ไอ้เกลอเก่า
|
|
นานมาแล้วที่ไม่ได้กลับไปเยี่ยมไอ้เกลอเก่าจนเกือบจะลืมว่าเราเคยเล่นสนุกมาด้วยกัน เรียนรู้ชีวิตมาด้วยกัน ผ่านร้อนหนาวเศร้าสุขกับร้อยแปดพันเก้าเรื่องราวต่างๆมามากมาย นี่ก็ผ่านมายี่สิบกว่าปี จากเด็กชายตัวเล็กมอมแมมที่ใช้เวลาตลอดบ่ายนั่งสังเกตการณ์ การใช้ชีวิตประจำวัน ของสรรพชีวิตต่างๆในป่าชายเลน อยู่บนรากต้นโกงกาง (ประมาณช่วงนั้นยังไม่มีรายการแบบเรียลลิตี้โชว์) จนเติบใหญ่ไม่มอมแมมแล้ว ออกจะสำออย...เฮ้ย สำอาง ค่อนไปทางลืมกำพืดเก่าอย่างไม่ละอาย มันเป็นปากคลองเล็กๆกว้างไม่น่าจะเกินห้าสิบเมตร จนกระทั่งทุกวันนี้ผมยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามันเริ่มต้นเดินทางมาจากไหน แต่ให้เหมือนพรรคพวกของมันที่สุดท้ายมักจะมาจบที่ทะเล ไอ้เกลอเก่าผมก็เช่นกัน ไล่เรื่อยมาตามริมคลองซึ่งเป็นที่อยู่ของสรรพสัตว์นานาชนิด แต่ที่ออกมาโชว์ตัวบ่อยที่สุดเห็นจะไม่พ้น ไอ้ก้ามดาบ ปลาตีน เสฉวน ปูแสม หอยต่างๆ แม่เพรียง ปลากระทุงเหว เสือพ่นน้ำ ฯลฯ วันดีคืนดีก็มีงูสิงห์ ลิงแสม กับหิ่งห้อยออกมาแจม ทั้งหมดที่กล่าวมาอาศัยอยู่ร่วมกันใต้ร่มโกงกางมานาน..นานจนพวกมันไม่เคยเชื่อว่าจะมีวันนี้ ที่สุดทางปากคลองฝั่งซ้ายเป็นหาดทรายขาวยาวเหยียดสุดสายตา ผักบุ้งทะเลแข่งกันชูดอกสีม่วงครามสลอนตัดกับใบเขียวเข้ม ทอดยอดยาวปกคลุมเนินทรายริมหาดไว้ทั่ว ลึกขึ้นไปบนชายฝั่ง สนใหญ่ยืนต้นเรียงกันเป็นระเบียบอย่างไม่ตั้งใจ ใต้ดงสนนี้เองกระตอบหลังคามุงจากหลังเล็กๆสามสี่หลังได้อาศัยกำบังตัวจากลมแรงในวันที่ท้องทะเลเต็มไปด้วยคลื่นหัวแตกและท้องฟ้าไม่มีที่ว่างให้แสงแดดแทรกตัวผ่านลงมา
ให้เหมือนสรรพชีวิตใต้ต้นโกงกางยิ่งนัก ที่ทุกวันนี้ไม่มีทั้งต้นสนและโกงกางให้ใครหน้าไหนได้อาศัยร่มเงาอีกต่อไป ใครๆก็เรียกมันว่าคลองแห้ง ทำไมนะเหรอ ตอนรู้จักกันแรกๆผมก็สงสัยอยู่เหมือนกัน น้ำออกจะเต็มไม่เห็นจะแห้งแล้งตรงไหน มาถึงบางอ้อตอนน้ำลง เนื่องด้วยคลองนี้มันไหลลงทะเล ตอนน้ำทะเลขึ้นน้ำในคลองจะไหลออกไปไม่ได้ทำให้เอ่อขึ้นท่วมป่าโกงกางริมคลองทั้งสองฝั่ง ครั้นได้เวลาน้ำทะเลลงน้ำในคลองจึงไหลลงทะเลไปหมดสองฝั่งคลองกลับมาแห้งผากอีกครั้งเป็นวัฏจักรเช่นนี้มานาน ด้วยความที่ปากคลองเป็นแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์บรรดาสัตว์ทะเลมากหน้าหลายตาต่างพากันแวะเวียนมาเก็บกินกันตามฤดูกาล และนั่นทำให้ผมได้มีโอกาสเล่นบทนักสำรวจ เดินตรวจตัวประหลาดทุกสัญชาติที่มาประสพชะตากรรมติดแห้งอยู่ในแอ่งตามชายหาดตอนน้ำลง ไม่นานมานี้ได้ยินข่าวมาว่าไอ้เกลอเก่าคงไม่รอด ความจริงมันโคม่ามานานแล้ว ก็ได้แต่ทำใจไม่มีอะไรในโลกไม่มีวันตาย ไอ้เกลอคงเช่นกัน หลังจากนากุ้งกว่าพันไร่ที่เป็นเหมือนมะเร็งร้าย ลุกลามกัดกินพื้นที่ริมสองฝั่งคลองอย่างไม่ปราณี ต่อมาถูกทิ้งร้างปล่อยให้ขี้เกลือขึ้นขาวเกรอะคันนาอย่างไร้ค่า
ริมชายหาดคอนโดมิเนียมยุคฟองสบู่กำลังโป่งพองเต็มที่ยืนตระหง่านร้างผู้อยู่อาศัย แต่นั่นมันหลายปีมาแล้ว ต่างจากคราวนี้ที่เค้าจะตัดถนนเลียบไปกับชายหาด ได้กลับไปดูใจไอ้เกลอเก่าอีกครั้งก็เหมือนจะสายไป คลองแห้งถูกถนนตัดผ่านเรียบร้อยกรมโยธา ถนนมาพร้อมกับประตูน้ำขนาดย่อม นั่นทำให้คลองไม่แห้งอีกต่อไป เช่นเดียวกับไม่มีใครหน้าไหนสามารถเก็บเกี่ยวเอาความอุดมสมบูรณ์จากมันได้อีกต่อไปเช่นกัน ถนนไม่เพียงตัดผ่านคลองแห้งหากแต่ยังตัดความสัมพันธ์ระหว่างคลองกับดวงจันทร์ รวมถึงความสัมพันธ์ที่คลองมีกับสัตว์ทะเลต่างๆด้วย น่าเศร้าใจที่วิศวกรเมืองไทยเสียงดังกว่านักนิเวศวิทยาเสมอ ผักบุ้งทะเลหายหน้าไปจากริมหาดนานมาแล้วเหมือนมันจะรู้ตัวว่าหมดความหมาย ก็ไม่มีแมงกะพรุนเหลือในทะเลแล้วนี่ เช่นเดียวกับเม่น[^_^]หมาและปลาตุ๊กก่าต่างพากันหายหน้าตามกันไปนัยว่าสนองนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด เปลือกหอยต่างๆก็เช่นเดียวกันพวกมันคงไม่อยากทำตัวให้เป็นที่ระคายเท้านักท่องเที่ยวชาวกรุงส้นเท้าบางกระเป๋าหนัก จึงพากันหายหน้าหายตาไปหมด มันจะสนุกอะไรที่จะเที่ยวเล่นอยู่ในทะเลซึ่งไม่มีชีวิต.....หรือว่าไม่เคยเห็นน้ำเกลือ จริงๆแล้วผมก็แค่จะแวะมาที่ที่สอนให้ผมได้รู้จักชีวิตไม่เพียงแต่ชีวิตคน สอนให้รู้จักการดำรงชีวิตไม่เพียงแค่การดำรงชีวิตของมนุษย์ สอนให้รู้จักกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและการใช้ชีวิตร่วมกับมัน
ไอ้เกลอเก่ามันด่วนลาผมไปแล้วจริงๆ ไม่นานเพื่อนๆของมันคงทยอยตามๆกันไป ชาวบ้านแถวนี้ส่วนใหญ่คงลืมคลองแห้งได้ในเวลาไม่นาน แต่ ณ ที่ใดที่หนึ่งที่เวลาหยุดนิ่ง น้ำในคลองยังคงไหลลงและเอ่อท้นขึ้นอย่างมีชีวิต ภายในใจเด็กชายตัวเล็กทุกครั้งที่ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่ง บางทีนั่นอาจเป็นความหมายที่แท้จริงของความทรงจำ
จากคุณ |
:
Angsarano
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ค. 52 13:00:51
|
|
|
|