ความคิดเห็นที่ 1 |
พิมดาวเดินเปิดประตูรถมานั่งด้านหลังคู่กับเจษฏา เธอเตรียมพร้อมนั่งอ่านรายงานต่างๆ เพื่อที่จะได้รู้ข้อมูลของลูกค้าที่ต้องไปคุยกันในวันนี้ สักพักเจษฏาเงียบเสียงลง เจษฏานอนหลับหัวของเขาโอนไปมาจนกระทั่งซบลงที่บ่าของพิมดาว หน้าของเขาอยู่ใกล้กับเธอมาก พิมดาวทำตัวไม่ถูกในสถานการณ์แบบนี้ เธอยิ่งอายเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นลุงคนขับรถมองมาจากกระจกหลัง พิมดาวตั้งท่าจะปลุกเจษฏาให้ตื่นขึ้นมา ลุงคนขับรถรีบห้ามไม่ให้เธอปลุกเจษฏา
คุณครับอย่าพึ่งปลุกคุณเจษฏาตอนนี้เลย คุณหนูช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับปล่อยให้นอนอย่างนี้ไปก่อนเถอะครับ พอใกล้ถึงแล้วค่อยปลุกให้ตื่น
พิมดาวพยักหน้าตาม ชวนลุงคนขับรถคุย
ลุงค่ะ ลุงชื่ออะไรค่ะ ต่อไปเราคงจะได้พบกันบ่อยๆ หนูชื่อพิมดาว แต่เรียกพิมเฉยๆ ก็ได้ค่ะ หนูมาทำงานเป็นเลขาให้กับคุณเจษฏา
ลุงคนขับรถยิ้มให้กับพิมดาวทางกระจกหลัง
ลุงชื่อสุขครับ ลุงขับรถให้คุณหนูมาตั้งแต่คุณหนูยังตัวเล็กๆ อยู่เลย แต่ว่าลุงว่าเราอย่าเพิ่งคุยกันเลยครับ ปล่อยให้คุณหนูนอนให้เต็มอิ่มดีกว่าครับ
พิมดาวจึงหันมาสนใจกับเอกสารที่อยู่ตรงหน้าตัวเองก้มอ่านอย่างขะมักเขม้น จนกระทั่งใกล้ถึงบริษัทของลูกค้าสถานที่ๆ นัดพบคุยเรื่องงานกัน เธอเขย่าไหล่เขาให้ตื่นขึ้นมา
เจ้านายค่ะตื่นได้แล้วค่ะ
เจษฏาค่อยๆ ลืมตารู้สึกได้ว่าตัวเองซบลงบนไหล่ของพิมดาวมาตลอดทางรีบกระเด้งขึ้นมานั่งตัวตรงทันที ต่างคนต่างทำอะไรไม่ถูก พิมดาวรีบหันหน้าไปอีกทางทำทีเป็นเก็บของด้วยความที่กลัวว่าเขาจะเห็นใบหน้าของตัวเองแดงจากความอาย
พอเจษฏาค่อยๆ ชำเลียงไปมองเห็นหูของพิมดาวแดงก่ำ เขาแอบยิ้มในใจรู้สึกได้ว่าพิมดาวทำตัวน่ารักดีขัดกับการแต่งตัวและท่าทางที่มั่นใจเสียเหลือเกิน พิมดาวพยายามปรับสีหน้าของตัวเองให้เป็นปกติหันไปพูดกับเจษฏา
เจ้านายค่ะลงไปกันเถอะค่ะใกล้จะได้เวลานัดแล้ว
เจษฏาเดินลงมาจากรถ พิมดาวเดินตามหลังพร้อมกับหยิบเอกสารที่สำคัญมาด้วย ทั้งคู่เดินไปที่ลิฟท์กดหมายเลขชั้นที่ต้องการจะขึ้นไป เมื่อเดินเข้าไปในลิฟท์ๆ เลื่อนไปได้ไม่นานก็เกิดค้างและต่อมาไปดับมืดสนิทลง เห็นเพียงไฟสีแดงที่ทำงานขึ้นโดยอัตโนมัติ พิมดาวด้วยความตกใจทิ้งของลงไปกองกับพื้นดีดตัวไปเกาะแขนของเจษฏาทันที
เจ้านายลิฟท์มันค้าง
เจษฏาพยายามพูดปลอบให้พิมดาวคลายกังวล เขารู้ว่าพิมดาวกลัวมากจากที่ตัวเธอสั่นและน้ำเสียงที่แสดงความตกใจ
ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยแล้ว
เจษฏาเดินไปกดที่ปุ่มฉุกเฉินและส่งเสียงออกไปให้คนข้างนอกได้ยิน โดยมีพิมดาวเดินเกาะแขนแน่นตามไปติดๆ
ข้างนอกมีใครอยู่ไหมครับ ลิฟท์มันค้างพวกเราติดอยู่ในลิฟท์ครับ
ยามที่ทำหน้าที่อยู่ใกล้ๆ ได้ยินก็บอกให้เจษฏารอสักครู่ เขาจะไปตามคนมาช่วย จนทั้งหมดเงียบเสียงไป เจษฏาเพ่งมองพิมดาวที่ขณะนี้คนทั้งสองยืนชิดติดกัน จะว่าไปแล้วติดอยู่ในลิฟท์กันสองคนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ
เจษฏาได้กลิ่นหอมอ่อนจากตัวของพิมดาว ในขณะที่พิมดาวไม่รู้เรื่องอะไรมัวแต่กลัวเรื่องลิฟท์ค้างจนลืมไปว่าการที่มายืนใกล้กัน ทำให้หัวใจของอีกฝ่ายเต้นไม่เป็นจังหวะ เวลาผ่านไปได้เกือบห้านาที
คุณเจษเมื่อไหร่เขาจะมาช่วยเราออกไปเสียที
เจษฏาตอบกลับ
คุณก็อย่าพึ่งใจร้อนสิ เขาบอกว่าจะมาช่วยก็ต้องมาสิ อีกไม่นานหรอก
เจษฏายังพูดไม่ทันจบ ยามและพนักงานของบริษัทมาช่วยกันงัดประตูออกมาเริ่มมีแสงเข้ามาในลิฟท์ พิมดาวเห็นว่ามีคนมาช่วยก็รีบแผละออกจากแขนของเจษฏาเขามองตามอย่างเสียดาย พิมดาวก้มลงเก็บของที่หล่นเกลื่อนกราดอยู่กับพื้นเต็มไปหมด ทันใดนั้นประตูลิฟท์เปิดออกมาทันที พิมดาวหันมายิ้มอย่างดีใจให้กับเจษฏา
เจ้านายค่ะประตูเปิดออกแล้ว
เจษฏาขยับเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางแล้วคนทั้งคู่จึงเดินออกมาจากลิฟท์ พิมดาวและเจษฏากล่าวขอบคุณทุกคนที่มาช่วยเหลือ จากนั้นทั้งคู่ต้องเดินขึ้นไปทางบันไดเพราะว่าลิฟท์เสียใช้ไม่ได้ กว่าที่พวกเขาจะเดินมาถึงก็เลยเวลานัดมาเกือบครึ่งชั่วโมง หยุดยืนหอบด้วยความเหนื่อย
พิมดาวเดินเข้าไปแจ้งพนักงานในบริษัทให้ทราบว่าเจษฏามาถึงแล้ว ทั้งสองคนนั่งรออยู่ไม่นานจึงมีคนมาเชิญเข้าไปด้านในเพื่อพบกับลูกค้าที่นัดเอาไว้
เมื่อเดินเข้ามาพบหญิงสาวนั่งทำหน้าไม่สนใจอยู่หน้าห้อง ซึ่งคนที่พามาบอกกับพิมดาวว่าเป็นเลขาของหัถกิจ ลูกค้าที่ต้องเข้าพบในวันนี้ พิมดาวอ่านชื่อของเธอจากป้ายที่ตั้งอยู่ด้านหน้าแล้วแจ้งความประสงค์เรื่องที่ต้องขอเข้าพบหัถกิจ
สวัสดีค่ะคุณนลินี ดิฉันมาจากบริษัทอาทิตย์พรอพเพอตี้ค่ะ นัดกับคุณหัถกิจเอาไว้ค่ะ
| จากคุณ |
:
ท้องฟ้าติดปีก
|
| เขียนเมื่อ |
:
22 ก.ค. 52 21:28:06
|
|
|
|