ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์ - บอร์ดเดอร์
|
|
ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์ - บอร์ดเดอร์ (ปฐมบท)
บอร์ดเดอร์เป็นชื่อของชายชาวไทยจีนมาเลย์คนหนึ่งในปาดังฯ เพราะแกถือสองสัญชาติทั้งไทยและมาเลย์ (แกเคยโชว์บัตรของมาเลย์ให้ดู) หัวของแกล้านเลี่ยนเตียนโล่ง รูปร่างสูงใหญ่แบบนักมวยปล้ำที่มีกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน แกมีคตินิยมที่คนในท้องที่มองว่าแปลก ๆ เป็นคนแบบนักเลงจีนโบราณคือ รับปากแล้วคำไหนคำนั้น ทำให้สุดท้ายมีผลร้ายต่อชีวิตและธุรกิจของแก
เหมือนคำพังเพยที่บางครั้งก็ขัดแย้งกันเช่น รู้อะไรไม่รู้สู้วิชา รู้ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล รู้อะไรไม่รู้สู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี ยอมเป็นหยกที่แหลกราญ ดีกว่าเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ เป็นลูกผู้ชายต้องยึดได้หดได้ ยอมกลืนเลือดดีกว่ายอมกลืนน้ำตา
บอร์ดเดอร์เดิมมีร้านขายยาแผนจีนและกึ่งแผนปัจจุบัน ขายดีมากในปาดังเบซาร์เพราะสมัยนั้นยาเป็นยุทธปัจจัย ที่จำเป็นในเมืองชายแดนเพราะห่างไกลจากแพทย์แผนปัจจุบัน รวมทั้งของกลุ่มโจรจีนมาลายาที่ไปไปมามาอยู่ในป่าสองฝั่งประเทศ ที่มาเลย์สมัยนั้นการซื้อขายยาสำเร็จรูปมีราคาแพงกว่าเมืองไทย และมีการควบคุมการสั่งจ่ายยามากกว่าฝั่งไทย คนมาเลย์/โจรจีนมาลายาสมัยนั้นจึงมาซื้อที่ฝั่งไทยมาก ทำให้แกมีรายได้และผลกำไรจากธุรกิจยาจำนวนมาก มีผลต่อเนื่องที่ต่อ ๆ มาร้านขายยาหลายร้านมาเปิดมากขึ้นในปาดังฯ
แกเลยมีความคิดที่จะสร้างโรงแรมขึ้นมาในปาดังเบซาร์ เพราะโรงแรมปาดังเบซาร์ที่มีอยู่เดิมก็มีขนาดเล็กมาก เป็นตึกแถวหรือบ้านไม้สองชั้นแบ่งเป็นห้องพักให้เช่า เหมือนเกสต์เฮาส์แถวถนนข้าวสารของกรุงเทพฯปัจจุบัน ทำเป็นห้องพักแล้วก็เปิดให้คนเข้าพัก คนที่มาพักก็มักจะเป็นคนมาทำธุรกิจ/หรือมาเยี่ยมญาติพี่น้อง แล้วกลับเข้าเมืองหาดใหญ่หรือตัวอำเภอสะเดาไม่ทันเป็นส่วนน้อย
แต่ที่มาพักมากคือพวกผู้ชายกลัดมันทั้งคนไทย/มาเลย์ ถ้าไม่มีห้องพักเลย ในช่วงนั้นทั้งชายไทย/มาเลย์ ก็ไปใช้บริการค้างคืนในสถานบริการที่ปาดังเบซาร์จะเรียกว่า บาร์ แต่ที่หาดใหญ่จะเรียกว่า คาราโอเกะ เพราะฉะนั้นเวลาจะใช้บริการพึงสำรวจและตรวจตราให้รอบคอบก่อน ภายในบาร์จะมีการแบ่งซอยเป็นห้องเล็กห้องน้อย แต่ใช้ห้องน้ำรวมและมีเตียงนอนให้หนึ่งเตียง ไม่มีแอร์ ทีวี หรือตู้เย็นในห้องพักแต่อย่างใด มีขวดน้ำ กระโถน พร้อมผ้าเช็ดตัวให้หนึ่งผืน
บอร์ดเดอร์เมื่อจะสร้างโรงแรม แกก็มีแนวคิดและวิธีคิดที่ไม่เหมือนใคร หรือมีใครเหมือนในเขตอำเภอสะเดา คือแกสั่งซื้อสินค้าและวัสดุก่อสร้างจากเมืองไทยทั้งหมด ทำให้แกชอบพูดเสมอเวลาแกอารมณ์ดีหรือเมาว่า พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย
เพราะผลจากการที่แกใช้ของเมืองไทยทั้งหมด ในการสร้างโรงแรมในปาดังฯขึ้นมาครั้งนั้น ทำให้เป็นที่ฮือฮาและนินทาของคนปาดังฯ หลายต่อหลายคนว่า บ้างว่าแกโง่ บ้างว่าแกบ๊อง บ้างว่าแกบ้า ไม่เต็มบาท เพราะสินค้าวัสดุก่อสร้างของมาเลย์หลายอย่างถูกกว่าไทย หรือมีคุณภาพดีกว่าของเมืองไทยมาก รวมทั้งตอนนั้นชายแดนไทย-มาเลย์ก็เข้าออกง่ายมาก เพียงแค่เดินเข้าออกหรือขนของข้ามเขตแดนมา ถ้าไม่ถูกด่านศุลกากรจับหรือตำรวจท้องที่จับแล้ว ก็แทบแยกแยะไม่ได้เลยว่าของไทยของมาเลย์ ผลดีในการสั่งซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างจากเมืองไทยทั้งหมด ทำให้ตำรวจ ด่านศุลกากร หรือปลัดอำเภอ ไม่สามารถหาสาเหตุใด ๆ กับแกได้เลย ว่ามีการใช้วัสดุก่อสร้างหรือของไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อหากินหาเศษหาเลยจากการใช้ของไม่ถูกต้อง (ของหนีภาษี ของไม่เสียภาษีถูกต้อง หรือของเถื่อน แต่ที่ปาดังเบซาร์คำสุภาพคือ สินค้าชายแดน) ทำให้งานก่อสร้างของแกรุดหน้าไปเรื่อย ๆ จนก่อสร้างเสร็จเป็นโรงแรมที่สูงสี่ชั้น และเป็นโรงแรมแห่งแรกในปาดังเบซาร์ ที่มีห้องพัก ห้องน้ำในตัวแห่งแรก แกเลยตั้งชื่อโรงแรมของแกว่าบ Border หรือชายแดน ทำให้กลายมาเป็นชื่อฉายาหรือชื่อเล่นของแก จนหลายคนลืมเลือนชื่อจริงหรือชื่อเล่นเดิมของแกที่เป็นภาษาจีนไปเลย
แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 52 14:22:16
จากคุณ |
:
ravio
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.ค. 52 13:22:25
|
|
|
|