ความคิดเห็นที่ 1 |
26.
บ้านปูนชั้นเดียวขนาดกระทัดรัดตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่สี่เหลี่ยมล้อมด้วยต้นไม้ หลังคามุงกระเบื้องสีน้ำตาล กรอบประตูหน้าต่างเป็นเนื้อไม้ ขณะที่ตัวบ้านทาสีเหลืองอ่อน ตัดกับสีเขียวของธรรมชาติแล้วดูกลมกลืนรื่นรมย์ไม่น้อย
ซ้ายมือก่อนถึงตัวบ้านมีรถมอเตอร์ไซด์จอดอยู่สองคัน ถัดไปเป็นกรงนกทำขึ้นเอง รอบไปด้วยดอกไม้และไม้ใบในกระถางซึ่งหญิงคนหนึ่งในชุดเสื้อเชิ้ตและหมวกฟางกำลังตัดแต่งเก็บใบไม้เหี่ยวที่ร่วงหล่นอยู่รอบ ๆ อยู่อย่างขะมักเขม้น เธอเงยหน้าและยิ้มเมื่อเห็นรถเคลื่อนตัวเข้ามาจอด
ทันทีที่ลงจากรถลมเย็นก็หอบมาปะทะกาย บุหลันยืนรอวณิชที่วุ่นวายกับสัมภาระของเขาก่อนจะเดินตามไปอย่างช้า ๆ
แม่สวัสดีครับ ชายหนุ่มยกมือไหว้และสวมกอดอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว หญิงวัยกลางคนผิวคร้ามแดดกอดตอบพร้อมรอยยิ้มดีใจ แหมดีใจจัง นึกว่าปีนี้ณิชก็จะไม่มาอีกแล้ว สำเนียงพูดอย่างคนต่างจังหวัดที่มักจะพูดเสียงดังเสมอ กลับฟังดูนุ่มนวลในคราเดียวกัน นางปรายสายตามาที่เธอ ชายหนุ่มผละออกแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน บุหลันยกมือไหว้ อีกฝ่ายมองมาขณะรับไหว้ จ้า หวัดดีลูก แหม สวยจังเลย หญิงสาวยิ้มเขิน ยังไม่ทันได้พูดอะไรเสียงใสจากอีกคนก็ดังมาพร้อมตัว ว้าย มาแล้วเหรอคะ คุณพี่ชาย เจ้าของคือหญิงสาววัยประมาณยี่สิบ รูปร่างเล็ก เธอวิ่งปรี่เข้ามาด้วยใบหน้าเบิกบาน ผมหางม้าเธอพัดพริ้วเมื่อมาเกาะแขนชายหนุ่ม ไม่ต้องบอกก็รู้ทันที น้องสาววณิชนั่นเอง เค้าหน้าคม คิ้วเข้มคล้ายผู้เป็นพี่ชาย ดวงตาเรียวดูมีเสน่ห์ไม่น้อย วณิชแนะนำว่าชื่อแหวน หญิงสาวยกมือไหว้อัตโนมัติ อีกฝ่ายรับไหว้แทบไม่ทัน ด้วยเพราะมองว่าบุหลันดูจะเป็นผู้ใหญ่กว่าตัว กินข้าวกันมาหรือยังล่ะ แม่ถาม ยังเลย เออนี่ซื้อปลาช่อนมาฝากด้วย อ้ะ แหวน เอาไปมีขนมของเอ็งด้วย กรี๊ด แหวนร้องแล้วคว้าถุงทั้งหมดวิ่งเข้าบ้านไปอย่างตื่นเต้น วณิชส่ายหน้าเอ็นดูแล้วหันมาบอกบุหลัน เข้าบ้านเถอะ
ภายในบ้านบังคับสายตาบุหลันให้มองไปรอบ ๆ ด้วยความใคร่รู้ ตรงหน้ามีสองห้องอยู่คนละมุมบ้านซ้ายขวา ระหว่างกลางเปิดเปลือยโดยใช้ตู้โชว์ใบใหญ่มากั้นสายตาและตกแต่งไปในตัวเหลือพื้นที่กลางบ้านเป็นห้องโถงใหญ่สำหรับการใช้งานอเนกประสงค์ ซึ่งมองไปทางซ้ายมือจะมีทีวีสีขนาดยี่สิบเอ็ดนิ้วตั้งอยู่ เป็นการออกแบบง่าย ๆ บนพื้นที่สี่เหลี่ยม
เท้าบุหลันเหยียบบนกระเบื้องสีเขียวอ่อนเมื่อสะท้อนกับแสงแดดที่ผ่านเข้ามาแล้วแทบจะไม่ต้องเปิดไฟ ซ้ำยังดูดซับความเย็นไว้ได้ หน้าต่างรอบบ้านกั้นด้วยผ้าม่านสีเดียวกับพื้นกำลังปลิวไหว ๆ เมื่อลมจับต้อง
ไร้เฟอร์นิเจอร์หรู ไร้ของอวดฐานะฟุ่มเฟือย แต่เรียบง่าย เรียบร้อย และสะอาดสะอ้านบอกถึงความใส่ใจ
วณิชเดินตัดข้ามห้องไปเปิดประตูห้องฝั่งขวาแล้วหันมาบอกบุหลัน คุณพักห้องนี้แล้วกัน ไม่ทันได้พูดอะไรเขาก็หันไปตะโกนเรียกน้องสาวเหมือนนึกขึ้นได้ ถูหรือยังแหวน อีกฝ่ายตะโกนตอบมาจากบริเวณครัว
ห้องใครเหรอ หญิงสาวชะโงกหน้าเข้าไป
ห้องพี่สาวน่ะ
บุหลันกระพริบตา มีพี่สาวอีกเหรอ ยังไม่ทันได้ถามว่าเจ้าตัวอยู่ไหนวณิชก็ตะโกนอีก แหวนแล้วพี่วีมาเมื่อไหร่
พรุ่งนี้
คนฟังรีบแทรก อ้าว แล้วฉันมาใช้ไม่เป็นอะไรเหรอ
ไม่เป็นไร อยู่ไปเถอะ พี่วีมากับแฟนเดี๋ยวนอนมุมนั้นก็ได้ เขาพูดพลางชี้มือไปบริเวณห้องที่กั้นไว้ด้วยตู้ แล้วคุณล่ะ
ชายหนุ่มไหวไหล่ บ้านผมเอง แค่หมอนสักใบกลิ้งแถวนี้ก็ได้แล้ว
บุหลันอดยิ้มออกมาไม่ได้กับคำพูดที่ฟังดูสบาย ๆ เจือตลกของเขา เอากระเป๋าเก็บเถอะเดี๋ยวไปกินข้าวกัน
ชายหนุ่มพูดพลางปิดประตูให้อย่างรู้ใจ โดยมีคำขอบคุณของหญิงสาวตอบไปให้อย่างเต็มใจเช่นเดียวกัน
ในห้องมีเตียงตู้และพัดลมหนึ่งตัว ยังคงความง่ายและสะอาดไว้ บุหลันวางกระเป๋าและทิ้งตัวนั่งบนที่นอนนุ่มผ่อนลมหายใจออกมา
มาจนได้นะบุหลัน
เพราะความเบื่อหน่ายกับอะไรที่ซ้ำซากและความแออัดของกรุงเทพกระมังทำให้เธอตอบรับคำชวนของเขามาอย่างแทบไม่คิดอะไร ชักสงสัยว่าการไปฉลองในราตรีท่ามกลางแสงไฟ แอลกอฮอล์และควันบุหรี่ รวมทั้งผู้คนที่เบียดเสียดมันให้ความสนุกตรงไหน
หรือเพราะความกระหายที่จะเข้ามาค้นหาในโลกของชายหนุ่มเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศสักครั้งเธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่ทันทีที่เหยียบย่างเข้ามา มองเห็นทุ่งนาไกลสุดลูกหูลูกตา จมูกแทบได้กลิ่นของสายลมที่พัดโชย บวกกับความเงียบสงบซึ่งต่างกับความจอแจที่เคยเจอมาให้อดตื่นเต้นไม่ได้
เอาน่า ก็เหมือนมาเที่ยวต่างจังหวัดนั่นแหล่ะ
บุหลันเบนสายตาไปที่หัวเตียง รูปชายหญิงคู่หนึ่งในชุดแต่งงาน คงเป็นพี่สาวที่วณิชพูดถึงเมื่อสักครู่ พอมองไปรอบห้องบริเวณผนังก็พบรูปภาพในกรอบอีก
เธอลุกขึ้นไปยืนมอง มีทั้งภาพถ่ายครอบครัว ผู้ชายอีกคนคงเป็นพ่อ และรูปที่ถ่ายกันสามคนพี่น้อง ภาพในกรอบสี่เหลี่ยมคงผ่านมาสักพักเพราะใบหน้าชายหนุ่มดูอ่อนเยาว์กว่านี้ ขณะยืนตรงกลางและมีหญิงสาวสองคนเกาะแขนยิ้มให้กล้องอย่างมีความสุข
บุหลันจุดยิ้ม เป็นลูกคนกลางมีทั้งพี่และน้อง ถึงได้มีบุคลิกทั้งผู้นำและสุภาพแบบนี้นี่เอง คิดไปคิดมาสักพักท้องก็อุทรณ์จึงได้ลุกออกจากที่นั่ง
บนพื้นหน้าห้องมีถาดวงกลมขนาดใหญ่ อาหารต่าง ๆ วางไว้เรียบร้อยแล้ว หนึ่งในนั้นคือปลาช่อนที่วณิชพึ่งซื้อมา มีแกงกะทิที่บุหลันคิดว่าคงเป็นแกงเขียวหวาน น้ำปลาพริกใส่ไว้ในถ้วยเล็ก แหวนกำลังตักข้าวสวยใส่จานใบที่สอง ไม่เห็นวณิช
มากินข้าวกัน
เธอเรียก บุหลันยืนงง ๆ เพราะเมื่อไม่เห็นโต๊ะแปลว่าต้องนั่งกินบนพื้น งี้แหล่ะ บ้านนอกกินแบบไทย นั่งถนัดไหม อีกฝ่ายถามอย่างห่วงใย บุหลันรู้สึกได้ว่าไม่ใช่การถามตามมารยาท แต่ก่อนจะนั่งเธอเลยเอ่ยปากขอใช้ห้องน้ำ แหวนชี้มือไปตรงมุมของบ้าน
บุหลันกลับมาอีกครั้งก็เห็นวณิชนั่งรออยู่แล้ว ชายหนุ่มเปลี่ยนมาใส่กางเกงขาสั้น หน้าตาท่าทางสดชื่น
บ้านนอกหน่อยนะ กินกับพื้นนี่แหล่ะง่ายดี แหวนพึ่งพูดไปเมื่อกี้เอง ซ้ำซะแล้ว ฮ่า ฮ่า แหวนหัวเราะ บุหลันยิ้มกว้าง มีวณิชที่ทำหน้ายุ่ง กำลังจะโยกศีรษะน้องสาวตัวแสบแต่ไม่ทันเพราะเจ้าตัวกระเถิบหนีก่อน ได้แต่คำรามงึมงัม ใช้ได้ไหม ชายหนุ่มถาม ขยายความว่าอาหารโดยเฉพาะปลาช่อน หญิงสาวพยักหน้า ปลาอร่อยดีนะ เขายิ้ม แหวนกินข้าวเสร็จอย่างรวดเร็ว เธอบอกกับบุหลันว่ากินเสร็จแล้วให้เรียกจะเก็บจานไปล้างให้ พี่ณิชบลูเบอร์รี่ของที่ไหน เธอชื่นชมกับขนมในมือ หน้าตาเหมือนเด็กถูกใจ วณิชบอกร้านซึ่งบุหลันเห็นเขาซื้อมาตอนเข้าในห้าง กินมากอ้วนนะเว้ย ฝ่ายนั้นยักไหล่ไม่แคร์ เขาหันมาทางบุหลัน เป็นอีกของฝากที่ผมต้องซื้อนอกจากปลา แม้ปากจะบอกเช่นนั้นแต่แววตาเขาภาคภูมิใจและเต็มใจ วณิชนิ่งไปแล้วนึกขึ้นได้เขาลุกอย่างรวดเร็วเดินไปบริเวณหลังตู้หยิบถุงพลาสติกใบหนึ่งออกมา แหวน! หือ โอ๊ะ! ผู้เป็นพี่ชายโยนถุงไปนั้นไปให้ทันควันเมื่อน้องสาวที่กำลังยืนจ้องทีวีละสายตามา เธอเปิดคลี่ออกแล้วร้องกรี๊ดจนบุหลันสะดุ้ง ว้าย! รู้ได้ไงนี่ว่ากำลังอยากได้ ของร็อกซี่ด้วย แหม เริ่ดมาก หญิงสาวชูเสื้อแจ็คเก็ตสีชมพูออกมาพลางทาบที่ตัวเองอย่างตื่นเต้น บุหลันตาโต มันเป็นแบบเดียวกับที่เธอใส่ในวันก่อน และเป็นตัวเดียวกับที่วณิชมองและชมว่ามันสวย แท้จริงแล้วเขาตั้งใจจะซื้อมาให้น้องสาวนี่เอง หญิงสาวถึงบางอ้อ ของแท้รึเปล่าเนี่ย แท้สิ ปลอมแท้ ๆ เลย แหวนหัวเราะ รู้ว่าถ้าพี่ชายจะซื้อของให้จะเลือกแต่สิ่งที่ดีและมีค่าพอกับการจ่าย เธอปราดเข้ามานั่งเบียด พูดเสียงหวาน ขอบคุณนะคะป๋า ป๋าเมตตาแหวนมาก แหวนจะไม่ลืมบุญคุณเลยค่ะ
เธอยกมือไหว้อย่างอ่อนช้อยที่หัวไหล่ของเขา หญิงสาวอีกคนหัวเราะชอบใจ เขาหันมามอง ทำเสียงเข้มแก้เขิน ข้าเก็บได้มาต่างหาก แต่แหวนไม่สนใจแล้ว เธอฮัมเพลงอย่างมีความสุขพลางพูดว่าจะได้มีเสื้อใส่ในหน้าหนาวนี้
ซื้อตอนไปเข้าห้องน้ำเหรอ บุหลันถาม วณิชพยักหน้าแววตาทึ่งทำนองว่าหญิงสาวรู้ทันเขาอีกแล้ว ยังไม่ทันตอบอะไรเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นบริเวณประตูบ้าน
ไหน ๆ ไอ้ณิชพาสาวมาเหรอ เห็นบอกสวย ได้อวดลูกสะใภ้กันละคราวนี้
หญิงสาวแทบสำลัก หันไปมองเห็นชายร่างสูงใหญ่กำลังก้าวเข้ามาในบ้าน ผิวเข้มคร้ามแดดพ้นเสื้อเชิ้ตและกางเกงผ้าสีเข้ม เขายกแก้วน้ำขึ้นดื่มขณะมองมาด้วยสายตาใคร่รู้
มาถึงก็พูดไม่เข้าหูเลย ใครบอกพ่อเนี่ย เพื่อนต่างหาก
อ้าวก็แม่เอ็งเขาบอก หวัดดีจ้ะ เอ้อ สวยจริงเว้ย ประโยคนั้นกล่าวขณะรับไหว้บุหลันในคราเดียว
เดี๋ยว ตาแก่ฉันไม่ได้พูดเลยนะ! เสียงแม่แย้งดังลั่น
เอ็งนั่นแหล่ะ บอกว่าลูกพาสาวมา ใครวะวิ่งไปบอกข้าเมื่อกี้นี่น่ะ
ก็ข้าพูดแค่ว่าลูกพาเพื่อนมา ไม่ได้บอกลูกสะใภ้อะไรเลย แกพูดเอง เดี๋ยวปั๊ด
จะทะเลาะกันอีกนานไหมนั่น ขายขี้หน้า พ่อ แม่
ถ้าไม่มีเสียงผู้เป็นลูกชายขัดจังหวะเป็นระฆังขึ้นมา เป็นไปได้ว่าทั้งสองจะโต้คารมกันอีกนาน ซื้อปลามาให้นู่น เขาบอก พ่อทำเสียงดีใจแล้วเดินไปเปิดตู้กับข้าว
วณิชหันมาทางบุหลันที่ได้แต่ทำตาปริบ ๆ โทษทีนะ คนต่างจังหวัดน่ะ พูดอะไรกันตรง ๆ หญิงสาวส่ายหน้าแสดงอาการไม่ถือสา เป็นแบบนี้ประจำนั่นแหล่ะ วันไหนไม่ได้ทะเลาะกันนอนไม่หลับ ชายหนุ่มบอกแต่ก็เพิ่มเติมว่าการโต้ตอบของทั้งพ่อและแม่ดูเป็นการกระทำที่เป็นงานอดิเรกของทั้งคู่มากกว่า
ดีออกนะ ฟังดูใส่ใจกันและกันดี
หนวกหูล่ะไม่ว่า
บุหลันบอกว่าดีที่ยังมีให้ทะเลาะ บ้านคุณไม่เป็นใช่ไหมล่ะ แววตาของเธอไหววูบ
พ่อกับแม่แยกกันตั้งแต่ฉันเกิดแล้ว
วณิชชะงักไป แต่อีกฝ่ายยักไหล่ ชินแล้ว เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องส่วนตัวของหญิงสาว ซึ่งพื้นหลังครอบครัวนี่เองที่หล่อหลอมคน ๆ หนึ่งได้เติบโตและมีความคิดที่ต่างกันในปัจจุบัน
เขาคิดว่าเข้าใจเธอเพิ่มขึ้นอีกนิดแล้ว
( ^ ^)
| จากคุณ |
:
BabyRed
|
| เขียนเมื่อ |
:
31 ก.ค. 52 16:51:26
|
|
|
|