Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์ - ร้านทองแห่งแรก  

ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์ - ร้านทองแห่งแรก

ร้านทองแห่งแรกในปาดังเบซาร์
เป็นของโกอ่าง ลูกคนจีนไหหลำที่มีร้านทองอยู่ที่อำเภอสะเดา
ห่างจากปาดังเบซาร์ สิบสองกิโลเมตร
มีความแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ
ตัวอำเภอสะเดาไปชายแดนมาเลย์มีสองจุด
จุดแรกตรงจากถนนกาญจนวนิชย์ (หาดใหญ่)
ไปที่ด่านนอกหรือจังโหลน(มาเลย์) ผ่านอำเภอสะเดา
ชื่อเดิมมีสองความหมายคือ คำไทย
ช้างหล่น (ช้างตกหล่ม) หรือ ใบจัง (คลุมหลังคา) หล่น
ห่างจากตัวอำเภอสะเดาสิบสองกิโลเมตร
เท่ากันทั้งสองจุดชายแดนไทย-มาเลย์
แต่เดิมด่านนอกไม่มีความเจริญเท่าใดนัก
มาเจริญหลังช่วง พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก
มีการพัฒนาบ้านเรือนและร้านค้าติดกับด่านมาเลย์
เลยมีความเจริญมากกว่าปาดังเบซาร์ในปัจจุบัน

โกอ่างมาเปิดร้านทองแห่งแรกในปาดังเบซาร์
ช่วงแรก ๆ ต้องระมัดระวังตัวพอสมควร
เพราะเป็นเมืองชายแดนสามารถเข้าออกได้สะบายมาก
ทั้งทางฝั่งไทยและฝั่งมาเลย์  ไม่รู้ใครเป็นใคร
จึงต้องมีพรรคพวกมากโดยการคบหากับบุคคลทุกประเภท
เช่น เจ้าของบาร์  ตำรวจ  ด่านศุลกากร สรรพสามิต ผู้ใหญ่บ้าน นักเลง
รวมตลอดจนถึง โจรจีนมาลายา  เพื่อความปลอดภัยของร้านค้าทอง
จากการถูกปล้นหรือขอค่าคุ้มครองความปลอดภัยในการค้าขาย

มีความแปลกอยู่อย่างหนึ่งของเมืองหาดใหญ่และสงขลา
คือร้านทองส่วนมากจะเป็นของคนจีนไหหลำมากกว่าจีนแต้จิ๋ว
มีแต่ช่วงหลัง ๆ ที่เป็นของคนจีนแต้จิ๋วมากขึ้นกว่าเดิม
แต่ร้านทองส่วนมากในกรุงเทพฯ จะเป็นของคนจีนแต้จิ๋ว

โกอ่างเปิดร้านทองในปาดังเบซาร์แล้ว
ธุรกิจค้าขายทองจะเป็นธุรกิจที่ดีมาก
เพราะสามารถขายทอง รับซื้อทองคืน รับจำนำทอง
เรียกว่า THREE IN ONE ทีเดียว
ขณะที่ธุรกิจอื่น ๆ จะทำแบบนี้ได้ยาก
จนมีคำพูดในหมู่คนค้าขายทองรูปพรรณว่า
คนค้าขายอะไร ไม่สู้คนค้าขายทอง
เพราะศักดิ์ศรีดูดีมีสกุลและดูว่าร่ำรวยกว่าค้าขายอย่างอื่น
ตลอดจนเวลามีศึกเหนือเสือใต้
ก็ใช้เวลาขนย้ายทรัพย์สินเร็วกว่าคนค้าขายอย่างอื่น
ทั้งยังสามารถนำไปขายเพื่อแปลงเป็นเงินสดได้รวดเร็วกว่าสินค้าอื่น


จริง ๆ แล้ว ทองรูปพรรณฝั่งไทยจะมีเนื้อทองมากกว่ามาเลย์
สีของทองจึงออกจะสุกแดงเปล่งปลั่งกว่าของมาเลย์
เวลารับซื้อทองรูปพรรณหรือทองแท่งของไทยจะราคาดีกว่าของมาเลย์
ทำให้คนมาเลย์ส่วนมากนิยมมาซื้อทองฝั่งไทย
เผื่อว่ายามฉุกเฉินหรือจำเป็นสามารถแปลงสินทรัพย์เป็นเงินสดได้ดีกว่า
รวมทั้งเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคใต้ด้วยที่ว่า
เวลามีงานบุณย์เดือนสิบหรืองานประเพณีต่าง ๆ
ทุกคนต้องมีทองรูปพรรณติดตัวเพื่อโชว์ฐานะ
ใครไม่มีถือว่าจนมาก ไร้ศักดิ์ศรี หรือไม่มีเงิน ไม่มีปัญญาหาทองติดตัว
แต่ธรรมเนียมนี้เฉพาะคนในชนบท/ท้องถิ่น ดูหมิ่นดูแคลนกัน
แต่ถ้าคนในเมืองใหญ่ไปร่วมพิธีในฐานะเขยหรือญาติพี่น้อง
ก็จะไม่สนใจในเรื่องนี้  เพราะรู้กันอยู่ว่า
การอวดฐานะหรือทองรูปพรรณในเมืองใหญ่
เป็นช่องทางเจ็บตัวหรือมีภัยจากการฉกชิงวิ่งราวทองคำ
หรือคนในเมืองใหญ่ส่วนใหญ่ก็หาเงินทองได้มากกว่า
คนในท้องถิ่นหรือชนบทอยู่แล้ว
ส่วนจะซื้อทองรูปพรรณหรือไม่  ไม่ใช่เรื่องจำเป็นมากนัก

จากคุณ : ravio
เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 15:35:01




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com