วันนั้นดูคุณสรยุทธ์ตอน 7.30 โมงเช้า แนะนำหนังสือเล่มหนึ่งที่น่าสนใจมาก ....... The Last Lecture ของ แรนดี เพาช์ ศาสตราจารย์ที่เป็นมะเร็งขั้นร้ายแรง ได้รับเชิญให้บรรยายครั้งสุดท้าย...ครั้งสุดท้ายของชีวิต หัวข้อ ทำความฝันวัยเด็กของคุณให้เป็นจริง ที่เขาพูด .....สะเทือนความคิดของคนหลายๆคนทั่วโลก New York time Best seller 20 สัปดาห์ , ดาวน์โหลดทางอินเตอร์เน็ทกว่า 1,000,000 ครั้งในเดือนแรก , แปลแล้วกว่า 30 ภาษา มันไม่ได้สำคัญสำหรับเขาเลยแม้แต่น้อยถ้าเทียบกับการที่เขาพยายามที่จะทิ้งอะไรบางอย่างไว้ให้ภรรยาและลูกเล็กทั้งสามที่เขาแสนรัก...เพื่อชดเชยกับเวลาที่เขาเหลือให้คนในครอบครัวน้อยเข้าไปทุกที คนใกล้ตาย.....บรรยายเรื่องการมีชีวิต คนที่ชีวิตใกล้จะหมดเวลากำลังเล่าให้เราฟังเรื่องการใช้ชีวิตด้วยตัวอย่างจากชีวิตตลอด 40 กว่าปีของเขาเอง
8.30 เช้าเดียวกัน หนังสือเล่มนั้นอยู่ในมือเรา อ่านแค่บทแรก....ก็มีคำถามมากมายในหัว คำถามมากมายในชีวิต ไม่ได้สะเทือนแค่อารมณ์.....แต่สะเทือนไปถึงหัวใจ เรากำลังอ่านชีวิตของเขาเพื่อจะกลับมาอ่านชีวิต...ของตัวเราเอง
นิทานหิ่งห้อย ของ เฉลียง เป็นบทเพลงที่เราชอบมาก แต่การตีความจะแตกต่างกันไปตามวันเวลาที่ผ่านพ้นไป ล่าสุดที่เราดูจากคอนเสิร์ตเพลงแบบประภาส...เขาเอามาปรับเป็นการเล่านิทานประกอบวงออร์เคสตร้า แต่ยังไงก็ยังประทับใจและชวนให้คิดไม่วาย หิ่งห้อยแห่งความฝัน...มันยังมีลมหายใจอยู่หรือเปล่า ? มันถูกขังอยู่ในกล่องใต้หมอนหรือเปล่า ? ไม่มีแม้แต่ต้นลำพูเหลืออีกแล้ว ? หรือแท้ที่จริง....ในชีวิตเราไม่เคยมีหิ่งห้อยตัวนั้นมาตั้งแต่แรก ?
ตอนเรียนไกด์ มีคุณลุงคนหนึ่ง...ทหารในวัยเกษียณ ในห้องเรียนไม่มีใครสนิทกับแก อาจด้วยวัยก็ได้ แก่จะแย่อยู่แล้วยังมาเรียน...จะเดินทัวร์ไหวเหรอ ? พวกเราแอบนินทาแก แล้ววันหนึ่งอาจารย์ก็เล่าให้ฟังว่าแกเรียนอยู่ธรรมศาสตร์ ประทับใจที่พวกไกด์พาฝรั่งมาเดินเที่ยววัดเที่ยววัง เล่าเรื่องบ้านเรื่องเมืองให้เขาฟัง อยากเป็นไกด์บ้าง....จบไป...เป็นทหาร จนเกษียณ วันที่แกรู้ว่าจะเกษียณ อย่างแรกที่แกนึกถึง คือ อยากทำความฝันในวัยเด็กให้เป็นจริง ....... แล้วแกก็มานั่งอยู่ที่นี่...ห้องเรียนไกด์ พวกเราชื่นชมแกมาก ทำความฝันให้เป็นจริงตอนอายุ 60 ..... เรามองกลับกัน แล้วถ้าชีวิตคนเราไม่ได้เดินไปถึงอายุ 60 ล่ะ ? ถ้า.......
อีกซักเรื่องของการทำความฝันให้เป็นจริง......คุณลุงหมอท่านหนึ่ง ไปเรียนธรรมะกับฐิตินาถ ณ พัทลุง คนเขียนหนังสือเรื่อง....เข็มทิศชีวิต เขาเกลียดการเป็นหมอ...เกลียดเลือด .....เบื่อคนไข้ ทำไมทำอาชีพนี้มาได้ตลอดเวลากว่า 30 ปี ? อาชีพที่มีเกียรติ...มีหน้าตาในสังคม...มีเงิน เพราะตอนเด็กๆเรียนเก่ง เรียนเก่งจนพ่อแม่...ครู คาดหวังให้เขาเรียนเป็นหมอ เพื่อ.....อะไรบางอย่างที่สังคมมองว่า...ประสบความสำเร็จ แล้วที่จริงชอบอะไร ? ชอบวาดรูป งั้นก็กลับไปวาดรูปสิ ....กลับไปทำสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข..... ทุกวันนี้...คุณหมอไม่เพียงแต่วาดรูปได้ดี ยังรับจ้างออกแบบบ้านให้คนอื่นได้อีกด้วย ความฝันในวัยเด็กมักเป็นความฝันที่แท้จริง......ความฝันที่ไม่มีเหตุผลในด้านไหนมาบีบบังคับ.....ความฝันในวัยเด็กจะเป็นจริง...ถ้า......
เพื่อนเราบางคนกำลังว่าง .... เราใช้คำว่า.....ปิดเทอมของชีวิต ถ้าไม่ชอบงานที่ทำ...แล้วอยากทำอะไรล่ะ ? นั่นสิ...อยากทำอะไร ? คำถามที่เราทำให้ใครหลายคนเงียบไปชั่วครู่.....คำถามเดียวกันที่ใครหลายคนเงียบมาชั่วชีวิต อย่างน้อยก็ยังดีที่ชีวิตใครบางคนมีปิดเทอม....มันเป็นปิดเทอมที่ไม่เหมือนปิดเทอมที่เรามีตอนเด็กๆ ปิดเทอมที่ไม่มีใครคิดถึงมานานแล้ว ....แต่เราเชื่อว่าหลายๆคนอยากมี ตอนเราเป็นนักเรียน ช่วงเวลานั้นมีอะไรหลายอย่างให้ทำ...บางคนก็บอกว่าไม่มีอะไรจะทำและปล่อยให้มันผ่านไปอย่างไม่เสียดายเวลา โดยส่วนตัว..หลายปิดเทอมที่เรารู้สึกว่าเราใช้เวลาอย่างคุ้มค่า.....ตามหาความฝัน...ตามหาความชอบ...ตามหาตัวตน เราว่าใครหลายคนยังคงต้องการปิดเทอม...ถึงแม้เขาจะไม่รู้ตัวก็ตาม
น้องที่ออฟฟิศเพิ่งบอกว่าจะไปทำงานเมืองนอก ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว....กำลังเดินทางไปตามความฝัน....โดยลำพัง เราแลกเปลี่ยนความคิดเรื่องการใช้ชีวิต....กับคำถามว่าทำไมเราต้องดำเนินชีวิตไปตามลำดับขั้นตอนแบบที่ผู้คนในสังคมหรือแม้แต่คนในครอบครัวเราเองต้องการและคาดหวัง นั่นสิ...ถ้าเราอยากจะแตกต่างบ้างล่ะ ? ถ้าเราอยากจะเลือกในสิ่งที่เราอยากจะทำ....เราอยากจะเดิน..จะวิ่ง...หรือล้ม..เพื่อที่จะลุกขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเองอย่างเข้มแข็งกว่าเคย ใช้ชีวิตอย่างที่ใครๆมองว่าไร้สาระ....ไม่ประสบความสำเร็จ แต่มันเป็นหนทางของเราเอง.....แต่เป็นความภาคภูมิใจของเราเอง ได้มั้ย ? เราอยากบอกว่าน้องเขากำลังเดินทางไปตามหาตัวตนของตัวเองต่างหาก ใช่....ตัวตนของเรานี่แหละ ตัวตนที่มีความหมาย...ไม่ใช่ตัวตนที่มีแค่ลมหายใจ
น้องคนนี้ทำให้เรานึกถึงน้องที่โรงเรียนอีกคนหนึ่ง เขามีความฝันในวัยเด็กที่เขาพยายามมาตลอดที่จะทำให้มันเป็นจริง ความที่รักดนตรี .....ความเป็นนักดนตรีที่เพื่อนๆทุกคนชื่นชม เขาเลือกที่จะอยู่ค่ายเพลงดังที่ทุกคนอยากอยู่ 10 ปีผ่านไป .....เขาออกเทป... เขาไม่ได้เป็นนักดนตรีชื่อก้อง....ไม่ได้เป็นนักร้องชื่อดัง เราไม่รู้หรอกว่าช่วงเวลานั้น...การเป็นคนคัดเลือกนักร้องหน้าใหม่ในสังกัดและส่งให้หลายๆคนกลายเป็นศิลปินดัง...เขารู้สึกยังไง การรอคอยมาทั้งชีวิตกับการทำความฝันให้เป็นจริง......มันอาจจะต้องผ่านเรื่องราวอะไรหลายๆอย่าง ไม่กล้าตอบแทนเขาว่าความรู้สึกเป็นอย่างไร แต่เราชื่นชมที่เขามั่นใจในแต่ละก้าวที่เขากำลังเดินไปบนหนทางแห่งความฝัน เขาไม่ได้ประสบความสำเร็จในการเป็นนักร้อง.....แต่เขาประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตตามความฝันของตัวเอง
เราพูดกับน้องที่ออฟฟิศเดียวกันว่า....ไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร พอมีเพื่อนที่พอจะคุยกันเข้าใจ...พูดอะไรกันรู้เรื่อง ก็มีเหตุให้ต้องจากกัน ...เป็นแบบนี้มาตลอด พี่ก็ยังดี....หนูสิไม่มีเพื่อนเลย นั่นสิ...เวลาในหนึ่งช่วงชีวิตคนเรา เราใช้ไปกับคนรอบข้างเสียมาก...แต่กลับให้เวลากับการอยู่กับตัวเองจริงๆน้อยเหลือเกิน ถ้าต้องเดินทางเพื่อตามหาตัวตนจริงๆ.....การเอาใครมาผูกไว้กับตัวจะเป็นภาระของหัวใจมากจนเกินไป เพราะเรายังต้องพยายามให้เวลากับตัวเองเลย ...แล้วจะมีเวลาให้ใครสักคนได้มากพอหรือ ? หรือบางทีการเรียนรู้ความหมายของชีวิต....อาจต้องใช้เวลาจนชั่วชีวิต ? อาจต้องใช้วิธีการอันลึกซึ้งที่เรียกว่า...ศิลปะแห่งการใช้ชีวิต
ใครบางคนเคยพูดไว้.....มันไม่ได้สำคัญว่าเราเกิดมาทำไม แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือเราเกิดมาและทิ้งอะไรไว้บนโลกใบนี้ก่อนจะเดินจากไป ......อะไรบางอย่าง ? อะไรบางอย่างที่จะแยกเราออกเป็นคนแต่ละประเภท คนแต่ละชนิดที่โลกจะบันทึกและจดจำ ...... ชาลี แชปลิ้นส์ , ฮิตเลอร์ , มหาตมะ คานธี , จิ๋นซีฮ่องเต้ , สืบ นาคะเสถียร , มาริลีน มอนโรว์ , โฮจิมินห์ , เจียงไคเช็ค , ตี๋ใหญ่ , คลีโอพัตรา , สุรพล สมบัติเจริญ , ไอน์สไตน์ , ถวัลย์ ดัชนี , อองซาน ซูจี , แวนโกะห์ , ซูสีไทเฮา , โนเบล , นายจัน หนวดเขี้ยว , หลานปู่ , ลูกของแม่ , เพื่อนของเพื่อน , สามีของภรรยา , พ่อของลูก ฯลฯ อะไรบางอย่าง.....ใครบางคนที่เราเป็น.....ที่มีคนรู้จักและจดจำ ไม่ว่าจะเป็นคนทั้งโลก...คนทั้งประเทศ...คนทั้งจังหวัด หรือ คนทั้งบ้าน เขารู้จักเราจากสิ่งที่เราทิ้งไว้....ตลอดทั้งชีวิต....ก่อนที่เราจะเดินจากโลกนี้ไป
เราพูดเสมอว่า .....คนเรามีอยู่ 2 อย่าง ทำมาหาเลี้ยงชีวิต....กับ...ทำมาหาเลี้ยงชีวา แต่คนส่วนใหญ่หมดเวลาไปกับการหาเลี้ยงชีวิตและคิดเอาเองว่านี่แหละ คือ สิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้ ..... สิ่งที่ทำให้คนอื่นยอมรับนับถือเรา คนที่มีชีวิตแต่ไม่มีชีวา ชีวิตที่มีแต่ลมหายใจแต่ไม่มีความหมายของการใช้ชีวิต....แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นบนโลกใบนี้ตรงไหน ? มีค่าอะไรในความคิดของตัวเอง ?
บางทีเราก็อาจต้องลองเดินออกไปนอกเส้นทางหลักบ้าง ถ้าเส้นทางนั้นเป็นหนทางของชีวิตเราเอง โหยหาปิดทอมเป็นบางครั้ง.....ถ้าเปิดเทอมอีกทีมันมีอะไรใหม่รอเราอยู่ ชีวิตจะผิดพลั้งบ้างก็ไม่เป็นไรนี่....มันไม่ใช่ความล้มเหลว มันไม่ใช่ที่สุดของชีวิต เพราะเราเชื่อว่า..ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด สำคัญกว่านั้นถ้าเราได้เรียนรู้อะไรจากมัน ถ้าใจเรายังไม่หมดแรง....ล้มกี่ครั้งเราก็ยังอยากจะลุกขึ้นมาได้ ถ้าเพียงแต่ยังมีพลังใจ ถ้าความฝันยังไม่เป็นจริง......เราทิ้งอะไรไว้ให้ใครบ้างหรือยัง ? บางทีเราอาจจะต้องมองหาหิ่งห้อยดูบ้าง.....ถูกขังอยู่ในกล่องงามหรูใต้หมอนของเราหรือเปล่า ? หรือมันส่องแสงระยิบระยับเสียจนเกือบจะหมดแรงแล้วแต่เราไม่เคยหันมองมันเลย ? ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่.....ดูให้แน่ใจซิว่ามีชีวาหรือเปล่า ? จะรอถึงอายุ 60 มั้ย ? หรือรอให้ช่วงสุดท้ายของชีวิตเดินทางมาถึง ? จะพูดอะไรกับคนที่เราอยากจะบอกเขามาชั่วชีวิต
ชีวิตคนเรานั้นแสนสั้น........คนบางคนอาจจะมี The Last Lecture แต่คนบางคนอาจมีได้แค่ The Last Word
จากคุณ :
สร้อยสยาม
- [
29 มิ.ย. 52 21:14:52
]