บรรยากาศในห้องประชุมดำเนินไปภายใต้การควบคุมของเฮียเบิ้ม ผู้จัดการงานอีเวนต์ของบริษัท
"งานโอทอปที่จะจัดขึ้นกลางเดือนหน้า กำหนดสถานที่ได้แน่นอนหรือยังครับ "
"ได้แล้วค่ะ จัดที่......" ฝ่ายประสานงานบอกชื่อศูนย์ประชุมชื่อดังที่จะใช้เป็นสถานที่จัดงาน
"ดีมาก การคมนาคมแถวนั้นสะดวก" พี่เบิ้มประธานโต๊ะประชุมกล่าวต่อ
"งานนี้เป็นโปรเจคใหญ่ พี่ปรึกษากับทางบอร์ดแล้วว่าจะแบ่งงานออกเป็นส่วนๆ ใครได้รับผิดชอบส่วนไหน ก็ให้ดูแลกำกับงานส่วนนั้นของตัวเองไปเลยนะ.
..น้องพิมครับ ช่วยพี่แจกเอกสารที"
"ค่ะ" ประชาสัมพันธ์สาวลุกขึ้นเดินแจกแฟ้มรายละเอียดงานในครั้งนี้ให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุมแต่ละคน
แจกเอกสารไปยิ้มหวานไป ด้วยท่วงท่าเหมือนนางงาม ซึ่งขัดหูขัดตาเจ๊แป้งพาวเดอร์เป็นอย่างมาก
"น้องพริกคะ รบกวนช่วยพี่พิมเค้าแจกเอกสารที จะได้ไม่ช้าค่ะ" เสียงห้าวของอีเวนต์เมเนเจอร์สั่งพิศนภา ทำให้พิมสิรีชะงักกึก
'ยัยบ้านี่!..' แม้สีหน้าพีอาร์สาวจะยิ้ม ทำเป็นแจกเอกสารเร็วขึ้น หากภายในใจด่ายัยกระเทียมแป้งยับ
ส่วนพริกยิ้มแหย นี่เธอต้องอยู่ในสงครามระหว่าง 'เจ๊พิมเดอะสตอร์' กับ 'เจ๊แป้งเดอะพาวเวอร์' อีกแล้วหรือนี่
(เรียกฉายาตามพี่ๆ เพื่อนๆ ที่บริษัทใช้เรียกลับหลังคนทั้งสอง)
หญิงสาวเดินไปรับเอกสารจากพิมสิรี ช่วยแจกตามคำสั่งหัวหน้าแป้ง
มองแฟ้มเอกสารที่ได้รับแบ่งมา บนปกมีรายชื่ออยู่ว่าแต่ละแฟ้มงานเป็นของใคร
หลังเดินแจกตามรายชื่อ จนมาถึงคนสุดท้าย...ไทศกร
ตอนที่หญิงสาวเดินไปหาเขาที่เก้าอี้นั้นเอง เผอิญพนักงานที่เข้ามาเสิร์ฟกาแฟให้คนในห้องประชุมเดินสวนมาข้างหลังเธอพอดี..
แม่บ้านร่างท้วมมัวมองถ้วยกาแฟ ไม่ทันมองว่าที่พื้นมีสายไฟถูกต่อมาใช้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ทำให้เดินสะดุด
"ว้าย!" ปล่อยมือจากถาดกาแฟคว้าเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุดเป็นหลักยึด(เก้าอี้พี่เบิ้ม) ส่วนถาดเครื่องดื่มคาเฟอีนทั้งหมดตกลงพื้นและคงเลอะเสื้อสีขาวของอีเวนต์แพลนเนอร์สาวแน่นอน ถ้านายไทไม่ดึงตัวเธอหลบซะก่อน
จังหวะที่ชายหนุ่มดึงตัวเธอหลบแม่บ้านตัวกลมสะดุดพื้นนั่นเอง หญิงสาวไม่ทันตั้งตัวจึงเสียหลัก ร่างเธอเซล้มไปนั่งบนตักเขา..
ทั้งห้องประชุมตกใจ.. ถาดถ้วยกาแฟตกกระทบพื้นเสียงดัง หากที่ดึงความสนใจได้มากกว่าไม่ใช่ถาดพลาสติกที่ตก...แต่เป็นภาพของสองคนที่อยู่ใกล้กันต่างหาก..ภาพที่เรียกรอยยิ้มและสร้างข่าวซุบซิบในออฟฟิศได้สบายๆ
"น้องพริกตกใจจนต้องนั่งตักน้องไทเลยหรือจ๊ะ.."
รุ่นพี่ที่เห็นเหตุการณ์ล้อ คนถูกล้อหน้าแดงรีบลุกขึ้น ..เธอล้มไปนั่งตักหมอนี่ได้ยังไงเนี่ย!!?..
"พูดอย่างนี้น้องเขาเสียหายแย่ ไทเค้าแค่ดึงพริกออกมาไม่ให้ถูกกาแฟหกใส่ต่างหากครับ"
เฮียเบิ้มแก้ต่างให้และนั่นทำให้การหยอกล้อยุติ ก็ใครจะกล้าต่อคำกับผู้จัดการบริษัทเล่า
"ขอโทษนะคะ" แม่บ้านวัยสี่สิบตอนนี้ตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้ รีบขอโทษขอโพยคนในห้องประชุม ก่อนก้มลงเช็ดเก็บกวาด
"ไม่เป็นไรนะคะป้า" มีหลายคนเข้ามาช่วยรวมทั้งพิศนภา ส่วนนายไทเดินออกไปเอาไม้กวาดกับถังขยะเข้ามาให้
"วันหลังก็ระวังหน่อยนะคะ.. ครั้งนี้ไม่ว่า แต่ถ้าครั้งหน้าจะหักเงินเดือน"
เจ๊แป้งทิ้งท้ายขำๆ กับป้าแม่บ้าน ปรากฏว่าเจ๊แกขำคนเดียว ส่วนแม่บ้านที่ถูกขู่ตัดเงินเดือนขำไม่ออก
เหตุการณ์ระทึกขวัญผ่านไปแล้ว ตอนนี้กาแฟถูกนำมาเสิร์ฟใหม่ บนโต๊ะประชุมรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีเอกสารแจกแจงงานของแต่ละคนพร้อม..
"งานแสดงสินค้าโอทอปนี้จะถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน.. ส่วนแรกเป็นอีเวนต์แสดงสินค้าประเภทอาหาร ส่วนที่สองเป็นอีเวนต์สินค้าประเภทสิ่งทอ..
..ส่วนที่สามจะเป็นกลุ่มสินค้าจำพวกเครื่องประดับและของแฮนเมด ส่วนสุดท้ายเป็นเวทีกิจกรรมแสดงวัฒนธรรมประเพณีของภาคต่างๆ"
"แล้วจะให้ใครรับงานส่วนไหนบ้างคะ" ผู้ร่วมประชุมคนหนึ่งถาม
"ไทจะรับงานส่วนอาหาร พริกรับงานด้านสิ่งทอ พวกเครื่องประดับกับของแฮนเมดยกให้แป้ง ส่วนพี่จะคุมกิจกรรมตรงเวทีกลางเอง" เฮียเบิ้มสรุปงาน
"พี่แบ่งลูกน้องและจัดสรรงบประมาณให้แล้ว" คนตัวใหญ่ชี้ไปที่แฟ้มงาน
"ไปศึกษาและบริหารจัดการทรัพยากรกันเองนะ"
หัวหน้าเบิ้มที่วันนี้เอาผ้ามาโพกหัวแบบแอดคาราบาวยิ้มให้ไทศกรและพิศนภา...
งานนี้คงจะได้เห็นฝีมือกันจริงๆ เพราะเป็นงานแรกที่ปล่อยให้ทั้งคู่เป็นคนวางแผนและบริหารงานทั้งหมดเอง ให้สมกับตำแหน่ง Event's Planner & Supervisor ที่รออยู่
เกือบสองเดือนที่ผ่านมา ยอมรับว่าทั้งคู่ทำงานได้ดีกว่าที่คาดไว้มาก แต่ก็เป็นการทำงานผ่านการดูแลห่างๆ ของเขากับเจ้าแป้งมาตลอด
..มางานนี้จะปล่อยจริงๆ ให้ทำทุกอย่างเอง... เพราะเป็นงานสุดท้ายที่ใช้ตัดสินความเหมาะสมแล้ว
เฮียเบิ้มหันไปหาพิมสิรี
"น้องพิม ยังไงช่วยประชาสัมพันธ์งานนี้ให้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นสื่อโทรทัศน์หรือสื่อสิ่งพิมพ์ พี่ฝากด้วย"
"ค่ะ" พีอาร์สาวรับคำ
" ไทกับพริกเช็คในรายละเอียดทีนะ แล้วเสนอมาว่าจะใช้อะไรเป็นไฮไลท์ในงานส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ..พี่ให้เวลาในการเสนองานสามวัน"
"ครับ/ค่ะ"
"งั้นเป็นตามนี้ มีอะไรสงสัยหรือเพิ่มเติมอะไรไหมครับ" พี่เบิ้มซึ่งเป็นหัวหน้าการประชุมถาม
"ถ้าไม่มีอะไร วันนี้เลิกประชุมได้ครับ"
ต่างคนต่างทยอยออกจากห้องห้องประชุม เว้นแต่เจ๊แป้งพาวเวอร์ที่รั้งพิศนภากับไทศกรไว้คุยงาน
เมื่อเหลือกันแค่สามคนในห้อง เจ๊แป้งเลยถือโอกาสพูดขึ้นมา
"พี่ไม่ได้จะกดดันหรอกนะ แต่รู้ไว้หน่อยก็ดี.. โปรเจคนี้เป็นงานทำเงินและชื่อเสียงให้บริษัท พี่หวังว่าพวกเธอจะแสดงฝีมือเต็มที่ เพราะมันเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดว่าจะผ่านโปรกันหรือเปล่า"
เงียบกันไปอึดใจกับน้องใหม่ซึ่งเหลือระยะทดลองงานอีกเพียงสองเดือน
"ครับ.. ผมจะทำให้ดีที่สุด" นายไทว่า
"พริกก็เหมือนกัน เชื่อใจได้ค่ะ" สาวรุ่นน้องว่าชูสองนิ้วคอนเฟิร์ม ด้วยสนิทกับพี่แป้งทำให้เธอเล่นแบบนี้ได้ ไทศกรมองหญิงสาวด้วยสายตาเอ็นดู
'นายไทเหมือนจะชอบยัยพริกซะแล้วสิ ' สาวไม่แท้ยิ้มบางหลังสังเกตเห็นท่าทีชายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาว
เจ๊แป้งหยิบเอกสารเดินกลับเข้าห้องตัวเอง สมองครุ่นคิดไปด้วย
ตำแหน่ง EPS หรือ Event's Planner and Supervisor ว่างให้ได้แค่หนึ่งเท่านั้น..
ถ้ามีใครคนหนึ่งได้งาน ใครอีกคนก็ต้องตกงาน...
แม้ว่าพริกจะเป็นลูกน้องสายเธอ ส่วนนายไทเป็นลูกน้องสายพี่เบิ้ม แต่เธอกับเฮียเบิ้มก็ยุติธรรมพอและไม่คิดที่จะลำเอียง
ที่ผ่านมา ผลงานทั้งคู่สูสีกันมาก เลือกยากว่าจะให้ใครอยู่หรือใครไป.
บางทีอาจต้องตัดสินกันที่ผลงานครั้งนี้....
หรือถ้าหาทางออกที่ดีกว่าได้.. เธอก็พร้อมปรึกษาพี่เบิ้มผู้จัดการใหญ่ และเอกวิทย์หัวหน้าฝ่ายบุคคล...
--> มีต่อค่ะ
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 03:12:39
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 03:02:23
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 02:57:15