สวัสดีครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาได้เข้ามา ณ ถนนเลย แต่อย่างไรก็ตาม บันทึกแห่งการแสวงหา (ในก้อนเมฆ) ก็มาพบกับเพื่อนๆ ตามวันเวลาที่ได้นัดหมายเอาไว้
รอบนี้มีด้วยกัน ๓ ตอนนะครับ มี โอกาส , ว้าเหว่ และ ลังเล หวังว่าทั้ง ๓ ตอนที่นำมาคงจะสร้างความสนุกสนาน เบิกบานใจให้กับเพื่อนๆ ได้บ้างนะครับ
..........
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7691423/W7691423.html บทที่ ๑
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7752870/W7752870.html บทที่ ๒
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7864195/W7864195.html บทที่ ๓
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7928073/W7928073.html บทที่ ๔
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7977230/W7977230.html บทที่ ๕
.........
โอกาส...
สิ่งที่คนเรามีไม่เท่ากันคือโอกาส
ดังนั้นเมื่อได้มาจงทำมันอย่างดีที่สุด
.........
ภาระที่หลวงปู่ว่าหมายถึงปัญหาทางบ้านไอรดาหรือเปล่า หรือยังมีอย่างอื่นอีก แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าภาระหมดลงแล้ว
แล้วเธอจะรู้เอง
คำของหลวงปู่ก้องขึ้นในมโนทวาร
เราจะรู้ได้อย่างไร? ผมใคร่ครวญอยู่นาน ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้
ไอรดาเดินยิ้มแป้นมาแต่ไกล วันนี้เธอดูแปลกไป จากที่เคยพูดเป็นต่อยหอยกลายเป็นสงบปากสงบคำ มองไปก็เอาแต่ยิ้มเก้อ เห็นท่าทางของเธอแล้วอดหัวเราะไม่ได้
มีอะไรจะคุยกับพี่หรือเปล่า
ก็... มีนิดนึง เธอตอบแล้วยิ้มเขินๆ
ว่ามาเลยครับ
อืม... พี่วายุว่า... นายกรานชัย... เป็นยังไงคะ เสียงของเธอตะกุกตะกัก ผมคิดว่าพอมองเห็นอะไรรางๆ แล้วล่ะ
เป็นยังไงคืออะไรครับ
ก็... เขาดูเป็นยังไงบ้าง
ผมแสร้งตีสีหน้าครุ่นคิด
ก็ดูดีนะ กล้าที่จะปกป้องผู้อ่อนแอกว่า
เขาพร้อมจะปกป้องทุกคนเลยเหรอ
ดูจากลักษณะก็น่าจะเป็นอย่างนั้น
เธอเบะปาก
มีอะไรเหรอครับ
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่หมั่นไส้
ผมหัวเราะในลำคอ ไปหมั่นไส้เขาเรื่องอะไร
ไอรดาทำหูทวนลม คงไม่อยากจะตอบ
รู้จักกันมานานแล้วเหรอครับ ผมเปลี่ยนประเด็น
ตั้งแต่ป.หนึ่งค่ะ
เด็กขนาดนั้นเชียว
ค่ะ
เขาดูเงียบๆ นะ
ค่ะ เงียบๆ แต่ไม่เคยยอมใคร ชอบชกต่อยกับเพื่อน
เป็นอันธพาล?
ไม่นะคะ ชอบทำตัวเป็นฮีโร่มากกว่า
ยังไงครับ
ตอนเด็กๆ เวลาอัยย์หรือเพื่อนผู้หญิงคนอื่นโดนพวกผู้ชายรังแก เขาจะคอยปกป้อง คงนึกว่าตัวเองเก่งเต็มประดา ครั้งหนึ่งเขาโดนพวกผู้ชายรุม อัยย์ยังต้องช่วยเอาไม้กวาดไล่ตีพวกนั้นเลย สีหน้าของไอรดาดูมีความสุข แววตาเปล่งประกาย
ก็น่าจะสนิทกันสิ ไหงเราไปเขม่นเขาล่ะ
ก็หมั่นไส้ เที่ยวช่วยคนอื่นทั่วไปหมด การหมั่นไส้ของเธอใช่จะมีแต่น้ำเสียง สีหน้า แววตาแสดงออกเห็นถนัดถนี่เชียว
ผู้หญิง? ผมแกล้งยื่นหน้าเอียงคอเข้าไปถามใกล้ๆ
ก็
เธอคงรู้ตัวแล้วว่ากำลังเพลี่ยงพล้ำ ก็ทั้งชายทั้งหญิงนั่นแหละ... พี่วายุอย่ามายิ้มนะ
หึง?
"หึงอะไร ทำไมต้องหึง เธอร้องเสียงแหว ตาลุกวาว ผมพยายามกลั้นยิ้มแต่เก็บไม่อยู่ ไม่พูดกับพี่วายุแล้ว เธอสะบัดเสียงใส่ก่อนเดินหน้านิ่วกลับไป
ตอนบ่าย...
ผมกับไอรดาเข้าไปในตลาด เธอไปซื้อของ ส่วนผมไปส่งจดหมายถึงณิชา จะว่าจดหมายก็ไม่เชิงเพราะมีแต่เบอร์โทรศัพท์มือถือ ธุระของผมเสร็จเร็วแต่ธุระของน้องสาวยอดยุ่งทำเอาละเหี่ย
ขณะกำลังเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ในการจับจ่าย สายตาเหลือบไปเห็นหญิงชราร่างเล็กเดินกะโผลกกะเผลกเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ ท่าทางระโหย สีหน้าเหนื่อยอ่อนทุกครั้งที่ออกมาจากร้าน แต่ก็เดินเข้าร้านข้างๆ ไปอีก และอิดโรยออกมาเช่นเดิม ผมเฝ้าสังเกตอยู่นาน กระทั่งเห็นท่านนั่งลงตรงขอบบาทวิถี ก่อนทิ้งตัวนอนแผ่หลา จึงรีบจ้ำเข้าไปดู
หญิงชราผู้นั้นยังไม่หมดสติเสียทีเดียว อยู่ในอาการเพ้อ เรียกร้องหาแต่น้ำ ผมรีบอุ้มเข้าไปในร้านอาหารใกล้ๆ พยายามประคับประคองให้นั่งลงตรงเก้าอี้ ไอรดาช่วยนวดเฟ้น เจ้าของร้านวิ่งเอายาดมมาจ่อ ครู่หนึ่งหญิงชราจึงทรงกายอยู่ได้ ไอรดาช่วยป้อนน้ำ อากัปกิริยาการดื่มบ่งชัดว่ากระหายอย่างหนัก
คุณยายค่อยๆ ดื่มนะคะ ไอรดาพูดขณะพยายามดึงแก้วน้ำออก แต่ท่านยื้อมือไว้
คุณยายทานข้าวมั้ยครับ
ท่านเหลียวมองมาทางผม กลืนน้ำลายลงคอ ตอบเสียงพร่า ไม่เป็นไรจ้ะ
ทานด้วยกันเถอะครับ ผมกำลังหิวพอดี
ยายหันไปมองไปทางไอรดา เธอรีบเอ่ยชวน ท่านหันกลับมามองผมอีกครั้ง ก่อนพยักหน้าช้าๆ ท่าทางเกรงอกเกรงใจ
คุณยายมาทำอะไรแถวนี้ครับ ผมถามขึ้นระหว่างรออาหาร
ยายมาหางานทำ
อาการของยายเหมือนคนเป็นโรคอัมพฤกษ์ร่างกายซีกซ้ายเคลื่อนไหวไม่ปกติ ขนาดเดินยังไม่ถนัด แล้วใครจะรับเข้าทำงาน พอเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านจึงเดินเข้าร้านโน้นออกร้านนี้
ไอรดาคงเห็นผมนิ่งไป เลยถามขึ้น น้ำเสียงหดหู่
คุณยายอายุมากขนาดนี้ยังหางานทำอีกเหรอคะ ลูกหลานไปไหนหมดคะ
ลูกยายหายไปนานแล้ว ไม่รู้ไปอยู่ไหน ยายอยู่กับหลาน งานประจำมันก็ไม่มีทำ ต้องออกไปเร่หาเงินทุกวัน ยายสงสารอยากหาเงินช่วย แต่ไม่มีใครจ้าง น้ำเสียงแหบพร่า ทอดถอนใจ
หลานคุณยายอายุเท่าไหร่แล้วครับ ทำไมถึงไม่มีงานทำ พอผมถามถึงอายุดูท่านลังเล
อายุสิบเจ็ด... สิบแปดเห็นจะได้ ความรู้มันก็น้อยขายแรงแลกเงินไปวันๆ ให้ไปไหนไกลมันก็ไม่ไป บอกว่าห่วงยาย เสียงของท่านสั่นเครือเมื่อเอ่ยถึงหลาน
หลานของยายเป็นเด็กดีนะครับ ต่อไปคงไม่ลำบาก
ใช่แล้วจ้ะ มันเป็นเด็กดี หัวก็ดี ตอนออกจากโรงเรียนครูประจำชั้นก็เสียดาย มาตามมันถึงบ้าน บอกจะหาทุนให้ แต่มันยืนยันจะออกมาดูแลยาย เสียดายอนาคตมันเหลือเกิน
ยายสะอึกสะอื้น น้ำตาไหลพราก ไอรดาดึงกระดาษทิชชูช่วยซับน้ำตา ปลอบโยน
ระหว่างทางขับรถไปส่งยาย ผมได้ทราบว่าท่านชื่อเปลี่ยน ส่วนหลานชายชื่อเกษม
ทางเข้าบ้านของยายเป็นสะพานไม้เล็กๆ ยกพื้นเพื่อหนีน้ำที่เจิ่งนอง ต้องจอดรถทิ้งไว้ปากทาง เดินเท้าเข้าไปราวห้าสิบเมตร ไอรดาเดินเคียงข้างยายเปลี่ยน ส่วนผมเดินดูนั่นมองนี่ไปเรื่อย
ยายไปไหนมา! เสียงห้วนๆ ของเด็กหนุ่มฉุดให้ผมหันขวับ
ยายไปหางานทำในตลาด
ไปทำไม เษมบอกแล้วว่าไม่ต้องทำ รู้รึเปล่าเษมเดินหายายทั่วไปหมด
ยายไม่เป็นอะไรหรอก มานี่มาไหว้พี่ๆ เขา ยายยิ้มร่า ไม่สนใจคำต่อว่าของหลานชาย
นี่พี่อัยย์ แล้วนั่นพี่วายุ
ลักษณะการไหว้บ่งบอกว่าเกษมได้รับการอบรมมาอย่างดี ผมรับไหว้เมื่อเขาก้มหน้าพนมมือหันมา แต่พอได้เห็นหน้าชัดๆ ทำเอาคอแข็ง เขาคงรู้สึกตกใจไม่ต่างกัน หน้าถอดสี ซีดเผือด
สวัสดีเกษม ไม่ต้องห่วงยายหรอกนะ
ผมเอ่ยทักทายพลางส่งยิ้มให้เขา พยายามปั้นหน้าให้ดูปกติที่สุด ยิ้มของเขาดูเจื่อนๆ
บ้านไม้ผุกร่อน เอียงกระเท่เร่ ดูแล้วไม่น่าทรงตัวอยู่ได้บนหนองน้ำเน่าๆ ผมไม่แน่ใจว่าเข้าไปแล้วมันจะถล่มไหม แต่ด้วยความเกรงใจ กลัวว่าทั้งยายหลานจะคิดมาก จำต้องกลั้นใจย่องเข้าไป เห็นตัวบ้านไม่ไหวติงก็เบาใจ
เกษมดูรักและห่วงใยยายของเขามาก ยิ่งรู้ว่าท่านไปเป็นลมอยู่ริมถนนยิ่งสอบถามอาการยายอย่างเอาจริงเอาจัง แต่ยายเปลี่ยนกลับไม่เห็นว่าเป็นเรื่องน่ากังวล
ไม่เป็นอะไรหรอก แค่เมาแดด ได้คุณสองคนช่วยยิ่งสบายใหญ่
เษมบอกยายแล้วว่าไม่ต้องไปไหน ยายเป็นแบบนี้ใครเขาจะจ้างล่ะ ว่าแต่ยายไม่เป็นอะไรแน่นะ
ยายยิ้มพร้อมส่ายหน้า
เษมเรียนจบชั้นไหน ไอรดาถามขึ้น
ม.สามครับ
ไม่อยากเรียนต่อเหรอ
สีหน้าของเกษมดูอึดอัดเมื่อถูกไอรดาถามจี้ ไม่อยากครับ
เป็นห่วงยาย? ผมแทรกขึ้น เกษมหันไปมองยาย สายตากังวล ถอนใจเบาๆ ก่อนเอ่ยขึ้น
ยายแก่แล้วครับ เป็นอัมพฤกษ์ด้วย ต้องมีคนคอยดู
แล้วถ้าพี่จะจ้างเษมกับยายไปทำงานที่ไร่ล่ะ จะเรียนต่อหรือเปล่า
ไอรดาถามแล้วหันมองมาเหมือนขอความเห็น ผมเข้าใจในเจตนาของเธอ จึงพยักหน้าช้าๆ ยิ้มมุมปาก เธอยิ้มละไม แต่เกษมดูท่าทางยังงงๆ
พี่จะจ้างคุณยายไปคอยตรวจนับสินค้า ท่านน่าจะพอทำได้ ส่วนเธอพี่จะจ้างไปเป็นคนงานในไร่ รายได้ไม่เยอะหรอกนะ แต่คิดว่าพออยู่ได้ เธอสนใจไหมล่ะ
ยามนี้ไอรดาพูดจาฉะฉาน ดูเป็นงานเป็นการจนผมประหลาดใจ
คุณยายอยากไปทำมั้ยคะ
น้ำเสียงของไอรดาอ่อนลงเมื่อหันไปถามยายเปลี่ยน ท่านรีบพยักหน้า ยิ้มรับ แต่ยังไม่วายมองไปทางหลานชาย เหมือนรอความเห็น
พี่จะจ้างเราจริงๆ เหรอ ยายเป็นแบบนี้จะทำงานได้เหรอครับ
พี่ไม่พูดเล่นกับเธอหรอก บ้านพี่มีกิจการเกี่ยวกับสินค้าเกษตรหลายอย่าง ต้องการคนงานเยอะแยะ คุณยายไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ไปนั่งนับสินค้า ส่วนเธอหากอยากเรียนต่อก็ใช้เวลาหลังเลิกงานหรือไม่ก็วันหยุด จะเป็นวิชาชีพหรืออะไรก็ได้ พี่ยินดีสนับสนุน
ขอบพระคุณพี่มากครับ เกษมยกมือไหว้นอบน้อม
ไอรดายิ้ม ก่อนตะครุบมือที่กำลังพนมของยายเปลี่ยน คุณยายอย่าทำอย่างนี้นะคะ เดี๋ยวอัยย์อายุสั้น
จำเริญๆ เถอะแม่คุณ จิตใจช่างงามแท้
ขอบพระคุณมากค่ะ ไอรดาพนมมือไหว้ยายเปลี่ยน
พี่อัยย์ครับ ผมมีเรื่องจะสารภาพ เกษมเอ่ยขึ้น
ผมใจหายวาบ พอเดาได้ว่าจะสารภาพเรื่องอะไร แต่ไม่อยากให้มาพูดอะไรตอนนี้เลย ไอรดาทำหน้าสงสัย
"วันก่อนผมเป็นคนกระชากกระเป๋าพี่ครับ
ยายเปลี่ยนหันขวับ
เอ็งริเป็นโจรรึ? ยายคาดคั้นเอากับหลาน เกษมก้มหน้านิ่ง ฝ่ามือเหี่ยวย่นฟาดลงบนหน้าของเขา ทำไมเอ็งทำอย่างนี้! แผดเสียงลั่น
แล้วพายุฝ่ามือก็ถาโถมเข้าใส่หลานชายไม่ยั้ง ทั้งใบหน้าแขนขา ตัวต้นเหตุนั่งก้มหน้านิ่ง หากผมไม่เข้าไปขวาง ไม่หลานช้ำในตาย ยายเปลี่ยนก็คงหมดแรงตาย
วันนั้นยายไข้สูง เษมไม่มีเงินไปซื้อยา เลย... ไม่มีคำพูดใดหลุดมาอีก น้ำตาหลั่งริน
ให้มันตายไปสิ แต่เอ็งไม่ต้องมาทำแบบนี้ ยายเปลี่ยนพูดอย่างคนยอมรับชะตากรรม แล้วดูซิ เอ็งทำกับคนดีๆ แบบนี้ได้ลงคอ ข้าอายเหลือเกิน!
ยายเปลี่ยนตะเบ็งด้วยเสียงแหบพร่า ก้มหน้าสะอึกสะอื้น
ไอรดามองมาทางผม ใบหน้าเคร่งเครียด แววตาหวั่นวิตก ภายใต้เหตุการณ์เฉพาะหน้าแบบนี้ ผมมีเวลาพลิกสถานการณ์ไม่มากนัก
แล้วเษมสารภาพทำไม ปล่อยให้มันผ่านไปก็ได้นี่ ผมถามเปิดทาง
ผม... ผมไม่อยากปิดบังผู้มีพระคุณครับ เขาตอบอึกอัก
การเริ่มต้นความสัมพันธ์ของเราไม่ดีเลย เษมเข้าใจใช่ไหมว่าต้องถูกเพ่งเล็ง ผมถามพลางจ้องเขม็ง พยายามอ่านความรู้สึกจากแววตา เด็กหนุ่มหลุบตาลง พยักหน้าช้าๆ
เอาอย่างนี้นะเษม ไอรดาเอ่ยขึ้น เห็นแก่ที่เษมมีเจตนาดี พี่จะรับเข้าทำงาน แต่ต้องสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนั้นอีก
เกษมรีบผงกศีรษะ ใบหน้าแช่มชื่น เมื่อไอรดาหันมองมา ผมยิ้มให้ พยักหน้าช้าๆ ยอมรับการตัดสินใจของเธอ
จากคุณ :
วรบรรณ
- [
1 ก.ค. 52 18:27:27
]