Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์-ศาลเจ้าเอนกประสงค์

    ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์ - ศาลเจ้าเอนกประสงค์

    เมื่อไปทำงานใหม่ ๆ ที่ปาดังเบซาร์
    ก็เห็นมีอะไรที่ค่อนข้างแปลกจากเมืองหาดใหญ่
    คือ ที่ศาลเจ้าฮกเต็ก (แป๊ะกง) ที่ปาดังเบซาร์
    เป็นศาลเจ้าจีนของที่นั่น แต่เดิมอยู่ระหว่างรอยต่อ
    เขตประเทศไทยและมาเลย์
    ในเขตพื้นที่ No Main Land
    ยังไม่แน่ชัดว่าอยู่ฝั่งไหนกันแน่

    มีช่วงหนึ่งคนไทยมุสลิมจากปัตตานี
    ขุดดินเพื่อปลูกสร้างบ้านก็เจอหลักไม้สีเขียวฝังอยู่ใต้ดิน
    ทางการมาเลย์รู้ข่าวก็มาดูพร้อมกับไทย
    ก็ทราบว่าเป็นจุดสังเกตแนวเขตแดนไทย-มาเลย์
    ที่มีการปักปันเขตสมัยอังกฤษปกครองมาเลย์
    ราว ๆ รัชกาลที่ 5 ของประเทศไทย
    ดังนั้นมาเลย์เลยฮุบที่ดินบริเวณนั้นเป็นของมาเลย์ทั้งหมด
    (เคยถ่ายภาพมาเป็นไม้แก่นยาวราวเมตรเศษ ๆ
    ทาสีเขียวเข้มวางอยู่ในหลุม หาภาพนั้นไม่เจอแล้ว)

    ต่อมาบ้านเรือนที่ปลูกสร้างอยู่ใน No Main Land เดิม
    ก็ถูกทางการมาเลย์สั่งรื้อออกให้หมด เพราะเป็นของมาเลย์แล้ว
    สมัยก่อนร้านค้าและบ่อนการพนันที่ปลูกสร้างในเขต No Main Land
    การเข้าจับกุมผู้กระทำความผิดจะทำได้ยากที่สุด
    ต้องมีตำรวจสองประเทศเข้าร่วมจับกุม
    จับกุมแล้วก็ต้องเลือกเอาว่าจะฟ้องที่ฝั่งไหน
    จึงเป็นดินแดนกึ่ง ๆ ปลอดภาษีและอำนาจรัฐ
    เพราะไม่แน่ชัดว่าจะอยู่กับฝั่งไหน
    ภายในก็จะมีการค้าสินค้าชายแดนหรือมีบ่อนการพนันแฝงตัวอยู่จำนวนมาก
    ที่รู้ว่ามากเพราะมีครั้งหนึ่งไฟไหม้ปาดังเบซาร์ฝั่งไทย
    เห็นคนกรูออกมาจากเขต No Main Land จำนวนร่วมหมื่นคนทีเดียว

    หลังจากปักปันเขตแดนเสร็จแล้ว
    ปรากฎว่าศาลเจ้าแป๊ะกงอยู่ในเขตมาเลย์
    ทางการมาเลย์เลยล้อมรั้วไม่ให้เข้าไปทำพิธีง่าย ๆ
    คนฝั่งไทยก็ไม่ยอมมีการประท้วงและงัดแงะเข้าไปในศาลเจ้า
    มีการทะเลาะกับเจ้าหน้าที่มาเลย์และไทยหลายครั้ง
    ทะเลาะกันที่ไรก็จะปิดพรมแดนเข้าออกไทย-มาเลย์ตรงด่านปาดังเบซาร์
    ทำให้เดือดร้อนกับพ่อค้าแม่ขายและประชาชนทั้งสองฝั่ง
    ในการเดินทางมาติดต่อเยี่ยมญาติหรือค้าขาย
    จนสุดท้ายต้องพบกันครึ่งทาง
    ให้ศาลเจ้าแห่งนี้สามารถเข้าไปทำพิธีได้ตามสบาย
    แต่รับรู้กันว่าอยู่ในเขตดินแดนของมาเลย์

    แก้ไขเพิ่มเติม ตามแผนที่จาก google.com
    ไม่แน่ใจว่ามีการปักปันชายแดนเสร็จสิ้นแล้วหรือไม่
    ปรากฎว่าศาลเจ้าตอนนี้อยู่ฝั่งไทย


    ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ จะมีการเล่นงิ้วจีนทุก  ๆ ปีตอนวันเกิดแป๊ะกง
    เคยถามเหล้าขาวว่า ไม่เห็นมีคนดูเท่าไร และเล่นเป็นภาษาจีน
    คนฟังรู้เรื่องคงจะมีไม่กี่คนหรอก
    เหล้าขาวเลยตอบว่า  งิ้วเล่นให้แป๊ะกงดู ไม่ใช่เล่นให้เธอดู

    เลยถามเหล้าขาวต่อไปว่า
    ชาวบ้านที่นี่ไม่ถือบ้างหรือไง หรือรู้สึกว่าแปลก ๆ ไหม
    ที่มีการจัดงานวันแต่งงาน กับงานศพในศาลเจ้าที่เดียวกัน
    จานชามช้อนซ่อมโต๊ะเก้าอี้ก็เป็นของแป๊ะกงเป็นส่วนมาก
    เหล้าขาวตอบว่า  ธรรมเนียมของจีนแล้ว
    ฤกษ์งามยามดีวันแต่งงานกับวันออกศพไปฝังจะวันเดียวกัน
    ดังนั้นพิธีแต่งงานหรือพิธีศพถือว่าเป็นงานมงคลเช่นกัน

    การที่ศาลเจ้าแป๊ะกงที่นี่ใช้ได้เอนกประสงค์
    เพราะแต่เดิมปาดังเบซาร์ยังไม่มีวัดอย่างหนึ่ง
    โรงแรมขนาดใหญ่ที่จัดงานได้ก็ยังไม่มี
    สถานที่สะดวกที่สุดในการจัดงานก็คือที่แป๊ะกง
    เว้นแต่บ้านของคนรวยจริง ๆในปาดังเบซาร์
    ทำให้ทุกคนเวลามีงานพิธีต่าง ๆ ต้องมาใช้พื้นที่แห่งนี้
    พร้อมกับใช้อุปกรณ์เครื่องครัว โต๊ะเก้าอี้
    ที่มีคนบริจาคไว้ให้ใช้ประโยชน์ได้จากศาลเจ้าแห่งนี้

    เลยถามเหล้าขาวต่อไปว่า
    แล้วโอกาสงานซ้อนกันมีบ้างหรือไม่
    เหล้าขาวบอกงานแบบเดียวกันไม่เป็นไร
    แต่ถ้าต่างงานกันก็ต้องรออีกฝ่ายให้เสร็จงานก่อน
    จึงจะเข้ามาใช้ศาลเจ้าได้
    ถ้ารอไม่ได้ก็จัดงานที่บ้านไปเลย
    แต่จะยุ่งยากลำบากในการหาอุปกรณ์เครื่องครัว โต๊ะเก้าอี้
    เพราะที่ศาลเจ้าแป๊ะกงจะสะดวกกว่า

    เหล้าขาวเล่าต่อไปว่า
    ที่ปาดังเบซาร์จะพิสูจน์กันได้ว่า
    ใครมีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องมากกว่ากัน
    ใครเป็นคนที่มีคนรู้จักรักใคร่มากกว่ากัน
    เลยถามเหล้าขาวว่าดูที่คนมาร่วมงานศพใช่ไหม
    หรือจากเงินที่มาร่วมทำบุณย์งานศพ
    เหล้าขาวบอกไม่ใช่สักอย่างหนึ่งที่ตอบมา

    เหล้าขาวเลยเฉลยให้ฟังว่า
    ให้ดูที่คนแบกโลงศพคนตาย
    ที่เป็นธรรมเนียมว่าต้องเดินผ่านถนนสายหลักในปาดังเบซาร์
    ก่อนที่จะไปฝังที่ฮวงจุ๊ยที่ห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร
    ถ้าจ้างให้คนคอน(แบก)โลงศพ  ถือว่า ไม่เข้าขั้น
    แต่ถ้ามีคนแย่งกันคอน(แบก)โลงศพให้ฟรี  ถือว่า ชั้นหนึ่งทีเดียว

    การแบกโลงศพจะใช้ไม้ขนาดเนื้อแข็งขนาดใหญ่ที่เหนียวและแข็ง
    มาคอนสองข้างโลงศพที่คล้องด้วยเชือกมนิลาขนาดใหญ่
    เมื่อยกโลงศพขึ้นแล้วห้ามแตะพื้นดินอีก
    จนกว่าจะไปวางหน้าหลุมศพที่จะทำการฝังศพ
    การแบกแต่ละครั้งต้องใช้คนไม่ต่ำกว่าสี่คนขึ้นไป
    แต่ส่วนมากอยู่ระหว่างหกถึงแปดคนหรือกว่านั้น
    แล้วแต่ขนาดน้ำหนักของโลงศพ
    หรือคนที่มีมิตรสหายจำนวนมาก

    เลยบอกเหล้าขาวว่า มิน่าเห็นคนคอน(แบก)โลงศพผ่านหน้าที่ทำงาน
    ก็เห็นว่าแปลก ๆ เพราะที่หาดใหญ่ไม่เคยเห็นนานมากแล้ว
    แต่ที่นี่ยังเห็นคนคอน(แบก)โลงศพบนถนนสายหลักในปาดังเบซาร์อยู่  
    แต่บางครั้งเห็นเป็นพวกคนแขกทมิฬคอน(แบก)โลงศพ
    เหล้าขาวเลยบอกว่า
    นั่นแสดงว่ามีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องน้อยมาก
    หรือเป็นคนที่ไม่ค่อยคบเพื่อนเท่าไร
    จึงต้องจ้างคนแขกทมิฬคอน(แบก)โลงศพไปฝังที่ฮวงจุ๊ย

    แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 52 12:21:01

    แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 23:44:37

    จากคุณ : ravio - [ 2 ก.ค. 52 08:48:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com