Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เพื่อนรัก My Best Friend

    สวัสดีค่ะ

    นึกอยากลองหัดเขียนเรื่องสั้นดูบ้าง เพราะเขียนไม่เป็นเลย เยิ่นเย้อเวิ่นเว้อตลอด ยังไงขอคำแนะนำจากทุกท่านด้วยนะคะ เผื่อจะได้ฝึกปรือให้ดีขึ้น

    ขอบคุณค่ะ

    “โอ๊ะ...ขอโทษครับ” เสียงเขานุ่มนวลและจริงใจสุดซึ้งพร้อมประคองฉันที่เซถลาจากการเดินชนไม่ให้ทรุดลงไปกองกับพื้น

    ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าคมเข้มที่อยู่ห่างออกไปเพียงคืบด้วยอาการใจสั่นขึ้นมาทันใด รู้โดยทันทีว่าเราเกิดมาคู่กัน เพราะเพียงแค่สบตาเขาก็ทำให้ฉันรู้สึกทุกอย่างรอบตัวหายไปทั้งโลกมีเพียงสองเรา ผมสีดำเข้ม ใบหน้าดูสะอาดสะอ้านรับกับคิ้วเข้มที่ขับให้ดวงตาดูคมและมีเสน่ห์อย่างประหลาด ฉันเพลินจ้องเขาจนกระทั่ง

    “เมมาแล้วเหรอจ๊ะ” เสียงหวานใสดังขึ้นข้างตัวพร้อมกับร่างบอบบางอ้อนแอ้นของเจ้าของเสียงปรากฏกายขึ้น “นี่รู้จักกันรึยัง พี่แทนคะนี่เมเพื่อนรักของเพลงเองค่ะ เมจ๊ะนี่พี่แทนคู่หมั้นของเราจ๊ะ” เพลงพริตตาแนะนำ

    ฉันมองหน้าเขาสลับกับใบหน้าสวยแอร่มของเพื่อนสลับไปมา อีกครั้งที่เพลงพริตตาผู้เลอโฉมได้ทุกอย่างที่ฉันต้องการไปครอบครอง ฉันบอกตัวเองอย่างเศร้าๆแม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยมีใครที่ทำให้ฉันรู้สึกเช่นนี้มาก่อน นี่หรือพรหมลิขิต โชคชะตามักเล่นตลกกับเราเสมอ มันมักจะจู่โจมเราแบบไม่ให้ตั้งตัวและครั้งนี้ก็เช่นกัน ก่อนที่ฉันกับเขาจะได้รักและแต่งงานครองรักกันจนกว่าความตายจะมาพราก เขาก็อยู่เกินสุดเอื้อมของฉันแล้ว

    “คู่หมั้น...” ฉันทวนคำอย่างหวั่นไหวเป็นที่สุด

    “คู่หมั้นที่เพลงเล่าให้ฟังไงว่าเราหมั้นกันที่อังกฤษ” เพลงพริตตาทวนความจำฉันยิ้มๆ ทำให้ฉันหวนนึกไปถึงเรื่องที่หล่อนเคยเล่าให้ฟัง “ตอนเพลงไปเรียนต่อที่อังกฤษเลยได้มีโอกาสเจอพี่แทน พี่แทนได้ทุนตำรวจไปเรียนด้านการสืบสวนที่อังกฤษ เราเลยเจอกัน พี่แทนเป็นไกด์แสนดีให้เพลงแล้วดูแลเพลงตลอดเวลาที่เรียนที่โน่น”

    “อ้อ” ฉันพยักหน้า รู้สึกน้อยใจในโชคชะตาของตนเองเงียบๆนี่ก็เป็นชายหนุ่มอีกคนที่หลงติดกับดักความงามของเจ้าหญิงเพลงพริตตา ในฐานะเพื่อนรักฉันจะพูดสิ่งใดได้เล่านอกจากความยินดี

    เพลงพริตตาเป็นเพื่อนร่วมแก๊งค์สมัยเรียน จนกระทั่งเรียนจบและพ่อหล่อนส่งไปเรียนต่อที่เมืองนอก เมื่อหล่อนกลับมาและเข้าทำงานที่บริษัทที่พ่อหล่อนเป็นเจ้าของที่ที่ฉันทำงานอยู่ ทั้งยังมีตำแหน่งที่เป็นหัวหน้าฉันอีก เราจึงรื้อฟื้นความสัมพันธ์ขึ้นมาอีกครั้งแต่เป็นไปแบบหลวมๆ จนกระทั่งเมื่อหล่อนรู้ว่าอาชีพอิสระอีกอย่างของฉันคือแปลนิยายฆาตกรรม หล่อนก็กรี้ดกร้าดเกิดอยากจะเป็นนักเขียนนักแปลขึ้นมาบ้าง ขอให้ฉันแนะนำบรรณาธิการให้รู้จัก

    เพื่อเห็นแก่เพื่อน(และตำแหน่งของฉันเอง) ฉันจึงจำต้องแนะนำบรรณาธิการให้หล่อนรู้จักอย่างพะอืดพะอม นั่นจึงทำให้ฉันจึงต้องมาติดแหง็กที่หล่อนตลอดเวลา หล่อนมักจะเที่ยวบอกใครๆเสมอว่าฉันเป็นเพื่อนรักของหล่อน ช่วยให้หล่อนรู้จักตัวเองและความสามารถในการเขียนของหล่อนขณะเดียวกันหล่อนก็มักพูดถ่อมตัวเพื่อเปรียบเทียบงานกับฉันเพื่อให้ได้รับคำตอบมาว่า

    “ไม่หรอก งานของเพลงน่ารักดี ภาษาก็สวยอ่านเพลิน ของเมเขาก็เป็นแค่งานแปลภาษาก็คงตามผู้เขียน”

    หล่อนเป็นแบบนั้นเสมอ บางทีก็บอกว่าตัวเองอ้วน ตัวเองน่าเกลียดทั้งๆที่ฉันควรจะพูดแบบนั้นมากกว่า หล่อนพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เห็นว่าหล่อนน่ะแสนจะธรรมดา ไม่ได้เลอเลิศอย่างที่คนอื่นคิดทั้งยังใสซื่อที่ขนาดว่าแม้หล่อนจะโดนกลั่นแกล้งจากเพื่อนๆ หล่อนยังสร้างภาพว่าเพราะเพื่อนรักดอกจึงแกล้งเล่น ไม่รักคงไม่แกล้งและทุกคนก็ชื่นชมความน่ารักน่าเอ็นดูของหล่อนไปหมด

    เพลงพริตตาได้ใจชายหนุ่มทุกคนที่หล่อนหมายตาไปครองโดยไม่สนใจสักนิดว่าเขาเคยเป็นของใครมาก่อน ฉันเคยกรีดร้องสุดเสียงในใจเมื่อพี่วิทรุ่นพี่ที่ฉันคบหามาเป็นปีตกเป็นทาสรักหล่อนอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเพียงแค่หล่อนหยิบยื่นไมตรีให้ ฉันเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นพี่วิทเดินตามต้อยๆเหมือนลูกหมาหิวนม

    เพลงพริตตาเกิดมาเพื่อความสมบูรณ์แบบอย่างเจ้าหญิงเราดีๆนี่เอง ไม่ว่าหล่อนปรารถนาสิ่งใด หล่อนมักได้มาครอบครองเสมอ ฉันยอมจำนนความจริงข้อนี้ ต่อให้พยายามแค่ไหนฉันก็ไม่สามารถมีอะไรเทียบเคียงหล่อนได้

    “เพื่อนๆมาแล้ว นั่งอยู่ด้านโน้นแน่ะ พี่แทนเดินไปส่งเมที่โต๊ะหน่อยซิคะ” หล่อนหันไปอ้อนเขาเสียงหวาน “เพลงจะไปดูแขกของคุณพ่อสักประเดี๋ยว ดูแลเพื่อนเพลงให้ดีๆนะ”

    “ได้สิจ๊ะ” เขาตอบยิ้มๆ “พี่ยินดีเป็นบอดี้การ์ดให้เพื่อนแสนสวยของเพลงอยู่แล้ว” เขาหันมาสบตาฉัน

    เขารู้! เขารู้ว่ามีอะไรบางอย่างระหว่างเรา ! ใจฉันเต้นโครมครามรู้โดยพลันว่าบางทีโชคชะตาอาจพลิกผันให้เขาเป็นของฉัน ของฉันคนเดียว ทุกอย่างดูสวยงามโดยฉับพลัน

    เราสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วนั่นก็เพราะเพลงพริตตามักดึงเราสองคนมาเจอกันเสมอๆ ฉันเป็นเพื่อนรักหล่อนส่วนเขาก็เป็นคนรักของหล่อนจึงทำให้เราเจอกันบ่อยๆ ฉันได้พบว่าทั้งฉันและเขามีอะไรหลายๆอย่างเหมือนกันเหลือเกิน เราชอบอ่านหนังสือแนวสืบสวนลึกลับเหมือนๆกัน เราเกิดวันเดือนเดียวกัน เราชอบฟังเพลงเหมือนๆกันและเพลงโปรดของฉันก็เป็นเพลงโปรดของเขา และที่สำคัญที่สุดฉันกลายเป็นคนกลางที่ให้คู่รักทั้งสองปรับทุกข์และไกล่เกลี่ยเวลามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน

    เพลงพริตตามักชอบปรับทุกข์เรื่องที่เขาไม่มีเวลาให้เนื่องจากงานตำรวจของเขา หล่อนเปรยว่าถ้าแต่งงานแล้วหล่อนจะขอให้พ่อหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมให้เขาเพื่อเขาจะได้อยู่เคียงข้างหล่อนทุกครั้งที่หล่อนมองหา  และเมื่อฉันเผลอหลุดปากพูดเรื่องนี้กับเขา แทนไทถึงกับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ

    แต่หลังจากนั้นเพลงพริตตาก็ร้องห่มร้องไห้งอนง้อเขาจนแทนไทใจอ่อนทั้งสองปรับความเข้าใจกันในที่สุด แต่กระนั้นเขาก็ย้ำว่าจะไม่พูดเรื่องงานตำรวจที่เขารักอีกและเพลงพริตตารับปากที่จะไม่พูดเรื่องนี้เช่นกัน หล่อนบอกเขาว่าหล่อนยินดีที่จะเป็นแม่บ้านตำรวจหนุ่มเช่นเขา

    ฉันเองรู้ดีว่าแทนไทรักงานเขามากเพียงใด ก็จากเหตุบังเอิญว่ามีจดหมายจากแฟนหนังสือลึกลับที่ส่งถึงฉันไปที่สำนักพิมพ์น่ะสิ ฉบับแรกๆก็ดูเหมือนจะดีหรอกทำให้ฉันปลื้มเต็มประดาและทำให้กองบรรณาธิการมองฉันมีค่าขึ้นมาอีกนิด แต่พอฉบับที่สองที่สามทำให้ฉันถึงกับหน้าถอดสี

    ‘ผมชอบชุดนอนของคุณเมื่อคืนมาก สีชมพูเป็นสีโปรดของผม เหลือเชื่อที่เราใจตรงกัน’

    ฉันยื่นจดหมายให้พี่บก. ดู คงไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว เราคงต้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ และตำรวจคนแรกที่ฉันนึกถึงคือแทนไท แล้วเขาก็ดีใจหายรีบบึ่งมาที่สำนักพิมพ์ทันที

    “เขาเคยเขียนถึงนักเขียนคนอื่นๆบ้างไหมครับ” เขาซักถามสุนิสา หัวหน้ากองบรรณาธิการ

    “ไม่ค่ะ เพิ่งมีคุณเมเป็นคนแรก ปกตินักอ่านจะเขียนมาชมเชยให้กำลังใจนักเขียนผ่านทางหน้าเวบไซต์เท่านั้น” สุนิสาตอบเสียงเบา สีหน้าวิตก “โดยทั่วไปนักอ่านจะไม่รู้จักชื่อหรือที่อยู่นักเขียนเลยค่ะถ้าจะส่งอะไรก็ส่งมาที่สำนักพิมพ์นี่ละ”

    แทนไทพยักหน้านิ่ง สีหน้าครุ่นคิด “คุณมีศัตรูไหม” เขาหันมามองหน้าฉัน

    ฉันส่ายหน้า เหลือบตามองเขาผ่านม่านขนตาที่รื้นด้วยน้ำตา “ฉันไม่เคยมีศัตรูที่ไหนเลยค่ะ ทุกวันฉันก็ไปทำงานเย็นก็กลับบ้าน นานๆก็ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆเท่านั้น”

    “อืมม์ผมว่าคุณเมอย่าเพิ่งกังวลหรือตกใจกลัวไปก่อนเลยนะครับ ทางตำรวจจะรีบสืบหาร่องรอยเจ้าของจดหมาย แต่ตอนนี้ผมอยากให้คุณเมระวังตัวให้มาก” เขาปลอบเมื่อเห็นฉันกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตา

    “ไม่รู้สิคะ ตอนนี้ฉันรู้สึกกลัวเหลือเกินเพราะฉันอยู่บ้านคนเดียว” ฉันตอบเสียงเบา ตัวสั่นขึ้นมาน้อยๆอย่างช่วยไม่ได้

    “เอางี้ดีไหมครับ เดี๋ยวเย็นนี้ผมไปส่งคุณเมที่บ้านเองแล้วจะได้ตรวจดูรอบๆบ้านคุณดูว่าตรงไหนจะแก้ไขให้ดี แล้วจะส่งสายตรวจให้หมั่นแวะไปแถวบ้านคุณ” เขาเสนอ

    “ไม่ค่ะ ฉันไม่อยากรบกวนคุณ งานคุณแทนเองก็คงยุ่งอยู่แล้วอีกอย่างวันนี้คุณแทนมีนัดทานอาหารกับคุณพ่อยัยเพลงไม่ใช่หรือคะ อย่าให้ฉันมาเป็นภาระคุณอีกเลยค่ะ” ฉันอดรู้สึกซาบซึ้งไม่ได้ เขาช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียจริงเชียว

    “ยังไงตวามปลอดภัยของคุณก็สำคัญกว่า อีกอย่างแค่ทานอาหารจะไปทานเมื่อไหร่ก็ทานได้” เขายักไหล่ ตามองจดหมายอย่างพิเคราะห์

    “คุณแทนคะฉันขอร้องอย่างหนึ่งได้ไหมคะ ฮย่าบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้แม้แต่ยัยเพลง ฉันไม่อยากให้เพลงต้องมากังวลใจ คุณก็รู้นิสัยเธอนี่คะ” ฉันพูดและขอคำมั่นจากพี่สุนิสาด้วย ทั้งสองยิ้มอย่างนึกเอ็นดูผู้ที่เราพูดถึงก็เพลงพริตตาน่ะขี้กลัวขี้กังวลเจ้ากี้เจ้าการวุ่นวายกับคนจะตายไป ฉันน่ะไม่อยากให้เพลงพริตตาตระหนกตกใจจนถึงขั้นหวาดผวา หล่อนเองก็ยุ่งๆในการเตรียมตัวแต่งงานอยู่แล้ว

    จากคุณ : สาวช่างถาม - [ 2 ก.ค. 52 11:32:43 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com