ใบโพธิ์ที่ถูกปลิด
|
|
ตอนเด็กๆ บ้านของผมอยู่ใกล้ต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ใต้ต้นโพธิ์เป็นที่ตั้งของศาลขนาดย่อม ศาลแห่งนี้เป็นที่เคารพของชุมชนในละแวกนี้อย่างมาก จึงมีผู้คนแวะเวียนมาสักการะไม่ขาดสาย เสียงเขย่าเซียมซีที่ดังอยู่เกือบตลอดวัน กลิ่นและควันธูปที่ลอยโขมงทั่วบริเวณรบกวนชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆ ต้นโพธิ์พอสมควร แต่ไม่มีใครกล้าโวยวาย เพราะต่างก็ทราบแก่ใจกันดี ใครขืนโวยวายอาจถึงขั้นถูกอัปเปหิ
ชาวบ้านรอบต้นโพธิ์บ่นกระปอดกระแปดเกี่ยวกับเสียง กลิ่นและควันมากขึ้นทุกวัน แต่สำหรับผมกลับไม่รู้สึกอึดอัดในเรื่องนี้เท่าไร สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์จะเกี่ยวกับใบโพธิ์มากกว่า เพราะต้องคอยกวาดอยู่ทุกวัน มิฉะนั้นใบโพธิ์อาจกองท่วมบ้านได้ภายในเวลาเพียงสองถึงสามวัน
ใบโพธิ์ที่ร่วงลงมานั้นส่วนใหญ่จะเป็นใบสีน้ำตาล
ใบโพธิ์ที่ร่วงลงมามากเป็นอันดับสองก็เป็นใบสีเหลือง
ใบโพธิ์ที่ร่วงลงมาน้อยที่สุดก็คือใบสีเขียว
การที่ต้องสู้รบปรบมืออยู่กับใบโพธิ์อยู่ตลอดทั้งปี ทำให้ผมใส่ใจกับใบโพธิ์โดยไม่รู้ตัว ผมเริ่มมองเห็นความสวยงามของใบโพธิ์ ใบสีน้ำตาลนำมาใช้ประโยชน์ไม่ค่อยได้ ต้องกวาดทิ้งทั้งหมด ส่วนใบสีเหลืองกับสีเขียว ถ้าเราคัดเอาใบที่สมบูรณ์ นำมาทับไว้ในหนังสือ จะนำมาทำเป็นที่คั่นหนังสือหรือให้เป็นของที่ระลึกได้ แต่ถ้าจะให้วิจิตรพิสดารกว่าปกติก็ต้องแช่น้ำไว้สักหนึ่งคืน แล้วค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วรูดเอาเปลือกของใบออก จนเหลือแต่เส้นใยบางๆ จะดูงามตาไปอีกแบบ
หลังจากกลายเป็นนักสะสมใบโพธิ์ ความรำคาญที่ต้องคอยปัดกวาดก็เริ่มกลายเป็นความใส่ใจ พอเห็นใบโพธิ์ล่วงลงมาต้องรีบถลาเข้าไปดูว่าใบสมบูรณ์สวยงามหรือไม่
วันหนึ่ง ความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในสมอง... ชีวิตคนไม่ต่างอะไรกับใบโพธิ์ที่ถูกปลิดจากต้นร่วงลงมาสู่พื้นดิน
ใบโพธิ์สีน้ำตาล เปรียบได้กับคนสูงวัย เหมือนไม้ใกล้ฝั่ง พร้อมที่จะดับสูญได้ทุกเมื่อ
ใบโพธิ์สีเหลือง เปรียบได้กับคนที่เจ็บป่วยด้วยโรคร้าย มีความตายวนเวียนอยู่ไม่ห่าง
ใบโพธิ์สีเขียว เปรียบได้กับคนหนุ่มสาวที่ประสบอุบัติเหตุ สิ้นชีวิตก่อนวัยอันควร
ความรู้ที่ได้จากใบโพธิ์ก็คือ ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงเวลาใดของชีวิต ความตายก็อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เปรียบเสมือนกับใบโพธิ์ที่พร้อมจะร่วงลงพื้นดินได้แม้ยังเป็นใบสีเขียวที่เข้มแข็งอยู่ก็ตาม
อันที่จริง เพียงหายใจเข้าแล้วไม่หายใจออก หายใจออกแล้วไม่หายใจเข้า ความตายก็มาเยือนเราแล้ว ความตายอยู่ไม่ห่างจากเราเลย ขอทุกท่านจงใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท อย่าได้คิดว่า ร่างกายของเรายังแข็งแรง ความตายสำหรับเรายังอยู่อีกไกล ขอให้จดจำพระพุทธดำรัสที่พระพุทธเจ้าทรงประทานในยามปัจฉิมกาลไว้เตือนตนให้ดี
สิ่งทั้งปวงมีความเสื่อมและสิ้นไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด
จากคุณ |
:
อริย์ธัช
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ก.ค. 52 08:04:36
|
|
|
|