Return of the Angel : นางฟ้าหลากสี บทนำ
|
|
รถเก๋งสีขาวรุ่นกลางเก่ากลางใหม่ แล่นมาจอดเทียบหน้าซุ้มเฟื่องฟ้าสีขาวหม่นเพราะปกคลุมด้วยฝุ่น รั้วที่สร้างด้วยอิฐบล็อกบางแห่งแตกหัก หญ้าแพรก หญ้าสาบเสือขึ้นรก ไม่ต่างจากตัวบ้านสองชั้นสีซีด ประตู กระจกหน้าต่างล้วนมีฝุ่นเกาะ ราวกับว่าเจ้าของบ้านไม่เคยขัดถูดูแล ต้นไม้ข้างบ้านยืนต้นหงอยเหงา บรรยากาศชวนวังเวง
ภาพนั้นทำให้ปัญชยาย่นคิ้ว หล่อนก้าวลงจากรถ ก่อนหันมองเพื่อนสาวร่างเล็กผอมบาง ที่ก้าวลงจากประตูรถอีกด้าน
นิดแน่ใจเหรอ ว่านี่บ้านของพีชน่ะ หญิงสาวเอ่ยถาม
นิดาพยักหน้ามั่นใจ ขณะหยีตามองฝ่าม่านแดดยามบ่ายเข้าไป รกยังกับบ้านนี้ไม่มีคนอยู่มานานใช่ไหมล่ะ แต่ไม่ผิดหรอก พีชอยู่ที่นี่จริง ๆ
ปัญชยานึกภาพเพื่อนสาวชื่อพีช หรือพิชาวดี ผู้มีผิวขาวใส เรือนร่างเพรียวบาง ที่มักแต่งเนื้อแต่งตัวสวยงามตามแฟชั่น มักตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใคร โดยเฉพาะผู้ชาย...แล้วคนสวยคนตามสมัยอย่างเธอ จะปล่อยให้บ้านช่องสกปรกรกรุงรังอย่างนี้หรือ
แต่ไม่แน่...ปัญชยาคิดในใจ หล่อนไม่พบเจอฝ่ายนั้นเกือบห้าปี ตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี บางทีเพื่อนสาวคนสวยอาจเปลี่ยนแปลงไปในทางที่หล่อนไม่ทราบได้
พีชไม่เคยย้ายไปไหน ตั้งแต่ทำงานที่สำนักงานเขตจนบัดนี้ พีชก็อยู่บ้านหลังนี้กับลูกชายมาตลอด
นิดาอธิบาย นั่นยิ่งทำให้คนฟังสงสัยหนัก แล้วเวลานิดมาหาพีช ก็เห็นสภาพบ้านเป็นแบบนี้อยู่แล้วเหรอ
ใบหน้าคล้ำตอบของนิดานิ่งขรึม ทำท่าคิด ก่อนยิ้มเขิน ๆ แหะ ๆ ไม่หรอก เราเองก็ไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว ครั้งล่าสุดที่มาคือเมื่อปีกลาย ช่วงกลางเดือนพฤษภา เรามาอบรมที่สำนักงานเขต แล้วโทร.หาพีช พีชเลยชวนมาค้าง แต่เรามากับเพื่อน ๆ ครูด้วยกันอีกหลายคน เลยไม่รบกวน แต่แวะมาเยี่ยมน้องภูมิเฉย ๆ แต่ตอนนั้นบ้านยังไม่โทรมขนาดนี้
น้องภูมิ... ปัญชยาพึมพำ ลูกของพีชเหรอ
นิดาพยักหน้า ใช่จ้ะ น้องภูมิ...ลูกชาย...อายุหกขวบแล้วมั้ง
อีกฝ่ายนิ่ง ดวงตากลมโตตวัดมองไปยังตัวบ้านอีกครั้ง เหมือนไม่มีคนอยู่
นั่นสิ เดี๋ยวถามคนข้างบ้านดีกว่า
นิดาว่า ก้าวสวบ ๆ ผ่านพงหญ้ารกไปยังรั้วบ้านข้าง ๆ ซึ่งมีรั้วกระถินรายรอบ สนามหญ้าเรียบเตียน บรรยากาศร่มรื่นผิดกับบ้านของพิชาวดีลิบลับ
หญิงวัยราวห้าสิบในชุดเสื้อคอกระเช้าและผ้าถุงสีเข้ม เดินออกมาจากตัวบ้านไม้สองชั้น เมื่อนิดาสอบถาม หญิงคนดังกล่าวก็ตอบมาเป็นชุดด้วยเสียงอันดังว่า
เขาไม่อยู่หรอก ไปฮ่องกงหรืออะไรนี่แหละ ไปหลายวันแล้ว ไปกับผู้ชาย ทิ้งลูกไว้ในบ้านนั่นน่ะ
ทั้งนิดาและปัญชยาอ้าปากค้าง นิดาร้องว่า อะไรนะคะ น้องภูมิอยู่ในบ้านเหรอคะ
ก็ใช่น่ะสิ หญิงกลางคนใส่อารมณ์ เป็นแม่ประสาอะไร ทิ้งลูกตัวเล็ก ๆ ไว้แล้วไปเที่ยวกับผู้ชาย ไม่ใช่ผัวคนที่เคยมาค้างด้วยนะคุณ เขาว่าเป็นเจ้าของเต็นท์รถในตลาด หอบกระเป๋าไปกับเขา ไม่ดูดำดูดีลูกเต้าเลย เด็กเพิ่งจะไม่กี่ขวบ หุงหาอาหารเป็นเสียที่ไหน วันแรก ๆ ป้าไม่รู้ว่าแกอยู่ในบ้าน มาวันที่สองหรือสามนี่แหละ แกมาเรียกขอข้าว หิวจนผอมโซ...
นิดายังยืนตัวแข็งตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน หากปัญชยาสาวเท้าไปยังตัวบ้านโดยไม่รอฟังให้จบ
ประตูไม้หน้าบ้านเปิดออกง่ายดายเพราะไม่ได้ล็อก สภาพภายในบ้านทำให้หญิงสาวนิ่วหน้า ชุดรับแขก ทีวีสีจอแบนขนาดย่อม โต๊ะ เก้าอี้ ล้วนมีฝุ่นเกาะหนา คราบอาหารหรือบางอย่างแห้งกรังบนพื้น ปัญชยาถอดรองเท้า ย่ำลงไปบนพื้นสกปรก เยี่ยมหน้ามองห้องด้านหลังซึ่งเป็นห้องน้ำและครัวเล็ก ๆ มันมีสภาพไม่ต่างจากห้องข้างหน้า ดีหน่อยตรงที่ในอ่างล้างจานไม่มีจานชามกองสุมพูนอ่าง
กลิ่นอับแปลก ๆ ทำให้ต้องย่นจมูก ร่างบางถอยออกมา ก่อนเงยหน้ามองบันไดที่ทอดสู่ชั้นบน
ในนี้มีเด็ก...น้องภูมิ ลูกชายของพิชาวดีอยู่ในบ้านหลังนี้ อยู่เพียงลำพังมาหลายวัน...
ใจหล่อนเต้นแรง เมื่อเหยียบย่างขั้นบันไดซึ่งลั่นออดแอด บ่งบอกอายุของตัวบ้าน ปัญชยาสับสนปนสงสัย พิชาวดี หญิงสาวผู้งดงาม แต่งตัวสะอาดเนี้ยบนำแฟชั่น จะอาศัยอยู่ในบ้านค่อนข้างเก่าโทรมหลังนี้จริง ๆ หรือ...
พิชาวดีผู้มักแสยะยิ้มยามถูกมองด้วยความสนอกสนใจ ผู้มีความทะเยอทะยานเกินเพื่อนผู้หญิงวัยเดียวกัน จะยอมอยู่บ้านเก่า ๆ หลังนี้...ไม่อยากจะเชื่อ
เมื่อเดินขึ้นถึงชั้นบน สายลมยามบ่ายก็พัดเข้ามาทางระเบียงสุดทางเดิน ซึ่งมีประตูเหล็กดัดโปร่ง ๆ ปิดอยู่ มองออกไปเห็นวิวเขียว ๆ ปนความแห้งแล้งของฤดูร้อน
เบื้องหน้า ทั้งซ้ายและขวาเป็นห้องซึ่งปิดประตูเงียบเชียบ ปัญชยาเลือกห้องทางขวา หากพอเปิดประตูออกก็พบความว่างเปล่า มีเพียงตู้หลังใหญ่มุมห้อง บนตู้มีข้าวของกระจุกกระจิก และหนังสือพิมพ์เก่า ๆ สองสามฉบับ หน้าต่างปิดทึบชวนให้รู้สึกอึดอัด
หญิงสาวก้าวถอย และจังหวะที่คว้าลูกบิดประตู ก็มีเสียงเบา ๆ ด้านหลัง มันทำให้หล่อนหยุดชะงัก และเหลียวไปดูอย่างรวดเร็ว
ที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องอีกด้านซึ่งบัดนี้เปิดออก เป็นร่างเล็ก ๆ ผอมกะหร่องของเด็กชายวัยราวหกขวบ ผิวขาวซีด ดวงตาบนใบหน้าน้อย ๆ นั้นดำขลับและโตจนดูเด่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
เด็กชายมีเรือนผมยาวเริ่มปรกหน้าตา สวมเสื้อผ้าสีสดใสลายการ์ตูน แต่ดูเก่าเหมือนใช้งานมาหลายครั้ง แววตาที่มองสบกับปัญชยานั้นดูหวาดกลัวระคนสงสัย
หนู... หญิงสาวเบิ่งตา น้องภูมิใช่ไหมจ๊ะ...
เมื่อได้ยินเสียงหวานอ่อนโยน แววตาหวาดหวั่นก็จางหาย เด็กชายพยักหน้า เอ่ยเสียงเบาหวิวว่า
คุณน้า...มาหาแม่เหรอครับ...
คำถามที่เอ่ย แม้ถ้อยคำไม่ชัดเจน และท่าทางซ่อนความประหม่าเมื่อพบคนแปลกหน้า ทำให้ปัญชยารู้สึกตีบตันในลำคอ
แม่ไม่อยู่ครับ...แม่ไปเที่ยวกับลุงต้อม...
คำว่า ไปเที่ยว เด็กน้อยพูดออกมาด้วยท่าทางซื่อ ๆ ราวกับว่า การที่มารดาของตนไม่ได้ชวนตนไปด้วยนั้น มันเป็นเรื่องธรรมดา
ปัญชยามองหน้าเด็กชาย ความรู้สึกสงสารแล่นจับหัวใจทันควัน ร่างบางเคลื่อนเข้าหา นั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าเด็กน้อย
แล้วน้องภูมิอยู่คนเดียวหรือลูก หญิงสาวเค้นเสียงจากลำคอตัวเอง
เด็กชายพยักหน้าอีก
ทำไมน้องภูมิไม่ไปนอนกับคุณป้าบ้านข้าง ๆ ล่ะจ๊ะ
แม่สั่งว่าไม่ให้ไปครับ คำตอบนั้นทำให้ปัญชยาสะท้านใจ ดูท่าพิชาวดีจะมีปัญหากับเพื่อนบ้าน
แล้วหนูไม่กลัวเหรอ
เด็กชายไม่ตอบ มองหน้าหญิงสาวด้วยดวงตาบริสุทธิ์ไร้เดียงสา
เท่านั้น...หล่อนก็คว้าเด็กชายเข้ามากอด น้ำใสอุ่น เอ่อกลบดวงตาด้วยความสะเทือนใจ
***คนเขียนเป็นคนเดียวกับ Robinhood นะเอ้อ เดี๋ยวเผื่อมีคนรู้จักเข้ามาอ่านจะหาว่าลอกเขามา เหอะ ๆ
| จากคุณ |
:
BAHAMAS
|
| เขียนเมื่อ |
:
27 ก.ค. 52 23:56:20
|
|
|
|