ หูนั้น ทำเอาผมเกือบสำลักกาแฟ ที่กำลังนั่งซดดูทีวี(ช่องอื่น)เพลิน ๆ ในเวลาพักดื่มกาแฟกลางดึก พร้อมกับที่เจ้าของเสียงก็สะพายกระเป๋าสีขาวนวล
เดินถือถ้วยกาแฟควันกรุ่นลงมานั่งแปะบนโซฟาตรงหน้าผมอย้างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
" หวัดดีครับ คุณอารดา อ่านข่าวเที่ยงคืนเสร็จแล้วเหรอครับ หมู่นี้ไม่ค่อยเจอคุณเลย " ผมทักไปโดยสัญชาตญาณ
เธอยิ้ม และในลักษณการนั้น ทำให้ใบหน้าที่กระจ่างอยู่แล้วของเธอ ดูสว่างมากขึ้นไปกว่าเดิมเสียอีก
" อ้อเจอพี่ทุกวันแหละค่ะ แต่เห็นพี่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงาน
อ้อก็เลยไม่กล้าทัก เดี๋ยวพี่จะโดนพี่สุรพลดุเอาอีก "
ผมยิ้มให้เธอ แต่ก็ยังอับจนถ้อยคำ เธอก็เลยชวนคุยต่อ
" ได้ยินว่าพี่สุรพลบอกว่า พี่ไม่ใช่ช่างเทคนิค แต่พี่จบนิเทศศาสตร์เหรอคะ . . . "
พี่สุรพลที่ว่านี้ก็คือ หัวหน้าฝ่ายข่าว ที่มีน้ำหนักมือเท่ากับงวงช้างนั่นเอง
" . . . อ้อก็จบนิเทศศาสตร์เหมือนกันค่ะ แต่คงจะรุ่นน้องพี่หลายปี"
"ครับ ผมจบเมื่อปี . . ." ผมบอกปีที่ผมจบ " ที่มหาวิทยาลัย . . ."
"โอ้โฮ . . ." คุณอ้อทำตาโต
" . . . เมื่อตอนที่พี่รับปริญญาน่ะ อ้อยังไม่จบ ม. หก เลยด้วยซ้ำ "
"คุณอารดาจบปีไหนเหรอครับ . . . ขอโทษ . . ."
" พี่อย่าเรียกอ้อเต็มยศอย่างนั้นเลยค่ะ . . . " เธอโบกมือประท้วง
" . . . เรียกอ้อว่า อ้อ ดีกว่า อ้อจบที่ . . ." เธอบอกสถาบันและปีที่จบของเธอ แล้วยังแถมอีกว่า
" . . . ถ้าเจอกันตอนที่พี่ว่าง ๆ แบบนี้ อ้อจะมาขอถามความรู้จากนิเทศรุ่นพี่บ้างได้ไหมคะ "
ปฏิเสธก็ กระบือ แล้ว ไปลากแอกให้พ่อเฒ่าท่านไถนาดีกว่า ผมคิดอยู่ในใจ แต่ที่ตอบเธอไปก็คือ
" ยินดีครับ "
ผมนึกว่าเธอจะคุยอะไรต่อ แต่เธอกลับวางแก้วกาแฟ หยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาซับริมฝีปาก กระชับสายกระเป๋าถือขึ้นบนไหล่ ลุกขึ้นยืน แล้วยิ้มให้ผม
" อ้อไปก่อนค่ะ ดึกแล้ว "
" ครับ . . ." ผมรับคำโดยอัตโนมัติ แล้วงก็นึกขึ้นมาได้
" ง่า . . . คุณอ้อครับ . . ." ผมเรียกเธอ ในชื่อที่เธออนุญาตให้ผมเรียก อย่างเต็มปากเต็มคำ เป็นครั้งแรก
" คะ . . ."
" กลับบ้านดึก ๆ แบบนี้ . . . รักษาตัวดี ๆ นะครับ "
ผมรู้ว่าเธอกลับแท็กซี่ ผมก็เป็นห่วงอยู่ แต่ผมก็พูดได้เพียงแค่นี้
คุณอ้อยิ้ม พลางทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาอีกครั้งหนึ่ง เปิดกระเป๋าถือค้นหาอะไรกุกกักอยู่สักครู่ แล้วจึงงัดเครื่องช็อตไฟฟ้าที่ผู้หญิงเขาชอบฮิตซื้อมาใช้กันนั่นแหละ มาเปิดสวิทช์แปลบ ๆ ควงฉวัดเฉวียนจนเกือบจะโดนหน้าผมแน่ะ
" นี่ไงคะ . . . พี่ . . . เธอว่าอย่างภาคภูมิใจ
" . . . อ้อก็มีของป้องกันตัวอยู่เหมือนกัน "
ผมส่ายหน้าอย่างเวทนา
" คุณอ้อครับ . . ." ผมมองหน้าเธอตรง ๆ " . . .สมมุติว่า ถ้าเมื่อกี้นี้ผมเป็นผู้ร้าย . . . คุณคิดว่า คุณจะควักอ้ายที่ช็อตนั่นออกมาจี้ผมทันไหมครับ "
คุณอ้อถึงกับงันไป แล้วทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้
" เอางี้ . . ." ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับปลอบเด็กน้อย
" . . . เวลาจะกลับบ้านตอนกลางคืนแบบนี้ ให้สะพายกระเป๋าไว้กับเสื้อเชิ้ตเสียก่อน แล้วค่อยสวมสูททับ ส่วนอ้ายเครื่องไฟฟ้านั่นน่ะ ให้ซุกไว้ในกระเป๋าล่างขวาของเสื้อสูท เมื่อเวลาคับขัน จะได้งัดเอามาใช้ได้ทันการ . . . ดีไหมครับ . . ."
คุณอ้อสบสายตาผมอยู่นิ่ง . . .นาน . . .
"ขอบคุณมากค่ะ . . . พี่ . . ." เธอยิ้มออกมาได้
" . . . ไม่เคยมีใครบอกอ้ออย่างนี้มาก่อนเลยนะคะ "
"โชคดีครับ"
แล้วผมก็ลุกเดินดุ่ม ๆ กลับเข้าไปในห้องข่าว ในขณะที่คุณอ้อก็เดินแยกออกไปทางลิฟท์ที่จะลงไปชั้นล่าง
คุณอ้อไม่ได้หันกลับมาเลย
เธอจึงไม่รู้ว่า . . . ผมยังหยุดยืนมองตามเธออยู่ที่หน้าห้องข่าวนั้น
จนกระทั่งเธอเดินลับสายตาไป . . .
(อ่านต่อฉบับหน้า . . .ครับผม . . . )
แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 20:34:17
แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 18:59:30
จากคุณ :
พจนารถ๓๒๒
- [
24 มิ.ย. 52 18:35:17
]