Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เรื่องหมูหมู

    .
             “เฮ้ยดูนั่นสิ ขนขึ้นรถไปอีกคอกนึงแล้ว”

             รำแห้ง หมูเพศผู้วัยกำลังกินกำลังนอน ตะโกนเรียกให้เพื่อนหมูดู พวกมนุษย์ที่กำลังต้อนหมูคอกหนึ่งขึ้นรถบันทุกสิบล้อขนาดใหญ่

             “มันเอาพวกนั้นไปไหนอ่ะ รำแห้ง” กีกี้เพื่อนหมูร่วมคอกถาม

             “ปูโธ่ เจ้ากีกี้ มัวแต่กินแล้วก็นอนไม่สนใจอะไรบ้างเลยนะแกน่ะ ฉันสังเกตุพวกคอกก่อนหน้าที่ถูกขนไปไม่มีซักตัวที่จะได้กลับมาอีก แล้วแกคิดว่ามันเอาพวกนั้นไปไหนล่ะ”

             “รำแห้งหมายความว่า” กีกี้เบิกตาโต “รำแห้งหมายความว่าเขาจะเอาเราไปใช้แรงงานหรอ ไม่นะไม่ กีกี้ถนัดเรื่องกินกับนอนเท่านั้นเรื่องอื่นกีกี้ไม่ถนัด ง่ะ” พูดเสร็จกีกี้ก็วิ่งวนไปมา

             “เจ้างั่งกีกี้เอ๊ย” รำแห้งใช้กีบคู่หน้ากระโดดถีบไปที่พุงหนาของกีกี้ จนกีกี้หงายท้องม้วนตัวไปสองสามตลบ

             “หมูอ้วนๆ อย่างพวกเราเนี่ยนะมันจะเอาไปใช้แรงงานอะไรว่ะ มันจะเอาพวกเราไปเชือดเว้ย” กีกี้รีบม้วนตัวกลับมายืนอย่างรวดเร็วตามเดิม ใบหน้าซีดเผือก

             “รำแห้งหมายควมว่าเราจะถูกเจี๋อนหรอ” กีกี้ถามเสียงสั่น

             “เออซิวะกีกี้ ฉันว่าพวกเราต้องทำอะไรซักอย่างแล้วล่ะ”

             “ไม่นะไม่ กีกี้ยังไม่อยากตายง่ะ กีกี้ยังซิงอยู่เลยนะ กีกี้คงตายตาไม่หลับแน่เลยอ่ะ แง” กีกี้ร้องครวญหงายท้องบิดตัวไปมา

             “เจ้างั่งกีกี้ หุบปากก่อนเว้ยฉันจะใช้ความคิด” รำแห้งใช้กีบคู่หลังกระโดดถีบแบบม้าใส่สีข้างของกีกี้

             “โอ๊ย ก็กีกี้กลัวนี่รำแห้ง งั้นรำแห้งคิดไปล่ะกันนะ กีกี้ขอตัวไปนอนก่อน” พูดเสร็จกีกี้ก็เดินไปทิ้งตัวลงนอนหงายท้องกลิ้งเกลือกอย่างสบายใจ ที่มุมหนึ่งของคอก

             “แกแน่ใจนะว่าแกกลัวน่ะกีกี้” รำแห้งตะโกนไล่หลัง

             วันนั้นทั้งวันผ่านไปด้วยการประชุมระดมความคิดแบบหมูหมูของรำแห้งและเพื่อนหมูในคอกซึ่งก็ได้ข้อสรุปว่าจะหนีไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าอยู่ให้เขาเอาไปเชือด ส่วนเจ้ากีกี้ก็ยังคงใช้ชีวิตสำราญแบบกีกี้ไม่ได้สนใจเรื่องราวอะไรนัก

             ตกดึกคืนนั้น

             “กีกี้ กีกี้ ตื่นได้แล้วเว้ย” รำแห้งใช้กีบหน้าสะกิดกีกี้

             “อะไรหรอรำแห้ง นี่มันดึกแล้วนะกีกี้ง่วง” กีกี้ตอบด้วยเสียงงัวเงีย

             “เจ้าบ้ากีกี้แกไม่ได้ฟังที่เขาประชุมกันเลยใช่ไหมเนี่ย ได้เวลาหนีแล้วเว้ยตื่นตื่น”

             กีกี้ลุกขึ้นด้วยท่าทีงัวเงีย เพื่อนหมูในคอกตื่นกันหมดแล้ว ด่านแรกที่ต้องฝ่าคือประตูกั้นคอกที่ถูกล็อคด้วยกลอนล็อคประตู รำแห้งกระโดดขี่หลังกีกี้ ค่อยๆใช้กีบเท้าหน้าเลื่อนล็อคประตูออกได้สำเร็จ รำแห้งเดินนำหน้าตามด้วยกีกี้และเพื่อนหมูทยอยเดินออกจากคอกกั้นทีล่ะตัวเป็นแถวเรียงหนึ่ง ออกมาบริเวณทางเดินแล้ว รำแห้งเดินนำไปยังหน้าประตูโรงเพาะเลี้ยงพบว่ามี เจ้าหน้าที่ดูแลนั่งหลับอยู่หน้าบริเวณทางออกหนึ่งคน รำแห้งจึงกระซิบบอกเพื่อนๆ ให้เดินตามกันมาด้วยฝีเท้าที่เบาที่สุด รำแห้งค่อยๆ ย่องเดินนำหน้าเพื่อนผ่านหน้าคนดูแลทีละตัว ทีละตัว จนครบทุกตัว โดยที่คนดูแลยังหลับอยู่ตามเดิม

             อิสรภาพอยู่ข้างหน้าแล้ว ข้างหน้าอีกประมาณร้อยเมตรเป็นทางออกจากฟาร์มแห่งนี้ หมูกว่าห้าสิบชีวิต ต่างวิ่งอย่างเต็มฝีเท้ามุ่งไปยังประตูสู่อิสรภาพ

             แต่อนิจจาเหล่าหมูหารู้ไม่ว่าฟาร์มแห่งนี้ติดเซ็นเซอร์กันขโมยไว้ด้วย ซึ่งเซ็นเซอร์นี้ติดตั้งอยู่บริเวณทางเข้าออกทุกทาง เมื่อบรรดาหมูวิ่งไปได้ครึ่งทางก็ไปสัมผัสเอาเซ็นเซอร์เข้า

             เสียงไซเรนดังขึ้นไปทั่วบริเวณ นายป๋องเจ้าหน้าที่คนดูแลหมูสดุ้งตื่น วิ่งออกมาดูพบว่า เหล่าหมูต่างวิ่งแตกตื่นไปกันคนล่ะทิศคนล่ะทางด้วยความตกใจกลัว

             ผู้อำนวยการของฟาร์มและเจ้าหน้าที่ดูแลฟาร์มต่างวิ่งมาดูกันอย่างพร้อมเพียง

             “ไอ้คุณป๋อง คุณเฝ้าหมูยังไงหมูถึงได้หลุดมาขนาดนี้” ผู้อำนวยการตะโกนถามนายป๋อง

             “ขอโทษครับหัวหน้า พอดีผม...”

             “งีบหลับ” ผู้อำนวยการช่วยพูดต่อให้จบประโยค

             “ครับหัวหน้า ผมขอโทษครับ”

             “ช่างเถอะตอนนี้ช่วยกันจับก่อนดีกว่า”

             “เออหัวหน้าครับ หมูคอกนี้พรุ่งนี้ก็ต้องถูกส่งไปแล้วผมว่าเราจับหมูขึ้นรถบรรทุกเลยดีไหมครับ ถ้าจับเข้าคอกพรุ่งนี้ก็ต้องมาต้องต้อนขึ้นรถบรรทุกอีกอยู่ดี”

             “เออดีเหมือนกัน งั้นแกไปถอยรถมา”

             “ครับหัวหน้า”

             เจ้าหน้าที่ต่างช่วยกันจับหมูขึ้นรถบรรทุกอย่างทุลักทุเล เพราะแต่ล่ะตัวต่างตกใจวิ่งไปทั่วฟาร์มพอจับได้ก็ดิ้นใหญ่ ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงกว่าจะจับทุกตัวขึ้นรถได้หมด

             เช้าวันนั้น

             รถบรรทุกเริ่มขับเคลื่อนออกจากฟาร์ม บรรดาหมูทั้งหลายในรถบรรทุกต่างมีอาการเศร้าซึม เพราะรู้ในชะตากรรมของตนเอง ยกเว้นกีกี้ที่รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นโลกภายนอกฟาร์ม

             “กีกี้ แกนี่ไม่รู้สึกทุกร้อนอะไรเลยนะไม่ว่าสถานการณ์ไหนอ่ะ” รำแห้งพูดกับกีกี้

             “จะทุกข์ไปทำไมล่ะรำแห้งจะเร็วจะช้ายังไงก็ต้องตายเข้าซักวัน อย่างน้อยเราเกิดเป็นหมูการตายของพวกเราก็ได้ไปต่อชีวิตให้สัตว์อื่นนะ กีกี้อโหสิให้พวกมนุษย์แล้วล่ะ”

             รำแห้งถึงกับน้ำตาร่วงเพราะประทับใจ ในวาทะของกีกี้เพื่อนรักของเขา

             .

             .

             .

             รถบรรทุกได้ขนพันธ์หมูหายากและใกล้สูญพันธ์ จำนวนห้าสิบตัวจากสถานเพาะเลี้ยงพันธ์หมูหายากจังหวัดอยุธยา ขนส่งไปยัง Pig paradise ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขาใหญ่จังหวัดนครนายก สวรรค์ของเหล่าหมูในพื้นที่ขนาดห้าร้อยไร่ ณ สถานที่แห่งนี้ หมูจะถูกปล่อยเป็นอิสระภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด



             จบ



             (มือใหม่หัดเขียนอ่านจบแล้วแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ)



             งานเขียนก่อนหน้านี้

             ความเป็นไป - http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8028529/W8028529.html
             มีดที่ 13      - http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8023437/W8023437.html

    จากคุณ : Kengmanny - [ 2 ก.ค. 52 08:57:53 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com