ความคิดเห็นที่ 1 |
บทที่ 5
ผมเรียกคุณมาวันนี้เพื่อจะคุยกันเรื่องนายเคน นายแพทย์ประสพชัยพูดขึ้นทันทีโดยไม่มีอารัมภบท เมื่อหนานคำเข้ามาหาเขาในห้องแพทย์ ห่างจากครั้งก่อนที่มาโรงพยาบาลประมาณหนึ่งเดือน
ผลการสแกนสมองของเขาออกมาแล้ว ถึงจะได้รับความกระทบกระเทือนบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เรายังไม่รู้แน่ว่าทำไมเขาถึงยังจำอะไรไม่ได้ อาจเป็นกลไกทางจิตก็ได้ ที่ปิดกั้นเขาไม่ให้จำเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นได้
นายแพทย์หนุ่มมีท่าทีไตร่ตรอง ในขณะที่หนานคำทำหน้าไม่เข้าใจ แล้วต้องทำยังไงต่อไปครับคุณหมอ หนานคำซัก
คงต้องใช้เวลาสักระยะอย่างที่ผมบอกนั่นแหละ เขาอาจจะจำอะไรไม่ได้ชั่วคราวเท่านั้น ร่างกายของคนเรามีกลไกฟื้นฟูหรือปกป้องตัวเอง บางคนที่มีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง ก็อาจจะจำสิ่งร้ายๆที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะจิตใจจะบล้อคมันเอาไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด มันมีหลายกรณี แต่ในกรณีของนายเคนนี่ ผมมั่นใจว่าอาการของเขาจะค่อยๆดีขึ้น แล้วเขาก็จะจำทุกอย่างได้ในไม่ช้า แต่ก็ขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละคนด้วย นายแพทย์หนุ่มอธิบาย
ตอนนี้เขาเริ่มจำชื่อจำบ้านเขาได้บ้างหรือยังครับ มีญาติมาติดต่อบ้างไหม
เขาว่าเขายังจำไม่ได้นะ ญาติก็ไม่เห็นมีมาติดต่อนี่
แล้วเราจะทำยังไงกับเขาดีล่ะครับ คุณหมอ หนานคำรู้สึกกลุ้มใจ คุณหมอยังต้องรักษาเขาต่ออีกหรือเปล่า
ร่างกายเขาหายเป็นปกติแล้ว แต่คงต้องพักฟื้นต่ออีกสักพัก ส่วนความจำก็น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ให้เวลาเขาหน่อยเถอะ
เขาจะต้องอยู่โรงพยาบาลต่ออีกหรือครับ หนานคำถาม
ประสพชัยโบกมือ ไม่ต้องแล้ว ไม่จำเป็น จะได้เอาเตียงให้คนไข้อื่นด้วย ถ้ายังไงหนานคำก็พาเขากลับไปเวียงพุกามด้วยกันวันนี้เลย
หนานคำทำสีหน้าตกใจ โอ๊ะ..ผมต้องพาเขากลับไปด้วยหรือครับนี่ จะดีหรือครับ ความจริงพวกเราก็ไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรกับเขาเลย ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า เจ้านายผมจะว่ายังไงล่ะนี่ เขาโอดครวญ
นายแพทย์หนุ่มนิ่งคิดนิดหนึ่งแล้วปลอบว่า ก็ให้เขาอาศัยอยู่ที่นั่นสักพักหนึ่งพอให้ฟื้นตัว ถ้าเขายังไม่มีที่ไป ก็หางานอะไรให้เขาทำก็ได้นี่นา ที่โน่นก็มีงานให้ทำเยอะแยะไม่ใช่หรือ
โธ่! คุณหมอ เขาเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ ถ้าเขาเกิดเป็นคนร้ายล่ะครับ เรามิแย่หรือ หนานคำยังกังวลไม่เลิก เพราะถึงเวียงพุกาม จะมีบริวารที่รับใช้อยู่บนตึกและคนงานในไร่และโรงบ่มจำนวนหลายสิบคน แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่กันมานานเกินสิบปี ทั้งนี้เพราะคุณดนัยมักจะเลี้ยงทั้งครอบครัว ตั้งแต่รุ่นแรกๆที่มาช่วยกันบุกเบิก ส่วนใหญ่จึงไว้ใจได้ มีเด็กหนุ่มๆที่เพิ่งมาอยู่บ้างเหมือนกัน แต่คนเหล่านี้ก็มักเป็นคนที่บริวารเก่าๆของคุณดนัยพามาทั้งสิ้น จึงไม่มีปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
เท่าที่ดูทั่วๆไป ผมว่าเขาคงไม่ใช่คนร้ายหนีตำรวจหรือหนีคดีมาหรอกน่า หนานคำก็ช่วยดูๆเขาไปก่อนก็แล้วกัน ถ้าเห็นไม่ชอบมาพากล ก็ให้เขาออกจากเวียงพุกามไปเสีย เมื่อเห็นความวิตกของหนานคำ นายแพทย์หนุ่มจึงเลิกล้มความคิดที่จะบอกหนานคำว่า ตามร่างกายที่อยู่ในร่มผ้าของชายหนุ่มผู้นั้น มีรอยแผลเป็นที่เกิดจากกระสุนปืนและอาวุธมีคมอยู่หลายแห่ง ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าคนที่ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ตอนที่ยังอยู่ที่เวียงพุกามจะสังเกตเห็นหรือไม่ นอกจากนี้ ตอนตรวจร่างกายของชายผู้นั้นโดยละเอียด เมื่อแรกมาถึงโรงพยาบาล นายแพทย์หนุ่มพบว่าข้อมือทั้งสองข้างของเขา มีรอยเหมือนเคยถูกใส่กุญแจมือ รอยนั้นจางลงไปมากแล้ว จากการชะล้างของกระแสน้ำและระยะเวลาที่แช่อยู่ในน้ำ แต่ก็ยังทิ้งร่องรอยไว้อยู่ดี
ประสพชัยสันนิษฐานว่า ชายนิรนามผู้นี้คงจะถูกจับมัดมือไพล่หลังแล้วใส่กุญแจมือ หลังจากทำร้ายเขาจนหมดสติคนร้ายคงจะนำเขา ไปโยนทิ้งน้ำจากที่ใดที่หนึ่ง ในเขตป่าเปลี่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากเวียงพุกามนัก ก่อนจะโยนเขาลงไปในลำธาร คงจะได้เอากุญแจมือออกแล้ว เพื่ออำพรางหลักฐานให้ดูประหนึ่งว่าเขาจมน้ำตายเอง นายแพทย์หนุ่มกลัวว่าถ้าเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ออกไป จะยิ่งทำให้หนานคำวิตกมากยิ่งขึ้น
นี่ผมก็ถ่ายรูปเขาเอาไว้แล้ว ว่าจะเอาติดบอร์ดโรงพยาบาลประกาศหาญาติ ถ้ามีใครติดต่อมาผมก็จะแจ้งไปที่คุณก็แล้วกัน ตอนนี้ก็ช่วยๆกันไปก่อน ส่วนเรื่องประวัติอาชญากรรม ผมกำลังขอให้ผู้กองชาตรีที่กองกำกับฯ ช่วยอยู่ แต่มันยากตรงที่เราไม่รู้ชื่อจริงของเขา อาจจะต้องใช้วิธีตรวจสอบลายนิ้วมือ ผมจะลองคุยกับผู้กองดูอีกที หนานคำก็รายงานคุณดนัยให้ทราบตามนี้ก็แล้วกัน
กล่าวจบนายแพทย์ประสพชัยก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ไปเถอะ เคนคอยอยู่แล้วที่หน้าตึก
คนทั้งสองออกจากห้องแล้วเลี้ยวซ้าย ผ่านบริเวณที่จัดไว้ให้คนไข้นั่งรอเข้ารับการตรวจจากแพทย์ ในห้องตรวจเล็กๆที่เรียงรายกันอยู่หลายห้อง ลงบันไดสองสามขั้นที่นำไปสู่ลานปูนหน้าตึก เคนนั่งรออยู่แล้วบนม้าหินยาวที่อยู่ตรงกันข้ามกับลานนี้ ข้างตัวเขามีถุงกระดาษขนาดใหญ่มีหูหิ้ว ซึ่งมีของบรรจุอยู่จนโป่งออกมา เมื่อเดินใกล้เข้าไปหนานคำสังเกตว่า ชายแปลกหน้าผู้นั้นดูแปลกไปจากวันแรกที่เห็น และแม้แต่วันที่เขาเข้าไปเยี่ยมถึงห้องคนไข้ ตอนแรกหนานคำคิดว่า คงเป็นเพราะเสื้อผ้าที่สวมอยู่ ชายหนุ่มผู้นั้นอยู่ในเสื้อเชิร์ตแขนยาวสีขาว พับแขนขึ้นมาถึงข้อศอกและกางเกงขายาวสีดำ ซึ่งคงจะเป็นเสื้อผ้าที่นายแพทย์ประสพชัยจัดหามาให้ หรือได้รับบริจาคมา แม้เสื้อกางเกงชุดนั้นจะดูสะอาดหมดจด แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นของใช้แล้วและไม่พอดีกับขนาดตัวของเขา อาจเป็นท่านั่งกอด อกหลังตรง ดวงหน้าก้มต่ำตาจ้องนิ่งไปที่ปลายเท้า ที่ทอดยาวออกไปและไขว้กันอยู่ก็เป็นได้
ประสพชัยร้องเรียกชื่อเขาสองสามครั้งและเดินเข้าไปจนถึงตัว เคนจึงเงยหน้าขึ้น พร้อมกับชักเท้ากลับเข้าเข้าหาตัว คลายมือที่กอดอกอยู่ออก เป็นตอนนั้นเองที่หนานคำตระหนักว่า ที่เขาเห็นชายหนุ่มผู้นั้นดูแปลกตาไปไม่ใช่เพราะเสื้อผ้า แต่เป็นอะไรบางอย่างในลักษณะท่าทีของเขา ที่โดดเด่นออกมาจนสะดุดตา หน้าคมคายที่ขณะนี้ปราศจากหนวดเครารกรุงรัง ดูมีสง่าราศี ผิดแผกแตกต่างไปจากชายนิรนาม คนที่ถูกหามขึ้นไปนอนแน่นิ่งเหมือนตายอยู่บนตั่งใหญ่ ในตึกหน้าของเวียงพุกาม เมื่อประมาณสองเดือนที่ผ่านมา สีหน้าเฉยเมยของเขาดูสุภาพ แต่แววตาที่แลมาสบตาของหนานคำขณะนี้ช่างขรึมเศร้าและอ้างว้าง
เคน! หนานคำมารับแล้วละ ไปพักที่เวียงพุกามก่อนนะ อย่าเพิ่งไปทำอะไรที่หนักแรงล่ะ นายยังต้องพักฟื้นอีกสักพัก เรื่องญาติไม่ต้องห่วง ทางเราจะช่วยสืบหาให้ เรื่องที่นายยังจำอะไรไม่ได้น่ะ ก็ไม่ต้องกังวลมากนัก มันคงจะดีขึ้นเรื่อยๆแหละ ว่างๆฉันจะเข้าไปเยี่ยม ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกหนานคำก็แล้วกัน
นายแพทย์ประสพชัยสั่งเสียเสร็จก็ตบไหล่เคน พยักหน้ากับหนานคำ แล้วเดินกลับขึ้นตึกไป
ไปกันเถอะ หนานคำกล่าวกับเคน
เมื่อชายหนุ่มคนนั้น หยิบถุงกระดาษข้างตัวมาถือแล้วลุกขึ้นยืน หนานคำก็ได้เห็นเป็นครั้งแรกว่าเขาสูงมาก สูงกว่าตัวเขาเองซึ่งสูงประมาณ 168 ซ.ม. เขากะคร่าวๆว่าเคนคงสูงไม่ต่ำกว่า 180 ซ.ม. ท่ายืนตัวตรงอกผายไหล่ผึ่งโดยไม่รู้ตัว ซึ่งดูเป็นธรรมชาติเฉพาะตัวของเขานั้น สะกิดใจหนานคำขึ้นมาครามครัน เขาไม่รู้ว่าเคนเป็นใครมาจากไหน หรือมีจุด ประสงค์อะไร แต่ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี้ มีอะไรบางอย่างที่ทำให้หนานคำวางตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะปฏิบัติต่อคนแปลกหน้าผู้นี้อย่างไร จะกดเขาลงไปเท่ากับพวกลูกน้องก็รู้สึกขัดๆ จะยกย่องเขาเท่าพวกแขกที่มาเยือนเวียงพุกามก็รู้สึกแปลกๆ
แต่ในที่สุดหนานคำก็ตัดสินใจว่า ไม่ว่าเคนจะเป็นใครมาจากไหน แต่ตราบที่เขายังไม่สามารถ แสดงสถานภาพที่แท้จริงของเขาออกมาได้ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือตราบเท่าที่เขายังต้องพึ่งพาอาศัยเวียงพุกามอยู่ ในกรณีที่คุณดนัยตกลงที่จะให้งานเขาทำ ตามคำขอร้องของนายแพทย์ประสพชัย เขาก็จะต้องอยู่ในฐานะคนงานหรือลูกจ้างคนหนึ่งเท่านั้น เมื่อยินยอมรับเงื่อนไขของการเป็นลูกจ้าง เขาก็ต้องปฏิบัติตนและได้รับการปฏิบัติต่อ เหมือนลูกจ้างคนอื่นๆในเวียงพุกามโดยไม่มีข้อยกเว้น
| จากคุณ |
:
ดอยสะเก็ด
|
| เขียนเมื่อ |
:
26 ก.ค. 52 11:24:12
|
|
|
|