ความคิดเห็นที่ 1   การเข้าสู่โลกแชทของผู้เขียน หลังจากที่ผู้เขียนได้อธิบายถึงความหมายและคุณสมบัติของ chat แล้ว ต่อไปจะล่าถึงการเข้าสู่โลก chat สำหรับผู้เขียนได้สัมผัสประมาณ ปีกว่า เริ่มเข้าวงการตอนอายุ 23 นี้เอง เราจะเล่าการเข้าสู่โลกแชทให้ฟัง เราก้าวเข้าสู่โลกแห่งแชทเริ่มจากฉัน เหงา ตอนนั้นเรามีปัญหากับแฟน มันเคว้งคว้าง เหงามาก เลยลองดูแชทดูซิ ประมาณว่าอยากรู้เป็นอย่างไร เห็นคนเขาคุยกัน ครั้งแรกก็งง ลองหาจากในกูลเกิล ลองเข้าไปตามห้องต่างๆ สะดุดอยู่ห้องหนึ่ง คิดว่าห้องนี้แจ๋มแล้วลองเข้าไป ก่อนเข้าต้องชื่อก่อนเข้า นึกอยู่นาน ปิ๊งได้ว่า เราเหงาน่ะ ใช้ สาวขี้เหงาเลย พิมพ์สาวขี้เหงา ใส่ไป เข้าไปในห้อง นั่งดูอีก เขาเล่นกันอย่างไร ทีแรกงง นั่งอ่านพักใหญ่ มีคนเข้ามาซิบ ถามเรา เจอคำถามยอดฮิตว่า ชื่ออะไร อายุเท่าไร เรียนทำงาน อยู่ไหน มีแฟน จีบได้ไหม เรา งงเลย จะตอบอย่างไรดี ตอบไปแบบงงๆ เจอคำถามว่า มีแฟนหรือยัง ตอบยาก เพราะมีแล้ว แต่มีปัญหากัน แต่ถ้าตอบตรงๆไป กลัวเขาไม่คุยด้วย เลยบอกว่าไม่มี แน่ะ เจอถามต่ออีกว่า จีบได้ไหม ตกใจอีก ตั้งสติได้ตอบว่า คุยๆกันไปก่อนน่ะ บางคนน่ะ ขอเบอร์โทรศัพท์ ขอเอ็ม เราด้วย เราดูเขาเล่นหน้าห้องสักพัก ก็ออกเล่นหน้าห้องใหญ่ เพราะดูพวกพี่ๆเล่นแล้วสนุกดี ทีแรกเล่นแบบเนียมๆ พวกพี่แซว แหย่เรา จนเรากล้าเล่นมากขึ้น คนที่เล่นห้องนี้ ส่วนใหญ่วัยทำงาน 20 กว่า หรือ 30 ก็มี บางคน เกือบ 50 ปีก็มี ตอนนี้สนุกซิครับท่าน โยนมุขกันสนุกสนาน ส่วนใหญ่ที่เล่น มุขแซวกันหรือ จีบกันเล่นๆ หน้าห้อง แต่จริงๆแล้ว นับถือเป็นพี่น้อง บางคนเล่นจีบกันเป็นกิ๊กกัน เราก็มีน่ะ จับคู่กะพี่คนหนึ่งชื่อ ดุ๋ย อ้อนกันหน้าห้อง ป้อนข้าวป้อนน้ำ หวาน หวาน จนคนไม่รู้นึกว่าเป็นแฟนกันจริงๆ สาเหตุที่เราสนิทกะพวกพี่ห้องนี้มากจาก วันหนึ่งเราเลิกกับแฟนเรา เรานั่งซึมเป็นหมาเหงา ตอนกลางคืนเราอยู่หน้าแชท ดูเขาคุยกันแบบเหงาๆ บังเอิญ ตาดุ่ย แกอกหักมา แล้วแกเมา มาพรรณนาอะไรหน้าห้องแชท โดนเราเต็มๆเลย เราต่อมน้ำตาแตกหน้าคอม กำลังร้องอยู่ มีพี่ที่สนิทคนหนึ่งชื่อ พี่อิ๊ด แกเข้ามา เห็นคำพูดเราไม่ดี แกเลยถาม เราเลยเล่า และเล่า ได้ระบายความในใจ ตั้งแต่ 5 ทุ่มกว่า ถึง ตี 1 มั่ง พี่อิ๊ดปลอบใจ จนเราสบายใจขึ้น ชีวิตแบบนี้ มีทั้งสุขและทุกข์ เราเล่นใช้ชื่อ สาวขี้เหงาได้พักหนึ่ง ไม่ไหว ต้องเปลี่ยนชื่อ เพราะ หนุ่มๆ มุดเสียวบ่อยมาก อาจจะมาจาก ชื่อ ล่อแหลม เราเลยเปลี่ยนชื่อ เป็นอะไรดี เอาชื่อเล่นเราเลยดีกว่า ชื่อนิด ถ้านิดเฉยๆ ก็เชย เติมอะไรดีน่ะ เปลี่ยนเป็น นิดน่ะ แต่ใช้พักเดียวเพราะ ไม่แจ๋ม เอาชื่อนี้แล้วกัน นิดจัง nidjung ดูอินเทรนดี ใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน เราเล่นแบบซ่าส์ มันๆ ผลให้ เรา กลายเป็นสาวฮอทคนหนึ่ง ใครๆก็อยากคุยด้วย ทั้งหญิงและชาย เราต้องเลือกคุย เราเลยประกาศในบางครั้งว่า งดซิบ ซึ่งหมายถึงมุดคุย บางคนหาว่าเราหยิ่ง เห้อ คุยไม่ทันจะให้ทำอย่างไร เราเล่นแชท เคยตั้งแก๊งค์ ชื่อ เดอะแก๊งค์ มีสมาชิก 4 คน หญิง 3 ชาย 1 เล่นกันฮาตรึมเลย เวลาที่เราเล่นแชท ถ้าเป็นกลางวัน เป็นพักๆ มากกว่า เพราะ ต้องทำงานด้วย แต่เล่นตอนกลับบ้านแล้ว เล่นถึงเทียงคืน ตี 1 เกือบทุกวัน ไม่รู้เอาอะไรมาเม้าส์กันได้ทุกวัน เห็นเล่นแบบนี้ ถามว่าติดแชทหรือไหม ตอบว่า ไม่เชิง ถ้าไม่เล่นก็ได้ แต่เรารู้จักเล่นมากกว่า รู้จักเลือกคนคุยด้วย การแบ่งประเภทกลุ่มและวัยของนักเล่นแชท ในห้องแชท เราสามารถ แบ่งกลุ่มคนเล่นได้ 4 กลุ่ม กล่มแรก คือ คนที่เล่นหน้าห้อง กลุ่มนี้เน้นความฮา ขำๆ กลุ่มนี้มักไม่ค่อยซิบกัน เราอยุ่กลุ่มนี้ กลุ่มที่สอง ชอบซิบชอบมุด เน้นหาเพื่อน หากิ๊ก หาแฟน ซิบกันอยู่ได้ห้องเล็กๆ ไม่อึดอัดแย่ กลุ่มสุดท้าย เป็นพวกใต้ดิน กลุ่มนี้เน้น คุยเซ็กส์ คุยเสียว กลุ่มนี้เน้นกิจกรรมเข้าจังหวะ กลุ่มสุดท้าย กลุ่มป่วน กลุ่มนี้มีจำนวนไม่มาก แต่แสบมาก เพราะชอบ ป่วนหน้าห้องให้วุ่นวาย บางคน ใช้คำพูดลามก ลวนลามสาวๆ หน้าห้อง บางคน ด่าคนนั้นคนนี้ ใช้ภาษาหยาบคาย กลุ่มนี้น่าเบื่อมาก เขาคงเรียกร้องความสนใจจากคนอื่น ส่วนห้องแชทที่มีอยู่อย่างดาษดื่น แบ่งได้ หลายประเภท 1. ห้องแชทของวัด ที่ดังสุด ๆก็ วัดเกาะ 2. ห้องแชท สนทนาข่าวสารบ้านเมือง การเมือง 3. ห้องแชท สนทนากันทั่วๆไป แต่คนเล่นกลุ่มใหญ่จะเป็นวัยทำงาน กลุ่มนี้เล่นแชท เพื่อพักผ่อนคลายเครียดจาการทำงาน บางคนอายุ 50 กว่าก็มี 4. ห้องแชท สนทนาทั่วๆ ไป คนเล่นกลุ่มเด็กๆ ส่วนใหญ่ ต่ำกว่า 20 ปี เราตั้งข้อสังเกตได้อีกประการหนึ่งเกี่ยวกับสาเหตุของคนมาเล่นแชท ถ้าเป็นเด็กวัยรุ่น กลุ่มนี้ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ผู้ครองไม่มีเวลาดูแลบุตรหลานเท่าไร เด็กเกิดความเหงา อยากมีเพื่อนคุย ดังนั้นเลย มา chat เราเคยคุยกับพวกเด็กๆ หลายคน ส่วนมากบอกว่า พ่อแม่ทำแต่งาน ไม่มีเวลาดูแลเขา หรือ พ่อแม่อยู่บ้าน แต่ไม่ค่อยสนใจลูก มีอีกกลุ่ม chat เพื่อหาแฟนหากิ๊ก ก็มี กลุ่มผู้เล่นอีกกลุ่มคือ วัยทำงาน กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ จะเป็นโสดส่วนมาก ถ้าคนมีแฟนหรือครอบครัว เขาใช้เวลาอยู่กับแฟนเขามากกว่า จะมา chat อ๋อ ลืมเล่าไป ฉันเคยไปแชทห้องอสูร ห้องนี้เมือก่อนดังมาก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเด็กๆ อายุ 10 กว่า พอน้องๆ ถามอายุ ฉันตอบว่า 23 ผลก็คือ บางคนตอบว่า แก่ หรือ โคตร แก่ เห้อ สงสัยเราไม่เหมาะกับห้องที่เด็กเล่นแน่ๆ และด้วยความบังเอิญเรารู้จักอีกห้องแชทหนึ่ง ห้องไอเลิฟยู ไปเม้าส์เป็นขาประจำห้องนั้นไปด้วย สรุปตอนนี้เล่นแชทอยู่ 2ห้อง คือห้องฝันหวานกับไอเลิฟยู สำหรับห้องไอเลิฟยู เราอีกสไตน์หนึ่ง เพราะคนที่เล่นเป็นน้องๆเรียนมหาวิทยาลัยหรือมัธยม จะให้เล่นฮาๆ ทะลึ่งแบบฝันหวาน ไม่ได้ ต้องเก๊กกันหน่อย เป็นพี่เขาอ่ะน่ะ คอยดูแลน้อง หรือบางทีสอนการบ้านน้อง คนเรามีหลายบทบาท ฉะนั้นต้องเล่นไปบทบาทของเราให้เหมาะสม ตอนนี้นับเวลาที่ฉันเล่นแชท นับได้ ปีครึ่งแล้ว ถือว่าเซียนระดับหนึ่งแล้ว บางคนบอกว่า เขี้ยวลากดิน คริคริ แฟนคลับการเล่น chat คนที่เล่นแชทได้สักพัก มีแฟนคลับ ของเราก็มีทั้งหญิงและเป็นชาย แฟนคลับของเราบอกว่าชอบ ลีลาการเล่นของเรา ดูแล้วสนุกดี บางคนถึงขั้นจีบเราเลย ส่วนแฟนคลับอีกกลุ่มของฉันมาจากการที่ฉันเป็นดีเจสมัครเล่น ห้องแชทที่เราเล่น มีพี่คนหนึ่งเปิดเพลงประจำ ชื่อพี่รี่ เปิดเพลงเพราะๆ เราก็ชอบฟังเพลงอยู่แล้ว อยากเปิดได้อย่างพี่รี่บ้าง เริ่มหาเวปเพลงต่างๆ พอดี ได้จังหวะ พี่รี่ไม่ค่อยว่าง เราเลยสวมรอยทีละนิด แอบเปิดวันละนิด เพลงช่วงแรกก็ แอบก๊อบมาจากพี่รี่เขาแหละ เปิดบ่อย เริ่มชำนาญ หาเวปเองแล้ว เริ่มมีคนขอเพลงแล้วหล่ะ พวกขาประจำเขามีเพลงโปรดของเขา เราจำได้ พอเขามาแชท เราเปิดเพลงโปรดให้ ผลจากการที่เราเปิดเพลง ทำให้มีแฟนคลับเพิ่มขึ้น บางคนเขาไม่เคยคุยกับเราเลย แต่เขาจะมุดมาขอบคุณที่เปิดเพลงเพราะๆให้เขา บางคนมุดมาขอเพลง เรามีแฟนคลับแบบพลังเงียบด้วยน่ะ เราเลยเป็นสาวฮอท แฟนคลับตรึม เลยคนมุดซิบอยากคุยกะเราเยอะ ขืนเราคุยกะทุกคน คุยไม่ทัน ต้องเลือกคุย ถ้าใครอยากคุยกับเรา ต้องคุยหน้าห้องแระ บางคนที่ไม่ได้คุย หาว่า เราหยิ่ง เห้อ แยกร่างแยกสมองไม่ทัน ทั้งเปิดเพลง ทั้งคุยด้วย ข้าน้อยทำไม่ได้ การมีแฟนคลับมากๆ บางคนหมั่นไส้น่ะ ถึงขั้นว่า เคยเจอ คนไม่ชอบเรามุดซิบว่า เราแชทหาแฟนหรือกากิ๊กเหรอ เขาใช้ภาษาที่หยาบกว่านี้น่ะ ตอนหลังเราไปเล่นอีกแชทหนึ่ง ที่เล่าให้ฟังไปแล้ว ทีแรกแค่คุยๆ เม้าส์ๆ ไปตามความมัน และ ด้วยความที่เราชอบท่องเวป อ่านอะไรไปเรื่อย อยากทำเวปบทความมานานแล้ว พี่เจ้าของเวป ไอเลิฟยู ที่เราไปแชทประจำ เขาบอกว่า มาลงบทความให้เขาซิ เราเลยไปโพสบทความให้เขา ตอนนี้ได้ประมาณ 4000 กว่า บทความแล้ว คริคริ ได้แฟนคลับเพิ่มจากลุ่มนี้มาอีกหนึ่งกลุ่ม มีบทความทุกแนวตั้งแต่ธรรมะ จนถึงตลก ลองคลิกไปอ่านได้น่ะค่ะ แฟนคลับเราเยอะเหมือนกันน่ะค่ะ http://www.yes-iloveyou.com/smfboard/index.php การจีบกันใน chat สำหรับเรื่องแชทแล้วหนีไม่พ้นเรื่องการจีบกันไปได้ เราเจอเหมือนกัน ได้แฟนในแชท 2 คน มาทีละคนน่ะค่ะ คนแรก ได้มาจากการที่แชทได้ไม่นาน คบกันได้ไม่นาน ก็เลิกกันไปเพราะเขาจีบสาวหลายคน แต่ระหว่างที่เราคบกัน มีเรื่องราวบู๊ๆมากมาย เนื่องมาจาก แฟนๆของเขา ตามมาด่าก็มี บางคน ด่าเราหน้าห้องรวม หาว่า เราแย่งผัวเขา ที่มันสุดๆก็รายนี้ ด่าเราหน้าห้องรวมและท้าตบเราในแชท นึกในใจ ปัญญาอ่อนจริงๆ ว่า เจ็บกันได้ไง คิดไปแล้ว แค่เห็นรูปคุยกันผ่านแชท ยังไม่เคยเจอตัวจริงกันเลย แย่งอะไรกันป่านนั้น ขนาดอายุ 20 กว่า ยังขนาดนี้ ถ้าเป็นเด็กอายุ 10 กว่า จะขนาดไหน แฟนคนที่สอง คนนี้เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว อายุ 30 กว่าได้ แต่ขี้หึงได้ใจ เราคนดังในแชท ใครๆก็รู้จัก เขาเลยระแวง ทะเลาะกัน ประจำ สุดท้าย เลยเอวัง เกมโอเว่อร์ ไป แต่ที่เราเล่นมา เห็นมามากแฟนในแชท ส่วนใหญ่ไปกันไม่รอด จะมีเพียงส่วนน้อยที่ได้แต่งงานกัน บางครั้งเราเซ็งๆ เปลี่ยนชื่อเป็นชาย ลองไปคุยกะพวกเด็กสาวๆ ทีไม่ชอบคุยหน้าห้อง เลือกอายุ 15 -16 ลองคุยกะน้องพวกนี้ สักพักลองไปจีบน้องเขาน่ะ ลองทายซิว่า สำเร็จไหม ถูกตอ้งคร๊าบ จีบได้ด้วย แถมสาวให้เบอร์มาด้วย ทำไมง่ายดาย ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จีบได้แล้ว ว่าไป คนมาแชทส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เพื่อหาแฟน จีบสาว จีบหนุ่มกันอยู่แล้ว เกิดคำถามว่า ทำไมคนกลุ่มนี้ถึงไม่หาแฟนหรือกิ๊กในชีวิตจริง เท่าที่สังเกตดู คนที่เล่นแชทส่วนหนึ่งนอกจากจะมีแฟนในแชทแล้ว ยังมีกิ๊กเก็บไว้ในสต๊อกหลายคน หลายคนเขาเล่นกันหลายห้อง ฉะนั้นจะมีกิ๊กเก็บไว้ห้องละคนสองคน กรณีนี้มีทั้งหญิงและชายเราเคยคุยกะพี่ผู้ชายคนหนึ่ง เขาสะสมกิ๊กไว้พอควร เขาบอกว่าเขาภูมิใจที่ สาวๆ รุมรักเขา ยิ่งสาวๆ ทะเลาะกันเพราะเขา ยิ่งทำให้ภูมิใจสุดๆ ลืมบอกไปว่า พี่ผู้ชายคนนี้หน้าตาแย่ แอบนิน นิน เขาอีกแล้ว เรายังเจอเลย มีหนุ่มคนหนึ่งมาจีบเรา บอกรักเราอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เรารู้จักคนในห้องหลายคน พอคุยกันกับเพื่อนๆในห้อง เลยรู้ว่า หมอนี้หยอดสาวไปทั่ว สดๆร้อนๆ เมือวานนี้เอง เราแชทอยู่ มีหนุ่มมาทัก ซักประวัติได้สักพัก หนุ่มถามว่า มีแฟนยัง จีบได้ไหม ไปรับได้ไหม ขนาดพึ่งรู้จักไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หน้าตาก็ไม่เห็นต่างหาก จีบแล้ว พูดถึงการหาแฟนหากิ๊ก เลยทำให้นึกถึงข่าวทางหนังสือพิมพ์ที่ลงกันเป็นระยะ เกี่ยวกับการหลอกสาวทางแชท ส่วนใหญ่เหยื่อจะเป็นเด็กวัยรุ่น เพราะว่า วัยนี้ วัยกำลังอยากรู้อยากเห็น ทำอะไรโดยไม่คิด เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า มีเด็กสาวคนหนึ่งอายุ 16 ปี รู้จักกับผู้ชายทางแชต หนุ่มคนนี้อายุ 30 กว่า ทำงานรับจ้าง หนุ่มคนนี้จีบสาวน้อยด้วยคำพูดหวานๆ โดยที่พ่อแม่ไม่รู้เรื่อง มีการนัดพบกันแล้วด้วย แต่บังเอิญ คุณครูทราบเรื่องก่อน เรื่องราวเลยยังไม่บานปลายเท่าไร เป็นโชคดีชองเด็กไป อีกรายหนึ่ง ทำงานแล้ว รู้จักกันทางแชตตามเคย นัดเจอกันแล้วสุดท้ายมีอะไรกัน ผู้หญิงท้อง ฝ่ายชายเลยต้องรับผิดชอบ ที่บอกไปแล้วว่า จุดประสงค์ของการเล่นแชท คือ หาเพื่อน หาแฟน หากิ๊ก ถ้าเราคอยระวังตัว จะปลอดภัย แชทเหมือนดาบสองคม จากคุณ : นิดจัง เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 12:02:10 A:125.24.21.37 X:

ความคิดเห็นที่ 2   การคุยเซ็กส์กับโลกของ chat สิ่งที่เราเจอในห้องแชตอีกอย่างคือ การคุยเสียว คุยเซ็กส์ ตอนเราเล่นใหม่ๆ เจอบ่อยมาก มาหลายแบบน่ะค่ะ เริ่มจาก ทักทาย เสร็จชวนคุยเสียว บางคนมารยาทดี ขอโทษก่อน แต่บางคนมาถึงจะลุยเลย พอเราตอบปฏิเสธไป ก็ด่าอีก สำหรับกลุ่มเด็ก น่าเป็นห่วงเพราะ เป็นวัยที่อยากลอง อยากรู้ว่า เป็นแบบไหน เราเคยคุยกับเด็กในแชท อายุ 1 7- 18 ได้ เขามาปรึกษาเราถามว่า “ พี่ค่ะ มีหนุ่มชวนคุยเสียวค่ะ ตัวหนูอยากลองค่ะ ว่าเป็นยังไง พี่ว่า หนูควรลองไหมค่ะ” บางคนยิ่งกว่านั้น เคยคุยเสียวแล้ว น้องอยากลองภาคปฏิบัติ มีเยอะน่ะ มีกรณีอื่นอีกคือ พอคุยแชทได้สักพัก มีการขอเอ็มคุยกัน คุยเอ็ม มีการเปิดกล้องคุยกัน คุยเซ็กกันไป ก็จะมีการถอดเสื้อผ้า หรือ ช่วยตัวเองให้ดู การป้องกันตัวเองจากอันตรายของการเล่นแชท มีนักแชทหลายคน ส่วนมากเป็นวัยรุ่น มักจะให้เบอร์ หรือ เอ็มหน้าห้องรวม เขาอยากได้เพื่อนเพิ่มขึ้น แต่หารู้ไหมว่า อาจนำอันตรายมาสู่ตนได้ เพราะ ผู้ไม่ประสงค์ดีอาจจะ เอาเบอร์หรือเอ็มไปโพสที่อื่น นำไปแอบอ้าง เราก็เคยเจอปัญหานี้มาแล้ว แต่กรณีของเรา เกิดจากคนที่คุ้นกัน แต่ตอนหลังมีปัญหาทะเลาะกัน คนนั้นเลยกลั่นแกล้งเอาเบอร์โทรศัพท์ไปโพสที่ห้องสนุก ไปโพสตอนเที่ยงคืนกับเช้ามืด คนกำลังนอนสบายเลย มีสายเข้ามา 10 กว่าสาย สำหรับผู้ที่จะเล่นแชทโดยเฉพาะหญิงสาว ถ้าไม่รู้จักวิธีป้องกันตัวเอง อาจเป็นหยื่อของผู้ไม่หวังดีได้ วิธีป้องกัน ง่ายมาก คือ 1. ถ้ายังไม่สนิทกัน อย่าพึ่งแจกเบอร์โทรศัพท์ง่ายๆ 2. พวกเด็กสาววัยละอ้อน เวลาแชทชอบโชว์รูปบน display หรือ ในเอ็ม พอผู้ไม่หวังดี เห็นหน้าตาแอ๊บแบ๊วของสาวๆ จะเริ่มปฏิบัติการโฉด 3.กรณีที่มีชายหนุ่มหน้าแปลกๆ มาจีบ บอกรัก พึงคิดไว้ว่า การที่คนเราจะรักกัน ไม่ง่ายเหมือนเปิดปุ๊บติดปั๊บ หน้าตาไม่เคยเห็น คุยกันได้แปบเดียว บอกรักกันแล้ว ความเป็นจริงต้องใช้เวลา ศึกษานิสัย เห็นหน้าตากันก่อน มีข้อสังเกตอย่างหนึ่งจากการเล่นแชท คนที่เล่นแชท คือคนที่เหงา ไม่มีเพื่อน หรือ หน้าตาไม่ค่อยดี ถ้าพิจารณา ถ้าหน้าตาดีๆ คงไม่เล็ดรอดถึงเราหรอก เพราะ สัดส่วนของผู้ชาย กับผู้หญิงต่างกัน แล้วจากการที่เรารู้จักผู้ชายในแชท หาหน้าตาหล่อๆ เท่ห์ แทบไม่มีเลย ถ้าหล่อก็มีแฟนแล้ว เล่นแชท พึงพิจารณาไว้ว่า อย่าเชื่อตัวหนังสือมากนัก เพราะ เราไม่ได้เห็นหน้าตา ไม่ได้สัมผัสตัวตนจริงๆของเขา เขาอาจจะสร้างภาพอย่างไรก็ได้ โกหกอาชีพ อายุ สถานะภาพอย่างไรก็ได้ บางคนเอารูปให้ดู ไม่ใช่รูปเขาจริงๆ ก็มี การติด chat ภัยจากการเล่นแชทอีกประการหนึ่งคือ การติดแชท ส่วนใหญ่ จะเป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่น กลุ่มนี้ พอเลิกจากเรียน แทนที่จะทำการบ้านก่อน เปิดคอมคุยกับเพื่อน แล้วคุยเพลิน จนลืมทำ ไปลอกเพื่อนที่โรงเรียนแทน เด็กบางคน ผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแล เด็กจะเล่นแชทถึง ตี 1 ตี 2 เคยคุยกะเด็กบางคน บอกว่า พ่อแม่บ่นจนเลิกบ่น บางคนบอกว่า แอบเล่นเพราะคอมอยู่ในห้องนอน ปิดไฟเลยน่ะค่ะ สายตาได้เสียกันพอดี มีนักจิตวิทยาชื่อ Kimberly S. Young ได้ศึกษาพฤติกรรม ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตอย่างมากเป็นจำนวน 496 คน และการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ได้ระบุว่า ผู้ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 4 อย่าง เป็นเวลานานอย่างน้อย 1 ปีถือได้ว่า มีอาการติดอินเตอร์เน็ต รู้สึกหมกมุ่นกับอินเตอร์เน็ต แม้ในเวลาที่ไม่ได้ต่อกับอินเตอร์เน็ต ความต้องการใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น ไม่สามารถควบคุมการใช้อินเตอร์เน็ตได้ รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเตอร์เน็ตน้อยลงหรือหยุดใช้ ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นวิธีในการหลีกเลี่ยงปัญหาหรือคิดว่าการใช้อินเตอร์เน็ตทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น หลอกคนในครอบครัวหรือเพื่อน เรื่องการใช้อินเตอร์เน็ตของตัวเอง การใช้อินเตอร์เน็ตทำให้เกิดการเสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ ์ อาการผิดปกติ อย่างเช่น หดหู่ กระวนกระวายเมื่อเลิกใช้อินเตอร์เน็ต ใช้เวลาในการใช้อินเตอร์เน็ตนานกว่าที่ตัวเองได้ตั้งใจไว้ สาเหตุและทางแก้ของเด็กติดแชท ผู้ปกครองหลายท่านอาจจะสงสัยว่าลูกเราเป็นอะไรไปหรือนี่...กลับมาถึงบ้านก็เปิดคอมพิวเตอร์ ออนไลน์คุยกับเพื่อนทันทีทั้งที่พึ่งจะแยกจากเพื่อนมา...ถ้าวันไหนเข้าอินเทอร์เน็ตไม่ได้จะมีอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับกระสับกระส่าย...ถ้าลูกมีอาการอย่างนี้ล่ะก็...ใช่เลยอาการของคนติด Chat โดยเฉพาะช่วงที่เข้าไป Chat ใหม่ ๆ จะติดมากชนิดที่ถึงเวลาจะต้องรีบเปิดเครื่องเข้าไปคุย และคุยครั้งละนาน ๆ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนติดอินเทอร์เน็ตและชอบเข้าไป Chat อาจจะเกิดมาจากความเหงาเมื่อกลับมาบ้านแล้วไม่มีอะไรทำก็เลยต้องหันไปพึ่งอินเทอร์เน็ตเพื่อหาเพื่อนคุย เด็กวัยรุ่นมักมีโลกส่วนตัว..ถ้าพ่อแม่เข้าไปถามว่าทำอะไร คุยกับใคร คุยอะไรกัน...และดุว่าเด็กอาจจะมีอาการปิดๆ บังๆ ไม่อยากให้รู้...สิ่งที่ช่วยได้คือความสัมพันธ์ในครอบครัว พ่อ แม่ต้องพยายามเข้าใจและมีเวลาให้กับลูกมีกิจกรรมที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวร่วมกันทำ พ่อแม่ยุคใหม่ต้องเป็นทั้งพ่อ ทั้งแม่ และเพื่อนในเวลาเดียวกัน คุยกับลูกได้ทุกเรื่องเมื่อลูกสงสัยหรือมีปัญหาจะได้เล่าทุกเรื่องให้พ่อแม่ฟังเพื่อของคำปรึกษาโดยไม่ต้องกลัวว่าพ่อแม่จะดุหรือทำโทษ ซึ่งอาการติด Chat นั้นช่วงแรกๆ เด็กจะติดมาก ๆ และจะดีขึ้นเมื่อเด็กเล่นอินเทอร์เน็ตไปนานๆหลายเดือนหรือที่เรียกว่าจุดอิ่มตัว จะเริ่มรู้สึกเริ่มเบื่อ คุยน้อยลง ในช่วงที่ลูกติด Chat มาก ๆ ผู้ปกครองควรมีการตกลงกับเด็กว่าในแต่ละวันอนุญาตให้เล่นอินเทอร์เน็ตได้กี่ชั่วโมง ช่วงเวลาไหนและคอยดูแล สังเกตพฤติกรรมและให้คำแนะนำว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร ในการสนทนากับคนแปลกหน้า เช่น ไม่ให้บอกข้อมูลส่วนตัว เบอร์โทรศัพท์หรือส่งรูปไปให้ เพราะเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นมีความจริงเชื่อถือได้กี่เปอร์เซ็นต์ และให้ระวังเรื่องการนัดหมายไปพบกันซึ่งอาจถูกล่อลวงได้ ไม่แปลกหรอกที่เด็กๆ จะเรียนรู้และสนทนาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต..เพียงแต่ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจและดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ไม่ให้เด็ก ๆ หลงทางไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ความรักและความสัมพันธ์ของสมาชิกภายในครอบครัวลดน้อยลงไป จากคุณ : นิดจัง เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 12:05:01 A:125.24.21.37 X:

ความคิดเห็นที่ 3   โทษของการเล่นแชทนานๆ ทางด้านสุขภาพ โทษของการเล่นแชทนานๆ หรือเรียกว่า ติดแชท นอกจากทางด้านสังคมหรือภัยสังคมแล้ว ยังมีโทษทางด้านสุขภาพ เพราะการดูจอคอมนานๆ ทำลายสายตา จากบทความของ ศ.พญ.สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต สาเหตุสำคัญของการเกิดโรค Computer vision syndrome คือ การใช้สายตาเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ซึ่งจะส่งผลให้มีอาการภาวะตาแห้ง ปวดเบ้าตา เกิดรอยดำคล้ำบริเวณตา หรือมีรอยบวมเห็นเป็นถุงใต้ตาโปนออกมา "การใช้สายตาเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จะทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแอลง ชั้นผิวหนังสร้างคอลลาเจนน้อยลง ไขมันที่เคยรองรับที่กระบอกตาจะเลื่อนไหลออกมากองอยู รอบดวงตา ปรากฏให้เห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตา ถุงใต้ตาและรอยบวมได้ โรคนี้ไม่เกิดขึ้นในทันที แต่จะสะสมไปเรื่อยๆ ยิ่งใช้เพ่งสายตาหน้าจอคอมพิวเตอร์นานเท่าไหร่ สภาพผิวรอบดวงตาก็ยิ่งอ่อนแอลงเท่านั้นส่งผลให้กระบวนการซ่อมแซมตัวเองของเซลล์ผิวเสื่อมถอย ขาดประสิทธิภาพ ทำให้การไหลเวียนขับถ่ายของเสียรอบดวงตาบกพร่อง ทำให้เกิดถุงใต้ตา และมีริ้วรอยหมองคล้ำอยู่เรื่อยไป" ถ้าไม่อยากเป็น โรคตาหมีแพนดา ตลอดชีวิต พญ.พุธศิรินทร์ แนะวิธีการป้องกันว่า ควรเริ่มจากการปฏิบัติตัวเองเสียใหม่ เช่น อย่าให้กล้ามเนื้อตาล้าเกินไป ด้วยการอย่านั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ให้พักสายตาทุก 15 นาที ด้วยการมองออกไปไกลๆ จะทำให้ดวงตาไม่เกิดอาการล้า พร้อมปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้แสงพอเหมาะ อย่าขยี้ตา หากรู้สึกอ่อนล้าให้นวดคลึงเบาๆ และควรบริหารดวงตาเพื่อคลายความตึงเครียด ด้วยการกลอกตาไปรอบๆ เป็นวงกลม สัก 5-6 รอบ ใช้นิ้วนางทั้ง 2 นิ้วแตะที่หัวตาแต่ละข้าง คลึงเบาๆ แบบกดจุดนาน 1-2 วินาที อาการของภาวะโรคนี้พบได้หลายอย่าง เช่น ตาเมื่อยล้า ตาแห้ง แสบตา ตาสู้แสงไม่ได้ ตาพร่ามัว ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยบ่า ไหล่ คอ หรือปวดหลัง อาการเหล่านี้เกิดจากสาเหตุอะไรกันบ้างและจะแก้ไขได้อย่างไร 1.สาเหตุเพราะผู้ใช้คอมพิวเตอร์ไม่ค่อยกระพริบตา ปกติแล้วเราทุกคนจะต้องกระพริบตาอยู่เสมอ เป็นการเกลี่ยน้ำตาให้คลุมผิวตาให้ทั่วๆ โดยมีอัตราการกระพริบ 20 ครั้งต่อนาที หากเราอ่านหนังสือหรือนั่งจ้องคอมพิวเตอร์ อัตราการกระพริบจะลดลง โดยเฉพาะการจ้องคอมพิวเตอร์การกระพริบตาจะลดลงกว่า 60 % ทำให้ผิวตาแห้ง ก่อให้เกิดอาการแสบตา ตาแห้ง รู้สึกฝืดๆ ในตา วิธีแก้ไข ถ้ารู้สึกตัวว่าจ้องหน้าจอนานเกินไป ก็ให้กระพริบตาให้บ่อยขึ้น หรือพักสายตาโดยการละสายตาจากคอมพิวเตอร์ หลังจากใช้ไปประมาณ 15-30 นาที หรืออาจใช้ยาหล่อลื่นลูกตาประเภทน้ำตาเทียม 2. แสงจ้า และแสงสะท้อน (Glare reflection) จากจอคอมพิวเตอร์ทำให้ตาของเราเมื่อยล้า ทั้งแสงจ้าและแสงสะท้อนมายังจอภาพ อาจเกิดจากแสงสว่างไม่พอเหมาะ มีไฟส่องเข้าหน้าหรือหลังจอภาพโดยตรง หรือแม้แต่แสงสว่างจากหน้าต่างส่องปะทะหน้าจอภาพโดยตรง ก่อให้เกิดแสงจ้าและแสงสะท้อนเข้าตาผู้ใช้ทำให้เมื่อยตาล้าง่าย วิธีแก้ไข จัดแสงไฟและตำแหน่งจอภาพให้เหมาะสม อย่าให้จอภาพหันหน้าเข้าหน้าต่างหรืออยู่หน้าต่อหน้าต่าง โคมไฟที่ส่องหน้าตรงๆ ลงมาอาจทำให้เกิดแสงจ้า น่าจะเปลี่ยนเป็นหลอดไฟที่กระจายทั่วๆ ไป หรือโคมไฟที่ส่องเฉพาะกระดาษอย่าให้แสงปะทะกับจอภาพและตาผู้ใช้ นอกจากนี้ควรปรับคลื่นแสงที่หน้าจอ (Refresh rate) ซึ่งเครื่องส่วนใหญ่จะปรับอยู่ที่ 60 Hg ซึ่งขนาดนี้ทำให้เกิดแสงกระพริบ ทำให้ภาพบนจอเต้นกระตุ้นให้เราต้องปรับตาเพื่อโฟกัสใหม่อยู่เรื่อยๆ ทำให้ตาเมื่อยล้าได้ ควรปรับความถี่ให้อยู่ระดับ 70-80 Hg จะทำให้จอภาพเต้นน้อยลง สบายตาขึ้น 3.ที่ไม่ควรละเลยอีกอย่างของภาวะนี้ก็คือ การทำงานจ้องจอภาพนานเกินไป ไม่ว่าจะเกิดจากงานเร่ง หรือมีหน้าที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเดียวก็ตาม ย่อมเกิดอาการได้ง่าย ทุก 2 ชั่วโมง ที่จ้องจอภาพควรพักสายตาประมาณ 15 นาที โดยมองออกไปไกลๆ หรือหลับตาเฉยๆ หากเป็นไปได้ควรทำงานที่ต้องจ้องจอภาพวันละไม่เกิน 4 ชั่วโมง เวลาที่เหลือไปทำงานอย่างอื่นบ้าง นอกจากสุขภาพสายตา จะเสื่อมลงเร็วกว่าปกติแล้ว มีนักวิจัยแนะนำว่า - ท่านั่ง ต้องนั่งกายตรง ให้กระดูกสันหลังเหยียดตรง - ลุกเดินเพื่อยืดเส้น สะบัดแขน-ขา-ข้อมือ-ขยับไหล่ - ดื่มน้ำ เปล่าสะอาดมากๆ เพื่อลดความเข้มข้นเลือด และ ชำระล้างสิ่งที่เป็นโทษแก่ร่างกาย เป็นการรักษาสมดุลย์ จากคุณ : นิดจัง เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 12:09:20 A:125.24.21.37 X:

ความคิดเห็นที่ 4 มาอ่านครับ อ่านแล้วได้ความรู้ขึ้นมาอีกเยอะเลยครับ  เป็นประโยชน์ดีครับ  น่าจะพิมพ์เป็นเล่มแจกเพื่อเป็นวิทยาทานให้แก่เยาวชนนะครับ อิอิ จากคุณ : อาคุงกล่อง เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 12:19:42

ความคิดเห็นที่ 5   พจนานุกรมภาษา chat พจนานุกรมภาษาแชท หลายคนจะนึกถึงว่า แชทเพื่อหาแฟน หากิ๊ก เรามาฟังตัวอย่างบทสนทนาแบบพื้นๆกันก่อนน่ะ ช่วงแรกยังไม่รู้จักกันแนะนำตัว ชาย ชื่อไร หญิง ..... แล้วเทอหล่ะ ชาย .... ยุ ไร หญิง 18 ชาย มีแฟนยาง หญิง ไม่มี ชาย ผมเป็นแฟนได้ไหม ( ทำไมจีบกันง่ายจัง หน้าตาก็ไม่เคยเห็น ) หญิง ได้ ช่วงเป็นแฟน ชาย ทานข้าวยาง หญิง อืม ชาย เหนื่อยไม หญิง *...* ชาย รักเค้าไหม หญิง อ่ะ ชาย เค้าคิดถึงตัวเองน่ะ หญิง *----* เข้าใจกันได้เนอะ เก่งจริงๆๆ การแชท ได้เรียนรู้ภาษาใหม่ๆ เช่น กรรม เขียนว่า กำ เธอ เขียนว่า เทอ ฉัน เขียนว่า ฉาน อายุเท่าไร ย่อเหลือ ยุไร การหัวเราะ มีหลายแบบ หุหุ คริคริ แบบนางเอกหัวเราะ 555 แบบนางมารหัวเราะ กร๊าก กร๊าก แบบตัวประกอบหัวเราะ ก๊าก ก๊าก นึกไม่ออกว่าแบบไหน *....* และ อืม เป็นเหมือนสัญญาณตอบรับว่าเราฟังเขาอยู่ ไร ย่อมาจาก อะไร จิงอ่ะ หมายถึง เป็นคำแสดงความตกใจนิดๆ เช่น สมศรี. : เทอรู้ป่ะว่า ยัยนั้นเป็นกิ๊กกะตาโอ สมหญิง : จิงอ่ะ อ่ะ เป็นคำแสดงความตกใจนิดๆ เช่น : พี่ถรีบนู๋ออกจากห้องเหรอ : อ่ะ พี่เปล่าน่ะ ห้องซิบ หมายถึง การคุยห้องส่วนตัว มุด หมายถึง การไปคุยกันในซิบ แบร๋ เป็นคำอุทาน ปู้ชาย หมายถึง ผู้ชาย เอ็ม หมายถึง การคุยกันทางเอ็ม จิงป่ะ หมายถึง จริงหรือไม่ หัย หมายถึง ให้ อะนะ หมายถึง จ้า เหอๆ หมายถึง กำลังหัวเราะเบาๆ หุ หุ หมายถึง น่าสนใจ ละกาน หมายถึง แล้วกัน ทามจาย หมายถึง ทำใจ เปน หรือ เปง หมายถึง เป็น ภาษาที่คุยกันในแชท เท่าที่สังเกต ถ้าเป็นเด็กๆ ใช้คำแบบกระทัดรัดกันหลือเกิน ภาษาใช้เป็น คำสั้นๆๆ และใช้สัญลักษณ์แทนคำพูดอีก แต่เข้าใจกันได้ เก่งกันจังเลย การแชททำให้ได้เรียนรู้วิชาย่อความโดยไม่ไม่รู้ตัว ทั้งที่เวลาโทรศัพท์ ทำไมคุยกันได้เป็นชั่วโมงน่ะ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ หรือ วัยทำงาน พิมพ์ยาวๆ ฝอยอะไรได้มากมาย ที่เราเล่ามาทั้งหมดจากประสบการณ์ที่เราเจอ มีทั้งดีและไม่ดี ของทุกอย่างมีทั้งดีและเสีย ขึ้นอยู่กับว่า เราเลือกหยิบส่วนไหนมาใช้ เราขอสรุปส่วนดีของการแชทก่อน คือ ได้พักผ่อน แลกเปลี่ยนความคิด ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สำหรับข้อเสีย คือ มีผู้ไม่ประสงค์ดีในคราบคนดี มาหลอกลวง เรื่องชู้สาว หรือ เงินทอง ฉะนั้นผู้อ่านพิจารณาว่า แชทเป็นอย่างไร และแชทอย่างไร จากคุณ : นิดจัง เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 12:22:28 A:125.24.21.37 X:

ความคิดเห็นที่ 6 สงสัยเราจะเป็นโรคติดเน็ทแล้วแน่เลย จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 12:29:15

ความคิดเห็นที่ 7   ภาษาแชท ภาษาแชตได้ถูกนำมาใช้ทั้งชีวิตประจำวัน ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียนแล้ว ถ้าไม่เชื่อ ลองไปนั่งฟังชาวแชทดู รับรองว่าจะต้องได้ยินศัพท์ประหลาดๆ ที่เหมือนไม่ใช่ภาษาไทยอย่างแน่นอน จะกล่าวให้ชัดก็คือ ภาษาสะดวกปาก สะดวกพิมพ์ อย่างภาษาแชต ได้เข้าไปกลมกลืนกับภาษาไทยที่ใช้ในชีวิตประจำวันของเด็กวัยรุ่นไปเรียบร้อยโรงเรียนไซเบอร์เสียแล้ว และที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือการแพร่หลายของภาษาแชตในภาษาเขียน สำหรับคนที่ไม่เคยคุ้นที่จะเข้าไปในแชต หากเข้าไปอ่าน อาจจะเกิดอาการปวดเศียรเวียนเกล้า เผลอๆ อาจจะนึกว่าตัวเองโผล่มาในสังคมต่างดาวที่มีภาษาเป็นของตัวเอง และจากการสังเกต พบว่าผู้ที่พูดภาษาแชท เช่นนี้ส่วนใหญ่อายุประมาณ 14 ปีขึ้นไป และเมื่อสอบถามนักแชตอายุ 35 ปีขึ้นไปที่ใช้ภาษาเช่นนี้พบว่า เมื่อแรกที่เช้ามาคุยในแชตก็ใช้ภาษาปกติ แต่พอนานวันเข้าภาษาแชตก็จะซึมเข้าไปเอง จนพูดเป็นในที่สุด ภาษาที่คุยกันในแชท เท่าที่สังเกต ถ้าเป็นเด็กๆ ใช้คำแบบกระทัดรัดกันหลือเกิน ภาษาใช้เป็น คำสั้นๆๆ และใช้สัญลักษณ์แทนคำพูดอีก แต่เข้าใจกันได้ เก่งกันจังเลย การแชททำให้ได้เรียนรู้วิชาย่อความโดยไม่ไม่รู้ตัว ทั้งที่เวลาโทรศัพท์ ทำไมคุยกันได้เป็นชั่วโมงน่ะ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ หรือ วัยทำงาน พิมพ์ยาวๆ ฝอยอะไรได้มากมาย ผู้ใหญ่หลายท่านจะบอกว่า ภาษาเหล่านี้ เป็นภาษาวิบัต ทำให้ภาษาไทยเพี้ยนไป แต่มีหลายคนกล่าวว่า "ไม่จำเป็นต้องกลัว ภาษาแชตไม่ใช่ภาษามาตรฐาน จะนิยมอยู่ไม่นานภาษาก็จะเลือนไป ยกตัวอย่างคำยอดนิยมในอดีต เช่นคำว่า “จ๊าบ” ปัจจุบันก็ไม่เห็นมีใครใช้" แล้วแต่มุมมองแต่ละคน 6 ข้อ ที่นักแชทไม่ควรลืม มีข้อควรปฏิบัติในการแชทมาฝาก ลองไปดูกันค่ะ 1. อย่าให้อีเมลของเรากับคนแปลกหน้า หรือไปลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เพราะเราอาจได้รับสแปมเมล และถูกขโมยอีเมล หรือข้อมูลส่วนตัวก็ได้ 2. อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขบัตรเครดิต เบอร์โทรศัพท์ หรือที่อยู่ อันตรายมาก ๆ เลย 3. กรณีที่ตัดสินใจจะนัดพบคนแปลกหน้าที่รู้จักจากการแชท ห้ามไปตามลำพังโดยเด็ดขาด ควรพาเพื่อนหรือคนที่เราไว้ใจไปด้วย และบอกกับพ่อแม่หรือผู้ปกครองให้ทราบว่าด้วย ข้อสำคัญคือควรนัดเจอกันในที่สาธารณะ 4. อย่ารับไฟล์ภาพ หรือดาวน์โหลดไฟล์จากบุคคลที่คุณไม่รู้จักเด็ดขาดเลย เพราะ อาจจะส่งไฟล์ไวรัสมาไห้ได้ 5. หากมีความจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช่ของส่วนตัว อย่างเช่น ในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ คอมพิวเตอร์ที่โรงเรียน มหาวิทยาลับ อย่าได้เลือกฟังก์ชั่น Sign me in automatically และ Remember Password ในหน้าจอแรกโดยเด็ดขาด เพราะคนที่ใช้ถัดจากเราอาจจะนำเอาอีเมลเราไปใช้ในทางที่ผิดก็ได้ 6. ข้อนี้สำคัญมากที่สุดเลยค่ะ ควรระวังการแชตในขณะที่กำลังเรียนหรือทำงาน) เพราะอาจจะทำให้เสียงานเสียการ หรือาจจะถูกตรวจสอบจากครูได้ เว้นเสียแต่ว่าเราจะใช้ในทางสร้างสรรค์จริงๆ เท่านั้นล่ะค่ะ จากคุณ : นิดจัง เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 12:36:14 A:125.24.21.37 X:

ความคิดเห็นที่ 8   สำหรับผุ้เขียน ไม่ได้ติดแชทขนาดงอมแงม แต่คุยเพื่อความสนุกสนาน และคลายเครียดเท่านั่น และรู้จักที่จะเลือก คุย มากกว่า แชทมีประโยชน์ถ้าเราเลือกใช้น่ะค่ะ บางครั้ง ผู้เขียนสามารถสอนการบ้านน้องๆ ทางแชท ทางเอ็ม บ่อยครั้งด้วยค่ะ บางคนใช้แชท ทางเอ็ม เป็นการพูดคุยทางธุรกิจก็มีค่ะ จากคุณ : นิดจัง เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 12:36:46 A:125.24.21.37 X:

ความคิดเห็นที่ 9   บางทีมันก็มีประโยชน์นะครับ เพราะช่วยใหเราสามารถระบายความในใจในกระทู้ต่างๆได้ก็มีเยอะไป ไม่ต้องอายใคร เพราะไม่มีใครรู้จักเรา จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 16:53:14 A:203.144.180.65 X: TicketID:221110

ความคิดเห็นที่ 10 มาอ่านครับ ......... ตาล้าทันทีที่อ่านจบ สงสัยจะ ติดแชท นะเนี่ย จากคุณ : Little_playboy เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 22:00:17

ความคิดเห็นที่ 11 ติดเนตอย่างหนักเหมือนกัน จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 14:13:08

ความคิดเห็นที่ 12 ติดเกมค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 21:04:45

ความคิดเห็นที่ 13 สมัยม.ต้นเคยเข้าห้องแชทเล่นๆ้เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ไหว มีแต่อะไรก็ไม่รู้ ห้องที่เจอจะเป็นห้องวัยรุ่น จีบกันอย่างเดียวเลย แล้วก็เจอแบบข้างบนน่ะ่ค่ะ ถามชื่อเสร็จถามว่าโสดไหมแล้วก็ขอเป็นแฟน -*- ตั้งแต่นั้นมาเลยไม่เข้าไปอีกเลยค่ะ เหอๆ เกมก็เหมือนกัน สมัยนั้นยังอ่อนต่อโลก มีเพื่อนในเกมคนนึงมาแนวเดียวกะห้องแชทนี่ล่ะ ชวนเป็นแฟน ไอ้เราก็คะนองบอกว่าได้ แต่เป็นแค่กิ๊กในเกมนะ แกล้งหวานๆกันแค่ในเกมไรเงี้ย(มันมีเบอร์เราด้วยค่ะ) ไปๆมาๆคำพูดเริ่มรุนแรงขึ้น หึง แร๊งแรง ชักท่าไม่ดี เลยบอกว่าเลิกเล่นกันดีกว่า - - มันทำไงรู้ไหมคะ โทรตื๊อวันละ 50 รอบ+ ค่ะ เราไม่รับ ผ่านไปสองอาทิตย์ถึงเลิก - -* น่ากลัวจริงๆ ตั้งแต่นั้นเข็ดเลย ให้เบอร์เฉพาะเพื่อนในเน็ตที่สนิทกันจริงๆ เท่านั้น ตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ค่ะถึงแม้จะเลิกเล่นเกมกันไปแล้ว คนนึงอยู่ปี 1 เหมือนกับเรา ปีที่แล้วตอนแอดก็โทรคุยเรื่องตอนสอบแอดมิสชั่นกันด้วย เถียงกันไปมาสนุกดี ส่วนอีกคนเคยเจอกันจริงๆเมื่อปีที่แล้ว มาลงเรียนคอร์สภาษาญี่ปุ่นเหมือนกับเรา แต่ตอนนี้เลิกเรียนแล้วเพราะต้องแอดปีนี้ :) การแชทได้มิตรภาพจริงๆค่ะ แต่ก็ต้องเลือกด้วยเนอะ มีทั้งด้านดีและไม่ดีอย่างที่คุณนิดจังบอกไว้ล่ะ จากคุณ : Artasi@ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 00:11:46