Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    บางสิ่งที่หายไป

    ฉันจำไม่ได้แล้วว่าเพราะอะไรฉันจึงตัดสินใจแต่งงานกับ “วิน” ผู้ชายที่นอนกรนหนวกหูอยู่ข้างๆ ฉัน

                  ไม่ว่ายิ่งพยายามหาเหตุผลที่ฉันตอบตกลงแต่งงานกับเขาเมื่อสามปีที่แล้วมากขึ้นเท่าไหร่ กลับพบเพียงข้อเสียของเขาที่พอกพูนเพิ่มมากขึ้นตามวันเวลาเท่านั้น วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ฉันถามตัวเองอีกครั้งว่ากำลังทำอะไรอยู่กับผู้ชายคนนี้

                  เสียงกริ่งนาฬิกาปลุกกรีดร้องน่ารำคาญในเวลาตีสี่สี่สิบห้าเหมือนทุกวัน ฉันตื่นก่อนนาฬิกาเสมอ การนอนคิดเรื่องต่างๆ เงียบๆ คนเดียวก่อนลุกจากที่นอนกลายเป็นนิสัยของฉันหลังแต่งงาน เช้าวันนี้ ฉันประกอบกิจวัตรส่วนตัวก่อนไปทำงานเช่นทุกวัน วันนี้เป็นวันสิ้นเดือน งานปิดบัญชีที่บริษัทที่ฉันทำงานเป็นหัวหน้าแผนกคงยุ่งเหมือนเดิม ฉันหยิบกระโปรงทรงสอบสีน้ำตาลอ่อนยาวคลุมเข่ามาใส่เข้ากับเสื้อแขนยาวผ้าซาตินสีงาช้าง สวมต่างหูมุกคู่เดิมที่ใส่เป็นประจำทุกวันขณะส่องกระจกหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ฉันเกล้าผมเป็นมวยอย่างชำนาญ แต่งหน้าเท่าที่จำเป็น พรมน้ำหอมให้พอมีกลิ่นหอมเบาบาง หยิบแว่นสายตาจากกล่องเก็บแว่นทำจากหนังแท้สีดำมาสวม แล้วลงไปชั้นล่างเพื่อเตรียมอาหารเช้าที่ไม่มากไปกว่าขนมปังปิ้งทาแยมผลไม้กับกาแฟดำ ทุกขั้นตอนนี้ ฉันไม่เห็น ไม่รับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของสามีเลย เขาเดินลงมานั่งตรงข้ามฉันที่โต๊ะอาหารเมื่อไหร่ไม่ทราบได้ ซึ่งเป็นเวลาที่ฉันทานอาหารเช้าเสร็จพอดี ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างขณะทำความสะอาดจานชาม ทัศนียภาพนอกบ้านช่างจืดชืด มองไม่เห็นสีอะไรนอกจากสีฟ้าหม่นตัดกับสีดำทะมึน

                เสียงช้อนหล่นลงกระทบพื้นหินอ่อนท่ามกลางความเงียบทำให้ฉันหงุดหงิดกับความซุ่มซ่าม ฉันหันไปเห็นสามีกำลังเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบอาหารเย็นที่เหลือจากเมื่อวานมาใส่จาน
                “กินขนมปังปิ้งกับกาแฟไม่ค่อยอิ่ม กินของพวกนี้เพิ่มดีกว่า จะได้ไม่ต้องทิ้งให้เสียดายของด้วย” เขาพูดพร้อมนำจานเข้าเตาอบไมโครเวฟ ฉันรู้ว่าเขากำลังพยายามบอกกับฉันอ้อมๆ ว่าฉันไม่ใช่ภรรยาที่ดี มีความสามารถในการทำอาหารเช้าได้เพียงขนมปังปิ้งกับกาแฟดำที่เขาทานไม่อิ่มและไม่ถูกปาก
                  “ทานเร็วๆ นะ ถ้าออกจากบ้านเกินหกโมงรถจะติด คุณคงไม่อยากไปทำงานสาย” ฉันตอบ แล้วเดินไปที่ตู้เก็บรองเท้าเพื่อหยิบรองเท้าส้นสูงสีครีมมาสวม จากนั้น ออกมานั่งรออยู่ที่ม้านั่งสีขาวหน้าบ้าน ฉันมองนาฬิกา ขณะนี้เป็นเวลาตีห้าครึ่ง

                  เราตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ที่ตั้งอยู่ในเขตปริมณฑลเนื่องจากราคาไม่สูงเท่าบ้านในกรุงเทพฯ และฉันไม่ต้องการอยู่ในที่แคบๆ อย่างห้องชุดคอนโดมิเนียม เราจึงจำเป็นต้องรีบเดินทางเป็นระยะทางไกลทุกเช้าเพื่อไปทำงานที่บริษัทที่ตั้งอยู่ย่านธุรกิจของเมืองกรุง
                 
                เสียงนกร้องทำให้บรรยากาศยามเช้าที่จืดชืดดีขึ้นมาบ้าง สิบห้านาทีถัดมา สามีของฉันก็เดินออกมาจากบ้าน ตำแหน่งงานของเขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้ความรับผิดชอบมากเท่ากับฉัน เขาจึงดูอืดอาด ไม่ยินดียินร้ายกับเวลาที่ต้องเร่งรีบ ฉันเพ่งพิจารณาเขาแล้วเห็นหน้าท้องที่ขยายขนาดออกมา ถึงจะลดลงไปจากเดือนที่แล้ว ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาถึงปล่อยให้ตัวเองอ้วนขึ้น ทั้งๆ ที่ก่อนแต่งงานเขาเป็นหนุ่มหล่อที่ทำให้ฉันภูมิใจเสมอ เขาบอกฉันว่าพุงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นสัญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์พูนสุข และฉันไม่ควรสร้างกฎระเบียบให้กับชีวิตมากเกินไป ถึงเขาจะซื้อเครื่องออกกำลังกายประเภทลู่วิ่งมาไว้ที่บ้านหนึ่งเครื่องหลังจากที่เราเกือบทะเลาะกันด้วยเรื่องน้ำหนักตัวของเขาหากเขาไม่ได้เป็นฝ่ายเงียบไปก่อนเนื่องจากยอมจำนนด้วยเหตุผลที่ดีของฉัน แต่เขาก็ยังไม่กลับไปดูดีเหมือนตอนก่อนแต่งงาน ฉันเห็นเขาใช้วิ่งออกกำลังเพียงอาทิตย์ละสองครั้ง ครั้งละสี่สิบนาที ฉันประเมินแล้วว่าลู่วิ่งที่เขาซื้อมาถือว่าใช้ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป    

                   เสียงเขาสตาร์ทรถดึงฉันกลับจากห้วงความคิด ฉันขึ้นไปนั่งรอในรถ ในขณะที่เขาเดินไปเปิดประตูบ้าน ใจจริงแล้ว ฉันต้องการซื้อรถอีกคันเพื่อขับไปไหนมาไหนด้วยตนเอง แต่สามีของฉันยืนยันว่าเราไม่จำเป็นต้องมีรถสองคัน หากฉันต้องการจะไปไหน เขาจะเป็นคนขับพาไปเอง แต่ฉันคิดว่าสาเหตุที่แท้จริงคงเป็นเพราะเขาขี้เหนียว

                 เราขับรถออกมาถึงกลางซอยหมู่บ้าน สามีของฉันนึกขึ้นมาได้ว่าเขาลืมล็อกประตูบ้าน เราจึงต้องวนรถกลับ  ฉันถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด เขาเป็นคนขี้ลืมเสมอต้นเสมอปลาย เหตุการณ์นี้ทำให้ฉันนึกย้อนไปถึงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา เราตัดสินใจไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน ขณะนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ เพียงอีกไม่เกินสิบห้านาทีก็จะถึงสนามบิน เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่าลืมหนังสือเดินทางไว้ที่บ้านทั้งๆ ที่ก่อนออกจากบ้านฉันย้ำถามหลายครั้ง  และยังเคยเสนอตัวเป็นคนดูแลเรื่องเอกสารการท่องเที่ยวให้อีกด้วยแต่เขาปฏิเสธ เคราะห์ดีที่ฉันเป็นคนรอบคอบเรื่องเวลา ไม่ว่าจะทำอะไร ฉันมักเตรียมเวลาไว้เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินเสมอ วันนั้น หลังจากที่เราวิ่งกันหน้าตื่นกระหืดกระหอบที่สนามบิน เราก็ขึ้นเครื่องทันเวลาเฉียดฉิว เขาขอโทษฉันหลายครั้ง และสัญญาว่าจะพยายามปรับปรุงตัว แต่ดูจากวันนี้แล้ว เขายังรักษาสัญญาไม่ได้
    “ขอโทษทีนะพัช เดี๋ยวผมจะใช้ทางลัด รับรองคุณไม่ไปสายแน่” เขายิ้มให้ฉัน ฉันพยักหน้ารับส่งเดช

                   เราขับรถมาถึงหน้าปากซอยหมู่บ้าน เวลานี้ รถบนถนนค่อนข้างเยอะแล้ว ฉันมองเห็นพระสงฆ์กำลังบิณฑบาตร เป็นเวลานานเท่าไหร่แล้วไม่ทราบได้ที่ฉันทำบุญตักบาตรครั้งสุดท้าย ก่อนนี้ ฉันเป็นคนชอบทำบุญ และมักตื่นแต่เช้ามาใส่บาตรเสมอ

                  “พัชอยากใส่บาตรเหรอ ให้วินจอดรถรอแถวนี้เอาไหม” เขาถาม ฉันคงรู้สึกดีกว่านี้หากวันนี้เขาไม่ได้ลืมล็อกประตูบ้าน ไม่ต้องวนรถกลับจนเสียเวลาไปมาก ขณะนี้เป็นเวลาหกโมงห้านาที แล้วฉันจะต้องถึงสำนักงานก่อนเวลาเข้างานแปดโมงตรงทุกวันก่อนพนักงานทุกคนให้ได้
                  “ไม่เป็นไร วันนี้สายแล้ว” ฉันตอบ
                  “อ้าว เหรอ อืมๆ ไม่เป็นไร พัชครับ ดูโน่นสิ หมูปิ้งเจ้าใหม่เจ้านี้ไงที่พี่หนูนาบ้านข้างๆ เราพูดถึง เห็นเขาบอกว่าอร่อยมาก น้องนิดหน่อยลูกสาวพี่เขายังติดใจเลย ลูกค้ายืนต่อแถวยาว ดูน่ากินดีนะ” ฉันคงจะเห็นว่าหมูปิ้งน่าทานมากกว่านี้ และถึงแม้ฉันจะไม่เคยคุยกับพี่หนูนาคนข้างบ้านเพราะฉันไม่ชอบสุงสิงกับใคร ฉันก็อาจจะคิดว่าน้องนิดหน่อยลูกสาวของพี่หนูนาที่ฉันเคยเห็นเมื่อวันก่อนเป็นเด็กน่ารักพูดเก่งมากกว่านี้อีกด้วย หากเขาไม่พูดไปเรอไปจนกลิ่นเหม็นของอาหารค้างคืนที่เขาเพิ่งรับประทานเป็นอาหารเช้าซึ่งกำลังย่อยในกระเพาะเดินทางมาถึงจมูกฉัน อากาศภายนอกในเวลาเช้าเย็นชื้น ระบบเครื่องปรับอากาศติดรถยนต์จึงทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพในการปล่อยพ่นไอเย็นออกมาอย่างพรั่งพรู น่าแปลกที่ยิ่งอากาศเย็นมากขึ้นเท่าไหร่ กลิ่นก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น หากเขาผายลม ฉันอาจจะเปิดประตูรถหนีลงไปขึ้นรถประจำทางเลยทีเดียว ฉันกดปุ่มลดกระจกลงเล็กน้อยเพื่อระบายกลิ่นออกนอกรถ เขายังคงมองรถเข็นหมูปิ้งอยู่
                   “พัช ให้วินลงไปซื้อหมูปิ้งกับข้าวเหนียวให้ไหม เผื่อไว้กินกลางวัน วันนี้สิ้นเดือน พัชอาจยุ่งจนไม่มีเวลาลงมากินข้าวกลางวัน”
                   “ไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะ” ฉันรีบตอบน้ำเสียงเรียบเฉย หากเขาซื้อหมูปิ้งขึ้นมาในรถ ทั้งเสื้อผ้าและผมของฉันคงต้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหมูปิ้ง ลำพังกลิ่นเรอของเขาเพียงกลิ่นเดียว ฉันก็เวียนหัวพออยู่แล้ว

                  เราขับรถอยู่บนถนนใหญ่ที่รถติดสลับหยุดนิ่ง ช่วงนี้เป็นช่วงโรงเรียนเปิดเทอม ซึ่งเป็นเหตุผลเดิมๆ ที่เราทุกคนจำเป็นต้องฟังให้ขึ้น สามีของฉันเลี้ยวรถเข้าซอยเล็กๆ ที่ไม่คุ้นตา นี่คงเป็นทางลัดที่เขาบอกก่อนหน้านี้
                   “ซอยนี้แหละพัช ไอ้ตั้มเพื่อนวินมันเพิ่งบอกมาว่าตัดออกถนนใหญ่ทางไปที่ทำงานพัชได้” เขาพูดพร้อมสาวพวงมาลัยไปทางซ้าย รถแล่นฉิวมาได้ครึ่งซอยฉับพลันหยุดชะงักลง
                   “ไม่น่าจะติดนานนะ เดี๋ยวอีกสักไม่เกินยี่สิบนาทีก็ถึงที่ทำงานพัชแล้ว” เขารีบหันมาบอกฉัน ท่าทางลุกลี้ลุกลน
                   ...รถจอดแน่นิ่งอยู่ที่เดิมเป็นเวลายี่สิบนาทีอย่างที่ฉันคาดเอาไว้...

                  ฉันมองนาฬิกา ขณะนี้เป็นเวลาหกโมงห้าสิบเจ็ดนาที ถ้าเขาไม่มัวแต่ทานอาหารเช้าค้างคืน ไม่ลืมล็อกประตูบ้าน และยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาไม่เลี้ยวเข้ามาใช้ทางลัดไร้สาระของเขา ฉันคงไม่อารมณ์เสียขนาดนี้
                   “ข้างหน้าคงมีอุบัติเหตุล่ะมั้ง ไม่งั้นไม่น่าติดนะ เปิดวิทยุฟังดีกว่า อาจจะรู้อะไรมากขึ้น” เขายื่นมือไปเปิดวิทยุกดไปที่คลื่นของสถานีที่รายงานการจราจร ผู้ดำเนินรายการดูเหมือนจะรายงานการจราจรของถนนอื่นๆ ทั้งหมดจนเกือบครบทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยกเว้นตำแหน่งที่รถฉันติดอยู่ ซอยนี้คงเป็นซอยลัดซอยลับสุดยอดจนไม่มีบันทึกไว้ในผังเมือง หลังจากที่ฉันทนฟังการโทรศัพท์เข้ามารายงานข่าวคนปนข่าวข้าวของสูญหาย อีกทั้งข่าวรถยนต์จอดเสียขวางช่องทางการจราจรได้สักพัก ก็ปิดวิทยุ แล้วมองไปข้างนอกผ่านกระจกรถยนต์ มองไปที่ไหนก็มีแต่รถ ฉันจึงเปลี่ยนไปมองท้องฟ้า ฟ้าครึ้ม ฝนเริ่มตั้งเค้า ฉันถอนหายใจ

                  ฉันมองออกนอกกระจกไปยังพื้นที่โล่งกั้นรั้วสังกะสีทางด้านซ้ายที่อยู่ห่างจากตัวรถออกไปประมาณสองร้อยเมตร ฉันเห็นเพิงพักอาศัยของพนักงานก่อสร้าง แต่ยังไม่เห็นเริ่มการก่อสร้างตัวอาคารใดๆ เมื่อมองไปที่ป้ายเขียนเป็นภาษาอังกฤษติดอยู่ที่รั้วจึงทราบว่าเป็นโครงการอาคารที่พักอาศัยโครงการใหญ่เงินทุนหนา ฉันมองไปที่เพิงของพนักงานก่อสร้างอีกครั้ง เมื่ออาคารหรูนี้สร้างเสร็จ เพิงที่สร้างด้วยสังกะสีอย่างหยาบๆ ที่ใช้เป็นบ้านชั่วคราวนี้ก็คงถูกรื้อออกไปอย่างรวดเร็วไม่ให้เกะกะสายตาของพวกเศรษฐีเจ้าของห้อง ข้างๆ เพิงนั้น ฉันเห็นเด็กหญิงตัวเล็กสองคนนั่งเล่นกันอยู่ริมทางเดินแคบๆ ที่สร้างยกสูงจากคลอง มีราวเหล็กเตี้ยสนิมเขรอะกั้นไว้ เด็กหญิงคนตัวโตกว่าอายุไม่น่าเกินเจ็ดขวบยืนหันหลังให้ฉัน มือทั้งสองจับราวที่สูงเท่าหน้าอก แล้วชะโงกลงไปดูอะไรบางอย่างในน้ำ ส่วนเด็กหญิงตัวจิ๋วอีกคน ดูแล้วไม่น่ามีอายุเกินสามขวบ นั่งอยู่ใต้ราวเหล็กกั้น ขาทั้งสองข้างห้อยลงไปด้านล่าง ฉันเดาว่าทั้งสองคงเป็นพี่น้องกัน
                   
                  เวลาเจ็ดโมงสิบห้านาที เราขยับไปข้างหน้าได้ไม่เกินสามเมตร ฝนเริ่มลงเม็ด ครั้งนี้เป็นหนึ่งในร้อยๆ ครั้งที่ฉันนึกอยากตะโกนใส่หน้าเขา แล้วเขย่าตัวเขาแรงๆ ให้เขารู้สึกตัวเสียทีว่าเขาเป็นคนเห็นแก่ตัว และกำลังทำให้ชีวิตคู่ของเราดิ่งลงจนอาจจะถึงจุดต่ำสุด แต่ฉันทำได้แค่กล้ำกลืนเอาไว้ ฉันมักภูมิใจกับระดับความอดทนอดกลั้นของฉันที่ฉันมั่นใจอย่างเต็มร้อยว่ามีมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป เพื่อนๆ สองสามคนที่เคยสนิทแต่ฉันตัดสินใจคบหาให้น้อยลงเคยลงความเห็นพร้อมกันว่าฉันเป็นคนเก็บกด และแนะนำให้ฉันปล่อยวาง คนพวกนั้นไม่มีวันเข้าใจ เพราะไม่มีใครเคยแต่งงานมีชีวิตคู่อย่างฉัน
                  “วินขอโทษนะพัช วินนึกว่ามาทางนี้จะเร็ว” สามีของฉันแก้ตัว
    ฉันไม่ตอบ เพราะไม่มีอะไรจะพูดกับเขา ที่จริงฉันหมดเรื่องคุยกับเขาไปตั้งนานแล้ว ตาของฉันยังคงมองเด็กหญิงสองพี่น้อง ฉันเคยคิดว่าการมีลูกจะทำให้ครอบครัวเราสมบูรณ์ และช่วยให้ฉันมีความสุข สามีฉันอยากได้ลูกสาว เราพยายามมีลูกด้วยกันตลอดสองปีแรกหลังแต่งงาน แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ตอนนี้ ฉันไม่เห็นเหตุผลที่เราควรพยายามต่อไป ชีวิตทุกวันนี้ของเราสองคนก็ยากลำบากพออยู่แล้ว

                  การได้มองเด็กๆ เล่นกันทำให้ฉันคลายความหงุดหงิดจากรถติดได้บ้าง ฉันเห็นเด็กหญิงคนพี่ยืนเขย่งปลายเท้า แล้วชะโงกตัวลงไปที่คลองจนตัวงอ เธอคงจะทำของเล่นชิ้นสำคัญตกลงไปในคลอง  คนน้องที่นั่งห้อยขาหมิ่นเหม่อยู่ริมทางเดินก็ก้มตัวลงจนสุดเช่นกัน ทันใดนั้น สิ่งที่ฉันไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นก็เกิดขึ้น เมื่อเด็กหญิงคนน้องตกลงไปในคลอง ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นการกระโดดลงไปเองหรือไม่ แต่ลักษณะท่าทางดูเหมือนไม่ใช่การ

    แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 15:35:01

    จากคุณ : ทิพย์ทัศน์ - [ 6 ก.ค. 52 14:57:36 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com