ความคิดเห็นที่ 1 |
. ตอนที่ 10 ปัสสาวะเจ้ากรรม
ตอนที่ขึ้นปีสอง เราก็ได้เรียนวิชาที่ยากขึ้นมาอีกหน่อยแล้วเจ้าค่ะ คือวิชาการใส่สายสวนปัสสาวะ ในคนไข้ที่ปัสสาวะไม่ออกด้วยเหตุใดก็ตาม ส่วนใหญ่จะใส่คนไข้ที่ผ่าตัด หรือคนไข้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ พอใส่สายเสร็จแล้ว ก็ต้องต่อกับถุงปัสสาวะ แล้วแขวนไว้ข้างเตียงเจ้าค่ะ เมื่อมีน้ำปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ มันก็จะไหลลงถุง โดยคนไข้ไม่ต้องเบ่งเอง
ถุงปัสสาวะ จะเป็นถุงใสๆ และมีขีดบอกปริมาณให้เราจดบันทึก และสังเกตลักษณะของน้ำปัสสาวะที่ออกมา ว่าขุ่น ใส สีแปลกๆ ปานใดเจ้าค่ะ
ทีนี้ จูดี้ของคนไข้ชาย (จู้ดี้ หมายถึงอวัยวะเพศชาย เป็นภาษาที่เรียกกันเล่นๆ ไม่เป็นทางการนะเจ้าคะ) ก็ใส่สายไม่ได้ยากเย็นอะไร แค่จับมันตั้งฉากกับพื้นโลก เราก็สามารถสอดสายเข้าไปได้ง่ายๆ แล้วเจ้าค่ะ ถึงพื้นที่บริเวณนั้นของผู้ชายจะมีสองช่องก็เถอะ คือช่องทวารหนัก กับช่องจูดี้ แต่ทั้งสองช่องนี้ หน้าตาก็ต่างกันจนเห็นได้ชัด ไม่น่าจะมีใครใส่ผิดช่องนะเจ้าคะ
ส่วนจีจี้ (ในที่นี้หมายถึงอวัยวะเพศหญิงนะเจ้าคะ) ของผู้หญิงนี่สิเจ้าคะ เมื่อแหวกออกมาก็แสนจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนซ่อนปม มีทั้งหมดสามช่องด้วยกัน คือช่องทวารหนัก ช่องคลอด และช่องปัสสาวะ ซึ่งก็อยู่ติดกันไปหมด และระยะห่างของแต่ละช่องในแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน บางคนช่องคลอดกับช่องปัสสาวะ ก็ชิดติดกันยังกับพี่น้องฝาแฝด แถมหน้าตาก็ยังคล้ายกันอีกเจ้าค่ะ
ทีนี้จีจี้ของคนไข้ที่ยังสาวอยู่ พวกเราก็หาช่องพี่ ช่องน้องของมันไม่ยากหรอกเจ้าค่ะ เพราะคนไข้สาว อะไรๆ ก็เต่งตึงไปหมดแม้กระทั่งที่ตรงนั้น ทำให้หาพี่น้องช่องไหนก็ง่าย แต่จีจี้ของผู้สูงอายุนี่สิเจ้าคะ โอ้โห! เอานิ้วแหวกแล้วแหวกอีกกับชิ้นเนื้อที่ย่นยับเยินนั่น บางทีก็แหวกจนคนไข้ตัวเกร็งไปหมด ก็ยังหาพี่หาน้องกันไม่ครบเลยเจ้าค่ะ
ช่องคลอดนี่จะหาง่ายที่สุด ถือว่าเป็นพี่ใหญ่ เพราะช่องจะกว้างกว่าช่องปัสสาวะเยอะ (พี่ใหญ่สามารถกว้างได้เกือบเท่ากับหัวของทารกแรกเกิดเลยล่ะเจ้าค่ะ) แต่น้องเล็กอย่างช่องปัสสาวะนี่สิเจ้าคะ หาเข้าไปเถอะ มันรูเล็กนิดเดียวและอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวตามซอกหลืบไหนก็ไม่รู้ หน้าที่ของเราต้องหาให้เจอเจ้าค่ะ บางทีน้องเล็กของบางคนก็หลบเข้าไปอยู่ในช่องของพี่ใหญ่ก็มี
ส่วนเพื่อนอย่างช่องทวารหนัก นี่ไม่ต้องไปพูดถึง เพื่อนท้ายแถวช่องนี้หน้าไม่เหมือนสองพี่น้องนั่นอยู่แล้ว ไม่ต้องมาทำความรู้จักอะไรกันมากเหมือนสองพี่น้องผู้ลึกลับนั่น
ที่จริงแล้วพี่ใหญ่กะน้องเล็กนี่ถึงจะมีกลิ่นเฉพาะตัว แต่เค้าก็สะอาดกันนะเจ้าคะ แต่เผอิญสองพี่น้องนี่ดันไปคบเพื่อนเหม็นๆ อย่างทวารหนัก แถมยังอยู่ใกล้กันอีก สองพี่น้องนั่นก็เลยพลอยเหม็นตามเพื่อนไปด้วย
ถ้าต้องมีการใส่สายสวนปัสสาวะ อิฉันต้องแหวกหาสองพี่น้องให้เจอ ส่วนช่องทวารหนักไม่ต้องไปพูดถึง ไม่มีใครอยากแตะอยู่แล้วเจ้าค่ะ มีบางครั้งเหมือนกันที่เวลาทำความสะอาดสองพี่น้องนั่น ก็แอบเอื้อเฟื้อ ล้างเผื่อมาถึงเพื่อนด้วยเท่านั้นแหละเจ้าค่ะ
ข้อสังเกตความแตกต่างของสองพี่น้องนี่ดูง่ายมาก พี่ใหญ่เค้าจะเป็นหลุมลึก หาขอบหลุมไม่เจอ เพราะมันจะลาดลึกลงไปตามอายุการใช้งานของผู้เป็นเจ้าของ คุณลักษณะพิเศษของพี่ใหญ่ก็คือ ไม่ว่าจะหลับหูหลับตาเอาอะไรใส่ลงไปแถวๆ นั้น มันจะลงหลุมของพี่ใหญ่เสมอเจ้าค่ะ
แต่น้องเล็กนี่เค้าช่องเล็กนิดเดียว มีขอบที่ปากช่องชัดเจน คล้ายกับใครเอาโดนัทอันจิ๋วมาวางไว้ปากช่องนั่นแหละเจ้าค่ะ บางทีช่องมันเล็กซะจนอิฉันไม่แน่ใจเลยว่าสายยางเบอร์เล็กสุดจะใส่เข้าไปได้ยังไง แต่ก็ได้ทุกทีแหละเจ้าค่ะ น้องเค้าคงปรับตัวเก่ง ว่ากันมาซะยาว เข้าเรื่องเลยนะเจ้าคะ
เวรบ่าย ณ ตึกศัลยกรรมหญิง ขณะที่อิฉัน กิมอี่ และพี่พยาบาลเวรบ่าย ฟังพี่พยาบาลเวรเช้าส่งเวรว่า
คนไข้เตียง ๑๒ ปัสสาวะไม่ออก หมอให้ใส่สายสวนปัสสาวะไว้ ไม่มีน้ำปัสสาวะออกมาเลยนะตั้งหลายชั่วโมงแล้ว เมื่อกี้เห็นมีเลือดออกมาติดก้นถุงอยู่นิดหน่อย ฝากเวรบ่ายดูแลต่อด้วย เดี๋ยวหมอมาราวด์วอร์ดอีกครั้งจะได้ให้หมอดู
หมอมาราวด์ก็หมายถึงหมอมาตรวจคนไข้นั่นแหละเจ้าค่ะ
โอ้โห! ฉี่ออกมาเป็นเลือดเลยเหรอ พี่พยาบาลเวรบ่ายถามอย่างตกใจ
ใช่.... เพิ่งเห็นเมื่อกี้นี้เอง
พี่เวรบ่ายหันมาสั่งอิฉันกับกิมอี่ เดี๋ยวน้องนักเรียนรีบไปฟลาชก่อนเลยนะ จะได้เสร็จก่อนหมอมาดู
ฟลาช คือ flush แปลว่าทำความสะอาดอวัยวะเพศเจ้าค่ะ อิฉันพยักหน้ารับคำ แล้วไปเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ เมื่อเดินไปที่เตียงคนไข้ ก็พบคนไข้หญิงอายุประมาณสามสิบปี หลังผ่าตัดไส้ติ่งนอนอยู่บนเตียง มีขวดน้ำเกลือต่อกับร่างกายคนไข้หนึ่งขวด ข้างเตียงมีถุงปัสสาวะห้อยอยู่ มีสีแดงคล้ายเลือดภายในถุงปัสสาวะเห็นชัดเจน
สอางค์เป็นยังไงบ้างคะ อิฉันทักคนไข้
เจ็บแผลค่ะ ปวดฉี่ด้วย คนไข้ตอบ
อ้าว! ปวดฉี่ด้วยเหรอ ใส่สายสวนไว้แล้ว ถ้าปวดฉี่น่าจะมีฉี่ออกมานะ อิฉันอธิบาย และก้มมองน้ำสีแดงข้นในถุงปัสสาวะอย่างกังวล
สอางค์รู้ไหม ทำไมน้ำปัสสาวะสอางค์เป็นสีแดง อิฉันถามหยั่งเชิงไว้ก่อน เผื่อคนไข้มีโรคประจำตัวอะไรอยู่จะได้เผยออกมา
ไม่รู้จ้ะ ว่าทำไมมันเป็นสีแดง
นอกจากเจ็บแผลผ่าตัดแล้ว สอางค์ยังเจ็บปวดตรงไหนอีก อิฉันถาม คนไข้น่าจะมีโรคอื่นอยู่อีก นอกเหนือจากไส้ติ่งอักเสบ
ปวดท้องน้อยจ้ะ ปวดหลังถึงต้นขาเลยจ้ะ
อิฉันพยักหน้า หลังผ่าตัด คนไข้ไม่ค่อยได้ขยับตัว ก็ต้องสารพัดปวดตรงนั้นตรงนี้ทุกคนแหละเจ้าค่ะ
อิฉันคิดในใจ แต่ปากก็พูดเอาใจคนไข้ ไหนดูซิคะ ปวดตรงไหนบ้าง
พูดจบอิฉันก็เลิกชายเสื้อขึ้นมา เห็นแผลผ่าตัดเล็กๆ ที่หน้าท้อง ก็ปิดผ้าก๊อสไว้เรียบร้อยดี แอบสังเกตว่าบริเวณท้องน้อยเหนือหัวเหน่านูนๆ กลมๆ อยู่ จึงเอามือลูบดู ปรากฏว่าท้องน้อยของสอางค์แข็งเป๊กเลยเจ้าค่ะ เหมือนกับว่าน้ำปัสสาวะ เต็มกระเพาะปัสสาวะแล้วไม่มีทางออกอย่างนั้นแหละเจ้าค่ะ
โอ๊ย! นั่นแหละจ้ะ ปวดเหมือนปวดฉี่เลย คนไข้อุธรณ์ อิฉันน่ะ นิ่งคิดอย่างสงบ น้ำปัสสาวะเต็มกระเพาะปัสสาวะ แล้วทำไมถึงไม่ไหลออกมาตามสาย สงสัยก้อนเลือดอุดตันเต็มสายแน่เลย รีบๆ ฟลาชดีกว่า จะได้ไปบอกพี่พยาบาล
เดี๋ยวหนูขอทำความสะอาดให้ก่อนนะคะ อีกไม่นานหมอจะเข้ามาตรวจแล้วค่ะ แล้วช่วยกันบอกอาการกับหมอนะคะ
จ้ะ
จากคุณ |
:
เฟื่องฝน
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ส.ค. 52 21:08:24
|
|
|
|