 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
ตอนที่ 1
ภายใต้อากาศที่ร้อนอบอ้าวจนไอร้อนจากถนนลอยขึ้นมามองเห็นได้ รถยนต์ติดขัดตลอดเส้นทางไกลสุดตา รวมทั้งฝุ่นควันรถกระจายไปทั่วท้องถนน ร้านอาหารตามสั่งที่มีคนนั่งรอเต็มทุกโต๊ะ ต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่จะถึงจานของตนเอง
อากาศที่ร้อนอบอ้าวของเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปีเลยก็ว่าได้ ทำให้ใจคนแทบจะร้อนไปตามสภาพอากาศจากการที่ต้องมานั่งรออาหารที่ร้านอาหารใต้ตึกทำงานของตนเองมานานกว่าห้าสิบนาทีตั้งแต่พักกลางวัน
พิมดาวนั่งหน้ามุ่ยคิดในใจถ้าอาหารร้านนี้ไม่อร่อยมากจนขึ้นชื่อทางด้านรสชาติและเพื่อนชายที่นั่งอยู่ข้างๆ อยากกินอาหารร้านนี้ เธอคงไม่มีวันมารอนานขนาดนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ เพื่อข่มอารมณ์ที่เริ่มระอุขึ้นเรื่อยๆ จึงหันไปคุยกับทศลักษณ์เพื่อนคนสนิทของเธอที่นั่งรอรับประทานอาหารด้วยกันนานเกือบชั่วโมงแล้ว
นี่ลักษณ์ เมื่อไหร่พวกเราถึงจะได้กินข้าวล่ะ ทำไมวันนี้คนมากินข้าวร้านนี้เยอะจัง นี่มันจะบ่ายโมงเข้าไปแล้วนะ ถ้าขึ้นไปช้ามีหวังวันนี้งานไม่เสร็จแน่
พิมดาวหันไปถามความเห็นของเพื่อนหลังจากมองดูนาฬิกาแล้วเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาเริ่มเข้าทำงาน ทศลักษณ์ลุกขึ้นเดินไปดูยังที่เสียบแผ่นกระดาษจดรายการอาหารเห็นว่าถึงใบจดรายการอาหารของโต๊ะตนเองแล้ว จึงเดินยิ้มมาที่โต๊ะ แล้วบอกว่า
ใกล้ถึงโต๊ะของเราแล้ว เดี๋ยวพวกเราก็ได้กิน อยากจะกินของอร่อยก็ต้องใจเย็นๆ สิ ดูโต๊ะอื่นเค้ายังรอกันได้เลย
ทศลักษณ์เห็นหน้าตาบูดบึ้งของเพื่อนที่มันไม่คลายตามรอยยิ้มของตัวเอง จึงรีบเอาใจด้วยการเอาแผ่นกระดาษข้างๆ ตัวมาพัดให้คลายร้อนลงไปได้บ้าง
ในระหว่างที่ป้าบุญแสวงซึ่งเป็นทั้งเจ้าของร้านและควบตำแหน่งทำอาหารตามสั่งทุกจานของร้านนี้กำลังขะมักเขม้นทำอาหารให้โต๊ะของทั้งคู่อยู่นั้น มีผู้ชายคนหนึ่งสวมแว่นตากันแดด ผมเป็นสีทองสะท้อนแสงแดดดูระยิบระยับเดินเข้ามาในร้าน ตรงเข้าไปทักทายป้าบุญแสวง ถ้ามองเผินๆ ทุกคนคงจะนึกว่าเขาคนนี้คงจะเป็นชาวต่างชาติจากผิวที่ขาวราวกับไม่เคยโดนแดด และรูปร่างสูงใหญ่ จากความสูงที่ดูด้วยตาเปล่าน่าจะเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร
ป้าบุญแสวงเงยหน้าขึ้นมาเห็นจึงหยุดทำกับข้าว ตรงไปกอดลูบหน้าลูบหลังด้วยความดีใจ รีบหยิบเก้าอี้มาให้นั่งข้างๆ ตนเอง ป้าเริ่มบทสนทนาขึ้น
เป็นอย่างไรบ้างค่ะคุณเจษของป้าแสวง ไม่เจอกันซะนาน โตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วนะค่ะ ป้าจำคุณเจษแทบจะไม่ได้เลย
เจษฎายิ้มกว้าง นั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่ป้าหยิบมาให้นั่ง
ก็ผมไปเรียนมาเกือบสิบปี ว่าแต่ว่าป้าแสวงยังดูไม่แก่เลยนะครับ ดูเหมือนเมื่อสิบปีก่อนที่ผมจะไปเรียนเลยครับ ป้าเป็นอย่างไรบ้างครับ สบายดีไหม ผมคิดถึงป้ามากๆ
เจษฎาก้มลงหอมแก้มป้าแสวงพร้อมกับกอดเอาไว้แน่นราวกับเป็นเด็กๆ ป้าแสวงถึงกับยิ้มเป็นปลื้มในคำชมของเจษฎาและดีใจที่เขากลับมายังไม่ลืมเธอเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน พยักหน้าตอบเขาไป เขาหยิบถุงใบใหญ่ส่งไปให้ป้าบุญแสวง
นี่ครับของฝาก ไม่รู้ว่าจะถูกใจป้าหรือเปล่า
ป้าบุญแสวงแสงเปิดถุงออกดู เห็นเป็นลิปสติกหลายแท่งและครีมทาผิวอีกหลายกระปุกก็ยิ้มถูกใจกับของฝาก
ที่จริงไม่ต้องลำบากซื้อมาฝากก็ได้ แค่มาหาป้าๆ ก็ดีใจแล้วค่ะ ว่าแต่คุณพ่อกับคุณแม่คุณหนูเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหมค่ะ
เจษฎายิ้มหัวเราะด้วยความอารมณ์ดี
ก็สบายดีครับ ผมว่าผมควรจะถามป้ามากกว่า ป้าอยู่ตึกเดียวกัน น่าจะเจอคุณพ่อกับคุณแม่ผมมากกว่าผมเสียอีกนะครับ
จริงๆ แล้วป้าบุญแสวงเมื่อก่อนเคยทำงานอยู่ที่บ้านของเจษฎา เป็นพี่เลี้ยงคอยเลี้ยงเขามาตั้งแต่เขายังแบเบาะ แต่หลังจากที่เขาต้องไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ทำให้ป้าบุญแสวงไม่มีอะไรทำอีกหงอยเหงาลงไปเรื่อยๆ คุณพ่อของเขากลัวว่าป้าบุญแสวงจะเบื่อ เห็นว่าฝีมือในการทำอาหารของป้าแสงค่อนข้างดี จึงสนับสนุนให้เงินมาลงทุนขายของก้อนหนึ่งซึ่งอยู่ที่ใต้ตึกหลังนี้ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่แห่งหนึ่ง
เจษฏาเอามือลูบท้องของตัวเองแล้วบอกกับป้าบุญแสวงว่า
ป้าครับ ผมหิวแล้ว มีอะไรมาให้ผมกินบ้าง ผมหิ้วท้องมารอกินฝีมือป้าโดยเฉพาะเลยนะครับ เอาง่ายๆ ก็ได้
ทุกคนในร้านต่างมองเจษฎากันเป็นตาเดียวกัน เพราะตั้งแต่เขาเข้ามาในร้านป้าบุญแสวงก็หยุดทำอาหารทุกอย่างลงมานั่งคุยกับเขา ทำราวกับว่ามีเพียงสองคนเท่านั้นที่อยู่บริเวณนี้ ทำให้อาหารตามสั่งล่าช้าลงไปอีก
ทศลักษณ์เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดหันไปมองหน้าเพื่อนสาว ซึ่งดูก็รู้ว่าเธอโกรธมาก ถ้าเขาไม่ทำอะไรเลยสักอย่างพิมดาวคงจะต้องระเบิดอารมณ์ออกมาเป็นแน่ จึงรีบพัดกระดาษให้แรงขึ้นพร้อมกับพูดเพื่อให้อารมณ์ของเธอเย็นลง
ใจเย็นๆ นะ เราว่าเดี๋ยวป้าเขาก็คงจะทำให้ เอาอย่างนี้สิ พิมลองนับ 1-100 นะ พอครบ 100 รับรองข้าวต้องมาพอดี
พิมดาวเม้มริมฝีปากไว้แน่นพยายามข่มอารมณ์โกรธให้เย็นลงอย่างยากเย็น หลับตาลงแล้วเริ่มนับ 1,2,3
ไปเรื่อยๆ
ป้าบุญแสวงซึ่งได้ยินว่าเจษฎาหิวข้าว ก็รีบกุลีกุจอทำอาหารจานโปรด นั่นก็คือ ข้าวผัดกระเพราหมูสับใส่ไข่ดาวอย่างคล่องแคล่ว ไม่นานนักป้าบุญแสวงตักใส่จานมาวางลงตรงหน้าเจษฎา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่พิมดาวลืมตาขึ้นมาพอดี หันไปชี้ให้ทศลักษณ์ดูสิ่งที่เกิดขึ้น ทำเหมือนกับเด็กกำลังฟ้องผู้ปกครองเมื่อเห็นคนทำสิ่งที่ผิด
ลักษณ์เราทนไม่ไหวแล้วนะ วันนี้เป็นไงเป็นกัน ข้าวไม่ต้องกินมันแล้ว ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน ทุกคนในร้านนั่งรอมาตั้งนานกว่าจะได้แต่ละโต๊ะ แล้วนายคนนี้เข้ามายังไม่ถึงห้านาทีได้กินแล้ว นายคนนี้ต้องขอให้ป้าเจ้าของร้านลัดคิวให้แน่เลยเพราะเรามากินกันหลายครั้งไม่เคยเห็นป้าทำให้ใครก่อน ถ้าวันนี้ไม่ไปถามให้รู้เรื่อง อย่ามาเรียกเราว่าพิมอีกต่อไป
| จากคุณ |
:
ท้องฟ้าติดปีก
|
| เขียนเมื่อ |
:
17 ก.ค. 52 23:55:21
|
|
|
|
 |