สัญญาบนผืนทราย บทนำ โดย ดาราสมุทร
|
|
บทนำ
พ.ศ.2552 กรุงเทพมหานคร
ร้านอาหารเจ้าประจำวันนี้แน่นขนัดกว่าปกติ โต๊ะทุกตัวในร้านถูกจับจองด้วยกลุ่มเด็กสาววัยมัธยมปลาย เสียงพูดคุยเซ็งแซ่ฟังไม่ได้ศัพท์ดังไม่ขาดปากทำให้ภายในร้านไม่ต่างไปจากตลาดสด เท่านั้นยังไม่พอ กลุ่มเด็กวัยรุ่นบางคนมาทีหลัง ไม่มีที่นั่งจึงยืนเบียดเสียดยัดเยียดกันบนพื้นที่ว่างอันน้อยนิดของร้าน ผลักกันไปมาเป็นที่ชุลมุน เจ้าของร้านกลั้นใจอยู่นานด้วยความเอือมระอาจนกระทั่งทนไม่ไหว จัดการเชิญเด็กบางกลุ่มออกจากร้านเพื่อความสงบเรียบร้อย สร้างความไม่พอใจแก่คนเหล่านั้นเป็นอย่างมาก โต๊ะด้านในสุดเป็นตัวเดียวที่ผู้นั่งอายุเลยคำว่าวัยรุ่นมาแล้วหลายปี หากกลมกลืนแยกไม่ออกในหมู่ชนวัยเยาว์ มีเพียงชุดลำลองสีอ่อนสบายตาเท่านั้น ผิดแผกไปจากชุดนักเรียน เสื้อขาวคอบัว กระโปรงยาวอัดจีบสีน้ำเงินเข้ม แต่เรื่องนี้ไม่มีใครสนใจนัก
ตอนนี้ทุกคนพุ่งเป้าไปยังคนที่กำลังจะเข้ามาในร้านแห่งนี้
ทว่ายังไม่มีวี่แววแม้แต่น้อย
หญิงสาววัยยี่สิบปลายๆ หนึ่งในสองคนจิบกาแฟก่อนมองไปรอบๆ ด้วยสายตาหงุดหงิด
คนมันจะเยอะอะไรกันนักหนานะ เข้ามาก็ไม่สั่งอาหาร มัวแต่ยืดคอชะเง้อไปทางประตูอยู่นั่นแหละ
อ้าวยัยพราวฝัน ก็ระดับซุปเปอร์สตาร์มาถ่ายทำรายการทั้งทีจะไม่ให้แฟนคลับเขามาดูได้ไง
เพื่อนร่วมงานเป็นผู้ออกปากชวนเธอมารอดูซุปเปอร์สตาร์พูดอย่างตื่นเต้น ผุดลุกผุดนั่งอยู่ตลอดเวลาสลับการยกกล้องถ่ายรูป ส่ายไปมาหามุมสวยที่สุด
ถึงเวลาจริงจะได้ไม่ผิดพลาด
ทว่าดูเหมือนมุมสวยๆ หาได้ไม่ง่ายนักจากบริเวณนี้ เพราะถูกบดบังจากเหล่านักเรียน แฟนคลับซึ่งยืนอัดแน่นเป็นปราการหลายชั้น
โอ๊ย! เลือกทำเลผิดจริงๆ
คนอยากเจอซุปเปอร์สตาร์หัวเสียหลังจากลองทุกมุมเท่าที่สามารถทำได้แม้กระทั่งยืนบนเก้าอี้ แต่ก็มองไม่เห็นอะไรนอกจากหัว หัว และหัว
ไปหาที่ใหม่เถอะ อยู่ตรงนี้ชาติหน้าก็ไม่ได้เห็น
พราวฝันยกแขนกอดอก จ้องเพื่อนตาเขียว
จะบ้าเหรอยัยกุล ไม่เห็นเหรอคนแน่นเป็นปลากระป๋องเต็มร้านแบบนี้จะไปยืนที่ไหนได้
โดนดุเข้าอย่างจังก็หน้าถอดสี ทรุดตัวนั่งอย่างเลี่ยงเสียไม่ได้ แต่ยังไม่วายแอบบ่นอุบอิบผู้เป็นเพื่อนลับหลัง
หา เมื่อกี้ว่าอะไรนะคะคุณกุลกันยา ดินฉันได้ยินไม่ถนัด
คนถูกนินทาถลึงตาลุกวาว ทำท่าแคะหูประกอบ
ไม่ ไม่ ไม่มีอะไร ไม่ได้พูดอะไรเลย กุลกันยาร้องเสียงสูง
พราวฝันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาแล้วถอยหายใจเสียงดัง เธอและเพื่อนควรเริ่มทำงานตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ทว่าพวกเธอกลับปล่อยเวลาให้ผ่านเลยอยู่ในร้านอาหารอันเต็มพืดไปด้วยกลุ่มวัยรุ่นคลั่งดารา ซึ่งหากจะกลับตอนนี้ก็ไม่ทันแน่นอน ด้วยร้านห่างจากบริษัทถึงหนึ่งชั่วโมง
คิดแล้วก็อยากหยิกคนนั่งข้างๆ ให้เนื้อหลุดติดเล็บออกมาเสียจริง
นี่ กุล แกยอมถูกไล่ออกแล้วลากฉันให้ติดร่างแหไปด้วยเพื่อมาดูดาราเนี่ยนะ
ถูกไล่องไล่ออกอะไรกัน ฉันโทรไปลาพี่ยุทธแล้ว
พี่ยุทธน่ะเหรอให้ลา พราวฝันถามอย่างไม่เชื่อหู
ชาญยุทธหัวหน้าแผนกที่พวกเธอทำงาน เป็นชายร่างใหญ่วัยสี่สิบ ขึ้นชื่อเรื่องความดุ ระเบียบจัด ปกครองลูกน้องในสังกัดอย่างเข้มงวดถึงขั้นเรียกได้ว่าเผด็จการ โดยตั้งกฎเหล็กไว้ว่า ห้ามป่วย ห้ามขาด ห้ามลา ถ้าฝ่าฝืนกฎข้อใดโทษสถานเดียวคือ ไล่ออก จนเพื่อนๆรวมหัวตั้งชื่อใหม่ว่า ฮิตเลอร์
เออน่ะสิ ฉันยังงงเลย วันนี้พี่ยุทธดูอารมณ์ดีพิกล หญิงสาวยักไหล่ สงสัยถูกหวยรางวัลพิเศษ แต่ช่างเถอะ ได้ลาก็ถือว่าบุญโขแล้ว
แล้วเมื่อไรไอ้ดาราของแกจะมาสักที ฉันรอจนรากงอกแล้วนะ
คนมาเป็นเพื่อนมีสำเนียงโมโหเจือปน อากาศในร้านเริ่มร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ จากจำนวนคนอันมากมายทั้งนั่ง ทั้งยืนแออัด ไม่มีที่ว่างให้หายใจ ทั้งที่เครื่องปรับอากาศตั้งค่าระดับเย็นสุดแล้วก็ตาม
อย่าบ่นเลยน่า ดาราก็อย่างนี้แหละ คิวเยอะ
พูดพลางชะเง้อดูประตูทางเข้าอย่างมีความหวัง คนเป็นเพื่อนลมออกหูเมื่อได้ยิน ตวาดแว้ดไปว่า
แล้วฉันว่างมากหรือยะ ถึงได้มารอใครก็ไม่รู้ตั้งครึ่งค่อนวัน
พราวฝันลุกพรวด ก้าวขาเตรียมแทรกตัวหายไปในหมู่ชน หากกุลกันยาคว้าแขนได้ทัน
เดี๋ยวสิ รออีกเดี๋ยวเดียว...นั่นไงมาแล้ว
คนบ้าดาราชี้มือไปยังทางออกอย่างลิงโลด เวลาเดียวกับทุกสายตาในร้านพุ่งเป้าไปยังจุดหมายหลังบานประตูกระจก นั่นคือ ชายร่างบึกบึนราวสี่ถึงห้าคนสวมเสื้อยืดสีดำ แขวนป้าย ทีมงาน กำลังกุลีจอยกสำภาระสำหรับใช้ในการถ่ายทำ ไม่ว่าจะเป็นกล้อง จอมอนิเตอร์ ไฟ อุปกรณ์จิปาถะวางข้างร้านแข่งกับเวลาโดยมีหัวหน้าร่างสูงใหญ่กำกับดูแลทุกขั้นตอน
เสียงอื้ออึงสมปนเปเสียงกรี๊ดแผดก้องเมื่อแลเห็นชายอีกคน คนที่รอคอยเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ในภาพเลือนรางแห่งความทรงจำ ไม่ได้ทำให้เธอลืมวงหน้าหลังบานกระจกนั้นเลย กลับยิ่งเด่นชัดในมโนความคิดตลอดเวลายามหวนคำนึง คิ้วดกเข้มสีดำเหนือแว่นกันแดดสีชาเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อต้องแสงแฟลตสว่างวาบจากกล้องนับสิบตัวภายในร้าน จมูกโด่งเป็นสันรับกันดีกับริมฝีบางบางระเรื่อที่กำลังคลี่สยายเกิดเป็นรอยยิ้มเผยให้เห็นฟันซี่ขาวเรียงเป็นระเบียบ
เสียงกรีดก้องแทบหูดับเมื่อครู่ดับเงียบลงในฉับพลันพร้อมด้วยร่างบางระหงถูกตรึงให้ยืนนิ่งเป็นรูปสลัก ยาวนานราวชั่วกัปชั่วกัลป์ ริมฝีปากสั่นระริก อ้าเผยอเหมือนจะเอ่ยคำ หากทำได้เพียง...จ้องมองด้วยดวงตาอันเต็มเปี่ยมด้วยสายธารแห่งความโหยหา อาวรณ์
เธอไม่ได้รอคอยหลายชั่วโมง...เธอรอคอยชายคนนี้ทั้งชีวิต
แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 20:32:59
แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 20:26:27
| จากคุณ |
:
เจ้าสมุทร
|
| เขียนเมื่อ |
:
31 ก.ค. 52 20:25:44
|
|
|
|