ความคิดเห็นที่ 11 |
ปี 2548 เด็กหนุ่มคนหนึ่งข้ามน้ำข้ามทะเลมาเรียนเมืองหลวง อ้อลืมบอกไปครับ ว่าผมเป็นคนที่ไหน ดูจากหน้าตาผิวพรรณแล้ว ตอบได้ทันทีครับว่าเป็นหนุ่มเหนือ แต่เหนือนี่เหนือมาเลเซียนะครับ ผมมากทม.เหมือนบทของกวีผู้ยิ่งยงคนหนึ่งที่ถ่ายทอดเอาไว้ ฉันเยาว์ฉันเขลาฉันทึ่ง ฉันจึงมาหาความหมาย ฉันหวังเก็บอะไรไปมากมาย สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว ต่างกันก็เพียงแต่ว่า สี่ปีในความเป็นนักศึกษา ผมเก็บอย่างอื่นที่มากกว่ากระดาษไว้ด้วย --------------------------------------------------------------------------- วันนั้นผมมารายงานตัวครับ ผมก็ใส่ชุดนักศึกษาเสียเรียบร้อย เขาคนนั้นเดินเข้ามา เขาก็ใส่ชุดนักศึกษาครับ เรียบร้อย และน่ารัก ผมรีบหลบตา และสงวนกิริยาไว้ไม่ให้น่าเกลียด คงไม่สมควรนะครับ ถ้าเราจ้องมองใครนานๆ แม้ว่ามองด้วยความชื่นชม ก็ไม่สมควรอยู่ดี เขาเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วพูดว่า... มีไรให้ช่วยไหมเอ่ย พูดเท่านั้นจริงๆ แต่คุณครับ มันเหมือนฝัน และรู้สึกว่าตัวลอย นี่เรียกว่ารักแรกพบหรือเปล่าครับ ชั่วชีวิตของผม 18 ปีแล้วตอนนั้น ผมไม่เคยมีความรู้สึกดีๆที่เรียกว่ารักเหมือนคนอื่นเขาเลย มันก็มีบ้างครับ ที่มีคนเดินเข้ามาในชีวิต แต่มันก็ขำๆมากกว่าจะจริงจัง เฮ้อหากไม่ใช่ฝีมือของพระพรหมแล้วละก็ คงต้องโทษกาลเวลาแล้วล่ะ ที่เขาได้มาเจอกับผม แต่สำหรับผม ผมขอบคุณทุกอย่างครับ คุณรู้ไหม ไม่ได้เป็นเจ้าของ ได้แค่มอง ผมก็มีความสุขแล้ว
จากคุณ |
:
ประธานชมรมรักเขาข้างเดียว (เดือนแรม ที่แจ่มจาง)
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.ค. 52 13:42:50
|
|
|
|
|
|