ความคิดเห็นที่ 1 |
|
ขออภัยค่ะ เบลอแล้วใส่ชื่อตัวเองแทนชื่อนิยาย T T
หวานลมหนาว อุ่นลมรัก บทที่ 7
ใบหน้าของอันติกาเต็มไปด้วยคราบน้ำตา หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ และนำตัวอเล็กซ์ส่งโรงพยาบาลแล้ว เธอก็นั่งรออยู่หน้าห้องพักผู้ป่วยตลอด นัยน์ตาสีน้ำตาลสวยที่บัดนี้แดงก่ำเพราะการร้องไห้ มองไปยังรูปถ่ายครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงใบเดียวในมือ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอหวงแหนจนกล้าเสี่ยงชีวิตวิ่งกลับไปเอา
คุณ..ปลอดภัยนะ
หญิงสาวจำได้ดีถึงสัมผัสที่ใบหน้ายามเขาเอื้อมมือมายังแก้ม เพื่อเช็ดเลือดออกให้อย่างอ่อนโยน ทั้งๆ ที่ยังมีซากอาคารทับอยู่เบื้องหลัง และมีเลือดไหลที่ศีรษะ ทั้งที่เจ็บแบบนั้นยังจะมาห่วงเธออีก
คนบ้า...คุณมันบ้าจริงๆ
หากคราวก่อนเธอแพ้การกระทำของเขา คราวนี้คงเรียกได้ว่าเธอแพ้ใจเขา แพ้โดยสิ้นเชิง น้ำตาที่ไหลนี่ก็เป็นเพราะเขา...เพราะเขาคนเดียว
อัน!
ศิร์กานต์เรียกเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง นับตั้งแต่รู้ข่าวไฟไหม้ที่มีเหตุมาจากการอกหัก เมาสุรา แล้วจุดไฟเผาตัวเองของคนในหอพัก เธอ ศดิศและมาร์คถึงกับนั่งไม่ติดที่ รีบจับเครื่องบินเที่ยวที่เร็วที่สุดกลับมายังเชียงใหม่ กระทั่งเมื่อมาถึงโรงพยาบาล สภาพของเพื่อนสาวที่ได้เห็นนั้น ทำให้สาวหมวยแทบจะอดร้องไห้ตามไปด้วยไม่ได้ คนเข้มแข็งที่เป็นที่พึ่งพิงให้เธอมาตลอด วันนี้กลับอ่อนแอเต็มที คนตัวเล็กไม่รอช้ารีบดึงเพื่อนเข้ามากอดปลอบ
ไม่เป็นไรนะอัน ไม่เป็นไรแล้ว กานต์อยู่ตรงนี้อยู่เป็นเพื่อนอันตรงนี้แล้ว คนมาใหม่กอดเพื่อนสาวพลางเอามือลูบหลังปลอบประโลม
มาร์คเข้ามายืนอยู่ข้างๆ สองสาว ร่างสูงโปร่งเอนตัวพิงผนัง เป็นห่วงพี่ชายที่พักฟื้นอยู่ในห้องไม่แพ้กัน หากเขาจำต้องรอให้แพทย์อนุญาตเสียก่อน จึงจะเข้าไปเยี่ยมได้ บรรยากาศในบริเวณนั้นเต็มไปด้วยความเงียบและความกังวล ซึ่งโชคดีที่ไม่นานนักร่างของศดิศก็ปรากฏขึ้น ทำลายความน่าอึดอัดนั้นลง
ลุงคุยกับหมอแล้ว หลังจากที่ได้ปรึกษา ถามไถ่อาการกับแพทย์ผู้ทำการรักษาแล้ว ศดิศจึงเริ่มต้นอธิบายอาการของอเล็กซ์ให้คนรุ่นลูกทั้งสามฟัง
อาการบาดเจ็บทางร่างกายไม่น่าเป็นห่วงมาก มีฟกช้ำดำเขียว ศีรษะแตก และแขนซ้ายหัก ลุงคิดว่าอเล็กซ์คงยกแขนซ้ายขึ้นกันไว้ก่อน ทำให้ลดแรงกระแทกของซากตึกที่ตกลงไปได้ จะว่าไปก็โชคดีด้วยล่ะนะ เพราะซากที่ว่าน่ะ มันคงตกมาจากชั้นต้นๆ อย่างชั้นหนึ่งหรือสอง ไม่อย่างนั้น ถ้าตกลงมาจากชั้นที่สูงกว่านี้ อาจไม่ใช่แค่แขนซ้ายหัก แต่อาจเป็นกระดูกสันหลังหัก เสี่ยงจะเป็นอัมพาตเอา แต่โดยรวมตอนนี้ไม่มีอันตรายแล้วล่ะ เหลือแค่รอให้ฟื้น
เมื่อได้รับฟังอันติกาถึงกับเผลอยิ้มออกมาอย่างโล่งอก ความวิตกกังวลในตัวชายหนุ่มได้คลายลง เธอเอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างเบาใจ
อันหนูไปพักหน่อยเถอะ เดี๋ยวลุงกับมาร์คจะอยู่เฝ้าเอง กลับไปอาบน้ำอาบท่า ล้างหน้าล้างตาที่โรงแรมกับกานต์ก่อนนะ แล้วค่อยมาใหม่ เสื้อผ้าก็ใส่ของกานต์ไปก่อน แล้วค่อยหาใหม่ทีหลัง หรือจะแวะซื้อก่อนกลับมาที่โรงพยาบาลก็ได้ ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลอีกแล้ว ศดิศบอกลูกสาวบุญธรรมอย่างเป็นห่วง เพราะเธอช่างดูล้าเหลือเกิน
แต่อันติกาไม่ได้กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม หรือไปหาซื้อข้าวของเครื่องใช้ตามที่ศดิศบอก เธอไปจัดการตัวเองที่หอพักของศิร์กานต์ซึ่งอยู่ใกล้โรงพยาบาลมากกว่าแทน โดยระหว่างทางไปกลับ เพื่อนสาวตัวเล็กได้คอยสรรหาเรื่องคุยอยู่ตลอด เพื่อให้เธอได้หลุดจากภวังค์ความกังวล และเรื่องที่เป็นประเด็นสำคัญซึ่งถูกหยิบยกขึ้นมาพูดบ่อยๆ ก็ไม่พ้นเรื่องของสรัช
อันรู้ไหม คุณสรัชเนี่ยเขาดูดีมากเลยนะ เป็นผู้ใหญ่ มีหลักการ ใจเย็น อารมณ์ดี ยิ้มแย้มตลอดเลย สาวหมวยเริ่มเล่าให้ผู้โดยสารของเธอฟัง วันนี้เธอเสนอตัวขับรถให้เพื่อนสาว เพราะอยากให้เพื่อนรักได้พักมากๆ
ฟังดูเหมือนเพอร์เฟ็กต์เลยนะ
ก็เพอร์เฟ็กต์น่ะสิคะ คุณหมวยใหญ่เลือกได้ตรงใจกานต์เป๊ะเลย ศิร์กานต์ยิ้มอย่างถูกใจ
เจอกันครั้งแรกก็ชอบเขาแล้วเหรอกานต์
ก็แหม หล่อเข้มแบบชายไทยอย่างคุณสรัชเนี่ย กานต์ชอบนี่นา แถมเป็นสุภาพบุรุษด้วย ไม่เหมือนอีตามาร์คนั่นหรอก พอพูดถึงช่างภาพหนุ่ม เสียงและท่าทางของสาวเจ้าก็ออกอาการทันที
คุณมาร์คเขาทำไม อันติกาถามเพื่อนสาว แม้ศิร์กานต์และมาร์คจะเคยทะเลาะกันให้เธอเห็น แต่คนตัวเล็กยังไม่เคยแสดงอาการกระฟัดกระเฟียดเช่นนี้
ก็ตานี่แกล้งกานต์น่ะสิ กะให้กานต์ตกบันไดเลื่อน ดีนะที่คุณสรัชช่วยไว้ทัน ไม่งั้นป่านนี้กานต์ได้เจ็บหนักไปแล้ว สาวหมวยได้ที จึงเล่าเหตุการณ์ให้อันติกาฟังแบบใส่อารมณ์ถึงพริกถึงขิงเต็มที่
เขาคงไม่คิดว่ากานต์จะกลัวขนาดนั้นล่ะมั้ง คงไม่ได้ตั้งใจหรอก อันติกาพูดตามที่คิด เธอคิดว่าอย่างมากมาร์คคงแค่อยากแกล้งสนุกๆ จนลืมคิดไปว่าอาจจะเป็นอันตราย อีกทั้งเขาเองไม่ได้รู้เสียหน่อยว่าศิร์กานต์เกลียด และกลัวจิ้งจกมากขนาดนั้น
ไม่รู้ล่ะ กานต์เกลียดตาคนนี้นี่ ดูสิขอโทษสักคำยังไม่มีเลย
เขาคงกำลังตกใจน่ะ กานต์เองก็ว่าเขาไปแล้วไม่ใช่หรือไง
อันเข้าข้างหมอนั่นเหรอ คนตัวเล็กส่งเสียงน้อยใจ
อันแค่พูดตามที่คิดน่ะกานต์ ร่างบางถอนหายใจ
ฮึ! อันใจร้าย สาวหมวยเริ่มงอนในแบบที่อันติการู้ว่าเดี๋ยวต้องหน้างอ แต่คนตัวเล็กเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว อย่างไรเสีย อีกสักพักคงจะหายงอนไปเอง สาวร่างสูงจึงไม่ได้พูดอะไรอีก เธอกลับไปนึกทบทวนถึงเหตุการณ์เมื่อคืนวาน ซึ่งภายใต้การปกป้องของร่างหนานั้น ได้มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น และสิ่งนั้นเฝ้ารบกวนจิตใจของเธอมาตลอด ความห่วงใยกังวลในตัวชายหนุ่มเพิ่มขึ้นทุกนาทีที่เขาหมดสติ เธออยากให้เขาฟื้นโดยเร็วนัก
จนกระทั่งกลับมาถึงโรงพยาบาลอีกครั้ง หญิงสาวกับเพื่อนตัวเล็กจึงเดินไปยังห้องพักผู้ป่วย และผลักประตูเข้าไปเมื่อมองเห็นว่าศดิศกำลังรออยู่ในนั้น ทั้งสองมองไปยังเตียงและพบว่าอเล็กซ์ฟื้นแล้ว เขากำลังนั่งพิงหมอนมีเฝือกหุ้มอยู่ที่แขนซ้าย โดยมีมาร์คยืนอยู่ด้านข้าง คนเจ็บได้หันมาทางประตูเมื่อสองสาวเปิดเข้ามา
นั่นคุณกานต์กับคุณอันน่ะอเล็กซ์
เสียงมาร์คร้องบอกพี่ชายทำให้อันติกาชะงักอย่างสงสัย อเล็กซ์มองมาทางเธออยู่แล้ว แต่ทำไมช่างภาพหนุ่มต้องบอกว่าเป็นพวกเธออีกด้วยล่ะ สมองของหญิงสาวเริ่มคิดคำนวณความเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
คุณอเล็กซ์เป็นยังไงบ้างคะ ยังรู้สึกเจ็บอยู่รึเปล่า เมื่อเห็นเพื่อนสาวหยุดนิ่ง ไม่ยอมก้าวเดินอย่างประหลาด ศิร์กานต์จึงต้องเอ่ยถามแก้เก้อ แล้วฉุดรั้งเพื่อนรักให้เดินไปยืนใกล้ๆ ศดิศด้วยกัน
ขอบคุณครับคุณกานต์ ตอนนี้ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะครับ อเล็กซ์ตอบ โดยที่ดวงตากับใบหน้าของเขากลับยังหันไปทางประตู ซึ่งเป็นตำแหน่งเดิมที่อันติกาและศิร์กานต์เคยยืนอยู่ จนสาวหมวยต้องแปลกใจในอาการนั้น
อันคุณเป็นอะไรไหม บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า คำถามจากคนเจ็บที่ยังคงไม่มองมา ทำให้อันติกาต้องหันไปทางศดิศกับมาร์คอย่างขอคำตอบ และเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ของอาการที่แสดงออก ทำให้มือของเธอเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ความเงียบได้เข้าครอบคลุมในห้องพักผู้ป่วยพักใหญ่ แม้แต่ศิร์กานต์เองก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรเมื่อเริ่มสังเกตความผิดปกติของคนบนเตียงเช่นกัน จนกระทั่งเป็นคนเจ็บเสียเองที่ยุติความอึดอัดนั้น
รู้แล้วสินะ อเล็กซ์กล่าวอย่างไม่ติดหรือเศร้าใจนัก เขาเอนลงตัวพิงหมอนอย่างช้าๆ ผมกะจะปิดสักหน่อย แต่ความแตกเร็วจริง
หมอบอกว่า เส้นประสาทตาของอเล็กซ์ได้รับความกระทบกระเทือนรุนแรงมาก ทำให้เขาตาบอดทันที โอกาสที่จะรักษาหายนั้นมีแต่ต้องผ่าตัด แต่ถึงจะผ่าตัดแล้ว โอกาสที่จะกลับมามองเห็นเหมือนเดิมก็ยังต่ำอยู่ ศดิศให้คำตอบแก่สองสาวผู้มาใหม่
ระหว่างยืนนิ่งรับฟังนั้น ความรู้สึกผิดได้ประดังเข้ามาเต็มสมองและหัวใจของอันติกา เพราะแม้ว่าตอนนี้อเล็กซ์จะยังมีชีวิตอยู่ แต่เขาก็แทบไม่มีโอกาสกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก ชายหนุ่มอาจต้องกลายเป็นคนพิการเพราะเธอ เธอที่ไม่ระมัดระวัง ไม่ดูหน้าดูหลัง วิ่งกลับไปคว้ารูปถ่ายใกล้ตัวอาคารที่กำลังจะพัง ที่เขาเป็นอย่างนี้...ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ...เพราะเธอคนเดียว
คิดแล้วทำให้น้ำตาที่เหือดแห้งไปกลับมาไหลอาบหน้าอีกครั้ง หญิงสาวพยายามเรียกความเข้มแข็งคืนมา ทว่าไม่สำเร็จ ร่างบางต้องยกมือปิดปากกั้นเสียงสะอื้น เพื่อไม่ให้คนป่วยต้องเป็นกังวล หากจนสุดท้าย เพราะเสียงหายใจที่ขาดช่วงก็ทำให้ผู้ป่วยรู้จนได้
ขอโทษครับคุณศดิศ ผมขออยู่กับอันสองคนได้ไหม เขาเอ่ยกับชายสูงวัย ศดิศยอมรับคำขอของอเล็กซ์ เขาตบไหล่ปลอบอันติกาเล็กน้อย แล้วพาลูกสาวอีกคนเดินออกไปโดยมีมาร์คตามหลัง และเมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าอยู่กันตามลำพังในห้องเท่านั้น ชายหนุ่มจึงเรียกให้เธอมายืนใกล้ๆ แล้วลุกขึ้นนั่งพิงหมอนอีกครั้งทั้งที่ยังหลับตา
อย่าร้องไห้เลยอัน ผมไม่อยากให้คุณเสียน้ำตาเพราะรู้สึกผิด ทุกสิ่งที่ผมทำ ผมเลือก และเต็มใจทำเอง ร่างหนาปลอบอย่างอ่อนโยน
ยิ่งได้ฟัง อันติกายิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม ถึงตอนนี้เธอไม่ได้กลั้นเสียงสะอื้นอีกแล้ว ทำไมเขาถึงไม่กล่าวโทษเธอสักนิด ไม่ว่าเธอสักคำที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้
อ้าว กลายเป็นว่าผมทำให้คุณร้องไห้มากกว่าเดิมเสียอีก อเล็กซ์พยายามเอื้อมแขนขวาสะเปะสะปะ ไขว่คว้าหาผู้หญิงที่เขารัก จนกระทั่งสัมผัสได้กับมือเรียวนุ่มสองข้าง ที่เข้ามากุมมือเขาไว้ เขาจึงค่อยๆ เคลื่อนมือของตนไปสัมผัส และลูบศีรษะหญิงสาวเพื่อปลอบโยน โดยมีมือบางสองข้างคอยประคองแขนเขาอยู่
คุณ..ต้องมาเป็น...อย่างนี้..เพราะฉันนี่คะ อันติกาพูดติดขัดเพราะแรงสะอื้น ไม่เพียงไม่เป็นมิตร เธอยังทำให้เขาต้องเจ็บตัวโดนชก มิหนำซ้ำยังเป็นสาเหตุให้เขาอาจต้องพิการตลอดชีวิตเสียอีก
อย่างนี้ก็ดีแล้ว ถ้าผมต้องเห็นคุณมาเจ็บแทนอยู่ตรงนี้ ผมยอมเป็นแบบนี้ดีกว่า เพียงแต่ว่า... คนป่วยกลั้นหายใจ ก่อนจะพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกับความต้องการของใจเขาเหลือเกิน เพียงแต่...หลังจากนี้ ผมคงต้องขอถอนคำพูด เพราะผมคงไม่อาจขอให้คุณมาอยู่ร่วมกับคนที่อาจต้องพิการอย่างผมได้
แต่...ฉันต้อง..รับผิดชอบ
อย่าเอาอนาคตของคุณมาผูกติดกับผมเลยอัน หากผมต้องตาบอดไปตลอดชีวิต ผมจะดีใจมากกว่าถ้าคุณได้เจอคนที่ดี และพร้อมจะดูแลคุณมากกว่าผม เขาปรามอย่างหวังดี
คุณ..ไม่อยากดูแลฉันแล้วเหรอ ร่างบางถามทั้งที่ยังน้ำตาคลอ
ผมอยากดูแลคุณเสมอ แต่คุณดูผมตอนนี้สิ ลำพังตัวเองยังดูแลไม่ได้ แล้วจะดูแลคุณทำให้คุณมีความสุขได้อย่างไร น้ำเสียงของคนเจ็บขื่นลง
แล้วถ้าฉันไม่สนล่ะ
ตอนนี้คุณอาจไม่สน แต่ในอนาคตคุณอาจต้องเสียใจ ได้โปรดเถอะอัน ผมตามหาคุณเพราะผมรักคุณ อยากดูแลคุณ อยากเห็น... อเล็กซ์หยุดลงเมื่อนึกได้ว่าอาจไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป ...อยากรับรู้ว่าคุณมีความสุข ไม่ใช่ต้องการให้คุณต้องมาทนอยู่กับผู้ชายคนนี้ คนที่คุณไม่ได้รัก หากเป็นเพราะความรู้สึกผิด เขาแก้ใหม่
มาถึงตอนนี้ คำกล่าวของเขาทำให้อันติกาคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ได้พบกันครั้งแรก ผู้ชายที่บาดเจ็บหมดสติเมื่อราวสามปีก่อน ซึ่งได้กลายมาเป็นผู้ที่ช่วยให้เธอหลบกลุ่มน้องหวานพ้น และยังอาสาขับรถให้เธอลงจากดอยเมื่อรู้ว่าเธอไม่สบาย โดยไม่แสดงความไม่พอใจ ทั้งที่เธอเสียมารยาทขอดูบัตรประชาชนซึ่งหน้า
ผู้ชาย...ที่ขอแต่งงานหลังจากทานข้าวด้วยกันมื้อแรก ตามตื๊อไปจนถึงคณะ ขนาดให้ขึ้นชกโดนซ้อมก็ยังไม่หวั่น แล้วบัดนี้เขายังเป็นผู้ช่วยชีวิตเธอไว้อย่างไม่ห่วงตัวเอง กระทั่งต้องบาดเจ็บและอาจพิการตลอดชีวิต ก็ยังไม่กล่าวโทษเธอเลยสักคำ ไม่แม้แต่จะเรียกร้องให้เธอรับผิดชอบ ชั่วชีวิตนี้เธอจะหาคนแบบนี้ได้อีกที่ไหน ผู้ชายที่ห่วงชีวิตเธอมากกว่าชีวิตตัวเอง เธอจะหาได้ที่ไหนกัน
| จากคุณ |
:
มาตลักษณ์ (มาตลักษณ์)
|
| เขียนเมื่อ |
:
30 ก.ค. 52 20:30:54
|
|
|
|