มังกรบิน
|
|
มันเป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่สอนให้ผมรู้จักกับความหมายของคำว่าชีวิต จำได้ว่าตอนนั้นผมน่าจะอายุราวๆสักเจ็ดหรือแปดขวบเห็นจะได้ แค่ไม่กี่สัปดาห์หรือเต็มที่ก็ไม่เกินเดือน ก่อนที่ผมจะรู้สึกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมต้องตื่นแต่เช้าสมัยยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนประจำ พ่อ แม่ บอกว่าที่โรงเรียนแห่งนี้จะสอนให้ผมเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ฝึกให้ตัวเองมีความรับผิดชอบ คนใหญ่คนโตหลายคนในบ้านเมืองนี้ก็สำเร็จการศึกษาจากที่นี่มาก่อน หลังตื่นนอนผมต้องทำเตียงให้เรียบร้อย ผ้าปูที่นอนต้องตึง ผ้าห่มพับอย่างดีไว้ที่ปลายเตียง จะว่าไปก็คล้ายๆโรงเรียนนายร้อยนี่เอง เสร็จจากอาบน้ำล้างหน้าพวกเราทยอยกันตั้งแถวตอนสองแถว เดินพร้อมกันลงไปยังโรงอาหารทั้งหกสิบชีวิต ปกติแล้วพ่อกับแม่จะมารับผมกลับบ้านทุกๆเย็นวันศุกร์ แต่ไม่สำหรับอาทิตย์นี้ ช่วงสายหลังจากอิ่มข้าวได้สักพักผมไม่รู้จะทำอะไรเลยเดินเล่นเรื่อยเปื่อยไปทางด้านหลังของโรงเรียน เลยสนามบอลไปจะมีสระบัว บริเวณนั้นยังรกร้าง หญ้าสูงท่วม ต้นก้ามปูใหญ่แผ่กิ่งก้านร่มครึ้ม เดินไปยังไม่ทันจะถึงดีผมสังเกตเห็นครูมานะ ท่านเป็นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์และที่สำคัญท่านยังควบตำแหน่งครูประจำตึกนอนของผมอีกด้วย ครูกำลังไล่จับแมลงหลากชนิดที่มาอาศัยอยู่รอบสระบัวด้วยสวิงจับแมลงด้ามยาว ปากบุด้วยถุงตาข่ายผ้าสีขาวก้นลึกแบบที่ซูเนโอะชอบใช้ ดูครูจะใช้มันอย่างคล่องแคล่วชำนิชำนาญ ผมก้มหลบแอบดูครูอยู่ห่างๆ จากด้านหลังพุ่มผกากรองกลิ่นแรง ทันทีที่ครูจับแมลงที่ครูต้องการได้ ครูจะค่อยๆบรรจงเอามันออกจากถุงตาข่ายทีละตัวๆ แล้วจึงใช้เข็มหมุดเล็กๆ ปักทะลุกลางหลังของพวกมันก่อนที่จะปักติดลงบนแผ่นโฟมอีกที ในตอนนั้นผมได้แต่คิดกับตัวเองว่าทำไมครูมานะถึงต้องทำอะไรที่โหดร้ายขนาดนั้น ท่านไม่กลัวมันเจ็บบ้างหรือไร ระหว่างคิดหาคำตอบแทนตัวครูอยู่นั่นเอง แมลงปอยักษ์สีแดงสดตัวหนึ่งบินลงมาเกาะที่แขนผม ผมไม่กล้าแม้แต่จะขยับด้วยกลัวว่าจะทำให้มันตกใจบินหนีไปทางครูมานะ ที่ห้องวิทยาศาสตร์ ครูมานะวุ่นอยู่กับการจัดเรียงและจำแนกหมวดหมู่ของแมลงที่ท่านจับมาได้ พลันมีเสียงประกาศตามตัวท่านจากห้องธุรการดังขึ้น ทันทีที่ครูหายลงบันไดไปผมรีบตรงเข้าไปที่แผ่นโฟมแผ่นนั้นทันที ผมเห็นบรรดาเจ้าแมลงเหล่านั้นถูกปักไว้ด้วยเข็มหมุดขนาดเล็ก เรียงกันเป็นแถวตามลำดับสายพันธุ์ แต่ละตัวจะโดนปักมากหรือน้อยเข็มนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของมัน ถ้าเป็นผีเสื้อขนาดใหญ่ครูจะปักเข็มที่กลางลำตัวและปีกทั้งสอง ถ้าเป็นแมลงปีกแข็งตัวไม่ใหญ่นักก็จะถูกปักที่กลางลำตัวตรงร่องกลางระหว่างปีกทั้งสองเพียงเข็มเดียว ท่ามกลางฝูงแมลงโชคร้ายเหล่านั้น หลายตัวยังไม่ตาย พวกที่ยังไม่ตายก็พยายามขยับส่วนต่างๆเพื่อดิ้นรนเอาตัวรอดจากหมุดแหลมซึ่งทิ่มแทง ขึงตรึงพวกมันไว้กับแผ่นโฟม เจ้าตัวที่ดิ้นแรงที่สุดดูเหมือนจะเป็นเจ้าแมลงปอยักษ์สีแดง ผมเห็นครูแปะป้ายชื่อภาษาอังกฤษของมันไว่ว่า Dragonfly ตัวมันใหญ่ก็จริงแต่เนื่องจากมันมีปีกที่กรอบบางครูจึงปักเข็มหมุดที่กลางลำตัวมันเพียงอันเดียว ทำให้มันยังสามารถกระพือปีกได้อย่างอิสระ ด้วยเหตุผลใดก็ไม่อาจทราบได้ ผมค่อยๆใช้นิ้วยื่นเข้าไปลูบหัวมัน ทันใดนั้นมันใช้ขาทั้งหกคว้าเกาะนิ้วผมไว้แน่น ผมตกใจชักนิ้วกลับตามสัญชาติญาณ ลำตัวครึ่งบนของมันฉีกขาดติดนิ้วผมออกมาอย่างง่ายดายขณะที่อีกครึ่งท่อนล่างยังคงกระพือปีก พับ.. พับ.. อยู่กับหมุดสีเงิน ผมพยายามนำชิ้นส่วนลำตัวส่วนที่ขาดออกมาต่อกลับเข้าตำแหน่งเดิม แม้จะรู้ว่าจะให้เหมือนเดิมเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยผมก็ต้องทำอะไรสักอย่าง ด้วยเมือกเหนียวๆจากตัวมันเองลำตัวส่วนที่ขาดยังพอที่จะติดกลับเข้าไปได้ แต่ทุกครั้งที่ลำตัวส่วนที่ยังติดอยู่กับเข็มกระตุกปีก ลำตัวส่วนครึ่งบนก็ร่วงลงมาอีก บางทีเมือกเหนียวของตัวมันเองอาจยังเหนียวไม่พอ ผมจึงใช้น้ำลายตัวเองเสริมเข้าไป แต่นั่นก็ดูเหมือนว่าจะช่วยอะไรไม่ได้มาก ระหว่างที่ผมกำลังพยายามประกอบซากชิ้นส่วนชีวิตของเจ้าแมลงโชคร้ายอยู่นั้น ครูมานะก็เดินกลับเข้ามา ทันทีที่เห็นว่าผมกำลังทำอะไรกับแมลงของท่าน ครูต่อว่าผมเป็นการใหญ่ ผมบอกท่านไปว่าผมไม่ได้ทำอะไรแต่ท่านไม่เชื่อ ท่านกระชากแผ่นโฟมออกไปจากมือผมพร้อมตบหัวผมหนึ่งที เศษชิ้นส่วนแมลงปลิวกระจายเกลื่อนห้อง ครูโยนแผ่นโฟมทิ้งลงบนพื้นและบอกให้ผมเก็บซากชีวิตเหล่านั้นทิ้งให้หมด ที่ใต้ต้นก้ามปูใหญ่ริมบึง ผมใช้เวลาครึ่งวันที่เหลือนั่งประกอบชิ้นส่วนแมลงหลากชนิดเหล่านั้นเข้าด้วยกัน บางตัวก็สำเร็จ บ้างก็ยากเกินไปสำหรับผม ตกเย็นผมฝังพวกมันทั้งหมดที่ใต้ต้นก้ามปูนั่นเอง ในปีต่อๆมาเมื่อถึงฤดูที่เหล่าเจ้าแมลงปอยักษ์สีแดงออกมาบินว่อนริมหนองน้ำหลังโรงเรียน ผมจะออกวิ่งไล่ให้มันไปให้พ้นเพราะผมคิดว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกมันควรจะอยู่ และยังเป็นที่ที่แย่มากสำหรับพวกมันหากต้องมาตาย
จากคุณ |
:
Angsarano
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ค. 52 13:06:48
|
|
|
|