บทที่ 1
.............................................................................................................................................................
พี่กร...พี่บ้าไปแล้วหรือ...จู่ๆ จะให้พีคไปอยู่กับเขาได้ยังไง...พีคไม่ไปหรอก!
เสียงของหญิงสาวที่กรอกไปตามสายนั้นไม่เบาเลย เธอไม่มีวันไปอยู่กับ นาย
นั่น เป็นอันขาด เป็นตาร้ายดียังไงก็ไม่มีวันเด็ดขาด
ทำไมล่ะ...พี่ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน...ธารก็เป็นเพื่อนสนิทของพี่นะ คนเป็นพี่ตอบกลับมาพลางหัวเราะเบาๆ ราวกับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
ไม่...พีคบอกว่าไม่ไปก็ไม่ไป... เธอแหวกลับหน้างอเป็นจวัก
เอาเหอะน่า ไม่กี่วันพี่ก็จะกลับเมืองไทยแล้ว ไปอยู่ที่เมืองจันทน์เราจะได้เที่ยวด้วยไง... คนเป็นพี่ยังหาทางกล่อม
บอกว่าไม่ๆๆๆๆ ได้ยินมั้ย ไอ้พี่บ้า!
หญิงสาวตะคอกเสียงกลับไปอย่างโกรธจัดพร้อมกับกดวางสายไปทันที แต่ไม่นานก็มีสายเรียกเข้ามือถือของเธอ ร่างบางเห็นแล้วก็ไม่ยอมรับสายใดๆ อีกนอกจากเดินออกมาจากห้องนอนด้วยอารมณ์หงุดหงิดเต็มที
จะไม่ให้โกรธได้ยังไงกันในเมื่อพอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันนี้ก็เป็นข้อความในมือถือ พอเปิดดูถึงได้รู้ว่า พลังกรพี่ชายของเธอซึ่งทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทนำเข้ารถยนต์แห่งหนึ่งต้องเดินทางไปต่างประเทศด่วนจี๋...อะไรไม่ว่าหรอกเขายังสั่งให้เธอไปอยู่กับเพื่อนเสียอีก
เขาคงบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่จะให้เธอไปอยู่กับนายนั่น...นึกแล้วหญิงสาวก็ชักมีน้ำโหเพราะสายตาของเขาเวลามองเธอนั้นเป็นประกายระยิบระยับราวกับเพชรน้ำงามต้องแสงไฟ ในตาสีฟ้านั้นคล้ายมีแววยิ้มกริ่มตลอดเวลา ไหนจะริมฝีปากบางแดงเป็นธรรมชาติแถมด้วยไรหนวดเคราเขียวรางๆ อีกเล่า ยิ่งนึกก็ไม่ค่อยพอใจขึ้นมาอีก
ไม่มีวันซะล่ะ...ฝันไปเถอะวันพีคจะทำตามที่พี่สั่ง
พีรภัตรบอกตัวเองอย่างนั้นพลางเดินจากชั้นบนลงมาห้องครัวเพื่อหาอะไรทานรองท้อง บ้านหลังนี้เป็นบ้านคูหาสองชั้น ขนาดไม่ใหญ่มากนัก พออยู่อาศัยสบายไม่เดือดร้อน ครอบครัวของเธอมาอยู่ที่นี่เมื่อสิบปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันเหลือเพียงเธอและพี่ชายอยู่กับสองคนเท่านั้น เพราะบิดาและมารดาได้จากไปเพราะวาตภัยคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2547 ขณะที่เธอและครอบครัวไปเที่ยวทะเลที่พังงาด้วยกัน
ร่างบางเปิดดูตู้กับข้าวก็ไม่เหลืออะไรให้ทานเลยสักอย่าง ครั้นมาเปิดตู้เย็นก็เหลือเพียงนมจืดขวดเดียวที่ค้างคาอยู่ในช่องข้างประตู หญิงสาวย่นจมูกอย่างนึกฉุนพี่ชายที่จะไปไหนทั้งที่ไม่เคยคิดจะห่วงเธอบ้างเลย แม้แต่กับข้าวหรือของกินของใช้เขาก็ไม่สนใจอะไรนอกจากบ้างานอย่างเดียว
หญิงสาวได้นมมาขวดกับขนมปังปอนด์ก้อนหนึ่งจึงเดินมายังห้องนั่งเล่นเพื่อเปิดทีวีดูรายการการ์ตูนในยามเช้า วันนี้เป็นวันหยุดและทางมหาวิทยาลัยของเธอก็หยุดหลายวันเนื่องจากไข้หวัด 2009 กำลังระบาดหนักหน่วง เมื่อเปิดทีวีแล้วหญิงสาวก็นั่งดูอย่างสบายอารมณ์
ถึงแม้ว่าพี่ชายจะไปดูงานที่เมืองนอกหลายสัปดาห์แต่เธอก็อยู่คนเดียวได้ เพราะเงินที่เขาให้ไว้ก็มากโขอยู่ หญิงสาวนั่งทานขนมปังไปทั้งที่ฟันไม่ได้แปรงและยังอยู่ในชุดนอนสีชมพูบอบบางพลิ้วจนแทบจะเห็นไปถึงไหนๆ
ขณะกำลังดูการ์ตูนเพลินอยู่นั้นก็มีเสียงรถยนต์บีบแตรดังลั่น หญิงสาวไม่สนใจเพราะคิดว่าคงเป็นรถยนต์บ้านข้างๆ ก็เป็นได้ แต่นั่งไปสักพักเสียงแตรรถก็ดังขึ้นอีกและก็กดย้ำๆ จนน่ารำคาญ หญิงสาวถอนใจแรงๆ อย่างนึกโกรธที่มีคนมากวนความสุขยามเช้าเช่นนี้ เธอวางขวดนมและขนมปังไว้แล้วเดินออกไปดูให้เห็นกับตาจึงเห็นว่ารถยนต์ที่บีบแตรดังลั่นนั้นจอดอยู่หน้ารั้วบ้านเธอเอง
พีรภัตรขมวดคิ้วอย่างสงสัย ใครกันที่มาบ้านของเธอ หญิงสาวได้แต่สงสัยเพราะมองหน้าคนขับไม่ถนัดนักด้วยติดฟิล์มกรองแสงดำมืดเลย แต่ก่อนที่เธอจะดูออกว่าเป็นใครเสียงแตรรถก็ดังขึ้นอีกจนทำเอาร่างบางสะดุ้งโหยง
(มีต่อ)
จากคุณ :
พันชิต
- [
4 ก.ค. 52 17:20:30
]