Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
...นักสืบยังไง ไปโผล่หน้าหนึ่ง...  

“กบ อาทิตย์หน้าจะมีงานสืบนะ เตรียมตัวให้พร้อม” พี่จั๊กบอกผมในเช้าวันหนึ่ง หลังจากที่ผมรบเร้าขอให้แกรับงานสืบสักทีเพราะอยากมีรายได้เพิ่มที่นอกเหนือจากงานประจำที่นับวันจะไม่พอกินเข้าไปทุกวัน หลังจากรอได้สักพัก เช้าวันนี้พี่จั๊กก็มีข่าวดี “แล้วมีใครบ้างครับพี่” “ก็มีไอ้โน้ต ไอ้นอร์ กบ พี่ 4 คน” “แล้วน้าเหน่ง กับพี่บีหล่ะ”ผมถามถึงเพื่อนพี่จั๊กอีกสองคนที่เคยร่วมทำงานสืบอยู่ด้วยกันบ่อยๆ “เฮ้ย ไอ้สองตัวนั่น เอาไว้ก่อนเหอะ เราไม่มีคนจริงๆ ค่อยไปรบกวนพวกมัน ” พี่จั๊กตัดบทพร้อมประชดประชันในคำพูดเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะวีรกรรมหลายอย่างของน้าเหน่ง และพี่บี ที่สร้างไว้ให้นักสืบรุ่นหลังได้จดจำว่า จงลืมบทบัญญัติของนักสืบที่มีอยู่ในสากลโลกนี้ให้หมด เพราะนักสืบเอกชนที่แท้จริงแล้ว จะต้องลงหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ พร้อมกับโชว์รูปตัวเองหราให้คนรู้ไปทั่วกับข้อหาสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นที่ตำรวจตั้งให้ คนแรกที่ผมขอกล่าวถึงก็เป็นหนึ่งในผู้ฉีกกฎบัญญัติของการเป็นนักสืบแทบหมดสิ้น คือ น้าเหน่ง เป็นชายกำยำ ผิวดำแดง หน้าตาบ่งบอกว่าปะยี่ห้อนักเลงอยู่กลางหน้าผาก ไหนจะรอยแผลบนใบหน้า ที่วันไหนพอแกเมาได้ที่แล้วแกคงนึกครึ้มอกครึ้มใจอยากรู้ว่าถนนกับหน้าแกอย่างไหนจะทนกว่ากัน เพราะต่อให้เมาแค่ไหนแกก็ยังดึงดันจะขับรถกลับไปหาเมียที่บ้าน รอยแล้วรอยเล่าที่ถนนฝากไว้ให้เหมือนจะย้ำให้แกฉุกคิดว่า ถึงหน้าเมิงจะหนาแค่ไหนก็เป็นเสร็จทุกครั้งที่จะมาวัดกะกรู ในวัยหนุ่มน้าเหน่งเป็นนักเลงคุมถนนสีลม สมัยรุ่นๆ ถ้าเอ่ยชื่อน้าเหน่งวัยรุ่นแถบนั้นต้องรู้จักเป็นอย่างดี เมื่ออายุเริ่มมากขึ้นพร้อมกับจำนวนแผลบนใบหน้า แกก็ผันตัวเองมาปล่อยเงินกู้แถบแฮปปี้แลนด์โดยมีนายทุนเป็นนายตำรวจใหญ่ นั่นเป็นเหตุให้น้าเหน่งกับพี่จั๊กรู้จักกัน เพราะพี่จั๊กมีอาชีพสำรองนอกเหนือจากงานสืบแล้วคือขายเสื้อผ้าตามตลาดเปิดท้าย ความที่น้าเหน่งเป็นคนใจนักเลง พอได้มาเป็นเพื่อนกับพี่จั๊ก รู้จักนิสัยใจคอและสนิทสนมกันมากขึ้น มีหรือคนอย่างน้าเหน่งจะรู้จักคำว่า ปฏิเสธเพื่อน เมื่อพี่จั๊กเอ่ยปากว่าอยากได้เงินเท่าไหร่ น้าเหน่งก็ไม่เคยปฏิเสธ สุดท้ายน้าเหน่งก็ต้องกระเด็นออกจากงานเพราะเงินที่แกให้พี่จั๊กไปนั้นไม่ได้ต้นหรือดอกคืนกลับมาเลย “คุณจั๊ก หางานให้ผมทำหน่อย” น้าเหน่งเอ่ยปาก พี่จั๊กจึงแนะนำให้น้าเหน่งรู้จักกับพี่บีเพื่อหวังว่าจะให้มาช่วยในงานสืบที่พี่บีเปิดสำนักงานอยู่ และนั่นคงเป็นบทแรกของมนุษย์ที่จำกัดคำว่า ฝนตกขี้หมูไหลขึ้นมาบนโลกอย่างแท้จริง ฉายานักสืบหน้าหนึ่งก็มาจากวีรกรรมของน้าเหน่งกับพี่บีทำงานร่วมกันนั่นเอง หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกันแล้ว ในวันแรกพี่จั๊กเล่าว่า น้าเหน่งคุยกับพี่บีอย่างสุภาพอ่อนโยน กริยาท่าทางในวันนั้นเหมือนไม่ใช่น้าเหน่งเลย ครับผม ได้ครับ และเรียก คุณบีทุกคำที่เอ่ยชื่อพี่บี แต่เมื่อทั้งสองทำความรู้จักกันในวันแรกตามแบบฉบับของคนที่เกิดมาคู่กันแล้ว ความสนิทสนมคุ้นเคยยังกับว่าสองคนนี้รู้จักกันมาเป็นสิบๆ ปีชนิดมองตาก็รู้ใจ เมื่อพี่บีเอ่ยปากชวนน้าเหน่งไปนั่งกินเหล้าด้วยกัน น้าเหน่งตอบรับด้วยความเกรงใจ แต่ในแวบหนึ่งที่พี่บีกระพริบตานั้น พี่จั๊กเห็นน้าเหน่งเลียมุมปากไป 3 รอบ (เอ..หรือพี่จั๊กจะตาฝาดไป) เมื่อสั่งเหล้าและกับแกล้มมากินจนอิ่มหนำกันทุกฝ่าย พี่จั๊กก็ขอตัวกลับบ้าน เพราะแกไม่ทานเหล้าทานเบียร์หรือแอลกอฮอล์ทุกประเภท แต่ก็นั่งกับเพื่อนได้ทั้งคืน ผมเคยถามแกว่าทำไมไม่กินเหล้า ก็ได้คำตอบว่า ไม่มีใครอยากเห็นพี่ตอนเมาเหรอก ทุกคนจึงไม่เคยคะยั้นคะยอให้แกดื่มเหล้าอีกนับจากนั้น

จากคุณ : LovePeace
เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 17:01:53 A:124.120.197.148 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com